http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000133257
The Magic Hour ชั่วโมงมหัศจรรย์ของทุกคน/ต่อพงษ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ไม่ทราบว่าจะเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่านะครับ เพราะ บทความเมื่อตอนที่แล้วที่เขียนนั้นทำให้ผมรู้สึกว่า แฟนๆ คอลัมน์ของเรานั้นเคยดูหนังของ โคคิ มิตานิ มากโขอยู่
แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคิดว่า น่าจะแนะนำให้คนที่ไม่เคยดูหนังของเขาได้ไปหามาดูกันนะครับ
เรื่องล่าสุดของมิตานิที่ทำออกมาฉายเมื่อปีที่แล้วมีชื่อว่า The Magic Hour เรื่องนี้ก่อนที่จะฉายแกบอกจะทำให้คนขำถึง 3 มุกภายใน 1 นาที สำหรับผมๆ ไม่ได้นับนะครับ แต่ผมว่ามันสุดยอดมากๆ และฮากันได้ตลอดทั้งเรื่อง
เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีตึกรามบ้านช่องสวยงามจนกองถ่ายหนังชอบมาถ่ายบ่อยๆ (คล้ายๆ กับในเรื่องคาสซาบลังก้าแบบนั้น) แต่ที่แท้จริงเมืองถูกดูแลโดยบอสใหญ่ของแก๊งค์ยากูซ่า ซึ่งกำลังถูกท้าทายจากแก๊งค์ใหม่อยู่ เรื่องมีอยู่ว่าหนึ่งในยากูซ่าหางแถวที่ชื่อ ‘บิงโก’ (แสดงโดย ซึมาบุกิ ซาโตชิ) ดันไปเป็นชู้กับเด็กของบอส (แสดงโดย ฟูคัตซึ เอริ) แล้วดันถูกจับได้ ขณะที่กำลังโดนจับนั่งเก้าอี้แล้วเอาซีเมนต์ราดเพื่อนำไปถ่วงทะเล หมอนี่ดันรำพึงว่า เขารู้จักสุดยอดนักฆ่าในตำนานที่ชื่อ ‘เดลล่า โทงาชิ’ ในฐานะเพื่อนซี้กัน ข้อมูลนี้ทำให้บอสยกเลิกโทษประหาร ถ้าเผื่อไอ้หนูบิงโกไปพา เดลล่ามาพบได้ เพราะบอสเองเป็นแฟนของนักฆ่าในตำนานคนนี้...แต่เรื่องจริงคือมันทำไม่ได้ เพราะบิงโกมันไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าของยอดนักฆ่าคนดังกล่าว
สุดท้ายกระล่อนตัวพ่ออย่างบิงโกก็เลยตัดสินใจจ้าง ทากิ มุราตะ นักแสดงหางแถว (แสดงโดย โคอิชิ ซาโต้) มาเป็น เดลล่า โทงาชิตัวปลอมเพื่อมาหลอกบอสให้ได้ เรื่องแย่ก็คือ นักแสดงหางแถวคนนั้นไม่รู้ว่างานที่เขารับนั้นไม่ใช่งานแสดง แต่มันคือชีวิตจริงที่เขาจะต้องเจอยากูซ่าจอมโหดกันเลยล่ะ
หนังตลกโคตรฮาเรื่องนี้มีฟีลลิ่งคล้ายๆ ดูละครซิตคอม เพราะมุกนั้นปล่อยกันไม่มียั้ง แต่ไม่ยักมีเสียงหัวเราะปลอมๆ ที่ใส่เข้ามาเพื่อกระตุ้นคนดู ที่โดดเด่นสุดยอดก็ไม่แคล้ว โคอิชิ ซาโต้เพราะแกฮาได้อย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะเวลาที่ เดลล่า โทงาชิ ตัวปลอมพยายามเล่นให้สมบทบาทที่สุดมักจะทำให้คุณกรามค้างอยู่เสมอ ฉากที่ผมว่าโคตรคลาสสิกและคนที่ดูหนังเรื่องนี้น่าจะจำได้ก็คือ ฉากทักทายของเดลล่าตัวปลอมกับตัวบอส ที่แกแอ๊คท่าโหดในบอสนั้นสุดยอดจริงๆ
แต่ถ้าแค่เอาฮา หนังเรื่องนี้คงไม่ประทับใจเท่ากับประเด็นที่ผู้กำกับพยายามจะบอก โดยเฉพาะคำว่า The Magic Hour ที่ตามเรื่องคือช่วงเวลาที่เป็นรอยต่อระหว่างโพล้เพล้กับพลบค่ำ ช่วงที่อาทิตย์กำลังจะตกและพระจันทร์กำลังจะขึ้น ท้องฟ้าที่กำลังจะเปลี่ยนสีนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด
“แต่ถ้าเราพลาดชมชั่วโมงมหัศจรรย์วันนี้ พรุ่งนี้หรือวันมะรืน หรือวันต่อไปเราก็สามารถจะกลับมาชมได้อีก เหมือนกับชีวิตของเรา ที่แม้จะตกต่ำสักแค่ไหน แต่ทุกจังหวะชีวิต ชั่วโมงมหัศจรรย์เกิดขึ้นได้เสมอ” มุราตะ นักแสดงหางแถวบอกกับบิงโก
แน่ นอนว่าสำหรับชั่วโมงมหัศจรรย์ที่ว่า หลายครั้งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และคำว่าชั่วโมงมหัศจรรย์ที่จะเปลี่ยนคุณไปตลอดกาลก็ขึ้นอยู่และแตกต่างไป สำหรับทุกคน หนังให้ข้อสรุปสุดท้ายว่า เอาเข้าจริงแล้วมันจะเกิดหรือไม่เกิดก็ขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งสิ้น
ก็เหมือนกับที่มุราตะแกถึงกลับต้องมาขอบคุณบิงโกด้วยจริงใจที่หลอกให้แกมา รับบท เดลล่า โทงาชิ เพราะเมื่อปรับมุมมองใหม่ แกก็อดจะดีใจไม่ได้ที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่การแสดงของแกมีคนสนใจ และเชื่อกับมันจริงๆ การถูกหลอกครั้งนี้ทำให้แกได้พิสูจน์ความสามารถที่แท้จริงของแกในฐานะนัก แสดงเสียด้วยซ้ำไป..โดยเฉพาะความศรัทธาที่มีต่อตัวเองว่า เขาเป็นนักแสดงที่ดี (แต่ไม่มีใครเห็นค่า) นั้น เป็นสิ่งที่จริงแท้ครับ!!
สุดท้ายแล้วตัวละครทุกตัวในเรื่องได้พบกับชั่วโมงแห่งความมหัศจรรย์ที่จะ เปลี่ยนแปลงตัวเขาไปตลอดกาล หนังบอกกับเราว่าทุกเรื่องราวมันมีความหวัง มีทางออกที่สวยงามเสมอๆ และมันขึ้นกับการปรับเปลี่ยนมุมมองของตัวเองเท่านั้น...ซึ่งวิกฤติก็กลับ กลายเป็นโอกาสได้เหมือนกัน
...บอสได้พบว่ารักแท้ของตัวเองที่แท้แล้วมันไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน มารินางเอกของเรื่องก็รู้แล้วว่าหัวใจของคนนั้นยิ่งใหญ่กว่ารูปร่างหน้าตา ภายนอก บิงโกเองก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าความซื่อสัตย์และความจริงใจที่ให้คนอื่นก็มี มูลค่าไม่แพ้ความกะล่อนที่มี ฯลฯ
ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะให้มุมมองบางอย่างแก่คนที่ดู ถ้าคุณกำลังท้อเพราะถูกบีบจากภาวะรอบตัวในเรื่องต่างๆ คุณอาจจะเห็นทางออกใหม่ๆ บทเรียนใหม่ๆ ไปจนกระทั่งมุมมองใหม่ๆ ให้กับตัวเองอย่างแน่นอน
การันตีให้ 5 ดาวเต็มสำหรับหนังตลก Feel Good เรื่องนี้ครับ
สำหรับคอซีรีส์ตอนนี้หนังสือซีรีส์ที่รักก็วางแผงกันแล้วใครที่สนใจก็ขอเชิญ ไปอุดหนุนกันได้ครับ สัปดาห์หน้าจะมาเขียนเรื่องซีรีส์เก่าๆ เรื่องหนึ่งที่ปัจจุบันมีการนำมาผลิตใหม่ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายแผ่นทางเนตทั่วไป ต้องบอกว่า เรื่องนี้น่ารักมากๆ เป็นอีกเรื่องที่จะหล่อเลี้ยงความอบอุ่นในใจในช่วงหน้าหนาวขึ้นมาได้อย่าง ประหลาด
Golden Bowl คือชื่อของซีรีส์เก่าเรื่องนั้นซึ่งนำแสดงโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่ ...เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาคุยกันครับ