ประวัตินักแสดง
Mary Elizabeth Winstead (แมรี อลิซาเบธ วินสตีลด์) รับบทเป็น Kate Lloyd (เคท ลอยด์)
เริ่มต้นยึดอาชีพนักแสดงตั้งแต่ยังเด็ก ในซอลท์ เลค ซิตี้, ยูทาห์ ในช่วงวัยรุ่น พรสวรรค์อันโดดเด่นของเธอในด้านการเต้นและการแสดงทำให้เธอมีโอกาสได้ศึกษาด้านการเต้นที่สถานบันจอฟฟรีย์ บัลเลต์ สคูลที่โด่งดังในนิวยอร์ก ซิตี้ ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้แสดงบนเวทีบรอดเวย์และร่วมร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงเด็กนานาชาติ หลังจากทำงานหนักมาหลายปี ความรักในการแสดงของเธอก็นำไปสู่การประสบความสำเร็จในแวดวงจอแก้วและจอเงินที่มีการแข่งขันกันสูงของฮอลลีวูด
เมื่อเร็วๆ นี้ วินสเต็ดเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์แวมไพร์ผจญภัยพีเรียดโดยทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์เรื่อง Abraham Lincoln: Vampire Hunter ในบทแมรี ท็อดด์ ลินคอล์น ประกบเบนจามิน วอล์คเกอร์ (อับราฮัม ลินคอล์น) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยทิเมอร์ เบคแมมเบทอฟ และสร้างขึ้นจากหนังสือโดยเซธ เกรแฮม-สมิธ ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้แวมไพร์ของลินคอล์นระหว่างสงครามกลางเมือง และร่วมแสดงโดยโดมินิค คูเปอร์และแอนโธนี แม็คกี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 22 มิถุนายน ปี 2012
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 วินสเต็ดได้แสดงประกบไมเคิล เซราในภาพยนตร์แอ็กชัน คอเมดี แฟนตาซีโดยยูนิเวอร์แซลเรื่อง Scott Pilgrim vs. the World ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากนิยายภาพโดยไบรอัน ลี โอ’มัลลีย์ และกำกับโดยเอ็ดการ์ ไรท์ ร่วมแสดงโดยคริส อีวานส์, เจสัน ชวอร์ทซ์แมน, แบรนดอน เราธ์และแอนนา เคนดริค
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของวินสเต็ดได้แก่ Grindhouse Presents: Quentin Tarantino’s Death Proof ที่เธอแสดงประกบเคิร์ท รัสเซลและโรซาริโอ ดอว์สัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เองที่ทำให้วินสเต็ดได้โชว์ทักษะการร้องเพลงด้วยการร้องเพลง Baby It’s You นอกจากนี้ เธอยังได้ร่วมแสดงกับนักแสดงชื่อดังอย่างวิลเลียม เอช. เมซี, เดมี มัวร์, เอไลจาห์ วู้ด, ชารอน สโตนและเซอร์แอนโธนี ฮ็อปกินส์ในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำโดยเอมิลิโอ เอสเตเวซเรื่อง Bobby ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้วินสเต็ดได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลแซ็ก อวอร์ดสาขาทีมนักแสดงยอดเยี่ยม ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเธอได้แก่ Factory Girl, Black Christmas, Live Free or Die Hard, Sky High และ Final Destination 3
ปัจจุบัน วินสเต็ดใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส, แคลิฟอร์เนียJOEL EDGERTON (โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน) รับบทเป็น Braxton Carter (แบร็กซ์ตัน คาร์เตอร์)
เกิดในแบล็คทาวน์ รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เขาได้แสดงในภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น Erskineville Kings, King Arthur, Ned Kelly และ Star Wars: Episode II—Attack of the Clones และ Star Wars: Episode III—Revenge of the Sith ในบทโอเวน ลาร์ส พี่บุญธรรมของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์และลุงของลุค สกายวอล์คเกอร์
ปัจจุบัน เอ็ดเกอร์ตันได้แสดงในดรามาผสมผสานศิลปะการต่อสู้ของไลออนส์เกทเรื่อง Warrior ประกบนิค โนลเต้และทอม ฮาร์ดี้ โดยเขารับบทพี่ชายที่ห่างเหินกันไปของฮาร์ดี้และลูกชายของโนลเต้ ผู้เป็นตัวเอกสำคัญของเรื่อง Warrior เข้าฉายในวันที่ 9 กันยายน ปี 2011
เมื่อเร็วๆ นี้ เอ็ดเกอร์ตันได้แสดงใน Animal Kingdom ดรามาอาชญากรรมทรงพลังที่ล้วงลึกสงครามดุเดือดระหว่างตระกูลอาชญากรรมและตำรวจ และชีวิตคนธรรมดาที่ถูกดึงไปพัวพัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลเวิลด์ ซีเนมา จูรี ไพรซ์สาขาดรามาจากงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2010 และรางวัลสถาบันภาพยนตร์ออสเตรเลีย (เอเอฟไอ) สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดนิยม ผลงานของเขาในภาพยนตร์เรื่องนั้นทำให้เขาได้รับรางวัลเอเอฟไอ อวอร์ดสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
ในปี 2009 เอ็ดเกอร์ตันได้รับบทสแตนลีย์ประกบเคท บลังเชตต์ในละครโดยซิดนีย์ เธียเตอร์ คัมปะนีเรื่อง A Streetcar Named Desire เอ็ดเกอร์ตันและบลังเชตต์ได้แสดงในจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ เซ็นเตอร์ ฟอร์ เดอะ เพอร์ฟอร์มมิง อาร์ตส์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 และที่บรูคลิน อคาเดมี ออฟ มิวสิคในเดือนธันวาคม ปี 2009
เมื่อเร็วๆ นี้ เอ็ดเกอร์ตันเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง The Odd Life of Timothy Green ซึ่งเขาแสดงประกบเจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ แฟนตาซีเทพนิยายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาที่ไร้ทายาท และพวกเขาก็ฝังความปรารถนาที่จะมีลูกในกล่องที่สวนหลังบ้าน วันหนึ่ง พวกเขาตื่นขึ้นมาพบว่า เด็กคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา แต่เขาไม่ใช่อย่างที่เห็น ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 15 สิงหาคม ปี 2012
ในเดือนสิงหาคม ปี 2011 เอ็ดเกอร์ตันเรสิ่มถ่ายทำภาพยนตร์รีเมกเรื่อง The Great Gatsby ที่กำกับโดยบาซ ลูห์แมน และสร้างขึ้นจากนิยายดังโดยเอฟ. สก็อต ฟิตซ์เจอรัลด์ สำหรับวอร์เนอร์ บรอส. เอ็ดเกอร์ตันรับบททอม บูชานาน ประกบลีโอนาร์โด ดิคาปริโอและแครีย์ มัลลิแกน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในปี 2012
