DITP ผลักดันแบรนด์ไทยแสวงหาช่องทางเจาะตลาดอินเดีย ผ่านการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP โดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ จัดทำนัดหมายจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างผู้นำเข้าอินเดียและผู้ส่งออกไทยที่นำสินค้าไปจัดแสดงนิทรรศการ ณ ห้าง JIO WORLD DRIVE เมืองมุมไบ อินเดีย เกิดคู่เจรจาการค้า 34 คู่ คาดว่าภายใน 1 ปี จะสร้างมูลค่าการค้ากว่า 23 ล้านบาท นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมแบรนด์ไทยสู่สากล หรือ Thai Brand Fest’22 ซึ่งกรมดำเนินการตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ในการช่วยผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs และ Micro SMEs พัฒนาศักยภาพและการตลาดผ่านช่องทางการค้ารูปแบบใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยให้เป็น 1 ใน 5 ของเอเชียภายในปี 2570 กิจกรรมนี้ต่อเนื่องมาจากที่ กรมได้นำสินค้าตัวอย่างของผู้ประกอบการไทย 20 บริษัท จากโครงการ IDEA LAB สมาชิก T Mark รวมถึงผู้ประกอบการอื่นๆ ที่มีสินค้าศักยภาพเหมาะกับตลาดอินเดีย ไปจัดนิทรรศการแบรนด์ไทย (Thai Fiesta) ณ ห้างสรรพสินค้า JIO WORLD DRIVE เมืองมุมไบ อินเดีย เมื่อวันที่ 19-26 สิงหาคม 2565 ซึ่งมีผู้บริโภคและนักธุรกิจอินเดียให้ความสนใจในนิทรรศการดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยมีนักธุรกิจอินเดีย จำนวน 11 ราย ที่ขอลงนัดหมายเจรจาการค้าออนไลน์กับผู้ประกอบการไทยในช่วงระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา เกิดคู่นัดหมายทั้งสิ้น 36 คู่ และเจรจาสำเร็จ 34 คู่ คาดการณ์ว่าจะเกิดมูลค่าการค้าภายใน 1 ปี 680,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23.8 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ 35 บาท) สำหรับสินค้าแบรนด์ไทยที่ได้รับความสนใจสูงสุด คือ สินค้าในกลุ่มเกษตรและอาหาร (Agricultural and Food Products) อาทิ ผงผักโรยข้าว ผงปรุงรสจากผัก และผงผักห้าสีแบรนด์ LEAFIA (ลีฟเฟีย) ผลิตภัณฑ์แพลนท์เบสซีฟู้ดแบรนด์ MANTRA (มันตรา) และเครื่องปรุงอาหาร พริกแกงสำเร็จรูปของห้างหุ้นส่วนจำกัด ไบรท์ไทม อินเตอร์เทรด เป็นต้น กลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจรองลงมา คือ กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ และสินค้าหัตถกรรม (Lifestyle and Handicraft Products) อย่างไรก็ตาม กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และตอกย้ำความมีคุณภาพของสินค้าแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค นักธุรกิจอินเดียมากยิ่งขึ้น ขยายฐานการรับรู้สินค้าแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าแบรนด์ไทยจากโครงการ IDEA LAB และสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในกลุ่มผู้บริโภคและนักธุรกิจอินเดียที่ยอมรับในคุณภาพสินค้าและบริการไทยอยู่แล้วให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ทำให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและจดจำอย่างแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลให้แบรนด์ไทยสามารถเข้าสู่ตลาดอินเดียได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในอนาคต