Woochi วูชิ ศึกเทพยุทธทะลุพิภพ เข้าฉาย 19 สิงหาคม

WOOCHI
 วูชิ ศึกเทพยุทธทะลุภพ
19 สิงหาคมนี้
 วูชิคือพ่อมดแห่งราชวงศ์โชซัน ผู้ถูกใส่ร้ายป้ายสี และโดนกักขังไว้ในภาพวาดชิ้นหนึ่ง หลังจากเวลาล่วงเลยไปนานถึงห้าร้อยปี เขาจึงได้เป็นอิสระอีกครั้ง โดยมาปรากฏกายในกรุงโซลยุคปัจจุบัน เพื่อช่วยปกป้องโลกให้รอดพ้นจากการคุกคามของเหล่าปิศาจร้าย


เรื่องย่อ
              ห้าร้อยปีก่อน ... สมัยราชวงศ์โชซัน เมื่อไปป์ศักดิ์สิทธิ์ไปตกอยู่ในกำมือของเหล่าปิศาจ โลกทั้งใบเกิดปั่นป่วนวุ่นวาย เทพลัทธิเต๋าสามองค์จึงต้องมองหาคนที่จะมาแก้วิกฤติครั้งนี้ นั่นคือท่านอาจารย์ (แบกยุนซิก) และฮวาดัม (คิมยุนซุก) ซึ่งทั้งคู่ก็สามารถจัดการปิศาจร้ายได้ ไปป์ศักดิ์สิทธิ์ถูกแบ่งเป็นสองส่วน และถูกมอบให้ท่านอาจารย์และฮวาดัมเก็บไว้คนละส่วน ขณะเดียวกัน วูชิ (กังดองวอน) ศิษย์จอมทึ่มของอาจารย์ ก็สร้างความโกลาหลไปทั่วพระราชวัง ด้วยการล้อเล่นกับองค์กษัตริย์ ระหว่างนั้น สามเทพและฮวาดัมได้มาเยี่ยมเยียนท่านอาจารย์ แต่เมื่อพวกเขามาถึง จึงรู้ว่าท่านอาจารย์ถูกมือลึกลับฆ่าตายเสียแล้ว และไปป์ครึ่งหนึ่งของท่านอาจารย์ก็หายสาบสูญไปด้วย โชคร้ายกลายเป็นของวูชิและสุนัขของเขา โชรางยี (ยูแฮจิน) ที่ต้องตกเป็นแพะรับบาป และโดนลงโทษด้วยการถูกขังไว้ในภาพวาดชิ้นหนึ่ง
              เวลาล่วงเลยไปจนถึงปี ค.ศ. 2009 ณ กรุงโซล ... ด้วยเหตุผลใดไม่มีใครรู้ เหล่าปิศาจร้ายในอดีต ได้กลับมาปรากฏกายอีกครั้งในโลกยุคใหม่ และคงไว้ซึ่งเป้าหมายเดิม นั่นคือการทำลายความสงบสุขของโลก เช่นเดียวกับที่เทพลัทธิเต๋าทั้งสามต่างรีบรุดมาปกป้องมนุษยชาติอีกครั้ง โดยแฝงตัวมาในภาพลักษณ์ของบาทหลวงแคธอลิค, พระศาสนาพุทธ และคนทรงเจ้า พวกเขาออกตามหาฮวา ดัม แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ นับตั้งแต่ออกเดินทางไปฝึกจิตเมื่อห้าร้อยปีก่อน
              เมื่อสิ้นไร้ทางเลือก สามเทพจึงแบกหน้าไปหาวูชิ ผู้ยังคงถูกขังไว้ในภาพซึ่งแขวนอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง พวกเขาเสนออิสรภาพให้วูชิและโชรางยี เพื่อแลกกับการที่วูชิต้องตามจับบรรดาปิศาจให้ได้ วูชิรับข้อเสนอและรีบเร่งปฏิบัติภารกิจทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เขาก็หลงลืมหน้าที่ตัวเอง เพราะมัวหลงระเริงอยู่กับโลกสมัยใหม่อันแปลกตาน่าอัศจรรย์ หนำซ้ำยังไปตกหลุมรักหญิงสาวชื่อซอยอินคัง (ลิมซูจุง) ผู้มีใบหน้าเหมือนคนที่เขาเคยรักในอดีต ขณะที่เทพทั้งสามกำลังอ่อนอกอ่อนใจกับความไม่เอาไหนของวูชิ ในที่สุด ฮวาดัมก็เผยโฉมออกมา แต่การปรากฏตัวของเขาครั้งนี้ มีเหตุผลอื่นใดซ่อนอยู่หรือไม่

ก่อนจะเป็น WOOCHI ภาพยนตร์แนวฮีโร่เรื่องแรกของเกาหลี
              ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก THE LIFE OF JEON WOOCHI หนึ่งในเรื่องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เคียงข้างกับวรรณกรรมชื่อดัง THE LIFE OF HONG GIL-DONG ภาพยนตร์เรื่อง WOOCHI นำตัวละครอมตะในตำนานเก่าแก่มาวางไว้ในโลกยุคปัจจุบัน จีออน วูชิ ตัวเอกในนิยาย คือแบบฉบับของฮีโร่ผู้กำเนิดมาสู้รบกับความอยุติธรรม และช่วยเหลือผู้ยากไร้ทั้งหลาย แต่วูชิมีข้อแตกต่างจากฮองกิลดอง รวมถึงวีรบุรุษในนิยายเรื่องอื่นๆ คือ เขาไม่เคยวางกรอบตัวเองหรือมีข้อแม้ในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม อีกนัยหนึ่งคือเขาดูเหมือนเพื่อนบ้านตัวแสบ ผู้ที่แม้แต่ศัตรูของเขาก็อดหัวเราะขบขันไม่ได้ เมื่อเห็นวูชิใช้เวทมนตร์และวิชาการต่อสู้ตามแบบลัทธิเต๋า สรุปแล้วจีออน วูชิคือฮีโร่แนวใหม่รายแรก ที่ชอบพาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ยุ่งยากลำบากลำบนอย่างไม่มีวันเบื่อ
              ผู้กำกับ ชอยดองฮุน เชื่อมั่นว่าวูชิคือวีรบุรุษตัวจริง และความเป็นอมตะของตัวละครนี้ ทำให้ชอยตัดสินใจเดินหน้าโปรเจ็คท์ภาพยนตร์ให้สำเร็จ เขาพบฮีโร่คนใหม่ผู้มาในแนวเดียวกับฮีโร่จากฮอลลีวูดอย่างซูเปอร์แมน, สไปเดอร์แมน และแบทแมน ซึ่งทั้งหมดต่างพยายามสร้างสันติสุขให้แก่เมืองของพวกเขา
              นอกจากนี้ ชอยยังสร้างตัวละครฮวาดัม คู่ปรับจอมขี้โกงของวูชิ รวมทั้งตัวละครอื่นอีกมากมาย และนำทุกคนมาใส่ไว้ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ป่าคอนกรีตใจกลางกรุงโซล ผู้กำกับเล่าเรื่องของพ่อมดวูชิ ผู้ถูกปรักปรำว่าเป็นฆาตกร และถูกจับขังไว้ในภาพวาดเป็นเวลานานห้าร้อยปี ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวให้มาช่วยปราบปิศาจร้ายที่หมายทำลายโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ตัวละครในวรรณกรรมอมตะมีลมหายใจขึ้นมา และกลายเป็นอีกหนึ่งฮีโร่แห่งศตวรรษที่ 21 ขวัญใจของทุกคนตลอดไป

นิยายเรื่อง THE LIFE OF JEON WOOCHI
              THE LIFE OF JEON WOOCHI คือเรื่องราวของบุรุษคนหนึ่งผู้มาจากราชวงศ์โชซัน แม้ว่าชื่อของผู้ประพันธ์นิยายเรื่องนี้จะยังเป็นปริศนา แต่ผลงานของเขาก็กลายเป็นหนึ่งในวรรณกรรมเชิดชูวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลี จากรายละเอียดในหนังสือ จีออน วูชิคือขุนนางผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านคาถาอาคม เขาอาศัยอยู่ที่เมืองหนึ่งซึ่งปัจจุบันนี้คือกรุงโซล ในสมัยราชวงศ์โชซัน วูชิไม่เคยแสดงให้ใครล่วงรู้ว่าเขามีเวทมนตร์ จนกระทั่งเขาเริ่มตระหนักถึงความทุกข์ยากของราษฎร ผู้ต้องอดทนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของบรรดาขุนนางละโมบ และเจ้าหน้าที่รัฐผู้เห็นแก่ตัว วูชิจึงตัดสินใจใช้อำนาจวิเศษของเขาเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยการลงโทษขุนนางกังฉินเหล่านั้น แล้วจึงนำทรัพย์สมบัติที่ยึดมาได้ไปแจกจ่ายให้แก่คนยากจน
              เนื้อหาของ THE LIFE OF JEON WOOCHI คล้ายคลึงกับนิยายเรื่อง THE LIFE OF HONG GIL-DONG ทว่าแตกต่างกันตรงบุคลิกของตัวละครหลัก นั่นคือวูชิเป็นคนอารมณ์ร้อน เขามักแอบแกล้งคนที่ดูถูกเขา อีกทั้งยังชอบใช้เวทมนตร์อย่างพร่ำเพรื่อ แม้แต่กับเรื่องที่ไม่สลักสำคัญ ความร้ายกาจของวูชิดูได้จากการที่เขาล้อเล่นกับกษัตริย์ และรีบหนีไปบนหลังม้าที่อยู่ในภาพวาด หรือการที่เขาสั่งสอนพวกขุนนางที่หัวเราะเยาะเขา ในนิยาย วูชิยังออกเดินทางตามหาฮวาดัมเพื่อทดสอบวิชา แต่ไม่อาจเอาชนะพลังของฮวาดัมได้ ซึ่งในเวลาต่อมา ฮวาดัมก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทและครูของเขา

ตัวละคร และนักแสดง
จีออน วูชิ  (กังดองวอน)
              มีความสามารถในการแปลงร่าง, ปลอมตัว, พรางกายซ่อนเร้น และการใช้เวทมนตร์ทั่วไปผ่านเครื่องรางของขลัง แม้ว่าวูชิเป็นพ่อมดมากพรสวรรค์ ทว่าเขากลับสนใจเรื่องของอิสตรีมากกว่าการนั่งสมาธิหรือการฝึกจิต เขานำสุนัขเพื่อนแท้ชื่อโชรางยี เดินทางไปกับเขาทุกแห่ง โดยใช้คาถาเสกให้มันกลายร่างเป็นมนุษย์คนหนึ่ง วูชิมักสร้างปัญหาให้กับทุกที่ๆ เขาไป
กังดองวอน
              โด่งดังเป็นพลุเมื่อเขาขโมยหัวใจของผู้ชมสาวๆ ในภาพยนตร์โรแมนติกเรื่อง ROMANCE OF THEIR OWN จากนั้นจึงเปลี่ยนมารับบทบาทที่เข้มข้นขึ้น อาทิ บทนักฆ่าลึกลับใน DUELIST บทโจรลักพาตัวเลือดเย็นใน VOICE OF A MURDERER สำหรับบทฮีโร่จากเกาหลีคนแรกในผลงานเรื่อง WOOCHI นี้ จัดว่าเป็นบทบาทซึ่งท้าทายความสามารถของกังดองวอนมากที่สุด นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มแสดงภาพยนตร์มาเลยทีเดียว
ผลงาน
ภาพยนตร์ : M (2007), VOICE OF A MURDERER (2007), MAUNDY THURSDAY (2006), DUELIST (2005), ROMANCE OF THEIR OWN (2004), TOO BEAUTIFUL TO LIE (2003)
โทรทัศน์ : MAGIC (2004), 1% OF ANYTHING (2003), MAJESTIC LADY (2003)

ฮวาดัม  (คิมยุนซุก)
              มีความรู้เรื่องการใช้ยา เคยเป็นพ่อมดที่เก่งกาจที่สุดแห่งโชซัน ผู้เชี่ยวชาญในการบังคับไฟ ฮวาดัมเป็นพ่อมดผู้โด่งดังแห่งยุค ถึงกระนั้นเขายังมีด้านมืดที่ซ่อนไว้ไม่ยอมให้ใครเห็น ในอดีตความโลภทำให้เขาจำต้องทำร้ายวูชิ แต่เมื่อมาอยู่ในโลกยุคใหม่ ฮวาดัมและวูชิต้องต่อสู้กันอีกครั้ง เพื่อแย่งชิงกันเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์

คิมยุนซุก
              พิสูจน์พลังดาราให้เป็นที่ประจักษ์ในภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง THE CHASER และ RUNNING TURTLE คิมคือนักแสดงผู้เป็นที่ชื่นชมของทั้งบรรดาผู้ชมและนักวิจารณ์ ด้วยความที่เขามีบุคลิกที่เรียบง่าย สบายๆ แต่เต็มไปด้วยรัศมีดาราดังเต็มเปี่ยม ภาพยนตร์เรื่อง WOOCHI ทำให้เขาได้กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ ชอยดองฮุน เป็นครั้งที่สอง หลังจากเคยพบกันมาแล้วใน TAZZA: THE HIGH ROLLERS
ผลงาน
ภาพยนตร์ : RUNNING TURTLE (2009), THE CHASER (2008), THE HAPPY LIFE (2007), TAZZA: THE HIGH ROLLERS (2006), LIKE A VIRGIN (2006), THE BIG SWINDLE (2004)
โทรทัศน์ : THANKS LIFE! (2006), DOWELL (2004)

ซอยอินคัง  (ลิมซูจุง)
              สาวสวยผู้ซ่อนความปรารถนาอันแรงกล้าไว้ภายใต้ใบหน้าที่ไร้เดียงสา สไตลิสท์ผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักแสดงที่โด่งดัง ซอยอินคังทำงานเป็นสไตลิสท์ประจำตัวของดาราหญิงชื่อดังคนหนึ่ง โดยหวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้ก้าวไปอยู่ตรงจุดนั้นบ้าง แม้ภายนอกซอยดูเป็นคนสงบเสงี่ยมเรียบร้อย แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องตัดสินใจ เธอก็เด็ดเดี่ยวไม่แพ้ใครเลยทีเดียว เธอตกเป็นที่หมายปองของวูชิ เนื่องจากมีใบหน้าเหมือนหญิงสาวที่เขาเคยรักในอดีต
ลิมซูจุง
              ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์ครั้งแรกในผลงานสยองขวัญเรื่อง A TALE OF TWO SISTERS ตามด้วยภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง LUMP OF SUGAR ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างเกินคาด บทบาทสุดพิเศษของเธอใน I’M A CYBORG BUT THAT’S OK สร้างความประหลาดใจให้ผู้ชมและนักวิจารณ์อย่างมาก ส่วน HAPPINESS ผลงานถัดมาก็ทำรายได้อย่างล้นหลามเช่นเคย ลิมซูจุงจัดเป็นนักแสดงหญิงอีกคนในวงการภาพยนตร์เกาหลี ที่มีทั้งความสามารถและความสวยน่ารัก
ผลงาน
ภาพยนตร์ : HAPPINESS (2007),I’M A CYBORG BUT THAT’S OK (2006), LUMP OF SUGAR (2006), SAD MOVIE (2005), A TALE OF TWO SISTERS (2003) 
โทรทัศน์ : I’M SORRY I LOVE YOU (2004)

โชรางยี  (ยูแฮจิน)
              สุนัขในร่างมนุษย์ที่ไม่มีอำนาจเวทมนตร์ใดๆ นอกจากพละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ โชรางยีเป็นเพื่อนรักของวูชิ ผู้ออกไปผจญภัยร่วมกันทุกแห่งหน อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งที่อยู่ในร่างมนุษย์ได้ด้วยมนตร์วิเศษของเพื่อน ดังนั้น เขาจึงมักตามติดวูชิไม่ห่าง โชรางยีเกลียดเวลาที่ต้องกลับคืนร่างเป็นสุนัข และมีความฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้เป็นมนุษย์ที่แท้จริงตลอดไป
ยูแฮจิน
              ได้รับการยกย่องให้เป็นนักแสดงประเภท CHARACTER ACTOR ที่ใกล้เคียงกับคำว่าดีที่สุดในเกาหลี ยูถนัดบทเบาสมอง โดยได้สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมมาอย่างต่อเนื่องในผลงานเรื่องดัง เช่น PUBLIC ENEMY, KING AND THE CLOWN, TAZZA: THE HIGH ROLLERS, SMALL TOWN RIVALS และอีกมากมาย บทโชรางยีใน WOOCHI เปรียบเสมือนตัวละครอมตะอย่าง ซานโช ปานซา เพื่อนและคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของดอน กีโฆเต้ ในวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง MAN OF LA MANCHA ซึ่งมีเพียงยูคนเดียวเท่านั้นที่สามารถนำเสนอทั้งเสียงหัวเราะและความอบอุ่นใจในเวลาเดียวกัน
ผลงาน
ภาพยนตร์ : THE TRUCK (2008), KIDNAPPING GRANNY K (2007), TAZZA: THE HIGH ROLLERS (2006), OVER THE BORDER (2006), KING AND THE CLOWN (2005), NEVER TO LOSE (2005), BLOOD RAIN (2005), ICE RAIN (2003), JAIL BREAKERS (2002), BREAK OUT (2002), KICK THE MOON (2001)

ท่านอาจารย์  (แบกยุนซิก)
              อาจารย์ของวูชิ ผู้มีวิชาคาถาอาคมที่เก่งกล้าเทียบเท่ากับฮวาดัม เขารักและเอ็นดูศิษย์มากพรสวรรค์อย่างวูชิมาก แต่ต้องคงระเบียบวินัยอันเคร่งครัดไว้ เพราะรู้ดีว่าศิษย์คนนี้ชอบทำเรื่องเหลวไหล สำหรับวูชิ ท่านอาจารย์เปรียบเสมือนบิดาคนที่สองของเขา
แบกยุนซิก
              ร่วมงานกับผู้กำกับ ชอยดองฮุน เป็นครั้งที่สาม นับตั้งแต่ THE BIG SWINDLE และ TAZZA: THE HIGH ROLLERS จนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงขาประจำของชอยดองฮุนไปแล้ว ภาพยนตร์ที่ทำให้แบกยุนซิกกลับมาดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง ทั้งที่อยู่ในวัยกลางคนแล้วคือเรื่อง SAVE THE GREEN PLANET ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็มีงานแสดงไม่เคยขาด
ผลงาน
ภาพยนตร์ : BANK ATTACK (2007), BRAVO MY LIFE (2007), HOW THE LACK OF LOVE AFFECTS TWO MEN (2006), TAZZA: THE HIGH ROLLERS (2006), LIKE A VIRGIN (2006), ART OF FIGHTING (2005), THE PRESIDENT’S LAST BANG (2004), THE BIG SWINDLE (2004), SAVE THE GREEN PLANET (2003)
ดาราหญิง  (ยัมจุงอา)
              ดาราดังแห่งวงการภาพยนตร์เกาหลี ผู้มีประโยคเด็ดประจำตัวว่า “ส่วนไหนของใบหน้าฉันที่สวยที่สุด?” ซึ่งเธอชอบถามใครก็ตามที่อยู่ใกล้เธอเฉลี่ยวันละสามครั้ง เธอมีซอยอินคังเป็นสไตลิสท์ประจำตัว ผู้หญิงทั้งคู่ต่างซ่อนความไม่ลงรอยกันอยู่ลึกๆ ภายใน เธอไม่ชอบที่สไตลิสท์ของเธอสวยกว่าเธอ ส่วนซอยอินคังก็ไม่ชอบความจู้จี้จุกจิกของดาราหญิง
ยัมจุงอา
              บทบาทอันเยี่ยมยอดใน A TALE OF TWO SISTERS ทำให้ยัมจุงอาได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์แฟนตาซีที่บรัสเซลส์ เธอเป็นนักแสดงจอมทุ่มเท ผู้อุทิศทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้เข้าถึงบทอย่างแท้จริง ส่งผลให้เธอกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงคนสำคัญของวงการ ใน WOOCHI ยัมได้กลับมาร่วมงานกับลิมซูจุงอีกครั้งหลังจากเคยพบกันใน A TALE OF TWO SISTERS แต่ครั้งนี้ ผู้หญิงทั้งสองต้องมารับบทคู่แข่งกันบนจอภาพยนตร์
ผลงาน
ภาพยนตร์ : THE WORST GUY EVER (2007), THE OLD GARDEN (2007), A BOY WHO WENT TO HEAVEN (2005), SAD MOVIE (2005), LOVELY RIVALS (2004), THE BIG SWINDLE (2004), A TALE OF TWO SISTERS (2003), H (2003), TELL ME SOMETHING (1999)

เทพลัทธิต๋าสามองค์
              เชี่ยวชาญในการค้นหาที่สิงสถิตย์ของเหล่าปิศาจร้าย แต่ขาดพลังอำนาจในการปราบพวกมันให้อยู่หมัด พวกเขาจึงต้องพึ่งพาความสามารถของบรรดาพ่อมด ในอดีตเทพลัทธิเต๋าทำหน้าที่เฝ้าระวังอยู่หน้าคุกที่คุมขังปิศาจทั้งหลาย แต่เมื่อเกิดความผิดพลาด ทำให้เหล่าปิศาจร้ายหลุดออกมาได้ และหนีไปยังโลกมนุษย์ เทพทั้งสามจึงต้องเดินทางลงมายังโลก เพื่อตามจับปิศาจที่แฝงกายอยู่ในร่างมนุษย์