เอ็ดเกอร์ตันเข้าศึกษาในเนเปียน ดรามา สคูลทางตะวันตกของซิดนีย์ก่อนจะย้ายไปตามการแสดงละครเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะที่ซิดนีย์ เธียเตอร์ คัมปะนี ที่ซึ่งเขาได้แสดงใน Blackrock, Third World Blues และ Love for Love และที่เบล เชคสเปียร์ ที่ซึ่งเขาได้แสดงใน Henry IV ด้านจอแก้ว เอ็ดเกอร์ตันเป็นที่รู้จักจากบทวิลล์ในซีรีส์ The Secret Life of Us ซึ่งเขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอเอฟไอ อวอร์ด
ในปี 2008 เอ็ดเกอร์ตันได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Square ที่กำกับโดยแนช เอ็ดเกอร์ตัน พี่ชายของเขา ในปีเดียวกัน เอ็ดเกอร์ตันได้แสดงใน Acolytes ภาพยนตร์ออสเตรเลียเกี่ยวกับวัยรุ่นผู้ล้างแค้นฆาตกรต่อเนื่อง ในปี 2007 เอ็ดเกอร์ตันได้แสดงประกบจอช ฮอลโลเวย์ใน Whisper นอกจากนี้ เขายังได้รับบทสำคัญในภาพยนตร์อเมริกันปี 2006 เรื่อง Smokin’ Aces อีกด้วย
ในปี 2005 เอ็ดเกอร์ตันได้รับบทนำประกบชิเวเทล เอจิโอโฟร์ในคอเมดีอังกฤษเรื่อง Kinky Boots ในบทลูกชายของช่างทำรองเท้าผู้ล่วงลับ ผู้ต้องหาตลาดนิชมาร์เก็ตในศตวรรษที่ 21 ในปีเดียวกัน เขาได้พากย์เสียงตัวละครเอกใน The Mysterious Geographic Explorations of Jasper Morello ภาพยนตร์อนิเมชันขนาดสั้นที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล อคาเดมี อวอร์ด
ปัจจุบัน เอ็ดเกอร์ตันแบ่งเวลาระหว่างการอยู่ที่ออสเตรเลียและลอสแองเจลิสADEWALE AKINNUOYE-AGBAJE (อะเดเวล อคินนูเย-แอ็กบาเจ) รับบทเป็น Jameson (เจมสัน)
เกิดจากพ่อแม่ชาวไนจีเรียในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขานิติศาสตร์จากคิงส์ คอลเลจ ที่โด่งดังในกรุงลอนดอนแล้ว เขาก็ได้ค้นพบสิ่งที่เขาชื่นชอบอย่างแท้จริงเมื่อผู้อำนวยการสร้าง/ผู้กำกับชื่อดัง แฟรงค์ มาร์แชลได้เลือกเขาให้แสดงในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์โดยพาราเมาท์ พิคเจอร์สเรื่อง Congo ตามมาด้วยบทบาททั้งจอแก้วและจอเงิน ซึ่งที่โดดเด่นที่สุดได้แก่ Ace Ventura: When Nature Calls, Legionnaire, ภาพยนตร์เอชบีโอเรื่อง Deadly Voyage, ซีรีส์ Cracker: Mind Over Murder, New York Undercover และมินิซีรีส์เอบีซีเรื่อง 20,000 Leagues Under The Sea
ปัจจุบัน เขาได้แสดงประกบโรเบิร์ต เดอ นีโร, ไคลฟ์ โอเวน, เจสัน สเตแธมและโดมินิค เพอร์เซลในภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์โดยโอเพน โร้ด ฟิล์มส์เรื่อง Killer Elite ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กำกับโดยแกรี แม็คเคนดรี้ เข้าฉายในวันที่ 23 กันยายน ปี 2011 นอกจากนี้ เขายังจะได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์โดยเมด อัพ นอร์ธ โปรดักชันส์เรื่อง Best Laid Plans ที่กำกับโดยผู้กำกับเจ้าของรางวัลบาฟตา เดวิด แบลร์
หลังจากนี้ เขาจะได้แสดงในภาพยนตร์โดยวอร์เนอร์ บรอส. เรื่อง Bullet to the Head ที่นำแสดงโดยซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, คริสเตียน สเลเตอร์และโฮลท์ แม็คคัลลานี และกำกับโดยวอลเตอร์ ฮิล เมื่อเร็วๆ นี้ เขายังเพิ่งพากย์เสียงให้กับภาพยนตร์โดยโซนี พิคเจอร์ส อนิเมชันเรื่อง The Pirates! Band of Misfits ที่กำกับโดยปีเตอร์ ลอร์ด และเจฟฟ์ นิววิทท์ อีกด้วย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 30 มีนาคม ปี 2012
ในปี 2007 เขาได้แสดงภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่องแรกของเขา Farming ที่ซันแดนซ์ แล็บส์อันทรงเกียรติของโรเบิร์ต เร้ดฟอร์ด และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดแอนเนนเบิร์ก ฟิล์ม เฟลโลว์สจากผลงานในเรื่องนั้นของเขา
ด้วยความเป็นคนที่ท้าทายการถูกจัดประเภทเสมอ เขาจึงขยายขอบเขตการทำงานของเขาพร้อมๆ ไปกับการโฟกัสที่อาชีพนักแสดงของเขา ล่าสุด เขาได้แสดงประกบดเวย์น จอห์นสันและบิลลี บ็อบ ธอร์นตัน ในภาพยนตร์โดยซีบีเอส ฟิล์มส์เรื่อง Faster นอกจากนี้ เขายังแสดงในภาพยนตร์ฮิตเรื่อง Get Rich or Die Tryin’, The Bourne Identity, The Mummy Returns และโรแมนติกคอเมดีเรื่อง The Mistress of Spices นอกเหนือจากนั้น เขายังได้รับการยกย่องให้เป็น “นักแสดงบู๊” จากบรรดานิตยสารต่างๆ ด้วยตัวละครที่เข้มแข็งของเขาในจอแก้วและจอเงิน ซึ่งถูกแสดงออกมาอย่างเด่นชัดในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์โดยพาราเมาท์ พิคเจอร์สเรื่อง G.I. Joe: The Rise of Cobra
อคินนูเย-แอ็กบาเจ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากบทไซมอน อเดลบีซี นักโทษติดยาผู้น่าสะพรึงกลัวในซีรีส์ดังของเอชบีโอเรื่อง Oz การแสดงที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็นเอเอซีพี อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทซีรีส์ดรามาและนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมประเภทซีรีส์ดรามา รวมไปถึงบทมิสเตอร์ เอโก ชายลึกลับในดรามาประสบความสำเร็จทางเอบีซีของเจ.เจ. อับรามส์เรื่อง Lost ระหว่างที่ยังเล่นซีรีส์ Lost อยู่นั้น เขาได้รับรางวัลแซ็กและรางวัลลูกโลกทองคำสาขาทีมนักแสดงยอดเยี่ยม
เขาพูดได้หลายภาษา รวมถึงภาษาอิตาเลียน ฝรั่งเศสเล็กน้อย และโยรูบา ซึ่งเป็นภาษาไนจีเรียที่พ่อแม่ของเขาพูด ปัจจุบัน เขาใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส
ประวัติทีมผู้สร้าง
MATTHIJS VAN HEIJNINGEN (แมทไธส์ ฟาน เฮนินเกน) ผู้กำกับ
เป็นลูกชายของผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดังชาวดัทช์ และในช่วงวัยรุ่น เขาก็ได้ถ่ายภาพและทำงานในทุกตำแหน่งในภาพยนตร์ของพ่อเขา ตั้งแต่การสร้างฉาก การให้แสงไปจนถึงการลำดับภาพ เมื่อเขาเผยโฉมในฐานะผู้กำกับและนักเล่าเรื่องในชื่อของตัวเอง ก็ไม่มีใครแปลกใจเลยซักนิด ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ขนาดสั้นที่เขาสร้างขึ้นระหว่างเรียนกฎหมายไปจนถึงโปรเจ็กต์ทะเยอทะยาน โด่งดังในแวดวงโฆษณาระดับโลก เอกลักษณ์ของเขาในการผสมผสานเรื่องราวตลกร้าย การเล่าเรื่องที่หนักแน่น และสุนทรียศาสตร์ด้านภาพยนตร์ที่งดงามเป็นสิ่งที่ทำให้ผลงานของเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ
นับตั้งแต่ปี 1999 ฟาน เฮนินเกนกลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับโฆษณาที่โด่งดังและได้รับการยกย่องสูงสุดในยุโรป ด้วยรางวัลคานส์ ไลออนส์และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ผลงานของเขาสำหรับลูกค้าแบรนด์ดังอย่างโตโยต้า, เปอโยต์, เรโนลท์, สเตลลา อาร์ตัวส์, เป๊ปซี, ไฮเนเก้นและวีซา รวมไปถึงโฆษณาที่น่าตกตะลึง The Closet ที่เขาสร้างให้กับแคแนล+ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความทุ่มเทที่เฮนินเกนมีให้กับการนำเสนอตัวละครหลากมิติ ที่มีความเป็นมนุษย์ลงไปในบริบทขนาดสั้น
ในปี 2006 ฟาน เฮนินเกนได้ย้ายไปลอสแองเจลิส ที่ซึ่งพรสวรรค์ของเขาเป็นที่สนใจของแซ็ค สไนเดอร์ ผู้กำกับที่มีพื้นฐานจากวงการโฆษณาเช่นเดียวกัน ไม่นานหลังจากนั้น ฟาน เฮนินเกนก็ได้เซ็นสัญญากำกับ Army of the Dead ภาพยนตร์แอ็กชัน สยองขวัญ ผจญภัย ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในลาสเวกัส ที่เต็มไปด้วยซอมบี้ สร้างขึ้นจากเรื่องราวออริจินอลโดยสไนเดอร์ ฟาน เฮนินเกนได้นำทางโปรเจ็กต์นี้ตั้งแต่ช่วงพัฒนา ช่วงพรีโปรดักชัน แม้ว่าในที่สุด Army of the Dead ก็ถูกพักโปรเจ็กต์เอาไว้ก่อน
หลังจากทิ้งจุดเริ่มต้นปลอมๆ นี้ไว้เบื้องหลัง เขาก็ใช้โอกาสนี้ติดต่อกับมาร์ค อับราฮัมและอีริค นิวแมนจากสไตรค์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้อำนวยการสร้างเบื้องหลัง Dawn of the Dead ของแซ็ค สไนเดอร์ ระหว่างการพัฒนา The Thing ให้กับยูนิเวอร์แซล สไตรค์ก็พบว่าฟาน เฮนินเกน เป็นผู้ร่วมงานที่เพอร์เฟ็กต์ เพราะเขาได้นำทัศนคติที่สดใหม่และสร้างแรงบันดาลใจมาสู่โปรเจ็กต์นี้ รวมถึงความรู้ที่ลึกซึ้งและความชื่นชมที่เขามีต่อภาพยนตร์ฉบับปี 1982 ด้วยERIC HEISSERER (อีริค ไฮเซอร์เรอร์) เขียนบท
เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Final Destination 5 ให้กับนิวไลน์ ซีเนมาและแพรคทิคัล พิคเจอร์ส หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับนิวไลน์มาแล้วในฐานะมือเขียนบทภาพยนตร์ปี 2010 เรื่อง A Nightmare on Elm Street ที่อำนวยการสร้างโดยแพลตินัม ดูนส์
ปัจจุบัน ไฮเซอร์เรอร์มีโปรเจ็กต์หลายชิ้นที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งรวมถึง Inhuman ที่ร่วมงานกับผู้อำนวยการสร้างทากะ อิจิเสะและ The Occupants ที่เฮย์เดย์ ฟิล์มส์ เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งขายตอนไพล็อตซีรีส์ให้กับเอบีซี ที่สร้างขึ้นจากภาพยนตร์เดนิชเรื่อง Headhunter ซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นในแวดวงจารกรรมความลับระหว่างบริษัท โปรเจ็กต์ไพล็อตก่อนหน้านี้ของเขาได้แก่ Utopia สำหรับซีบีเอสและ Midnighters สำหรับวอร์เนอร์ บรอส.