วิซอาร์ที เปิดตัวซีอีโอ รุกตลาดมีเดียในเอเชียแปซิฟิก
ย้ำความเชื่อมั่นใช้ไทยเป็นฐานรุกธุรกิจทั่วภูมิภาค
วิซอาร์ที ดันตลาดสื่อยุคใหม่ เผยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ฉีดเม็ดเงินลงทุนเพิ่ม เตรียมพร้อมการเติบโตของโลกสื่อใหม่ในอนาคต เน้นสร้างความแตกต่างด้วยความรวดเร็ว คุณภาพ และประสบการณ์ เชื่อมั่นเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลกในการให้บริการด้านบริหารจัดการข้อมูล เพื่อสามารถรองรับทั้งสื่อช่องทางหลัก (TV) และสื่อช่องทางใหม่ (New Media) คือ คำตอบของวงการสื่อและบันเทิงในยุคนี้มร.ไมเคิล ฮัลเลน มร.ไมเคิล ฮัลเลน (Mr. Michael Hallen, CEO) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด บริษัท วิซอาร์ที โกลบอล คอร์ปอเรท จำกัด กล่าวว่า ด้วยเทรนด์ของโลกในเรื่องของสื่อออนไลน์ (Online Media) หรือสื่อช่องทางใหม่ (New Media) ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในอุตสาหกรรมสื่อในยุคดิจิทัลนี้ (Digital Broadcast) เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลข่าวสารของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากการรับชมข่าวสารและรายการบันเทิงผ่านหน้าจอโทรทัศน์หลัก ในปัจจุบันผู้คนทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสนใจในการบริโภคสื่อผ่านหน้าจอที่สอง (Second Screen) มากขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องมาจากความต้องการของผู้บริโภคในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและตลอดเวลา (Anytime) ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน (Anywhere) ดังนั้น สื่อช่องทางใหม่ (New Media) จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ที่ผู้ผลิตสื่อต่างๆ รวมทั้งเจ้าของช่องทางสื่อหลักอย่างสถานีโทรทัศน์ ต้องหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง ถึงแนวทางและนโยบายในการเตรียมความพร้อมในเชิงกลยุทธ์ รวมทั้งการคัดสรรเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการผลิตและออกอากาศออกสู่ช่องทางสื่อใหม่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ด้วยเม็ดเงินลงทุนที่ชาญฉลาด ทั้งยังต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง จากกระแสดังกล่าวของตลาดโลก ภายหลังจากที่ มร. ฮัลเลน มาเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด จึงได้มีการปรับแผนธุรกิจและนโยบายเชิงกลยุทธ์ของวิซอาร์ทีทั่วโลก เพื่อให้สามารถสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งนี้ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าเป็นสำคัญ มร. ฮัลเลน กล่าวเสริมว่า “เราให้ความสำคัญในการบริหารธุรกิจ ภายใต้ 3 คีย์เวิร์ด (Keywords) ได้แก่ การลดความซับซ้อน (Reduce Complexity) การเพิ่มขยายขีดความสามารถในทุกภาคส่วน (Increase Efficiency) และความโปร่งใส (Transparency) โดยรูปแบบการบริหารนี้ได้นำมาปรับปรุงโครงสร้างการพัฒนาเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการปรับโครงสร้างของคณะผู้บริหารระดับสูงในบางตำแหน่ง และดึงคณะผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จด้านการบริหารสื่อใหม่ มาร่วมเสริมทัพของวิซอาร์ทีให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มการอัดฉีดและจัดเตรียมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญของวิซอาร์ที ให้มีความพร้อมทั้งในเรื่องของความรู้และการให้การบริการลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าเงินลงทุนทุกบาททุกสตางค์ของลูกค้านั้นจะเกิดผลในการสร้างรายได้และกำไรคืนกลับสู่ลูกค้าอย่างชัดเจน ในการมีเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองต่อความจำเป็นและความต้องการ อีกทั้งลูกค้าสามารถบริหารจัดการกรอบงบประมาณในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบันวิซอาร์ที มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่กลุ่มลูกค้าทั่วโลกได้ให้ความไว้วางใจในการเลือกใช้เทคโนโลยีและบริการของบริษัทฯ ทั้งยังเป็นลูกค้ามายาวนานตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวเข้าสู่ยุคสื่อใหม่ (New Media) นี้ กลุ่มลูกค้าของวิซอาร์ทีก็ยังคงยืนหยัดให้เราเป็นผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าเชื่อว่าวิซอาร์ที มีความรู้ ความเข้าใจอย่างแท้จริง และจะสามารถพัฒนาต่อยอดจากระบบปัจจุบันที่ลูกค้ามีอยู่ เพื่อให้เกิดการบริหารต้นทุนงบประมาณอย่างฉลาด และมั่นใจว่าจะสามารถตอบทุกโจทย์ของลูกค้าได้” มร.ไมเคิล นามาติเนีย ด้าน มร.ไมเคิล นามาติเนีย (Mr. Michael Namatinia, President, Vizrt Asia Pacific) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท วิซอาร์ที คอร์ปอเรท จำกัด กล่าวว่า วิซอาร์ที เอเชีย แปซิฟิก ได้นำแนวนโยบายดังกล่าวของ มร.ไมเคิล ฮัลเลน ซีอีโอ มาบริหารในส่วนของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดและมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ภายใต้แนวนโยบายเชิงกลยุทธ์ใหม่ของวิซอาร์ที โกลบอลนี้ จะเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนและกระตุ้นตลาดสื่อยุคใหม่ในภาคพื้นนี้ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้จากการนำเอาเทคโนโลยีของวิซอาร์ทีเข้าไปติดตั้ง ปัจจุบัน วิซอาร์ที เอเชีย แปซิฟิก รับผิดชอบฐานลูกค้าซึ่งครอบคลุม ตั้งแต่ ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อิสราเอล จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย รวมถึงประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ทั้งหมด อาทิ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย เวียดนาม พม่า รวมสำนักงานย่อยอื่นๆ ของวิซอาร์ทีมากกว่า 14 แห่งที่มีบุคลากรผู้ชำนาญการของวิซอาร์ทีประจำอยู่ วิซอาร์ทียังคงยึดหลักการในการสร้างทีมสนับสนุนทางเทคนิคที่เป็นผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ (Product Specialist & Support) ที่อยู่ใกล้ลูกค้า และต้องสื่อสารภาษาเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถดูแลและให้บริการกลุ่มลูกค้าในประเทศต่างๆ ในภาคพื้นนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากวิซอาร์ทีดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตอบโจทย์สำหรับธุรกิจสื่อและบันเทิงแบบครบวงจร และได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานใหญ่ของ วิซอาร์ที เอเชีย แปซิฟิก ด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพดียอดเยี่ยมที่น่าลงทุน ทั้งการมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีสนามบินนานาชาติ ระบบขนส่งที่ดีเยี่ยม มีบุคลากรที่มีความพร้อม และที่สำคัญมีช่องทีวีดิจิทัลที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเติบโตในด้านสื่อช่องทางใหม่ (New Media) ที่เห็นได้ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ก็ได้มีการเปิดให้สัมปทานอนุญาตอย่างเป็นทางการให้เอกชนประกอบกิจการช่องทีวิดิจิทัลเพิ่มขึ้น ทำให้วิซอาร์ทีมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาทำตลาด และเลือกใช้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา นางสาวยุพาพักตร์ ตะวันนา ด้าน นางสาวยุพาพักตร์ ตะวันนา กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการภูมิภาค บริษัท วิซอาร์ที ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับประเทศไทย ที่วิซอาร์ที โกลบอล ยังคงยึดประเทศไทยเป็นฐานทัพหลักสำหรับภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และยังคงอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมากมาย ทั้งส่วนของงานด้านเพิ่มพูนความรู้และการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรผู้ชำนาญการ ซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานในไทย โดยทีมสนับสนุนด้านเทคนิค (Product Specialists) มีทั้งชาวต่างชาติ สัญชาติอเมริกัน อังกฤษ นอร์เวย์ สวีเดน อิสราเอล และทีมส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนไทย เพื่อให้มีความพร้อมในการดูแลและให้บริการลูกค้าหลังการขายได้อย่างใกล้ชิด ทันเวลา และมีประสิทธิภาพสูง พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ใคร่ขอขอบพระคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณอย่างยิ่ง