MSN on August 01, 2012, 08:09:53 AM
KTAMเปิดขาย2กองทุนตราสารหนี้6เดือนใน-ตปท.ชูผลตอบแทน3.15%



  นายสมชัย   บุญนำศิริ   กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า   บริษัทเปิดจำหน่าย 2  กองทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ  เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุน  โดยตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 7 สิงหาคม  2555   บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 48  ( KTSUPB48 )  อายุ 6 เดือน  มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท   เน้นลงทุนในเงินฝาก   และตราสารหนี้ต่างประเทศ    ได้แก่   เงินฝากประจำ  Standard  Chartered   Bank  (  Hong Kong ) Ltd  ,  เงินฝากประจำ   Bank  of  China  สาขามาเก๊า ,  MTN  ออกโดย Banco  Bradesco  S.A. ( BRADES )    ในสัดส่วน 67% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  และส่วนที่เหลือตราสารในประเทศ   ได้แก่  ตั๋วแลกเงิน บจ. อยุธยา  แคปิตอล  ออโต้  ลีสชิ่ง  และ ตั๋วแลกเงินของ บมจ. แสนสิริ    ผลตอบแทนประมาณ 3.15%  ต่อปี      โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน   
นอกจากนี้  บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือน คุ้มครองเงินต้น 5 ( KTFIX6M5 )  เน้นลงทุนพันธบัตรภาครัฐในประเทศ   64%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม  และส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี   
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้  มีแรงขายทำกำไรในพันธบัตรระยะกลางถึงยาว  หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.00% ต่อปี  ด้วยมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ ขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีแรงซื้อในพันธบัตรรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อเป็นแหล่งพักการลงทุน ทำให้ลักษณะเส้นอัตราผลตอบแทนระยะสั้นมีความลาดชันต่ำ (Flat curve) โดยเฉพาะตราสารรุ่นอายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี มีอัตราผลตอบแทนใกล้เคียงกันที่ระดับ 2.98 – 3.04% ต่อปี
สำหรับตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าในกรอบ  31.50 – 31.90 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยเป็นผลจากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย   ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคและตลาดเกิดใหม่เริ่มมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะถดถอยลง ประกอบกับการเริ่มอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังจากประธาน ECB และผู้นำประเทศเยอรมันและฝรั่งเศส ส่งสัญญาณจะดำเนินนโยบายเพื่อคงสถานะของกลุ่มยูโร  ทำให้ตลาดกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง     ทั้ง 2 กองทุน  จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการลงทุนในช่วงเวลานี้