happy on February 25, 2013, 06:28:08 PM
CIRQUE DU SOLEIL WORLDS AWAY
เซิร์ค ดู โซเลย์ เวิล์ดส์ อะเวย์
วันที่เข้าฉาย 7 มีนาคม 2513
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) ภาพยนตร์ 3D โปรเจคท์ใหม่จาก เจมส์ คาเมรอน ที่นำเอาโชว์กายกรรมที่สุดแสนจะตื่นเต้นผาดโผน สวยงาม แปลกใหม่ ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก เซิร์ค ดู โซเลย์ มานำเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์ 3D
ซึ่งจะเป็นเรื่องราวของสาวน้อยที่หลุดเข้าไปในโลกของความมหัศจรรย์นี้ จากเต็นท์ละครสัตว์สู่จอเงิน ผู้กำกับผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด แอนดรูว์ อดัมสันและผู้กำกับวิสัยทัศน์กว้างไกล เจมส์ คาเมรอน ได้เชื้อเชิญผู้ชมร่วมผจญภัยครั้งใหม่ในรูปแบบ 3D Cirque du Soleil Worlds Away หนุ่มสาวสองคนได้เดินทางผ่านโลกที่มหัศจรรย์ราวความฝันของเซิร์ค ดู โซเลย์เพื่อตามหากันและกัน ขณะที่ผู้ชมจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี 3D ที่ดึงดูด ซึ่งทำให้พวกเขาได้ร่วมกระโดด เหินเวหา ว่ายน้ำและเริงระบำไปกับบรรดานักแสดง ประสบการณ์ดื่มด่ำ ที่โดดเด่นในเรื่องของสโคป ได้ผสมผสานชุดการแสดงจากการแสดงไลฟ์ของเซิร์ค ดู โซเลย์เจ็ดครั้งในลาสเวกัส "O," KÀ, Mystère, Viva ELVIS, CRISS ANGEL Believe, Zumanity และ The Beatles LOVE ให้กลายเป็นเรื่องราวความรักในละครสัตว์ ที่อำนวยการสร้าง เขียนบทและกำกับโดย แอนดรูว์ อดัมสัน ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด (Shrek, The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe) ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย อิกอร์ ซาริพอฟ นักกายกรรมกลางหาวของเซิร์ค ดู โซเลย์และอดีตนักกายกรรม เอริก้า แคธลีน ลินซ์ (ไมอา) ในบทสองหนุ่มสาว ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ภูมิใจนำเสนอโดยพาราเมาท์ พิคเจอร์สและเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด เจมส์ คาเมรอน (Avatar, Titanic) เป็นผลงานสร้างระหว่างเซิร์ค ดู โซเลย์, รีล เอฟเฟ็กต์ อิงค์., สเตรนจ์ เว็ธเธอร์ ฟิล์มส์และคาเมรอน/เพซ กรุ๊ป Cirque du Soleil Worlds Away ที่อำนวยการสร้างโดย มาร์ติน โบลดัค ผู้อำนวยการสร้าง Cirque du Soleil, อดัมสันและแอรอน วอร์เนอร์ หุ้นส่วนของเขาที่สเตรนจ์ เว็ธเธอร์ ฟิล์มส์ ถูกบันทึกภาพในระบบ 3D โดยผู้ควบคุมงานสร้างคาเมรอนและวินเซนต์ เพซ หุ้นส่วนที่คาเมรอน/เพซ กรุ๊ปของเขา ผู้รับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้าง 3D ของเรื่อง ผู้ควบคุมงานสร้างของเรื่องคือคาเมรอน, ฌาคส์ เมเธ, แครี แกรแนทและเอ็ด โจนส์ ผู้กำกับภาพคือเบรท เทิร์นบุล คอมโพสเซอร์คือเบนัวต์ จูทราส (การแสดงเซิร์ค ดู โซเลย์ Quidam, "O," La Nouba และ Mystère ในฐานะมือเขียนบท) ได้แต่งดนตรีประกอบและเพลงเปิดเรื่อง สตีเฟน บาร์ตันเป็นผู้แต่งดนตรีเพิ่มเติมให้กับองก์สุดท้าย มือลำดับภาพคือซิม อีวานส์-โจนส์เกี่ยวกับภาพยนตร์ สำหรับมือเขียนบท/ผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้าง แอนดรูว์ อดัมสัน การผูกปมความรักล้อมรอบองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมที่สุดของการแสดงไลฟ์เจ็ดชุด ที่แสดงในลาสเวกัสเป็นการเดินทางสู่โลกเวทมนตร์โดยแท้ ผู้ควบคุมงานสร้างแครี แกรแนทและรีล เอฟเฟ็กต์ อิงค์. ได้คุยกันถึงความเป็นไปได้ของการร่วมมือกับเซิร์ค ดู โซเลย์ในโปรเจ็กต์นี้มาได้ซักพักแล้วในตอนที่เขาทาบทามอดัมสันเกี่ยวกับไอเดียของการสร้างและกำกับภาพยนตร์ที่นำเค้าโครงมาจากเซิร์ค แกรแนทเป็นอดีตซีอีโอของวอลเดน มีเดีย ซึ่งเคยร่วมงานกับอดัมสันมาก่อนในภาพยนตร์สองภาคแรกที่สร้างจากซีรีส์ The Chronicles of Narnia ของซี.เอส. ลูอิส ที่เป็นที่รัก นอกจากนั้น อดัมสันยังรับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างของภาคที่สาม The Chronicles of Narnia: The Voyage of the Dawn Treader อีกด้วย
“เราต้องหาวิธีการที่ถ่ายทอดลักษณะความเป็นหนังตามธรรมชาติเพื่อเข้าสู่โลกของเซิร์คครับ” อดัมสันกล่าว “ผมเริ่มนึกถึงวิธีการของการแสดงไลฟ์ของเซิร์ค มันมีคุณสมบัติที่เหมือนกับความฝันมากๆ มันมีเส้นใยของเรื่องราวเบาบางที่ร้อยเรียงการแสดงแต่ละชุด ซึ่งทำให้การแสดงเหล่านั้นคงอยู่ภายในโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาได้ ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ก็สามารถทำในแบบเดียวกันได้ ผมสามารถหาเรื่องราวที่จะร้อยเรียงการแสดงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเหล่านี้เข้าด้วยกันได้ครับ”
“ผมได้ไอเดียของคนสองคนนี้ที่ได้พบกันในละครสัตว์จริงๆ เธอเป็นเด็กสาวที่อยากจะหนีจากชีวิตตัวเอง เธอเห็นนักกายกรรมกลางหาวคนนี้และตกหลุมรักเขาในทันที แต่เมื่อพวกเขาสบตากัน เขากลับพลาดและร่วงลงมา เขาร่วงผ่านลานละครสัตว์ไปสู่อีกโลกหนึ่ง และดึงเธอไปกับเขาด้วย พวกเขาใช้เวลาที่เหลือของเรื่องไปกับการตามหากันและกันในโลกต่างๆ ที่คงอยู่ในสภาพแน่นิ่ง เป็นเหมือนพื้นที่ระหว่างความเป็นและความตาย โลกที่อยู่ระหว่างภพ ท้ายที่สุด พวกเขาก็ได้มาเจอกันในบัลเลต์กลางหาวที่เป็นการเติมเต็มความฝัน มันเป็นการแสดงที่แสดงถึงสมดุลระหว่างความงามและอันตรายครับ”
เช่นเดียวกับการแสดงไลฟ์ ภาพยนตร์ก็ใช้ไดอะล็อค ดนตรีและสีหน้าอัศจรรย์ของนักแสดงในการขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าเช่นกัน อย่างไรก็ดี ทีมผู้สร้างไม่เคยตั้งใจที่จะทำเพียงแค่บันทึกภาพการแสดงไลฟ์เพียงอย่างเดียว“สิ่งที่ผมอยากจะทำ” อดัมสันกล่าว “คือการนำผู้ชมไปชมการแสดงเหล่านี้ในแบบที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อดึงกล้องเข้าไประยะประชิดและทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างสำหรับสิ่งที่นักแสดงเหล่านั้น รวมถึงแสดงให้เห็นถึงมุมมองนั้นในระบบ 3D ไฮสปีดและสโลว์โมชันครับ”
ผู้ควบคุมงานสร้าง คาเมรอน ผู้ซึ่งบริษัทคาเมรอน/เพซ กรุ๊ปของเขา ได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยระบบกล้อง FUSION 3D ของเขา กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึก “ราวกับว่าคุณหลุดเข้าไปอยู่ในละครสัตว์ในฝัน ตั้งแต่เริ่มต้น แอนดรูว์มีวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างจะชัดเจนของสิ่งที่เขาต้องการจะทำและมันก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ผมทำหน้าที่เหมือนผู้รับฟัง เป้าหมายของเราคือการเฉลิมฉลองศิลปะทางกายภาพ ซึ่งเป็นทุกสิ่งของเซิร์ค ดู โซเลย์ รวมถึงแบบดีไซน์ ความงามและความสง่างามของการแสดงเหล่านั้นด้วยครับ”
“แอนดรูว์จะต้องรักษาสมดุลที่เปราะบางในการทำงานกับองค์ประกอบที่หลากหลายจากการแสดงพวกนี้ แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอฟเฟ็กต์ แต่มันจะนำเสนอพรสวรรค์ของมนุษย์ที่เป็นเรื่องทางกายภาพล้วนๆ และความสามารถที่น่าอัศจรรย์ใจของพวกเขา แม้ว่ามันจะเริ่มต้นในละครสัตว์ที่ค่อนข้างจะซอมซ่อ แต่มันก็นำไปสู่การค้นพบโลกละครสัตว์อีกมิติหนึ่ง ที่พวกเขาพลัดตกลงไป อย่างไรก็ดี มันก็ยังคงเป็นละครสัตว์ครับ มันมีลวดสลิง มีบังเหียน และคุณก็จะได้เห็นมันทั้งหมด โดยไม่มีเอฟเฟ็กต์มาปิดบัง ในการเห็นสิ่งเหล่านั้น คุณจะสัมผัสได้ถึงความชาญฉลาดของการจัดฉาก การออกแบบเครื่องแต่งกาย ความแข็งแรงและความพลิ้วไหวในพรสวรรค์ของพวกเขา ที่ดูเหมือนจะเป็นไปตามธรรมชาติ และพลิ้วไหวเหลือเกิน แต่การเตรียมพร้อมและความอุตสาหะเบื้องหลังนั้นเป็นทุกอย่างนอกเหนือจากความสบายๆ สิ่งที่คุณได้เห็นเป็นเซิร์คล้วนๆ เลยครับ”
แอนดรูว์ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์คลาสสิกอย่าง Fantasia ของวอลท์ ดิสนีย์, Alice in Wonderland ของลูอิส แคร์รอล, บัลเลต์ Swan Lake ของปีเตอร์ ไชคอฟสกี้ และประสบการณ์ของเขาเองจากการดูละครสัตว์เร่ในเม็กซิโกในปี 2000
“มันเป็นละครสัตว์เร่ที่มีธีมเป็นเฟร็ด ฟลินท์สโตน ผมจำได้ว่าหัวหน้าคณะอายุเยอะแล้ว สิงโตก็ไม่มีเขี้ยว นักกายกรรมคนหนึ่งเป็นผู้หญิงร่างใหญ่ที่สวมชุดบิกินีรูปดาว มันแทบไม่มีผู้ชมเลย และดูเหมือนผ่านเลยช่วงเวลาที่ดีที่สุดมาแล้ว” เขาเล่า “แต่มันก็มีองค์ประกอบที่แสนเศร้าแต่ก็งดงาม...มันทั้งหอมหวานและขมขื่น...ซึ่งเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่ผมชื่นชอบ มันติดอยู่ในความคิดของผมเสมอมา ผมก็เลยเปิดหนังเรื่องนี้ในละครสัตว์ที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับยุคสมัยหรือสถานที่ใดๆ ผมอยากจะให้มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นละครสัตว์เร่ที่อยู่ในละแวกบ้าน ซึ่งอาจจะอยู่ที่ไหนก็ได้”
ตอนแรก อดัมสันอยากจะใช้นักแสดงในบทสำคัญๆ “แต่ผมก็รู้ด้วยว่าผมอยากจะได้การแสดงกลางหาวที่งดงามและโรแมนติกซักอย่าง”
“การสอนคนธรรมดาให้แสดงกายกรรมกลางหาว ให้แสดงได้ระดับนี้ต้องใช้เวลาหลายปีครับ” ฌาคส์ เมเธ ผู้ควบคุมงานสร้างของเซิร์ค ดู โซเลย์ กล่าว “วิธีที่เราใช้คือการสอนนักแสดงของเซิร์ค ดู โซเลย์ให้สวมบทบาทนั้นๆ ในตอนจบของเรื่อง พวกเขาต้องลอยละล่องเข้าสู่อ้อมแขนของกันและกัน พวกเขาต้องอาศัยทักษะและการฝึกฝนของนักแสดงเซิร์ค ดู โซเลย์จริงๆ อิกอร์และเอริก้าต่างก็แสดงในการแสดงของเรามาหลายปีแล้ว พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นนักกายกรรมที่วิเศษสุดเท่านั้น แต่ด้วยความที่พวกเขาได้รับการฝึกฝนจากเซิร์ค ดู โซเลย์ พวกเขาก็เลยเรียนรู้การสวมบทบาทตัวละคร ในการแสดงเซิร์ค ดู โซเลย์ ทุกคนสวมบทตัวละครและมีบทบาททั้งนั้น ดังนั้น เราก็เลยรู้ว่าพวกเขาสองคนมีทักษะการแสดงเพราะช่วงเวลาหลายปีที่พวกเขาอยู่กับเซิร์ค ดู โซเลย์ครับ”
เอริก้า แคธลีน ลินซ์อายุได้ 19 ปีตอนที่เธอได้เข้าร่วมคณะเซิร์ค ดู โซเลย์ไม่นานหลังจากจบไฮสคูล “ฉันโตขึ้นมาเป็นนักยิมนาสติกและนักร้อง ซึ่งนำไปสู่โรงละคร ฉันก็เลยสับหว่างระหว่างบทบาทการแสดงและกายกรรม และเมื่อเร็วๆ นี้ ฉันก็ได้แสดงกายกรรมกลางหาวคู่ ซึ่งเหมาะกับธีมของเรื่องนี้เลยล่ะค่ะ” ลินซ์กล่าว การได้รับบทในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอมีโอกาสภายในเซิร์คอย่างที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน “ไม่เคยมีใครมีโอกาสได้เหินหาวระหว่างการแสดง หรือมีส่วนร่วมในสิ่งที่พวกเขาทำในทุกคืน เพื่อให้ได้ความรู้สึกในเรื่องขนบของการแสดงแต่ละครั้งเลยค่ะ ทุกการแสดงเป็นเหมือนครอบครัวมันเอง มันมีพลังงานของตัวเอง มีสัญชาติและอารมณ์ขันของตัวเอง โดยส่วนตัวแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับฉันค่ะ”
แม้ว่าเธอและอิกอร์ ซาริพอฟ เพื่อนร่วมแสดงของเธอจะเคยแสดงในการแสดง KÀ มาก่อน แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยแสดงด้วยกันมาก่อนหน้า Cirque du Soleil Worlds Away เลย ซาริพอฟ ผู้เข้าทำงานกับคณะเซิร์ค ดู โซเลย์ในปี 2002 เติบโตในครอบครัวละครสัตว์ชาวรัสเซีย ซึ่งดำเนินธุรกิจนี้มากว่าหนึ่งศตวรรษ เขาเป็นนักกายกรรมกลางหาวตั้งแต่การปรากฏตัวบนเวทีแสดงครั้งแรกสำหรับมอสโคว์ เซอร์คัสเมื่ออายุได้ 11 ปี เขาได้ร่วมแสดงกับคณะละครสัตว์อื่นๆ ทั่วโลก เพื่อขัดเกลาทักษะของเขา เมื่อเขาได้เข้าร่วมคณะเซิร์ค ดู โซเลย์ เขาก็ได้แสดงใน KÀ ห้าปีในบทหนุ่มหิ่งห้อยและใน Zumanity ของเซิร์คที่มีธีมผู้ใหญ่ นานหลายปี “ผมไม่เคยทำงานใกล้ชิดกับเอริก้ามาก่อน แต่เราก็จะต้องทำให้ได้อย่างรวดเร็ว (ครั้งแรกสำหรับฉากเลิฟซีนในการแสดงครั้งสุดท้าย) และมันก็เป็นเรื่องดีครับ” เขากล่าว
สิ่งที่พวกเขาทำ แม้จะเป็นส่วนที่ต่อยอดจาก KÀ ได้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ มันเป็นบัลเลต์กลางหาวที่โรแมนติก ซึ่งถ่ายทอดอำนาจของความรัก “สิ่งที่คุณได้เห็นคือการที่ทั้งคู่เรียนรู้ที่จะไว้ใจกันอย่างสมบูรณ์ ชีวิตของเธออยู่ในมือเขา...มันเป็นการยอมจำนนอย่างที่สุดครับ” คาเมรอนตั้งข้อสังเกต “การแสดงนั้นถูกสื่อออกมาโดยการเคลื่อนไหวร่างกายในชั่วขณะนั้น และความงามสง่าของการเคลื่อนไหวนั้นก็งดงามจริงๆ”
« Last Edit: February 25, 2013, 06:44:43 PM by happy »
Logged