ที่มอบโอกาสอันดีเยี่ยมนี้ให้กับวิซอาร์ที ในการเข้าไปทำงานรับใช้และให้การบริการดูแลอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลากว่าสิบปีแล้ว ตั้งแต่สำนักงานประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้น ทำให้วิซอาร์ทีได้มีโอกาสตอบสนองต่อความต้องการในธุรกิจผลิตสื่อบันเทิงแบบครบวงจร โดยที่ผ่านมามีสื่อและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ ที่เป็นลูกค้าของวิซอาร์ทีอยู่แล้วมากมาย ทั้งช่อง 3 (Ch3 HD, Ch3 SD and Ch3 Family), Channel 5 HD, Channel 7 HD, ไทยพีบีเอส (THaiPBS), ไทยรัฐทีวี (TRTV), พีพีทีวี (PPTV), ทรูโฟร์ยู (True4U), ทรูวิชั่นส์ (True Vision), นิวทีวี (New TV), วอยซ์ทีวี (Voice TV), ในประเทศพม่า ประกอบด้วย ช่อง MRTV (ช่องหลักของรัฐบาลพม่า) และช่อง MITV, ในประเทศเวียดนาม ช่อง VTVcab เป็นต้น ปัจจุบันสถานีโทรทัศน์ในเมืองไทยนับเป็นต้นแบบที่ดีมากให้กับสถานีโทรทัศน์ในแถบภาคพื้นนี้ มีกลุ่มลูกค้าใหม่ของวิซอาร์ทีในแถบเอเชียได้เดินทางมาเมืองไทย เพื่อขอเยี่ยมชมและดูงานอย่างมากมาย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของวิซอาร์ที “รูปแบบของการนำเสนอที่แตกต่างและคุณภาพของคอนเทนต์นับเป็นปัจจัยหลักที่สื่อทีวียุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อรักษาฐานผู้ชมในระยะยาว และสร้างเรทติ้งให้สูงขึ้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสำหรับรายได้จากค่าโฆษณาที่เริ่มหันมาให้ความสนใจการออกอากาศผ่านสื่อช่องทางใหม่มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการสร้างเนื้อหาใหม่ในเชิงสร้างสรรค์ พร้อมทั้งศักยภาพนำเสนอได้อย่างแตกต่าง เพื่อให้สามารถช่วยเจาะตลาดโดยขยายฐานไปยังผู้ชมกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเปิดรับในปัจจุบัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้นับเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการสื่อทีวียุคใหม่ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องมีเทคโนโลยีที่มีความพร้อม ที่สามารถขับเคลื่อนให้ข้อมูลข่าวสารนี้ ออกสู่สายตาประชาชน โดยไม่จำกัดเฉพาะช่องทางหน้าจอหลักทางโทรทัศน์ แต่สามารถนำเสนอออกสู่สื่อช่องทางใหม่ได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ สิ่งนี้นับเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้อย่างแท้จริง ซึ่งเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการคอนเทนต์ของวิซอาร์ที ที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานในระดับสากล ผนวกกับประสบการณ์อันยาวนาน และการบริหารงานโดยคณะผู้บริหารชุดใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ ที่ไม่หยุดในการสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความเข้าใจในการดูแลลูกค้าในธุรกิจประเภทสื่อและบันเทิงทั่วโลก สิ่งนี้ทำให้วิซอาร์ทีเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยให้ช่องทีวียุคใหม่สามารถสร้างจุดแข็งให้กับช่องตัวเอง และสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากช่องทางใหม่นี้ได้อย่างชัดเจน” “ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่ให้ความไว้วางใจในวิซอาร์ที ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ CNN, NBC, FOX, ABC, CBS, NFL, & The Weather Channel, ในประเทศอังกฤษและยุโรป ได้แก่ BBC World, SKY, ITN, Canal Plus, NRK, TV2, ZDF, ORF, & Red Bull, ใน UAE ได้แก่ สถานี Aljazeera, MBC, Be-in channel และในแถบเอเชีย NHK (ญี่ปุ่น), CCTV (จีน), Star TV, Zee TV (อินเดีย), และ Media Corp (สิงคโปร์) เป็นต้น และอีกหลายสื่อชั้นนำที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ การนี้จึงทำให้สร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจสื่อและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านได้ว่าเทคโนโลยีของวิซอาร์ทีจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจนี้ได้อย่างแน่นอน” นางสาวยุพาพักตร์ กล่าวทิ้งท้าย