เซ็นเรสเตอร์รองฯ เผยแผนปี 57 เดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง

เซ็นเรสเตอร์รองฯ เผยแผนปี 57 เดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องพร้อมขยายแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศต้อนรับ AEC



ดร.วัลลภัช แก้วอำไพ (คนกลาง) ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มบริหารกลยุทธ์องค์กร บริษัท เซ็นเรสเตอร์รอง กรุ๊ป จำกัด แถลงข่าว “แผนการดำเนินงานและทิศทางธุรกิจ ปี 2557” เผยผลประกอบการปี 2556 มีรายได้รวมกว่า 1,800 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเดินหน้ารุกตลาดวางแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยมีนายนิสิต พานิชวทัญญู ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มการตลาดและพัฒนาธุรกิจ (ซ้ายมือ) และนางสาวสุจันท์ภา พลางกูร ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มแบรนด์ออนเดอะเทเบิ้ล(ขวามือ) ร่วมงาน ณ ร้านอาหาร ZEN Restaurant สาขา เดอะ คริสตัล พาร์ค เมื่อเร็วๆ นี้

เซ็นเรสเตอร์รอง กรุ๊ป ผู้นำแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารชั้นนำ ชี้เทรนด์อาหารญี่ปุ่นมาแรงล่าสุด ปรับกลยุทธ์รับเปิดตลาด AEC พร้อมรุกตลาดต่างประเทศ คาดปี 58 โต 20%

เซ็นเรสเตอร์รอง กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศ เผยปีที่ผ่านมากลุ่มฯ สร้างรายได้รวมกว่า 1,800 ล้านบาท คาดปี 58 กลุ่มธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นโต 20% ประกาศปรับกลยุทธ์และแผนรองรับธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ระบุชัดเทรนด์อาหารญี่ปุ่นมาแรง ตั้งเป้าเดินหน้ารุกขยายตลาดวางแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศรับ AEC ในขณะเดียวกันเร่งสร้างการรับรู้ในแบรนด์เดิมและแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง

ดร.วัลลภัช แก้วอำไพ ผู้อำนวยการบริหาร กลุ่มบริหารกลยุทธ์องค์กร  บริษัท เซ็นเรสเตอร์รอง กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯได้แบ่งกลุ่มธุรกิจร้านอาหารออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ได้แก่ ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทออเทนติคเจแปนนิส ภายใต้แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น เซน เรสเตอร์รอง (ZEN Restaurant) ซึ่งเปิดมา 22 ปี มีทั้งหมด 27 สาขา และแบรนด์เซน คูซิน่า (Zen Cucina) 1 สาขา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กลุ่มที่ 2 เป็นธุรกิจร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง ประกอบด้วย แบรนด์อากะ (AKA) เปิดมา 7 ปี มีทั้งหมด 14 สาขา และแบรนด์กิวกริล (Gyu Grill) จำนวน 2 สาขา  กลุ่มที่ 3 เป็นธุรกิจร้านอาหารไลฟ์สไตล์ มีแบรนด์ออนเดอะเทเบิล (On the table) 6 สาขา และร้านเค้กสไตล์ญี่ปุ่น  แบรนด์โมริ (MORI) 1 สาขา ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้รวมทั้งหมดกว่า 1,800 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15

“สำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันมีมูลค่าทางการตลาดประมาณเกือบ 2 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตร้อยละ 20% ต่อปี ในขณะที่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา บริษัท เซ็นเรสเตอร์รอง กรุ๊ป จำกัด ได้มีการวางแผนและกลยุทธ์สำคัญเพื่อรองรับการขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมรองรับการนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกับการขยายฐานแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารในกลุ่มไปยังต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาการบริการ กระบวนการผลิต เมนูอาหาร และคุณภาพของสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าเบื้องต้นไว้ว่า ในปี 2558 จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ” ดร.วัลลภัช กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจร้านอาหารในปีนี้ คาดว่าจะมีแบรนด์ใหม่ๆ จากต่างประเทศมาเปิดให้บริการมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารมีความน่าสนใจมากกว่าธุรกิจอื่นๆ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ที่อาจซบเซาเพราะสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีทุนที่พร้อม แต่อาจจะขาดประสบการณ์ จึงใช้กลยุทธ์การซื้อแบรนด์จากต่างประเทศมาทำตลาดแทน ประกอบกับการเข้ามาลงทุนของกลุ่ม chain จากต่างประเทศเอง เพราะเห็นศักยภาพของผู้บริโภคไทย ก็จะมีผลให้อุตสาหกรรมอาหารมีการแข่งขันสูงขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น   แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในระยะยาวแล้ว ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ และเป็นแบรนด์ใหญ่จริงๆ น่าจะสู้กับภาวะการแข่งขันที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ารายเล็กๆ

