บทสัมภาษณ์ “ลักษณ์นารา (มิว) รับบท พลอยดาว จาก เกรียน ฟิคชั่น”
ลักษณ์นารา เปี้ยทา(มิว)
รับบท พลอยดาว
ระดับเกรียน
สวย เพอร์เฟค เกิดมาเพื่อเป็นซุป’ตาร์เท่านั้น
ช่วงที่ผ่านมามีผลงานอะไรมาบ้าง และปัจจุบันน้องมิวเตรียมมีผลงานอะไรให้ติดตามชมกันอีก
ก่อน หน้านี้ก็มีผลงานละครเรื่อง วนาลี, รักนี้…หัวใจมีครีบ ตอนนี้ก็มีถ่ายละครเรื่อง สาปพระเพ็ง อยู่ค่ะ มีมิวสิควิดีโอ เพลง หน้าที่ของหัวใจ, มีอะไรให้ทำอีกไหม ของชิน ชินวุฒ และเพลง ไกลแค่ไหน คือ ใกล้ ของ Getsunova และก็มีภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายเรื่อง เกรียน ฟิคชั่น เมษายนนี้ค่ะ
เตรียมตัวทำการบ้านกับบท พลอยดาว อย่างไรบ้าง
ตอน แรกยังไม่รู้ว่ารับบทเป็นอะไร พี่มะเดี่ยวแค่เกริ่นให้ฟังว่า เป็นผู้หญิงที่สวย ต้องเก่งทุกเรื่อง เป็นดาวโรงเรียน ตอนนั้นก็คิดว่างานนี้เราคงต้องหนักมากแล้วแหละ ก็เลยเตรียมตัว เตรียมใจรับศึกหนักครั้งนี้ ต้องไปเรียนเต้น เรียนแอคติ้ง เพิ่มนิดหนึ่งเหมือนเป็นการปรับคาแร็คเตอร์ให้เข้ากับพลอยดาวมากที่สุด มีไปเรียนแอคติ้งสำหรับทางหนังด้วย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกของมิว ก็เลยต้องมีการปรับตัวนิดนึง พื้นฐานการเต้นพอมีบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเก่งอะไรขนาดนั้น บัลเลย์ แจ๊ส เน้นท่าสวยงาม พริ้วๆ ในแบบฉบับของพลอยดาว เพราะในเรื่องนี้ต้องแสดงละครเวทีถึง 2 เรื่องด้วย และก็ต้องถ่ายหนังสั้นในหนังเรื่องนี้อีกด้วยค่ะ
เล่าถึงคาแร็คเตอร์ของ พลอยดาว
คาแร็คเตอร์ ของพลอยดาวจะเป็นคนค่อนข้างเรียบร้อย คือ พลอยดาวจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ช่วง มีช่วง ม.4 , ม.5 , ม.6 โดยช่วง ม.4 จะเป็นเด็กแบบใสๆ แล้วก็เป็นคนค่อนข้างที่จะหยิ่งทนงในตนเอง เพราะพลอยดาวเป็นดาวโรงเรียนเป็นผู้หญิงที่สวยมาก จึงเป็นที่จับตามองของคนอื่น เราก็เลยรู้สึกว่าตัวเองสูงเป็นคนเด่น ไม่ได้เหมือนคนทั่วไป ความรู้สึกเหล่านี้มันจึงทำให้เพื่อนหมั่นไส้ ไม่มีคนคบ พอขึ้น ม.5 จะเปลี่ยนแปลง เริ่มคุยกับคนอื่นมากขึ้น เริ่มที่จะลดระดับตัวเองลงมานิดหนึ่ง ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากลับคนอื่นให้ได้ เป็นช่วงที่ตกอับที่สุดของพลอยดาว ช่วง ม.6 ก็จะเป็นผู้หญิงธรรมดาที่เริ่มมีความรักและอกหักในความรักและมีเพื่อนเพิ่ม ขึ้นค่ะ
พลอยดาว มีบทบาทสำคัญใน เกรียน ฟิคชั่น อย่างไร
จริงๆ แล้วตัวละครพลอยดาวนี้มีความสำคัญมากเป็นตัวละครที่ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้น มาได้ ถ้าตี๋ไม่มาชอบพลอยดาวแล้วไม่สร้างเรื่องกับพลอยดาวไว้ตอนเล่นละครเวที ก็จะไม่เกิดเรื่องที่ตี๋กับแก๊งเกรียนจะต้องมาตามขอโทษพลอยดาวค่ะ ซึ่งตัวพลอยดาวเป็นตัวที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทุกอย่าง เหมือนเป็นตัวที่ลากคนอื่นเข้ามาให้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะว่าไปพลอยดาวคือคนที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมา
เกรียน ฟิคชั่น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
เป็น เรื่องของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนที่ผู้ชายคนอื่นๆ ที่ชื่นชอบดาวโรงเรียน แล้วก็พยายามทำตัวดีมาตลอด และทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ของผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าโชคชะตาเหมือนแกล้งตี๋ โดยไปทำให้พลอยดาวขายหน้า พลอยดาวเลยเกลียดตี๋ ไม่อยากคุยไม่อยากเจอหน้า แค่เห็นหน้าก็แบบรู้สึกอยากจะร้องไห้อยากจะหนีไปให้พ้นๆ เลยกลายเป็นเรื่องราวขึ้นมาว่า เพื่อนๆของตี๋ ก็พยายามช่วยให้กลับมาดีเหมือนเดิม หาทุกวิถีทาง แม้กระทั่งรุ่นพี่ก็ทำละครเวทีให้อีกเรื่อง เพราะหวังจะให้ตี๋กับพลอยดาวกับมาดีกัน แต่มันก็เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายกับตัวตี๋
พลอยดาว กับ มิว เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ก็ ไม่ค่อยต่างนะ เพราะ มิวเป็นคนที่มีหลายอารมณ์มากในหนึ่งวัน พลอยดาวก็จะเป็นคนที่อารมณ์นิ่งๆ ไม่อยากสุงสิงกับใคร มิวก็จะเหมือนกับในโหมดพลอยดาว แต่จริงๆแล้วถามว่าเราอยากให้คนอื่นมาสนใจเราไหมเราก็อยาก พี่มะเดี่ยวบอกว่าเขียนบทนี้มาให้มิวโดยเฉพาะ เขียนไปก็นึกถึงหน้ามิวไป เราเคยทำงานร่วมกันมาก็เลยจะค่อนข้างรู้นิสัย จริงๆแล้วตัวมิวเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยคุยกับใคร อาจเป็นเพราะบางทียังไม่สนิทกับทีมงานนักแสดงก็เลยจะอยู่นิ่งๆ อยู่คนเดียวอยู่กับแม่ แต่ในใจแล้วไม่มีอะไรเลย ถ้าคนที่รู้จักก็จะรู้ว่าไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคิด(ยิ้ม)
ต้องปรับตัวให้เข้ากับนักแสดงคนอื่นอย่างไรบ้างในเรื่องนี้
ก็ ปรับเยอะนะ เท่าที่เล่นละครมาก็จะเป็นน้องเล็กที่สุดในกองเลย ทุกคนก็จะเรียกว่าน้องมิวๆ แต่พอมากองนี้เรียกพี่มิวกันหมดเลย บางคนก็อายุเท่ากัน บางคนก็อายุน้อยกว่า ไม่มีใครอายุมากกว่าหนูเลยเว้นพี่แจ็คไว้คนหนึ่งแต่เขาก็ทำตัวเหมือนสิบสี่ สิบห้าทำตัวแบ๊วได้ทุกวี่ทุกวัน การทำงานกับวัยนี้ถือว่าสนุกเพราะอายุไล่เลี่ยกันทำให้เรารู้สึกเหมือนกลับ อยู่ในช่วงวัยเรา
ฉากประทับใจ และเหตุผลที่ประทับใจเป็นพิเศษ
เป็น ฉากที่เราจะให้อภัยตี๋โดยการที่เราไม่ได้ไปเจอเขามันอยู่ช่วงระหว่างเขาเดิน ทางกลับบ้าน เราก็ส่งข้อความไปหาเขาซึ่งมันเป็นเหมือนการพูดคุยครั้งแรกในรอบหลายปี ประมาณว่าเราโกรธเขามาแล้วเราไม่คุยกับเขาเลย มันเป็นเหมือนข้อความแรกที่เราทักไปก่อน ซึ่งเขาไปทักเราในเฟสบุ๊ค เราก็ไม่เคยรับเฟสเขา หรือว่าตอบรีเควสเฟรนด์มา แต่ซีนนี้จะทำให้คนดูเห็นว่าพลอยดาวเปลี่ยนแปลงไป แล้วไม่ใช่แบบนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์แต่เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่พร้อมจะให้ อภัยคนอื่นมากขึ้น นิวก็เลยรู้สึกประทับใจในซีนนี้
ฉากที่ยากสุดๆของเรื่องนี้สำหรับมิว
เป็น ฉากแสดงละครเวทีเรื่องสโนไวท์กับนายพราน เพราะ ต้องทั้งร้องทั้งเต้น ต้องประจำตำแหน่งในจุดที่มาร์คไว้ ซึ่งบางทีเราต้องวิ่งวนไปวนมาก็มีเบลอๆยืนไม่ตรงจุดบล็อคกิ้งไว้บ้าง เลยรู้สึกว่ายาก มิวเองก็ยังไม่เคยแสดงละครเวทีมาก่อน นี่เป็นเวทีแรกที่ได้เล่น ซึ่งมันต่างจากแสดงละคร และการแสดงหนังโดยสิ้นเชิง เมื่ออยู่บนเวทีมันต้องเยอะ มันต้องใหญ่ ให้คนดูรู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้จริงๆ เพราะจะเห็นเพียงรอบเดียวแล้วจบ ไม่มีแผ่นเก็บไว้ดูเหมือนหนังหรือละครที่สามารถย้อนดูได้ เป็นอะไรที่ท้าทายมาก มิวเองต้องทำการบ้านเยอะ ต้องไปดูละครเวทีที่พวกพี่ๆนักแสดงเล่นกันไว้ เช่น บัลลังก์เมฆ ดูอารมณ์ ท่าทาง การแอคติ้ง จังหวะสีหน้าเป็นอย่างไร และที่สำคัญมากตัวละคร พลอยดาว ถูกกำหนดว่า มีเสียงร้องที่ดีมาก แต่มิวเสียงไม่ดี ก็ไปเรียนร้องเพลง เสียงตัว ร และ ล ต้องชัดเจนมาก ก็ใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีเลยค่ะ
เล่าถึงการร่วมงานกับเหล่า แก๊งเกรียน หน่อย
จริงๆ แล้วถามว่าสนิทกับใครมากที่สุดก็ส่วนใหญ่เท่ากันหมด เพราะ ส่วนของการเข้าฉากตัวละครของพลอยดาวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยคล่องแวะกับใครมากนัก จะเป็นเฟียตหรือตี๋ในเรื่องมากกว่า เพราะ ตัวตี๋จะต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อเข้าหาเรา มาขอโทษสารพัด ซึ่งบางทีเราก็มะได้พูดอะไรเลย แค่ยืนมองหน้าเขา จะไม่ได้พูดกับตี๋เลย ความยากของมันอยู่ที่เราไม่ได้พูดแต่ต้องส่งอารมณ์ทางสายตาออกไป ฉากที่แสดงร่วมกับตัวตี๋ จะเป็นฉากที่ต้องเล่นละครเวทีเป็นสโนไวท์ ต้องเต้นกับเขา ร้องเพลงด้วยกัน ก็เลยอาจจะต้องตีซี้ปึกกันเอาไว้เพื่อเวลาถ่ายจริงๆคิวเราจะได้ไม่ผิดเพี้ยน เราจะได้ไม่เขิล ไม่อายกัน
กับเจเจส่วนใหญ่เขาเป็นเด็กเงียบๆ เขาไม่ค่อยมาคุยกับใครเท่าไหร่เขาก็มักจะอยู๋กับไอโฟนของเขา นั่งเล่นเกมชกมวยของเขาไป มิวก็ส่วนใหญ่ก็เงียบๆอยู่แล้ว แต่ถ้าเข้าฉากกันก็สนิทกับทุกคน พี่แจ็คก็จะแบบว่ากวนประสาทชอบมาเล่นมุกที่บางทีมันไม่ขำ เล่นมุกแป๊กๆใส่ แล้วก็มาทำสีหน้าคาดหวังว่าขำหน่อยเหอะ แต่ก็โอเคที่เขาเล่นกับเจเจสองคนแล้วมันเหมือนกับดูโอ้กัน แล้วก็มีน้องฟลุ๊คกับพี่แคนดี้ก็จะสนิทกับสองคนนี้เพราะในเรื่องต้องเป็น เพื่อนสนิทกัน
การร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่ พี่ตั๊ก บริบูรณ์ พกพลังมาเรียกเสียงฮาในกองอย่างไรบ้าง
เข้า ฉากกับพี่ตั๊กหลุดขำจะแย่แล้ว พี่ตั๊กเขาเป็นคนที่น่ารักแล้วเขาก็อารมณ์ดีตลอดเวลา ไม่ว่าจะดึก แต่พอเช้าๆเขาก็จะดูเบลอนิดนึงปล่อยมุกมาเบาๆ พอช่วงเที่ยงๆก็จะเยอะหน่อย ตกเย็นนี่คึกเลย เต็มที่ บางทีเราก็ต้องอุดหูไว้ จะได้ไม่ได้ยินมุกเขาและหลุดออกมา พี่ตั๊กก็จะคอยแนะนำพวกน้องๆว่าต้องทำอย่างไรบ้างในการถ่ายหนัง เพราะพี่ตั๊กเขามีประสบการณ์ทั้งละคร หนัง รายการ เขาผ่านมาหมดแล้วถือว่าเขาคือผู้ใหญ่คนหนึ่งที่น่านับถือมาก
กลับมาร่วมงานกับพี่มะเดี่ยว ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์อีกครั้ง รู้สึกอย่างไรบ้าง
พี่ มะเดี่ยวเขาก็จะสอนเยอะมากเพราะเขารู้ว่ามิวยังไม่เคยเล่นหนัง ยังไม่เคยผ่านจอหนังมาก่อน เขาก็เลยจะค่อนข้างซีเรียสกับมิวนิดนึง และคาดหวังว่าอยากให้เป็นแบบนี้แบบนั้น ซึ่งแต่ละครั้งที่ถ่ายเขาก็จะมาเล่นให้ดูก่อน การร่วมงานกับพี่มะเดี่ยวครั้งที่สองก็สนุกดี ถึงจะได้ข่าวมาแว๊วๆว่าอยู่ในกองหนังพี่มะเดี่ยวโหด แอบหวั่นเล็กๆแต่ก็ด้วยความที่เราจะมีคติว่า ถ้าเราตั้งใจทำงานก็จะไม่มีใครมาว่าเราได้ เราก็เลยตั้งใจทำงาน งานก็คืองาน เรื่องเล่นค่อยมาทีหลังดีกว่า แต่ก็เคยเห็นพี่มะเดี่ยววีนในกองแล้วอึ้งนะ ตอนกลุ่มเด็กเกรียนเล่นหนังแล้วเขาก็เมาส์กันเยอะ แดดก็ร้อน คนเลยอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่ายเลยตะโกนออกมา ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ แล้วก็ตั้งใจทำงานกันต่อ
ประทับใจอะไรในตัวผู้กำกับ มะเดี่ยวบ้าง
สำหรับผู้กำกับคนนี้ประทับใจเยอะมากเป็นผู้กำกับที่เลิฟมาก และน่ารักมาก อย่างตอนที่ถ่ายละครเรื่องแรกกับเขา เขาก็รู้ว่ามิวใหม่ เขาจะรู้วิธีการจัดการว่าต้องทำยังไงให้เราผ่อนคลายหรือให้รู้สึกว่าสิ่งที่ ทำอยู่ตรงหน้ามันสนุก ไม่ว่าจะด้วยวิธีคุยสรรหามุกต่างๆเล่นออกมา ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าผ่อนคลายแล้วก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ ถ้าซีนไหนที่มันยากๆเขาก็จะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนมันเป็นเรื่องที่ดี มากค่ะ
วีรกรรมความเกรียนของมิวที่สุดในชีวิต
ก็ มีบ้างส่วนใหญ่ทำกับพี่สาว อย่างตอนช่วง ป.5, ป.6 คุณพ่อคุณแม่เพิ่งซื้อคอมฯให้เครื่องนึง คือด้วยความที่ในบ้านมีสองคนเวลาจะซื้ออะไรส่วนใหญ่ก็จะได้คนละอันตลอดจะได้ ไม่ต้องแย่งกัน แต่ว่าคอมฯมีเครื่องเดียว ก็เลยต้องแย่งกัน แล้วพี่เป็นคนที่ชนะตลอดเราไม่เคยชนะพี่เลย เราก็เลยจะบีบน้ำตาร้องไห้ไปฟ้องแม่ พี่สาวก็จะโดนดุ เราอาศัยจังหวะนี้ไปนั่งหน้าคอมฯ นั่งเล่นยาว เวลาพี่มาทวงคืนเราก็ไม่ให้ทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่สนใจพี่สาว ตอนเด็กๆจะทะเลาะกันบ่อย แต่พอโตมาก็เริ่มรู้สึกว่าทะเลาะไปก็ไม่ได้อะไร โตๆกันแล้ว
ความน่าสนใจของภาพยนตร์ เกรียน ฟิคชั่น
ความ น่าสนใจก็อาจจะเป็นเพราะนักแสดงหน้าใหม่ และโลเคชั่นสวยๆ เช่น ฉากบนรถไฟ สถานที่บนดอย และบทภาพยนตร์ที่น่าสนใจ เป็นหนังที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่นว่าตอนเด็กเป็นยังไง แล้วปัจจุบันเป็นอย่างไร ซึ่งเด็กพวกที่เกรียนๆในปัจจุบันก็ต้องมีอยู่ในโลกนี้ เฮฮาไปวันๆ สะท้อนชีวิตของเด็กกลุ่มหนึ่งที่เป็นเพื่อนกันแล้วรักกัน แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพ เรื่องนี้ก็ให้แง่คิดหลายๆอย่าง มิตรภาพ สังคม ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ทำให้เราได้คิดอะไรตามไปด้วย
ฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของมิว
ขอฝากหนังเรื่อง เกรียน ฟิคชั่น ซึ่งจะฉายในช่วงซัมเมอร์นี้ ฝากติดตามกันด้วยค่ะ