เอ็กโก กรุ๊ป รักษาระดับรายได้ต่อเนื่อง เผยกำไรครึ่งปีแรก กว่า 4,400 ล้านบาท
นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2557 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 ว่าบริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี จำนวน 2,566 ล้านบาท หากพิจารณาผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี จำนวน 4,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 337 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 3 บาท
“ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 เอ็กโก กรุ๊ป มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนในโครงการใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งบริษัทมีฐานทางธุรกิจอยู่แล้ว และการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องแล้ว เพื่อช่วยให้บริษัทรับรู้รายได้ในทันที โดยยังเน้นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลัก” นายสหัสกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานด้านธุรกิจที่โดดเด่นตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ปได้ลงทุนในโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ที่จะพัฒนา ตั้งอยู่ที่เมืองมาอูบาน จังหวัดเคซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิต 455 เมกะวัตต์ โดยบริษัท ซาน บัวนาเวนทูรา พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 49 ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับมะนิลา อิเล็กทริค คัมปานี (Manila Electric Company - Meralco) ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้ารายใหญ่ของฟิลิปปินส์ เป็นระยะเวลา 20 ปี นับจากวันที่เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของฟิลิปปินส์ จึงจะมีผลบังคับใช้
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงนามในสัญญาเพื่อซื้อหุ้นโดยทางอ้อมของบริษัท มาซินลอค พาวเวอร์ พาร์ทเนอร์ จำกัด หรือ เอ็มพีพีซีแอล (Masinloc Power Partners Co.Ltd. - MPPCL) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหิน “มาซินลอค” ขนาดกำลังการผลิต 630 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดซัมบาเลส บนเกาะลูซอน ในสัดส่วนร้อยละ 40.95 จากบริษัท เออีเอส ฟิล อินเวสเม้นท์ จำกัด (AES Phil Investment Pte.Ltd.) โดยโรงไฟฟ้าถ่านหิน “มาซินลอค” มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับมะนิลา อิเล็กทริค คัมปานี ตลอดจนผู้จำหน่ายไฟฟ้ารายย่อย และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ในสัดส่วนร้อยละ 70 ร้อยละ 20 และร้อยละ 10 ตามลำดับ
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา มี 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการในประเทศ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า “พลังงานขยะชุมชนหาดใหญ่” จังหวัดสงขลา โครงการโรงไฟฟ้า “ขนอมหน่วยที่ 4” จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” จังหวัดชัยภูมิ และโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ “ทีพี โคเจน” และ “เอสเค โคเจน” จังหวัดราชบุรี และโครงการ “ทีเจ โคเจน” จังหวัดปทุมธานี โครงการในต่างประเทศ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” ประเทศออสเตรเลีย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “ไซยะบุรี” ใน สปป.ลาว
“ช่วงครึ่งปีแรกจนถึงปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป ใช้เงินลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 9,550 ล้านบาท จากงบลงทุนที่เตรียมไว้ทั้งปีประมาณ 15,300 ล้านบาท ซึ่งไม่นับรวมเงินลงทุนในการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว อย่างโรงไฟฟ้ามาซินลอคประมาณ 14,750 ล้านบาท สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา เรามั่นใจว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยจะมีโรงไฟฟ้าที่สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้อย่างน้อยปีละ 1 โรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ และทดแทนรายได้ของโรงไฟฟ้าที่กำลังจะหมดอายุสัญญาลง” นายสหัสกล่าว
สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญ 3 ด้าน คือ ไฟฟ้ามั่นคง ด้วยการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และมีความพร้อมจ่ายไฟฟ้ามากกว่าในสัญญาซื้อขาย ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของบริษัทในปัจจุบัน สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ด้วยการใช้เชื้อเพลิงให้น้อยที่สุด หรือน้อยกว่าที่ระบุในสัญญาซื้อขาย ต่อการผลิตไฟฟ้าหนึ่งหน่วย ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มจากค่าเชื้อเพลิง (EP – Energy Price) รวมทั้งยังมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การรักษาค่าอัตราความร้อน (Heat Rate) ให้เป็นไปตามที่ระบุในสัญญา บริษัทตระหนักดีว่าการที่โรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโกทุกแห่งสามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ไม่เพียงส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศด้วย และชุมชนเข้มแข็ง บริษัทให้ความสำคัญกับการยอมรับของชุมชนในพื้นที่ที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ ด้วยการพยายามลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 21 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,759 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา จำนวน 8 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 1,613 เมกะวัตต์