สำหรับแผนการขยายสาขาธุรกิจร้านอาหารของบริษัท เซ็นเรสเตอร์รอง กรุ๊ป จำกัด ในปี 2557  นี้ ตั้งเป้าจะเปิด 4-5 สาขาต่อแบรนด์ ได้แก่ ZEN Restaurant, AKA และ On the table ส่วนแบรนด์อื่นๆ จะขยายประมาณ 1-2 สาขา โดยทุกแบรนด์ที่จะมีการขยายสาขา จะเน้นเรื่องทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญ ส่วนแบรนด์ร้านอาหารใหม่ จะมีการเปิดขึ้นอีก 1 แบรนด์ เร็วๆนี้ เป็นแบรนด์ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน ภายใต้ชื่อ “เท็ตสึ” (TETSU) ซึ่งเป็นร้านสไตล์ปิ้งย่าง นอกจากนี้ ยังได้มีการต่อยอดแบรนด์เซน เรสเตอร์รองออกมาเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเซน ซูชิแอนด์สาเก ซึ่งจะมีรูปแบบใหม่ที่รองรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ใช้เวลากับการรับประทานอาหารในช่วงค่ำได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงขณะนี้กำลังพิจารณาที่จะเปิดสาขาในต่างประเทศ โดยที่ไม่ได้มองแค่ประเทศในกลุ่มอาเซียน แต่มองไปถึงตลาดเอเชีย อย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ อยู่นั่นเอง

“จุดเด่นของเรา เริ่มต้นจากร้านอาหารญี่ปุ่นเซน เรสเตอร์รอง โดยแนวทางในการทำธุรกิจของเรา จะยึดที่คุณภาพเป็นหลัก อาหารที่นำเสนอลูกค้าจะเน้นความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ และเน้นคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ เห็นได้ชัดจากความสดของวัตถุดิบ ในขณะที่ราคาก็ไม่สูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ที่ใกล้เคียงกัน ในขณะที่เราเพิ่มเติมเรื่องการบริการ การดูแลเอาใจใส่ของพนักงาน ทำให้เราอยู่ในใจผู้บริโภคมาโดยตลอด แม้จะไม่ได้ทำการตลาดหรือการประชาสัมพันธ์มากนัก ส่วนกลุ่มปิ้งย่างถือเป็นตลาดที่ดุเดือดมาก มีคู่แข่งจำนวนมาก เราจึงทำให้ร้านอากะ เป็นร้านที่เน้นเรื่องของคุณภาพอาหารเป็นหลัก และเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งร้านจากสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม มาเป็นสไตล์นิวยอร์กลอฟท์ เห็นได้จากร้านอากะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมทั้งได้ปรับเปลี่ยนเมนู เปลี่ยนชุดพนักงานบริการ จึงทำให้ร้านดูแตกต่างจากคู่แข่ง ส่วนร้านในกลุ่มเจแปนนิสคาเฟ่ อย่างร้านออน เดอะเทเบิล เปิดให้บริการมา 4 ปี รองรับกลุ่มลูกค้าที่คุ้นชินกับอาหารญี่ปุ่นมานานแล้ว แต่กำลังมองหาอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบอื่นด้วย และเพราะกลุ่มลูกค้าหลักของร้านเอง เราจึงเลือกเปิดร้านในทำเลใจกลางเมืองหรือ CBD เป็นหลัก มีเมนูในสไตล์โตเกียวคาเฟ่ผสมญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน เน้นการสั่งง่าย ทานง่าย ไม่ต้องหรูหรามาก ส่วนร้านโมริ เปิดมาแล้ว 2 ปี เป็นร้านเค้กที่มีความพิเศษตรงที่ทานแล้วเบา สบายท้อง แคลลอรี่ต่ำนั่นเอง”  ดร.วัลลภัช กล่าว

Zen Restaurant Group hints at strong Japanese dining trend with new strategy to enter the AEC markets and expected 2015 growth of 20%.

Thailand’s leading health food business Zen Restaurant Group reveals total income of over 1,800 Million Baht in the past year. The firm believes that the Japanese food business will grow by 20% in the year 2015. In anticipation of the strong Japanese dining trend, Zen Restaurant Group has planned to launch new branches, as well as to enter the AEC markets while consistently improving awareness of existing and new brands. Zen Restaurant Group plans to become listed on the Stock Exchange of Thailand in the next one to two years.

Wallapat Kaewumpai, Ph.D., Director Corporate Strategy Management Group, Zen Restaurant Group Co., Ltd., defines the group’s restaurant business as three groups. The first group is authentic Japanese restaurants which include 27 locations of the 22-year-old Zen Restaurant and one location of Zen Cucina at Central World. The second group is yakiniku restaurants which include 14 locations of the 7-year-old Aka and two locations of Gyu Grill. The third group is lifestyle restaurants which include six locations of On the Table and one location of Mori, Japanese style cake. These businesses have generated a total income of over 1,800 Million Baht last year or a 15% growth from the prior year.

“The Japanese restaurant industry in Thailand is currently valued at nearly 20,000 Million Baht with a tendency of 20% growth annually. Zen Restaurant Group has been working on plans and strategies to further strengthen our business since last year, partly in preparation for the listing of our company on the Stock Exchange of Thailand and for our entrance into foreign markets. To this end, we are putting emphasis on such matters as service, production process, cuisine choices and product quality. Our initial plan for 2015 is to achieve income of approximately 2,000 Million Baht or an 18% growth to reflect economic growth,” explains Wallapat.

Nevertheless, it is expected that new foreign brands will be introduced to the Thai market as the restaurant industry is more interesting than certain other industries such as real property which can be negatively affected by the economy. Interested investors may have the necessary capital but lack the experience and may resort to the acquisition of rights to operate a foreign brand in Thailand. Additionally, overseas restaurant chains may elect to establish presence in Thailand on their own as they appreciate the purchasing power of the Thai consumers. These undertakings will result in heightened competition, particularly in the Japanese restaurant sector. Zen Restaurant Group remains confident, however, that experienced and established large brands will be able to cope with the situation more effectively than the smaller operations.

For the year 2014, Zen Restaurant Group plans to introduce four to five branches each for Zen Restaurant, AKA and On the Table. For the other brands, we will see one to two new branches each. Locations will be the main focus for all new branches. One new brand called Tetsu will be introduced soon as a yakiniku restaurant for high-end customers. The Zen Restaurant brand itself will be further expanded into Zen Sushi and Sake which is a new lifestyle experience for dinnertime dining. As well, the group is studying foreign markets including ASEAN countries and beyond such as Singapore and Hong Kong for future endeavors.

“Our strengths have their origin in our Zen Restaurant brand. Quality has been our key value all along. The dishes we serve are created to ensure authentic Japanese dining experience using the best fresh ingredients but at a good price relative to brands of the same level. And by paying attention to our employees and their service to the customers, our Zen Restaurant has managed to attract the consumers now and again despite minimal marketing or advertising,” says Wallapat. “The yakiniku restaurant business, on the other hand, is highly competitive. That is why our AKA has to focus primarily on food quality. The traditional Japanese decor has now been dropped in favor of the New York loft style, beginning with the Central World branch. You will notice that the menu has been replaced and the staff uniform is now refreshed. We want to give AKA a look that is different from our competitors. The Japanese café, On the Table, is now four years into the operation. On the Table caters to customers who are already familiar with Japanese food and look for something different. We have chosen the CBD locations for this brand as this is where our primary customers are. On the Table features Tokyo café style, comfortable but not necessarily luxurious Japanese and Italian menu. Mori is now two years old. Mori cakes are light, easy on the stomach and low on calories.”