ซองยังชาง  (พระศาสนาพุทธ)
              เปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่ม เขาหลงเชื่อในคารมของวูชิ แม้รู้ดีว่าวูชิเป็นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไร พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
ผลงาน
ภาพยนตร์ : THIRST (2009), THE GOOD THE BAD THE WEIRD (2008), VOICE OF A MURDERER (2007), DUELIST (2005), THE FOUL KING (2000)

จูจินโม  (คนทรงเจ้า)
              ผู้อาวุโสลำดับที่สอง เรื่องที่ขัดอกขัดใจเขาที่สุดคือ การที่พระและบาทหลวงไม่ยอมตามหาตัวฮวาดัม แต่กลับปล่อยวูชิออกมาจากภาพวาด เพื่อไปตามจับปิศาจแทน
ผลงาน
ภาพยนตร์ : GOOD MORNING PRESIDENT (2009), RUNNING TURTLE (2009), GOING BY THE BOOK (2007), THE HAPPY LIFE (2007), TAZZA: THE HIGH ROLLERS (2006)
 
คิมซังโฮ  (บาทหลวงแคธอลิค)
              อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม และยังใจดีที่สุดด้วย เขาเป็นคนเดียวที่เห็นอกเห็นใจวูชิ และจากอุปนิสัยเช่นนี้เอง ที่ทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวพ่อมดจอมแสบคนนี้ด้วย
ผลงาน
ภาพยนตร์ : A GOOD RAIN KNOWS (2009), LE GRAND CHEF (2007), THE HAPPY LIFE (2007), BETWEEN LOVE AND HATE (2006), TAZZA: THE HIGH ROLLERS (2006)

ผู้เขียนบท และผู้กำกับภาพยนตร์
ชอยดองฮุน
              ผู้กำกับ ชอยดองฮุน ถูกจับตามองมาตั้งแต่งานกำกับเรื่องแรกของเขา THE BIG SWINDLE ที่เล่าเรื่องราวของนักต้มตุ๋นระดับเซียน ผู้วางแผนโจรกรรมเงินในธนาคารแห่งชาติเกาหลี ผลงานเรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมว่าสามารถทำให้ภาพยนตร์แนวอาชญากรรมระทึกขวัญเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมชาวเกาหลีได้ในวงกว้าง
              ชอยย้อนรอยความสำเร็จของตนเองด้วยผลงานถัดมาคือ TAZZA: THE HIGH ROLLERS ภาพยนตร์ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่องดัง ที่ถ่ายทอดโลกของการพนันผิดกฎหมายในเกาหลี และเช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องแรก ผลงานกำกับชิ้นที่สองนี้ก็ชนะใจนักวิจารณ์อย่างท่วมท้น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปีอีกด้วย
              มาถึง WOOCHI ผลงานกำกับเรื่องที่สาม ที่บรรดาผูชมและนักวิจารณ์ต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยชมว่าชอยจะใช้พรสวรรค์และความสามารถของเขา สร้างสรรค์ภาพยนตร์แนวฮีโร่เรื่องแรกของเกาหลี ให้ออกมามีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงามขนาดไหน ด้วยตัวละครชั้นยอดมากหน้า เรื่องราวน่าประทับใจจากบทภาพยนตร์ชั้นดี รวมกับฝีมือการกำกับของชอยที่มีความโดดเด่นด้านไหวพริบและอารมณ์ขัน ทั้งหมดนี้จะทำให้ WOOCHI กลายเป็นภาพยนตร์แนวฮีโร่อีกหนึ่งเรื่องที่จะอยู่ในใจของผู้ชมไปอีกนานแสนนาน

ผลงานและเกียรติยศ
TAZZA: THE HIGH ROLLERS (2006)
- รางวัลภาพยนตร์เกาหลี ครั้งที่ 6 สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- รางวัล PAEKSANG ครั้งที่ 43 สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- รางวัลชมรมนักวิจารณ์จากเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน ครั้งที่ 8 สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ได้รับเชิญเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ FAR EAST ปี 2007
THE BIG SWINDLE (2004)
- รางวัลชมรมนักวิจารณ์จากเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน ครั้งที่ 5 สาขาผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม
- รางวัลเทศกาลภาพยนตร์แดจอง ครั้งที่ 41 สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม
- รางวัล THE BLUE DRAGON ครั้งที่ 25 สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม
- รางวัลภาพยนตร์เกาหลี ครั้งที่ 3 สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม