เรื่องย่อ : เรือนกาหลง

เรื่องย่อ : เรือนกาหลง



บทประพันธ์โดย : ลายน้ำ

บทโทรทัศน์โดย : ลายน้ำ

กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี

ผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด

ควบคุมการผลิตโดย : ธงชัย ประสงค์สันติ

ออกอากาศทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร เรือนกาหลง

          วงศกร ปรมัตถากร รับบท ไม้
          ฝนทิพย์ วัชรตระกูล รับบท กาหลง
          คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ รับบท พุดจีบ
          กชกร นิมากรณ์ รับบท บุญอิ่ม
          สริตา เอี่ยมวสันต์ รับบท ชบา
          สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ รับบท แม่กลอย
          หยอง ลูกหยี รับบท หลวงพี่กบ
          กล้วย ชวนชื่น รับบท สัปเหร่อขาว
          จิ้ม ชวนชื่น รับบท มัคทายกเฟื้อง
          อมีนา พินิจ รับบท อบเชย
          ฏธฤทธิ์ พรหมบันดาล รับบท ช่วง
          ปัทมา ปานทอง รับบท น้อย
          สุทธินันท์ เทียนสุวรรณ รับบท กาเหว่า
          ยอดชาย เมฆสุวรรณ รับบท พระธุดงค์
          จอย ชวนชื่น รับบท จัน
          ต๋อง ชวนชื่น รับบท จอก
          ศรต สุวรรณภักดี รับบท โขง
          ประถมาภรณ์ รัตนภักดี รับบท จำปา
          ชูษี เชิญยิ้ม รับบท ตาสร
          ไปรมา รัชตะ รับบท ยายมา
          อุ่นเรือน ราโชติ รับบท นวล
          ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี รับบท เผื่อน
          รตรวรรณ ออมไธสง รับบท งาม
          อัมพร ปานกระโทก รับบท อาจารย์สัก
          เวนซ์ ฟอลโคเนอร์ รับบท เสือหวาด
          อติรุจ สิงหอำพล รับบท สิง
          บุญชู เชิญยิ้ม รับบท มั่น
          ณพรัตน์ ทองริดสุข รับบท ขาบ

เรื่องย่อเรือนกาหลง

          กาหลง สาวงามประจำหมู่บ้าน บ่มเพาะความรักมายาวนานกับ ไม้ เด็กวัดจน ๆ ไร้ญาติ ไม้สัญญาว่าจะเร่งทำงานหาเงินมาสู่ขอกาหลงจาก แม่กลอย ที่ไม่อยากได้ไม้เป็นลูกเขย เพราะรังเกียจในความยากจน จึงบังคับให้กาหลงยอมเป็นเมีย โชติ นักเลงหัวไม้ลูกชายช่วง ผู้ใหญ่บ้านฐานะดี ชีวิตจะได้สุขสบาย กาหลงยืนยันความรักที่มีต่อไม้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะขอเคียงคู่อยู่กับไม้ตลอดไป แม่กลอยโกรธจับกาหลงโบยและมัดไว้ใต้ถุนบ้าน ไม้สงสารกาหลงและเสียใจที่ไม่มีเงินมากพอไปสู่ขอกาหลง จึงตัดสินใจพากันหนีไปตายเอาดาบหน้า ระหว่างทางกาหลงเกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากทิ้งแม่กลอย ชบา กาเหว่า หลานกำพร้าทั้งสองที่ตนเองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหาเงินดูแลอยู่ กลัวจะได้รับความลำบาก

          ช่วงมาทวงหนี้การพนันที่แม่กลอยติด เอาไว้ แม่กลอยไม่มีเงินมาใช้หนี้จึงเสนอให้แม่กลอยยกกาหลงให้เป็นเมียโชติ เพื่อให้หนี้ที่ติดไว้ และจะแถมเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง แม่กลอยตกลง กาหลงเสียใจมากที่แม่กลอยยกตนให้เป็นเมียโชติ พุดจีบ เพื่อนสนิทของกาหลง ขอร้อง แม่บุญอิ่ม ให้ช่วยใช้หนี้แทนแม่กลอยจนหมด และขอให้แม่กลอยยกกาหลงให้กับไม้ แม่กลอยเห็นแก่บุญคุณที่แม่บุญอิ่มเคยช่วยเหลือเจือจุนมาช้านาน ยอมเรียกไม้ไปพบและตั้งเงื่อนไข ภายในหนึ่งเดือน ต้องปลูกเรือนให้เสร็จ หากปลูกเรือนไม่สำเร็จ จะยกกาหลงให้โชติ กาหลงกับไม้ขอบคุณพุดจีบที่คอยช่วยเหลือ พุดจีบอวยพรให้สมหวังในความรัก ทั้งที่จริงแล้วพุดจีบมีใจให้กับไม้มาตั้งแต่แรก แต่เธอเสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้คนรักกับเพื่อนสนิทสมหวัง

          จอก ลูกศิษย์วัดรุ่นน้อง ชักชวนเพื่อน ๆ และชาวบ้านให้ช่วยแบ่งปันไม้กระดานคนละเล็กคนละน้อย ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างบ้านให้กับไม้จนสำเร็จ โชติกลัวจะเสียกาหลงไป จึงขอให้ช่วงไปสู่ขอกาหลงตัดหน้าไม้ แต่ช่วงเห็นว่าพุดจีบเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับโชติมากกว่า โชติสารภาพกับช่วงว่าตนไม้ได้รักกาหลง แค่อยากจะหักหน้าไม้เท่านั้น ช่วงจึงเสนอให้ฉุดกาหลงมาทำเมีย

          เมื่อเรือนสร้างเสร็จตาม สัญญา ไม้นำพานดอกไม้ไปสู่ขอกาหลงทันที แต่แม่กลอยเล่นแง่บอกให้หาเงินมาใส่พานสู่ขอกาหลงให้สมเกียรติ กาหลงเสียใจพยายามจะฆ่าตัวตาย ที่แม่กลอยกลับคำ ไม้เตือนสติให้กาหลงสู้กับอุปสรรค ยอมทำตามข้อเรียกร้องโดยออกเดินทางไปต่อยมวยคาดเชือกเพื่อหาเงินมาสู่ขอ กาหลง ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ก่อนออกเดินทาง กาหลงพาไม้ไปสาบานรักที่ศาลเจ้าแม่ไทรทอง ไม้ให้คำมั่นว่า "จะรักกาหลงคนเดียวไม่เสื่อมคลาย" ส่วนกาหลงก็ให้คำมั่นว่า "จะรักไม้คนเดียวไม่เสื่อมคลาย" เช่นกัน

          ทั้งสองต่างไม่ รู้เลยว่าคำมั่นสัญญาณ การตั้งจิตอธิษฐานต่อศาลเจ้าแม่ไทรทองในครั้งนี้ จะเป็นพันธนาการผูกมัดคนทั้งสองไว้ชั่วนิรันดร์ โชติบุกเข้ามาหมายจะขืนใจกาหลงบนเรือน กาหลงดิ้นรนต่อสู้หนีเอาตัวรอดไปใต้ต้นไทรทอง กราบขอร้องให้โชติปล่อยตัวเองไป ความหน้ามืดตามัวทำให้โชติไม่ฟังเสียงคำร้องของกาหลง กาหลงใช้มีดทำร้ายโชติ ด้วยความโมโห โชติสั่งให้ลูกน้องนำกาหลงไปฆ่าเสีย กาหลงถูกจับมัดมือมัดเท้าผูกกับก้อนหิน นำไปถ่วงน้ำที่บึงบัว กาเหว่าหลานชายกาหลงนั่งตกปลาอยู่เห็นเหตุการณ์โดยตลอด ลูกน้องโชติจึงตามไล่ฆ่ากาเหว่าเพื่อต้องการปิดปาก ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใครได้ กาเหว่าหนีลงเรือสินค้าที่เดินทางไปต่างเมือง ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากลูกน้องของโชติ

          กาหลงจมอยู่ใต้น้ำ ฟื้นตัวได้สติ ดิ้นรนว่ายน้ำเอาชีวิตรอด แต่หินดึงรั้งตัวจมลงสู่ก้นบึง แต่ด้วยแรงรักที่มีต่อไม้กาหลงยังไม่พร้อมยอมตาย กลั้นใจแก้เชือกที่มัดเท้าจนหลุด ดีดตัวขึ้นเหนือน้ำ ร้องไห้ดีใจที่เอาชีวิตรอดมาได้ แต่ไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง กาหลงกลับมายืนรอคอยการกลับมาของไม้อยู่หน้าเรือน ไม้กลับมาพร้อมเงินก้อนโต เพื่อนำมาสู่ขอกาหลง โชติตกใจที่เห็นกาหลงยังไม่ตาย การหายตัวไปของกาเหว่าสร้างความทุกข์ใจให้กับทุกคน ต่างช่วยกันออกตามหา

          วัน มงคลมาถึง กาหลงแต่งชุดเจ้าสาวสีสด จัดเตรียมดอกไม้กราบพระ จอกอาสาไปเก็บดอกบัวบูชาพระให้ ทุกคนรอคอยอยู่นานมาก จนในที่สุดจอกก็กลับมา แล้วมีอาการเหม่อลอยพูดจาไม่รู้เรื่อง กาหลงกลัวเสียฤกษ์จึงลงมือไปเก็บดอกบัวที่บึงเสียเอง พิธีแต่งงานดำเนินไปจนเสร็จ

          กาหลงทำหน้าที่ภรรยาที่แสนดี มีความรักเข้าอกเข้าใจ กลายเป็นเงาของกันและกันใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข แต่การกลับมาของกาเหว่าก่อให้เกิดเรื่องราวมากมาย เรื่องวุ่นวายซับซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากแรงรัก แรงอธิษฐานที่เป็นเครื่องพันธนาการผูกมัดกาหลงกับไม้ ทำให้ถลำลึกพอที่กาหลงจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความรักที่เธอมีให้ไม้ชั่วนิ รันดร์ ติดตามชม ละครเรือนกาหลง ได้ทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเรือนกาหลง เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2556

‘ปุ๊กลุ๊ก’ อินบท ‘กาหลง’ สาวผู้ศรัทธารักใน ‘เรือนกาหลง’



          เปิดฉากกันแล้ว สำหรับละครพีเรียด “เรือนกาหลง” จากค่าย “พอดีคำ” ที่ได้นางเอกสาว “ปุ๊กลุ๊ก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” มาเรียกเรตติ้งให้ได้ติดตามในความรักของ “กาหลง” สาวสวยประจำหมู่บ้านกับพระเอกยี่เกอย่างพี่ “ไม้”

          “ตัวละคร กาหลง เป็นตัวละครที่มีความกตัญญูกับแม่มากค่ะ ที่บ้านยากจน กาหลงเค้าต้องดูแลแม่ดูแลน้อง แม่ก็ไม่อยากให้ลำบาก อยากให้รักกับคนรวยๆ เพราะพระเอกของเรื่องไม่ได้ร่ำรวยอะไร ทำให้เกิดการขัดแย้งมีปากเสียงกับแม่บ้าง กาหลงต้องพยายามทำให้แม่กับคนรักของตัวเองอยู่ร่วมกันได้ ตอนแรกที่รู้ว่าต้องเล่นเรื่องนี้ก็ดีใจมาก พอได้อ่านบทแล้วก็มานั่งทำการบ้าน นั่งคิดว่าจะเล่นยังไงให้คนดูเห็นว่า เราศรัทธาในความรักจริงๆ เพราะตัวจริงของเราเอง ยังไม่เคยมีความรักให้กับใครมากมายเหมือนที่กาหลงรักไม้ กาหลงเค้าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนรัก ถูกเฆี่ยน ถูกขังก็ยอม นั่งอ่านและจินตนาการไปตามบทก็ยากทีเดียวคะ เวลาถ่ายทำผู้กำกับทั้งพี่หน่อย (สยาม น่วมเศรษฐี)และพี่ธง(ธงชัย ประสงค์สันติ) จะเป็นคนบอกเรื่องอารมณ์และภาพและความต้องการในแต่ละฉากที่พี่เค้าอยากได้ อีกที ฉากในน้ำของปุ๊กเยอะมาก แช่น้ำกันทั้งวัน ไม่เป๊ะนี่ไม่ยอมให้ผ่านกันเลย เรียกว่าละเอียดกันทุกเม็ดเพื่อผู้ชมคะ

          เสน่ห์ ของ เรือนกาหลง เป็นละครที่สถานที่ถ่ายทำจะเป็นแบบชนบทหมดเลย ภาพแบบนี้หาดูได้ยาก ภาพในละครสวยมากค่ะ เป็นภาพป่าเขาลำเนาไพร ทุ่งนา บึงบัว ส่วนเนื้อหาก็เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองคนที่รักกันมาก ทั้งสองคนศรัทธาในความรักชนิดที่ไม่มีอะไรมาพรากความรักของพวกเค้าได้แม้แต่ ความตาย ช่วงแรกๆ ในละครจะเห็นว่า ปุ๊กลุก กับพี่นิวจะมีฉากกุ๊กกิ๊กเลิฟซีนเยอะมาก แต่ไม่ได้เน้นวาบวาม ตอนนี้ยังไม่มีต้องจูบจริงนะคะ (ยิ้ม) แต่ก็ตั้งใจเล่นกันเต็มที่ ฝากละครด้วยนะคะ เป็นละครที่ปุ๊กเชื่อว่าใครที่ได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ จะได้แง่คิดอะไรมากมายอย่างแน่นอนคะ”

          ร่วมพิสูจน์ความรักของ “กาหลง” และ “ไม้” ได้ในละคร เรือนกาหลง ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา20.20 น . ช่อง 7 สี

‘ปุ๊กลุก’ยอมป่วยแต่งเอฟเฟ็คผีแช่น้ำถ่ายทำ มั่นใจ ‘กาหลง’ เวอร์ชั่นผีชวนสยอง


 
ค่ายละครน้ำดี “พอดีคำ” ส่งละครพีเรียด “เรือนกาหลง” มาเอาใจคอละครพีเรียดโรแมนติกให้ได้ลุ้นและได้ฟินกันพอหอมปากหอมคอกับบทรักหวานเข้าพระเข้านางของตัวละครไม้ กับ กาหลง แต่ละครเรื่องนี้ไม่ได้มีแต่ความโรแมนติกในสไตล์ท้องทุ่งเพียงอย่างเดียว บทจะหลอกหลอนขึ้นมาก็เอาเรื่องชวนขนหัวลุกทีเดียว ซึ่ง “ปุ๊กลุ๊ก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” สาวที่มาถ่ายทอดความหลอน พูดถึงละครเรื่องนี้ว่า

“ในเรื่องปุ๊กต้องเล่นเป็นผีด้วย อยากให้คนได้เห็นภาพตอนเป็นผีมาก ต้องมีแต่งเอฟเฟค ใส่ผมยาวมาก ผมนี่หนักมากค่ะ แล้วก็ยาวประมาณสามเมตรเห็นจะได้ เวลาถ่ายผมยาวๆ ก็ลากพวกใบไม้ต่างๆ มา ก็ต้องมานั่งสางผมกันใหม่อีก ถ่ายละครเรื่องนี้พูดเลยว่า หนักหนาสาหัสแต่เป็นอะไรที่สนุก ไหนจะฉากที่ต้องแต่งเอฟเฟ็คผีแล้วลงไปอยู่ในน้ำอีก ตอนลงน้ำเอฟเฟ็คที่แต่งเอาไว้ก็ละลาย ก็ต้องค่อยๆ คอยเติมหน้ากันอีก ตามบทกาหลงเค้าเสียชีวิตในน้ำ เรื่องราวใต้น้ำเลยมีเยอะพอสมควรค่ะ ลงไปถ่ายในคลองก็เจอปลิง ปกติไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ไม่ถึงกับกรี๊ด พอมันเกาะเราก็ตะโกนบอกพี่ๆ ทีมงาน ยากสุดๆ แล้ว เรือนกาหลง ไม่มีส่วนไหนที่ง่ายเลย (หัวเราะ)”

“ถึงฉากที่ถ่ายทำใต้น้ำจะหนักหนา ถ่ายกันอยู่สองวันเต็มๆ เดี๋ยวกระโดดขึ้นกระโดดลง ป่วยไปเลยค่ะ แต่ปุ๊กลุกประทับใจที่สุด เพราะภาพสวยมาก หาดูได้ยาก ทีมงานเอากล้องใต้น้ำมาถ่ายเลย มีนักประดาน้ำมาเก็บภาพพวกเราด้วย อยากให้ดูกันเยอะๆ ค่ะ เชื่อว่าคนที่รอคอยละครสยองขวัญจะชอบกัน และเชื่อว่าละครแนวผีจะกลับมาเปรี้ยงอีกครั้งค่ะ ถามว่าสยองมั้ย ปุ๊กลุกว่าสยองมากเหมือนกันนะ เค้าจะเป็นผีที่มีเหตุผล ไม่ใช่อยากจะหลอกก็ออกมาหลอก แต่เวลาจะแปลงร่างเค้าก็ไม่ได้บอกใคร อันนี้แหละคือเสน่ห์”

“กาหลง” จะหลอกและหลอนแค่ไหน ติดตามได้ใน “เรือนกาหลง” ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี

‘นิว-วงศกร’ อ้อนแม่ยก โอด! เรือนกาหลง ร้องลิเกแสนยาก



รับบท “ไม้” พระเอกที่สุดแสนจะอาภัพในละครเรื่อง “เรือนกาหลง” ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายฝีมือการแสดงของ “นิว-วงศกร ปรมัตถากร” โดยเฉพาะการร้องยี่เก หรือ ลิเกในสมัยปัจจุบัน เจ้าตัวพูดถึงบทบาททางการแสดงครั้งนี้ว่า

“ไม้ เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกสัปเหร่อเก็บมาเลี้ยง โตมาพร้อมๆ กับนางเอก พอเป็นหนุ่มเป็นสาวก็รักกัน เล่นเรื่องนี้ยากครับ อย่างแรกคือภาษา เพราะเป็นพีเรียด คำพูดบางคำเราก็ไม่เข้าใจความหมาย แล้วมันก็ไม่ติดปาก พูดยาก เวลาเราต้องใช้อารมณ์ในการแสดง พอเรากังวลกับเรืองคำพูด ทำให้เราแสดงออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เวลาพูดก็ต้องออกเสียง ร.เรือ ให้ชัด”

“ในเรื่องผมจะมีสองคาแร็คเตอร์ เป็นพระเอกลิเกก็จะขี้อ้อน อีกคาแร็คเตอร์ก็เป็นนักมวย เรื่องบู๊ไม่มีปัญหา แต่ลิเกนี่แหละหนักหนาที่สุด ไม่เคยเล่นมาก่อน ไม่เคยร้องไม่เคยรำ แต่ต้องมาทำในเรื่องนี้ทั้งหมด แต่ไม่ต้องแต่งชุดลิเกวับวาวเหมือนลิเกในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นพีเรียดย้อนกลับไปในสมัยที่ลิเกเค้ายังเรียกยี่เกยังไม่มีเครื่องทรงเยอะๆ ยังไม่มีชุดลิเกที่เป็นเพชรๆ หนักใจในเรื่องการร้องการรำ ต้องทำให้เหมือนที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผมไม่เคยร้องลิเกมาก่อนเลย มาศึกษาเรียนรู้เอาในเรื่องนี้ โชคดีที่ได้ พี่จอย ชวนชื่น, น้ากล้วย เชิญยิ้ม, พี่จิ้ม ชวนชื่น พี่ชูศรี เชิญยิ้ม คอยช่วย ทุกคนเป็นลิเกอยู่ในสายเลือด แค่เสียงระนาดขึ้นมา เค้าก็เหมือนองค์ลงกันแล้ว เราก็แบบโห เห็นครั้งแรกอึ้ง อ้าปากค้างมัวแต่ดูเค้าเล่นจนเพลิน ลืมบทของตัวเองไปเลย ส่วนตัวนิวเครียดอยู่แล้วเรื่องนี้ บทดราม่ากับนางเอกก็เยอะมาก ร้องเพลงก็ไม่เป็น ยังต้องมาร้องลิเกซึ่งมันยากกว่าร้องเพลงอีก เลยค่อนข้างยากและเครียดมาก ก่อนถ่ายทำ ต้องไปเรียนลิเกก่อนประมาณสามสี่วัน เพื่อมาเข้าฉากลิเกแค่ซีนเดียว เล่นลิเกเรื่องไหนก็จะได้ความรู้ไปด้วย เช่นเรื่องขุนแผน เรื่องไกรทอง ก็ทำให้รู้ประวัติศาสตร์หมดเลย จะมีครูมาเล่าให้ฟังเหมือนเรียนหนังสือไปด้วยในตัว ยังไงฝากติดตามกันด้วยครับ”

“ไม้” จะออดอ้อนแม่ยกขนาดไหน ติดตามชมฝีมือการร้องลิเกอ้อนของเขาในละคร “เรือนกาหลง” พุธและพฤหัสบดี เวลา 20.20 น.ทางช่อง 7 สี

‘รถเมล์’ รับบทหนัก บีบคั้นอารมณ์ใส่ ‘ปุ๊กลุก’



          เป็นอีกบทบาทที่ถือเป็นตัวเดินเรื่องในละครฟอร์มยักษ์ เรื่อง “เรือนกาหลง” สำหรับนักแสดงสาว “รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์” ที่มารับบท “พุดจีบ” กับบทสุดหินเช่นนี้ “รถเมล์” ให้สัมภาษณ์ว่า

          “บทบาท พุดจีบจะเป็นลูกเศรษฐีในหมู่บ้านค่ะ กิริยามารยาทเรียบร้อย รักเพื่อนก็คือนางเอกมาก แล้วก็รักพระเอกมากด้วย คือหลงรักแฟนเพื่อนค่ะ ทางด้านพระเอกก็ไม่ได้ชอบเรา เค้าก็ชอบนางเอกมาตั้งแต่ต้น พุดจีบเลยยอมเสียสละเพื่อให้คนที่เรารักทั้งสองคนมีความสุข อย่างน้อยๆ เค้าก็มีความสุข ทำทุกอย่างให้เค้าได้รักกัน ได้สมหวังกัน บทนี้หลายคนก็บอกว่าเป็นบทเด่น รถเมล์ว่าพุดจีบเค้าเป็นตัวแปรในหลายๆ อย่าง คือถ้าไม่มีตัวพุดจีบ ก็คงไม่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น”

          “ใน เรื่องจะเข้าฉากกับปุ๊กลุกเยอะหน่อย เป็นเรื่องแรกที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ดีนะคะน้องเค้าตั้งใจทำงานดี เค้าส่งอารมณ์ให้เราได้อยู่ ทำให้เราเชื่อว่าเราเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ รับส่งกันได้ดีมากทีเดียว ถ้าดูกันไปนานๆ จะเห็นว่าสองคนนี้เค้าก็จะมีรักกันบ้าง เข้าใจผิดกันบ้าง โกรธกันก็มี เดี๋ยวจะมีเรื่อยๆ อารมณ์เหมือนคนทั่วไปที่มีเพื่อนค่ะ ก็ต้องมีน้อยใจกันบ้าง สนุกสนานกันบ้าง เข้าฉากด้วยกันบ่อยหน่อยก็สนิทกันในระดับหนึ่งนะคะ นอกเหนือจากเวลาถ่ายละครก็เซย์ฮัลโหลกัน เสน่ห์ของเรื่องอีกอย่างก็คือ ความเป็นไทยสมัยโบราณที่จะสอดแทรกไว้เยอะมาก เดี๋ยวนี้อาจจะเห็นละครที่สอดแทรกความเป็นไทยน้อย อันนี้ยังมีให้เห็นว่า วิถีชาวบ้านแบบไทยๆ เป็นยังไง คำพูดแบบไทยๆ คำโบราณเป็นแบบไหน มันมีเสน่ห์มากนะคะ อาจฟังแล้วต้องแปลภาษาไทยเก่าเป็นไทยปัจจุบัน แต่ฟังแล้วเพราะชอบมากคะ ละครไทยๆ ของเรา เรื่องนี้เราไปหาสถานที่ถ่ายทำ บุกน้ำลุยโคลนกันสุดฤทธิ์ ละครมีหลากหลาย เนื้อหา ไม่ได้เป็นผีที่น่ากลัว แต่เป็นเรื่องราวความรักของหญิงชาย ที่รักกันแล้วมีอุปสรรค แต่ก็ยังมีความตลกเข้ามาแทรกด้วย ครบรสค่ะฝากละครด้วยค่ะ”

          การันตีกันซะขนาดนี้ ไม่ติดตามชม “เรือนกาหลง” ทุกค่ำคืนวันพุธและพฤหัสบดี ก็คงไม่ได้แล้ว เวลาดี 20.20 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ ห้ามพลาด

“นิว” ยอมรับตัวจริงทุ่มเทรักจริงไม่ต่างกับ “ไม้” พร้อมชวนลุ้นระทึก ‘ผีกาหลง’ หลอนแค่ไหนใน “เรือนกาหลง”



          เปิดฉากให้ได้สยองกันไปบ้างแล้ว สำหรับกาหลงในเวอร์ชั่นผีกับละครฟอร์มยักษ์จากค่าย “พอดีคำ” เรื่อง “เรือนกาหลง” งานนี้คนที่น่าสงสารที่สุด หนีไม่พ้นพระเอกสุดรันทด “ไม้” นำแสดงโดย “นิว-วงศกร ปรมัตถากร” เจ้าตัวขอออกรับแทนผีสาวกาหลงว่า

          “เรือน กาหลง ละครเรื่องนี้จะเน้นที่ความรักนะครับ เน้นที่คนสองคนที่รักกันมาก บูชาในความรัก สมัยนี้ผมว่าค่อนข้างยากที่จะเจอคนที่บูชาความรัก เพราะสมัยนี้คนเราเจอกันง่าย คนสมัยก่อนเค้าเจอกันในวัด พอพระอาทิตย์ตกดินนี่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอกันแล้ว เพราะฉะนั้นความรักของคนสมัยก่อนค่อนข้างยาก อุปสรรคมันเยอะ เวลารักกันกว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคได้มันยาก ทำให้เค้ารักกันมาก ผูกพันกันมาก เรียกว่าตายแทนกันได้ ส่วนตัวผมเวลามีความรัก ผมก็เป็นคนแบบนั้นนะ เวลาผมรักใครผมก็ทุ่มเทเต็มที่ ถ้ามีเหตุให้เลิกกัน เราก็เสียใจนะ แต่ต้องทำใจ เพราะมันก็ผ่านไปแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป”

          “ในเรื่องช่วงที่กาหลงเป็นผี ถามว่าน่ากลัวมั้ย ก็น่ากลัวนะครับ แต่มันก็มีข้อจำกัดของมันอยู่ว่าน่ากลัวได้เท่านี้ เพราะมีเด็กๆ ชมด้วย ในเรื่องเราไม่รู้ว่าเค้าเสียชีวิต แต่คนรอบตัวจะค่อยๆ รู้ทีละคน ทุกคนที่คิดจะมาบอกเรา ก็โดนผีฆ่าตาย สุดท้ายไม่มีใครกล้าบอก ไม้เป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่ากาหลงเป็นผี การทำงานกับนางเอกของเรื่อง น้องเค้าเก่งมากครับ ต้องแต่งเอฟเฟคผีตลอด น้องเค้าก็มีความอดทนสูง เก่งทุกอย่างนะนางเอกของเรา ทั้งร้องทั้งรำได้หมด เวลาเข้าฉากด้วยกันทุกอย่างง่ายไปหมด เหมือนเจอคนเก่งๆ เค้าก็ช่วยเราได้เยอะ”

          ติดตามความหลอนใน “เรือนกาหลง” ได้ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.20 น . ช่อง 7

‘อั๋น’ ปลื้มฟีดแบคดี คนชอบ ‘ไอ้เพชร’ ใน ‘เรือนกาหลง’



          ใครที่ได้ติดตามละครเรื่อง “เรือนกาหลง” คงจะอดอมยิ้มไม่ได้ กับบทบาทของ “เพชร” ที่รับบทนี้โดยนักแสดงหน้าใหม่ “ชยพล บุนนาค” เด็กสร้างของผู้จัดคุณภาพ “ธงชัย ประสงค์สันติ” จากค่าย “พอดีคำ” เรื่องนี้ถือเป็นการพลิกคาแร็คเตอร์ครั้งใหญ่ และยังเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวได้มาเล่นละครพีเรียด “ในเรื่องชื่อเพชรครับ ความจริงแล้วเป็นตำรวจ แต่ต้องมาสืบคดีในหมู่บ้านของพระเอกกับนางเอก เลยต้องปลอมตัวเป็นพ่อค้า เรื่องนี้เล่นเป็นสองคาแร็คเตอร์ เป็นพ่อค้ากวนๆ แต่เวลาเป็นตำรวจก็จะนิ่งๆ สุขุมหน่อย เล่นยากเหมือนกัน เหมือนเราเข้าฉากกับใครในหมู่บ้านเราก็ต้องติดตลก พออยู่ในหน้าที่การงานก็เป็นผู้ใหญ่หน่อย แถมยังเป็นละครพีเรียดเรื่องแรก คำพูดก็เป็นคำพูดสมัยก่อน จะกังวลกับคำพูด อั๋นทำการบ้านด้วยการดูละครพีเรียดเยอะๆ พวกคำท้ายอย่าง เชื่อรึ, เอ็ง,ข้า อะไรแบบนี้ต้องให้แม่น เพราะเราไม่ได้ใช้ในชีวิตปกติ แต่ตอนนี้ติดพูดคำพวกนี้ไปโดยอัตโนมัติเลยครับ(หัวเราะ) ละครเรื่องนี้ภาพสวยบทดี อั๋นอ่านบทแล้วเข้าถึงตัวเพชรได้ง่ายมาก อ่านบทครั้งเดียวจำได้เลย ทางพี่หน่อยผู้กำกับสอนจะบอกแค่ว่าเรื่องนี้มีต้นสายปลายเหตุยังไง หลังละครออนแอร์ก็ได้รับคำชมเยอะนะครับ คนชอบกัน บอกว่าบทของเพชรกวนๆ ดี โดยเฉพาะเวลาเข้าฉากกับชบา คนก็ชอบและลุ้นไปกับความรักของคู่นี้ น้องออมน่ารักดีครับ ทำงานด้วยกันไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ในเรื่องมีอยู่ฉากหนึ่ง ที่อั๋นเครียดมาก เป็นฉากที่ต้องเข้ากับพี่รถเมล์ ฉากนั้นพูดอยู่คนเดียวหกถึงเจ็ดบรรทัด ยากนะสำหรับนักแสดงใหม่อย่างอั๋น เครียดเลยครับ เครียดว่าจะทำได้มั้ย จะพูดได้เหรอ แล้วเป็นซีนอารมณ์ด้วย นางเอกตายเพราะอะไร เพชรจะต้องบอกพระเอกยังไง เกร็งพี่รถเมล์ด้วย เกร็งไปหมด ถ่ายกลางทุ่งนาจะพลาดไม่ได้ แต่โชคดีที่ครั้งเดียวผ่าน เป็นฉากเดียวที่พูดเยอะที่สุดในเรื่องแล้วครับ ฝากละครเรือนกาหลง ติดตามให้กำลังใจกันเยอะๆ นะครับ”

          ติดตามชมละคร “เรือนกาหลง” ได้ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ช่อง 7 สี

‘โม’ ไม่สนหน้าอกทะลัก! ทุ่มเต็มร้อยเพื่อการแสดง
 

 
          เป็นเพราะต้องมาห่มผ้าแถบในละครย้อนยุคเรื่อง “เรือนกาหลง” แต่นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ “โม-อมีนา พินิจ” ไม่มีหวั่น ไม่กลัวหน้าอกหน้าใจจะทะลักออกมา เพราะถือยึดถือคติที่ว่าต้องเต็มที่กับการแสดง แถมยังบอกอีกว่าบทบาท “อบเชย” ในเรื่องนี้ไม่ได้หมูอย่างที่คิด

          “โมรับบทเป็น อบเชย ค่ะ เป็นน้องของโชติตัวร้ายในเรื่อง อบเชยจะหลงรักพระเอกมาก ความรักของอบเชยคือ การครอบครอง โดยที่ไม่สนใจว่าพระเอกเป็นแฟนอยู่กับนางเอก อบเชยจะทำทุกอย่าง ร้ายมากๆ เรื่องนี้ยากตรงที่เป็นละครย้อนยุค จะมีปัญหาตรงภาษาและคำพูด ต้องพูดให้ชินปาก โมก็หัดพูดอยู่เรื่อยๆ ตอนอยู่ในกองถ่าย พูดให้คล่องที่สุดเพื่อให้เข้ากับคาแร็คเตอร์ ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อก็เกร็งนะ เราจะเล่นได้หรือเปล่า เราจะไหวมั้ย คือโมไม่เคยเล่นละครแนวนี้ จะเป็นยังไงก็ยังนึกภาพตัวเองไม่ออก คิวแรกที่เล่นก็ผิดๆ ถูกๆ พอเล่นไปก็ดีขึ้น พี่หน่อยผู้กำกับจะแนะนำว่า เนี่ยๆ อบเชย ซีนนี้พี่ต้องการร้ายอีกนิดนะ ขอร้ายอีกหน่อย โมก็เพิ่มเติมตามที่พี่หน่อยผู้กำกับบอก ในเรื่องยังต้องใส่ผ้าแถบด้วย เพราะผู้หญิงสมัยก่อนก็ใส่แบบนี้ ถามว่าจะเซ็กซี่มั้ยก็คงไม่นะคะ ใครจะมองว่าเซ็กซี่ก็ไม่เป็นไร ตัวโมเองถือว่าเป็นการแสดง ใส่แล้วไม่มีอุปสรรคอะไร นอกจากเวลาเข้าห้องน้ำ ทำให้รู้เลยว่า ผู้หญิงสมัยก่อนทำไมลำบากจัง ใส่ๆ ไปก็ชินนะคะ โมชอบนะ ยังไงก็ยอมทนเพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ ฝากละครด้วยค่ะ ทุกคนตั้งใจกันมาก เป็นละครฟอร์มใหญ่อีกเรื่องของทางช่อง 7 ค่ะ”

          “เรือนกาหลง” พุธ และ พฤหัสบดี เวลาดี 20.20 นทางช่อง 7 สี “พอดีคำ” รับประกันคุณภาพ

‘พล’ แอบเครียด เล่นร้ายสุดขั้ว ในละครพีเรียด ‘เรือนกาหลง’


 
          เคยรับเล่นแต่บทผู้ชายที่แสนดี สำหรับลูกหม้อ “พอดีคำ” หนุ่มหล่อมาดเข้มอีกคนของวงการบันเทิง “พล-พูลพัฒน์ อัตถปัญญาพล” ล่าสุดพลิกบทบาทมาเป็นหนุ่มที่สุดแสนจะร้าย ในละครพีเรียดฟอร์มยักษ์เรื่อง “เรือนกาหลง” ทางช่อง 7 สี เจ้าตัวพูดถึงการพลิกบทบาทครั้งสำคัญนี้ว่า

          “ในเรื่องเล่นเป็น โชติ บทนี้ร้ายสุดขั้วเลยครับ เป็นลูกของผู้ใหญ่บ้านที่ชื่อช่วง ไม่ถูกกับพระเอกมาตั้งแต่เด็กๆ คอยแก่งแย่งชิงดีกันมาตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาก็ยังไม่ชอบ ไม่ถูกกันอีก คอยขัดขวางหาเรื่องไม้ตลอดเวลา เล่นเรื่องนี้ยากมาก ต้องแสดงทั้งอารมณ์สีหน้าและคำพูดให้มันดูร้ายสมบทบาท ให้ดูน่ากลัวเป็นนักเลง ร้ายตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องครับ เล่นเองยังรู้สึกเลยว่าโชตินี่ร้ายและเลวจริงๆ เป็นคนที่แย่มากครับ”

          “เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่หันมาเล่นร้าย พี่ธง (ธงชัย ประสงค์สันติ) คงอยากให้ผมลองเล่นบทใหม่ๆ ดู เพราะส่วนมากจะมีแต่บทผู้ชายใจดี วิธีทำการบ้านของผมก็ดูหนังเยอะๆ เอาบทมาอ่าน ตัวละครตัวนี้จะคิดยังไง พูดยังไง ถามว่าแอบเครียดมั้ย แอบเครียดนะ ตอนแรกไม่รู้จะเล่นยังไงดี แต่พี่หน่อยผู้กำกับก็คอยให้คำแนะนำ ก่อนจะไปถ่ายทำวันแรก จำได้เลยครับ เครียดอยู่คืนนึงเพราะนอนไม่หลับ จะเล่นยังไงดี คิดไปต่างๆนานา ผู้กำกับจะชอบที่เราทำการบ้านไปหรือเปล่า พอไปถ่ายจริงๆ ก็ผ่อนคลายมากขึ้นเพราะผู้กำกับจะคอยแนะนำและบอกตลอดว่าอยากให้เราเล่นแบบไหน ฝากละครด้วยครับ ละครเรื่องนี้นักแสดงและทีมงาน ตั้งใจทำออกมาเต็มที่ เพื่อให้ละครออกมาดีถูกใจแฟนๆ ครับ”

          ร่วมส่งกำลังใจและคอยติดตามความร้ายกาจของ “โชติ” ได้ทุกค่ำคืนวันพุธและพฤหัสบดี เวลา20.20 น. ช่อง 7 สี

‘รถเมล์’ ปลื้ม แฟนๆ รักและเอ็นดู ‘พุดจีบ’ ยก ‘พอดีคำ’ สุดยอดค่ายละครคุณภาพ



          แฟนละครที่ติดตามละครเรื่อง “เรือนกาหลง” คงจะเทใจให้กับ “พุดจีบ” สาวน้อยผู้น่าสงสารที่สุดในเรื่องกันยกใหญ่ งานนี้ทำเอานักแสดงสาว “รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์” ออกอาการปลื้มและคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ได้มาร่วมงานกับ “พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์”

          “ตั้งแต่ละครออนแอร์ไป โอเคเลยนะคะ หลายคนดูบอกละครสนุกดี ถือเป็นเสียงตอบรับที่ดีมาก บางคนก็บอกพุดจีบน่าสงสาร เสียสละเยอะจริงๆ รถเมล์บอกก่อนเลย อันนี้ยังไม่เยอะนะ ช่วงหลังๆ จะยิ่งเยอะกว่านี้ ต้องติดตามกันเอง หรือบางกระแสเค้าก็คุยกันว่าบางทีพุดจีบก็เหมือนอยากจะแย่งไม้นะ บทนี้จะดูเทาๆ หน่อย เล่นยากเหมือนกัน เวลาเล่นต้องระวัง ไม่งั้นจะดูว่าพุดจีบอิจฉาเพื่อนก็คือกาหลง”

          “จริงๆ รถเมล์มีโอกาสได้ทำงานนอกค่ายหลายที่เหมือนกัน แต่กับที่นี่เป็นครั้งแรก เคยได้ยินนักแสดงคนอื่นพูดกันว่า ถ้าเป็นละครของพอดีคำฯ ให้รับเล่นเลย เพราะเค้าคุณภาพจริงๆ ภาพสวย รถเมล์ก็รู้สึกว่า ภาพสวยจริงๆ มุมมองก็สวย สีของภาพก็สวย ทั้งๆ ที่เวลาถ่ายทำก็ใช้ความเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ได้ประดิษฐ์อะไรเยอะมาก อะไรที่ไม่เคยทำก็มาทำในเรื่องนี้ อย่างการร้องและรำลิเก (ยี่เก) บางทีไม่เคยสัมผัส ไม่เคยเล่นมาก่อน เวลาเล่นจะตื่นเต้นนิดๆ ยากมากนะในส่วนของลิเก (ยี่เก) มันอยู่ที่พรสวรรค์ความคุ้นเคย ลิเกที่เก่งๆ เค้าใช้ชีวิตอยู่กับสายลิเกมา เค้าร้องได้อยู่แล้ว แต่กับคนที่ไม่เคยทำ แล้วต้องมาทำนะมันยากมาก รถเมล์ไม่ได้ไปเรียนที่ไหนค่ะ ก็มีพี่ๆที่เค้าเป็นลิเกตัวจริงสอนกันในกองถ่ายนั่นแหละ อยากให้ติดตามกันเยอะๆ รถเมล์ประทับใจทุกฉาก ทุกขั้นตอนของการทำงาน บางวันขับรถจะถึงกองถ่ายอยู่แล้ว ก็ต้องยกกองเพราะฝนตก หรือบางทีรถตกหล่มบ้างเข้าไม่ได้ แต่ทุกคนก็ช่วยกัน ทุกคนต้องเดินย่ำเข้าไปข้างในเพื่อที่จะถ่ายละคร ทุ่มเทกันขนาดนี้ก็ฝากติดตามกันเยอะๆ นะคะ”

          “เรือนกาหลง” กำลังสนุกสนานและเข้มข้น ติดตามได้ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา20.20 น. ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ

‘จอม’ เล่นเองหลอนเอง ‘ผีกาหลง’ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

 

          คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับนักแสดงหนุ่มที่มีชื่อว่า “จอม-ศรุต สุวรรณภักดี” จากละครเรื่อง “เรือนกาหลง” ของค่าย “พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” ในฐานะพ่อหนุ่มบ้านทุ่ง “โขง” ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของเรื่อง ถ้าขาดเพื่อนพระเอกอย่างโขงไปนั้น ละครก็ขาดรสชาติแน่นอน

          “เรื่องนี้ผมรับบทเป็นโขงครับ เป็นเพื่อนของพระเอกก็คือไม้ เป็นคนรักแฟน รักเพื่อน แต่ในเรื่องแฟนของเราก็คือจำปาตายไป ถามว่าเรื่องนี้ยากตรงไหน คงเป็นเรื่องของภาษา แรกๆ ก็ไม่ชินต้องปรับตัวกันนิดนึง เพราะไม่ใช่ภาษาปัจจุบัน รู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรือนกาหลง ได้เปลี่ยนคาแร็คเตอร์บ้าง สนุกกับการได้เล่นบทแบบนี้ ผมก็เล่นสลับไปมาระหว่างบทร้ายกับบทดี ร้ายก็ร้ายมาก ดีก็ดีไปเลย ถึงแม้ในเรื่องตอนถ่ายทำจะเจออุปสรรค เจอฝนตกบ้าง ทำให้การถ่ายทำล่าช้า เพราะส่วนใหญ่จะถ่ายข้างนอกกลางแจ้งกันตลอด แต่ทุกคนก็ไม่บ่นครับ ทุกคนตั้งใจทำงานกันมากอยากให้งานออกมาดี เก็บกันทุกรายละเอียด อย่างโลเกชั่นนี่ก็สุดยอด เรือนกาหลงที่ทีมงานเค้าทำกันขึ้นมา ก็ปาเข้าไปหลักแสนแล้ว คุ้มค่ากับการชมแน่นอนครับ ตั้งแต่เล่นละครมา มีเรื่องนี้นี่แหละครับ ที่คนจำผมได้เยอะขึ้นมาก มีคนเข้ามาทักมากกว่าเรื่องอื่นๆ ละครก็เรตติ้งดีด้วย ปลื้มกับเรตติ้งที่ได้รับ ผมว่าละครเรื่องนี้สนุกครบรส ถือเป็นเสน่ห์ของละคร ในพาร์ทของผีก็ลุ้นดี โขงนี่เค้าก็จะพิสูจน์ตลอดว่านางเอกคือกาหลงเป็นผี พอรู้ความจริงก็พยายามจะบอกพระเอก แต่ทุกครั้งก็มีเหตุการณ์ให้บอกไม่ได้ ต้องมาเล่นอะไรหลอนๆ ในชีวิตจริงก็กลัวผีนะ (หัวเราะ) ถ้าไม่คุยเรื่องผีผมเฉยๆ แต่ถ้าคุยแล้วทีนี้จะยาวเลย เริ่มๆ กลัว ตอนถ่ายทำโชคดีนะไม่มีเหตุการณ์อะไรชวนขนหัวลุก ไม่มีเสียงหลอนๆ หรือไม่เคยเจออะไรเลย อีกอย่างผมเองไม่ลบหลู่อะไรอยู่แล้ว ไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนเสมอ”

          “เรือนกาหลง” ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา20.20 น.ช่อง 7 สี ค่ายละครคุณภาพ“พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” การันตีความหลอน

‘ปูดำ’ พลิกคาแร็คเตอร์ ยอมไม่สวย ‘ในเรือนกาหลง’ ปลื้ม ‘ปุ๊กลุก’ เหมือนตัวเองตอนสาวๆ
 

 
          พลิกคาแร็คเตอร์ครั้งสำคัญเลยทีเดียว สำหรับอดีตสาวงาม “ปูดำ-สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์” ที่ยอมทิ้งความสวยมารับบท “แม่กลอย” ในละครเรื่อง “เรือนกาหลง” ถึงจะเล่นบทแม่ แต่บทนี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้ตัวละครตัวอื่นๆ “ปูดำ” พูดถึงบทบาทในเรื่องและเสียงตอบรับว่า

          “ตัวละครแม่กลอย เค้าเป็นแม่ที่ไม่ค่อยแสดงออกว่ารักลูก เก็บความอ่อนแอเอาไว้ข้างใน เล่นเรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ ต้องยอมแก่งั่ก ผมก็หงอก แก่ก็แก่ ไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อน เหนื่อยมาก ไม่คิดว่าพีเรียดจะหนักขนาดนี้ ตอนที่ทีมงานติดต่อมาไม่ทราบอะไรเลย ถ้าทราบตั้งแต่ทีแรกก็จะไม่รับเล่น (หัวเราะ) คาดหวังว่าจะได้ใส่ชุดในสมัยรัชกาลที่ 5 ยังบอกน้องๆ ทีมงาน ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้พี่ไม่เล่นนะ (หัวเราะ) มันเปลี่ยนตัวเองโดยสิ้นเชิง แต่พอเล่นไปก็อินมาก เพราะบทดีจริงๆ เสียงตอบรับก็ดีมาก คนเข้ามาทักเยอะ ทำไมถึงแก่ได้ขนาดนั้น รู้สึกว่าคนดูจะชอบกัน เค้าชมว่า เราดูเข้าถึงบทบาทที่เล่น กับปุ๊กลุกนางเอกของเรื่อง เราต้องเข้าฉากกันบ่อย น้องเค้าเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะมาก ทำงานจริงจัง ดูเค้าใส่ใจในงานมาก เป็นนักแสดงอนาคตไกลแน่นอนเพราะเค้าตั้งใจทำงาน เคยถามเค้าด้วยนะว่าชีวิตมีห่วงอะไรหรือเปล่า เห็นเค้าทุ่มให้กับการทำงานเกินร้อย คอยถามคนนั้นคนนี้ตลอด เห็นเค้าแล้วก็นึกถึงตัวเองในวัยสาว เชื่อว่าเค้าเป็นลูกเราจริงๆ อาจจะเพราะมาจากเวทีประกวดนางงามเหมือนกัน ทุกครั้งที่เจอเค้าก็เหมือนย้อนมองตัวเอง วันไหนไม่ได้ไปกองถ่ายก็คิดถึง พี่ปูดำฝากละครไว้ด้วยค่ะ ดีใจกับตัวเองที่ได้รับบทที่ดี ขอบคุณพี่ธง ขอบคุณช่อง 7 ขอบคุณผู้กำกับและทีมงานทุกคน ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปงานก็ไม่สมบูรณ์เลยคะ”

          “เรือนกาหลง” กำลังสนุกสนานและเข้มข้น ติดตามได้ทุกวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา20.20 น. ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ

‘นัท’ ตกใจคนทัก “นัทสองหอ” ทั้งโหด ทั้งหื่น แต่ก็ยิ้มได้
 

 
          อีกหนึ่งนักแสดงในละครเรื่อง “เรือนกาหลง” ที่สร้างสีสันได้ไม่น้อย สำหรับหนุ่มน้อยที่แฟนละครวิกหมอชิตคุ้นหน้าคุ้นตากันดี “นัท-อติรุจ สิงหอำพล” เจ้าของบทบาท “สิง” ลูกสมุนมือขวาของตัวร้ายในเรื่องอย่าง “โชติ” มาเล่นร้ายเรื่องนี้ “หนุ่มนัท” เค้าบอกว่า ตัวเองได้ฉายาใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อย

          “ในเรื่องผมก็เป็นสิงครับ เป็นมือขวาของโชติ พอละครออนแอร์ไป กระแสดีมากครับ โดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ จำเราได้เยอะขึ้น คนจำผมได้มากกว่าตอนที่ผมเล่นละครเรื่องอื่น ชอบมีคนเข้ามาทัก ไปเดินเล่นพันธุ์ทิพย์ ก็มีคนมาเดินวนเวียนผม เพื่อจะเข้ามาหา ผมก็ตกใจ เค้าจะเข้ามาไม้ไหนนะ สุดท้ายเค้าตัดสินใจเดินเข้ามาหาผมแล้วถามว่า “สุดท้ายไม้ได้กับพุดจีบหรือเปล่า (หัวเราะ)” ผมก็ตอบไม่รู้ครับ ให้ติดตามกันเอาเอง แล้วผมยังมีฉายาใหม่อีกด้วยนะ ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ตอนมีคนมาทักและตกใจเพราะเค้าเรียกเราว่า “นัทสองหอ” ครับคือ โหดกับหื่น เพราะเจอใครก็จะข่มขืนตลอด (หัวเราะ) ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อให้มาเล่นเรื่องนี้ ก็ไม่คิดมากเลย พอบอกว่าเป็นละครของค่ายพอดีคำ ผมก็รับเล่นเลย เคยทำงานด้วยกันมาแล้วสองเรื่อง พอตกปากรับเล่นแล้ว ก็เล่นไปให้เต็มที่ ผมมีความคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในละครสำคัญหมด ไม่ใช่เฉพาะบทใดบทหนึ่ง อีกสิ่งที่ประทับใจ ก็ชอบเทคนิคของค่ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าผี หรือผมของผีกาหลงที่ดูยาวๆ มันดูสมจริงมาก รวมไปถึงเทคนิคของภาพที่ตัดต่อออกมา ทำให้เราเชื่อว่ากาหลงเป็นผีจริงๆ ในขณะที่ผมเป็นนักแสดงด้วยกัน เห็นเทคนิคการแต่งหน้า เห็นนางเอกเค้านั่งแต่งหน้านานเป็นชั่วโมง ตอนนั้นก็เชื่อนะ ยิ่งพอเห็นภาพในทีวีก็ยิ่งเชื่อ แล้วคนดูจะไม่เชื่อได้ยังไง ตั้งแต่ตอนแรกที่ละครออนแอร์ ตอนนั้นผีกาหลงยังไม่ออก ผมจำได้เลย คนเข้าไปตั้งกระทู้ในอินเตอร์เน็ตกันเยอะแยะว่า อยากเห็นผีกาหลง คนตั้งหน้าตั้งตารอ และผมฝากละครเรือนกาหลงไว้ด้วยครับ ทุกคนน่าจะลุ้นว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร จบอย่างไร เข้มข้นแค่ไหน ผมบอกเลย เรื่องนี้มีเซอร์ไพรส์แน่ๆ ครับ”

          “เรือนกาหลง” จะเซอร์ไพรส์ขนาดไหน หาคำตอบกันเอาเอง ทุกค่ำคืนวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.20 น.ทางช่อง 7

‘พล-พูลพัฒน์’ ไม่หวั่นคนดูเกลียด ชอบให้คนอินกับบท ‘โชติ’
 

 
          พลิกคาแร็คเตอร์มาเล่นบทร้ายๆ ก็ไม่ทำให้ใครผิดหวัง เพราะนักแสดงหนุ่มมาดเซอร์ “พล-พูลพัฒน์ อัตถปัญญาพล” จัดเต็มซะจริงๆ ในละครเรื่อง “เรือนกาหลง” ของค่าย “พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์” ทางช่อง 7 สี ที่ตอนนี้สาวๆ พากันร้องยี้ใส่ “โชติ” เป็นแถวๆ ส่วนตัวจริงของ “พล” นั้นจะมีคนเกลียดหรือไม่ เจ้าตัวมีคำตอบ

          “ละคร เรือนกาหลง เรตติ้งดีนะครับ บทโชติที่ผมเล่นเป็นบทที่ร้ายกาจมากครับ ร้ายแบบที่ว่า ผมเล่นเองผมก็ยังคิดว่าทำไมร้ายได้ขนาดนี้ คนที่บ้านคุณพ่อ-คุณแม่ก็บอกว่า ดีครับ ละครสนุกดี แต่ผมไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลย เพราะถ่ายแต่ละคร เลยไม่ค่อยรู้ว่าคนส่วนใหญ่เค้าว่ายังไง เท่าที่พอจะเช็คได้ เค้าก็บอกกันว่าละครสนุก ถ้าถามความรู้สึกของผมเอง มันก็สนุกดีนะครับ เพราะละครมีครบทุกรส ส่วนตัวก็ไม่เคยเล่นบทร้ายๆ แบบนี้มาก่อน ถือว่าบทนี้แรงที่สุดในชีวิตแล้วก็ว่าได้ เพราะตัวของโชติก็เลวได้ใจมาก พอได้มาเล่นก็ดีใจครับ อีกอย่างผมไม่กลัวคนดูจะเกลียดด้วย ผมคิดว่าคนดูสมัยนี้แยกแยะออกนะครับ ว่าอันไหนเป็นชีวิตจริง อันไหนเป็นละคร อันนี้เค้าก็ต้องรู้ว่าผมเล่นไปตามบทบาท ผมเป็นนักแสดงก็ต้องเล่นให้ได้ทุกบทบาท ถ้ามีบทร้ายเข้ามาอีก ก็ต้องดูว่าบทเป็นยังไง ถ้าน่าสนใจก็เล่นแน่นอน เพราะชอบอะไรที่ท้าทาย และขอบคุณที่ได้กลับมาเล่นละครกับพี่ธง (ธงชัย ประสงค์สันติ) อีกครั้ง กลับมาร่วมงานกันครั้งนี้ ก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิมครับ และมาดูกันนะครับว่าบทสรุปของคนเลวๆ อย่างโชติจะเป็นยังไง รับรองว่าสาสมแน่นอนครับ”

          ร่วมกันติดตามตอนจบของ “โชติ” ได้ใน “เรือนกาหลง” พุธและพฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