pooklook on September 01, 2010, 07:31:38 PM
วิตามินซี จากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ  “  วิตามินซี มีฤทธิ์ต่อกระบวนการทางชีวภาพอย่างซับซ้อนและหลากรูปแบบ
บางทีอาจเป็นที่สุดของบรรดาวิตามินและสารอาหารทุกชนิด ” วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายของเราไม่สามารถ
สังเคราะห์ได้เอง ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น พบมากในผักผลไม้สด วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อระบบร่างกาย
เห็นได้จากการวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า วิตามินซี มีประสิทธิภาพในการป้องกัน และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยังเป็น
สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีตัวหนึ่ง

การค้นพบ วิตามินซีเกิดขึ้นในช่วงสงครามครูเสด เมื่อโรคลักปิดลักเปิดกลายเป็นสาเหตุสำคัญของการตายและทุพพล-ภาพของ
คนในสมัย นั้น ทำให้มีการศึกษาและค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์ซึ่งภายหลังได้สรุปว่า สาเหตุมาจากการขาด วิตามินซี ซึ่งมีในผัก
และผลไม้  ต่อมา ในปี ค.ศ. 1933 โครงสร้างของ วิตามินซี ถูกค้นพบโดย เฮเวิร์ดและเฮิร์สต์ และทั้งคู่ก็ได้สังเคราะห์ วิตามินซี
ได้สำเร็จในปีเดียวกันนี้ โดยตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “ กรดแอสคอร์บิก ” ( Ascorbic Acid )

ความ สำคัญของ วิตามินซี
วิตามินซี แจ้งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์ทางชีวเคมี นำโดย ไลนัส พอลิง ( Linus Pualing )
ตีพิมพ์ผลการค้นคว้าเรื่อง “ วิตามินซี กับ อาการหวัด ” ( Vitamin C and the Common Cold ) ออกมา
ดร.ไลนัส พอลิง นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบลถึงสองครั้ง และเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาวถึง 93 ปี ยังกล้าประกาศว่า
“ ผมจำต้องยอมรับว่า การมีสุขภาพดีของผมเกิดจากวิตามินและเกลือแร่ที่กินเข้าไป ” เขาเชื่อว่า วิตามินซี ช่วยชะลออาการลุกลาม
ของมะเร็งในตัวเขาได้นานถึง 20 ปี และหลังจากกิน วิตามินซี ในปริมาณสูงทุกวันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 เขาก็ไม่เป็นหวัดอีกเลย

ปัจจุบัน วิตามินซี จัดได้ว่าเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย เป็นอย่างมาก ในอดีตทราบกันดีว่า วิตามินซี สามารถนำมาใช้ในการป้องกัน และบรรเทาอาการหวัดได้ดี แต่จากผลการศึกษาและวิจัยหลายๆ ฉบับพบว่า วิตามินซี นี้มีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

ปี ค.ศ. 1990 สถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกาได้ประกาศว่า “ วิตามินซี มีฤทธิ์ต่อกระบวนการทางชีวภาพอย่างซับซ้อนและหลากรูปแบบ บางทีอาจเป็นที่สุดของบรรดาวิตามินและสารอาหารทุกชนิด ”
« Last Edit: September 01, 2010, 07:34:09 PM by pooklook »

pooklook on September 01, 2010, 07:39:54 PM
บทบาท ของ วิตามินซีคุณสมบัติที่โดดเด่นของ วิตามินซี ก็คือ ความเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ( Anti-oxidant) นั่นเอง
 โดยประโยชน์หลักๆ เมื่อร่างกายได้รับวิตามินซี เป็นประจำคือ เพิ่มภูมิต้านทานแก่ร่างกาย ป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง
บำรุงผิวพรรณหรือชะลอความแก่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันหรือเหงือกอักเสบ

- รักษาและป้องกันโรคหวัด จากการศึกษาพบว่า การรับประทาน วิตามินซี 1-8 กรัม ต่อวัน ในตอนเริ่มต้นเป็นหวัด สามารถ
ลดระยะเวลาในการเป็นหวัดได้มากถึง 23%

- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและภูมิแพ้ เมื่อร่างกายได้รับ หรือสัมผัสกับเกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง โปรตีนแปลกปลอมในอาหาร ฯลฯ
ซึ่งมีผลให้เกิดอาการแพ้ มีไข้ ลมพิษ ผื่นคัน หายใจหอบ ภูมิคุ้มกันจะถูกกระตุ้นให้หลั่งเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ภูมิคุ้มกันนี้
ถูกสร้างขึ้นโดยตับ โดยมี วิตามินซี เป็นส่วนในการกระตุ้นกระบวนการทางเคมี นอกจากนี้ วิตามินซี ยังช่วยยับยั้งและ
ต้านทานเชื้อโรค กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวและภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดอัตราการเกิดอาการ
ของเก๊าท์ ข้ออักเสบ ภาวะผื่นแพ้ต่าง ๆ หรือการติดเชื้อไวรัส

- ช่วยสร้างและรักษาสภาพของ คอลลาเจน วิตามิน ซี มีบทบาทสำคัญในการสร้าง โปรตีน คอลลาเจน ซึ่งช่วยในการส่งเสริม
สุขภาพผิวพรรณ ป้องกันการเกิดภาวะริ้วรอยแก่ก่อนวัย บำรุงกระดูก เสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก โดยเฉพาะบริเวณ
ส่วนปลายกระดูกและข้อต่อ ลดอาการปวดจากโรคไขข้อต่างๆ

- ต่อต้านการสร้างสาร ไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง วิตามิน ซี นอกจากจะสร้าง คอลลาเจน ซึ่งเป็นเสมือน
ตาข่ายคลุมเซลล์ให้พ้นจากมะเร็งแล้ว วิตามินซี ยังช่วยขัดขวางการเกิดสารไนโตรซามีน อันเป็นต้นเหตุของมะเร็งกระเพาะ
และตับ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ช่วยในการสร้างสารที่ต้านมะเร็ง

- ต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี เป็นวิตามินที่ป้องกันการเกิดปฎิกิริยาออกซิเดชั่นที่ดี จึงป้องกันความเสื่อมของเซลล์และพบว่า
มีผลในการต่อต้านการเกิดเซลล์ที่ผิด ปกติต่าง ๆ เช่น เซลล์มะเร็งได้ ( Anti-Cancer) หาก วิตามินซี นั้น มีสารประเภท
ไบโอเฟลวานอยด์ร่วมอยู่ด้วย ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มฤทธิ์ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันการแตกของเส้นเลือดฝอย
ที่บริเวณผิวหนัง และหากเป็นไปได้พยายามลดสารพิษในร่างกายหรือใช้กรรมวิธีการทำดีท็อกซ์ร่วม ด้วยก็ได้

- ป้องกันโรคโลหิตจาง ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายเราใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้น โลหิตของคุณจะข้นหรือจาง
ส่วนหนึ่งจึงเกี่ยวพันกับปริมาณธาตุเหล็กในร่างกาย มี ข้อสังเกตกันว่า เหตุใดบางคนรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง แต่กลับ
เป็นโรคโลหิตจาง นั่นเป็นเพราะว่า ธาตุเหล็กในอาหารหากไม่ได้อยู่ในรูปของเฟอร์รัส เมื่อเคลื่อนผ่านลำไส้เล็กร่างกายจะไม่
สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ วิตามิน ซี มีหน้าที่เปลี่ยนธาตุเหล็กที่มีอยู่ในอาหารให้อยู่ในรูปเฟอร์รัส ซึ่งช่วยให้ร่างกาย
สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี

- ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง วิตามินซี ช่วยให้กระดูกมีสภาพแข็งแรง สมบูรณ์ และซ่อมแซมยามเกิดการแตกหัก หรือร้าวบิ่น
นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

- ป้องกันภาวะโรคหัวใจ วิตามิน ซี ช่วยให้หลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่นตัวได้ดีขึ้น ทำให้ระดับความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ
ป้องกันการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ป้องกันการเกิดภาวะโรคหัวใจได้ต่อไป ซึ่งหากใช้ร่วมกับ วิตามินอีก็จะทำให้ประสิทธิภาพ
ในการป้องกันภาวะโรคหัวใจนี้ดียิ่งขึ้น

- รักษาค่าของ คลอเลสเตอรอล ในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ผลการวิจัยหลาย ชิ้นชี้ให้เห็นว่า วิตามินซี มีส่วนในการเผาผลาญไขมัน
รวมทั้งคลอเลสเตอรอล

- ประโยชน์ต่อสมอง วิตามินซี เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนกรดอะมิโน ให้กลายเป็นสารจำเป็นในสมอง ซึ่งทำหน้าที่ของระบบประสาท
การขาด วิตามินซี อาจก่อให้เกิดอาการทางจิตด้วย

- เป็นส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์อะดรีนาลีน เมื่อเกิดความเครียด ต่อมหมวกไตจะหลั่งฮอร์โมนระงับความเครียด
ออกมา จากนั้นความดันโลหิตและปริมาณน้ำตาลในเลือดจะสูงกว่าปกติ พลังงานจะถูกนำมาใช้มากขึ้น เพื่อระงับความ เครียด
และสารที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนดังกล่าว คือ วิตามินซี

- ช่วยให้ผิวสวย วิตามินซี ช่วยบำรุงผิวพรรณ สร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ๆ และช่วยต้านการเกิดเม็ดสีเมลามิน อันเป็นต้นเหตุ
ของการเกิดฝ้า

- ช่วยรักษาอาการท้องผูก อาการท้องผูกเรื้อรัง เป็นต้นเหตุของสารพัดโรค การรับประทานวิตามินซี ในปริมาณที่พอเหมาะ
จะช่วยให้กากอาหารในลำไส้ไม่แข็งตัว จึงขับถ่ายสะดวก

- ประโยชน์อื่นๆ

- ช่วยในกระบวนการสร้างฮอร์โมนในต่อมต่างๆ ของร่างกาย

- เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อในบริเวณทางด้านปัสสาวะ

- ช่วยลดการเกิดก้อนเลือดแข็งตัวในเส้นเลือด เพิ่มสมรรถนะของผนังหลอดเลือด

- ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และป้องกันอาการเลือดไหลไม่หยุด

- ป้องกันต้อกระจกในผู้สูงอายุ

- ช่วยลดอัตราการเป็นหมันในชาย และทำให้สเปิร์มแข็งแรงเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น

- ลดอันตรายจากโลหะหนักหรือสารพิษต่างๆ ที่ร่างกายได้รับจากสิ่งแวดล้อม