Recent Posts

Pages: 1 [2] 3 4 ... 10
11
Maison Berger Paris มอบความหอมสำหรับบ้านอย่างเหนือระดับ กับข้อเสนอสุดพิเศษส่งท้ายปี


             เติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์จาก Maison Berger Paris แบรนด์เครื่องหอมสำหรับบ้านระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศส ที่มอบข้อเสนอสุดพิเศษงบนช่องทางออนไลน์ ให้เลือกสรรทั้งเพื่อตัวคุณเองและเป็นของขวัญให้คนที่คุณรักในฤดูกาลนี้


             ตะเกียงน้ำหอมคัดสรรมาเป็นพิเศษ 4 คอลเลกชัน ในราคาพิเศษเพียง 2,350 บาท ให้คุณประหยัดไปได้ถึง 1,600-2,000 บาท เพิ่มศิลปะให้บ้านคุณด้วยตะเกียงน้ำหอมดีไซน์ไอคอนิกจากคอลเลกชันยอดนิยม ได้แก่ คอลเลกชัน Matali, Molecule, Astral และ Gravity

             พิเศษเมื่อซื้อน้ำหอมสำหรับเติมตะเกียง ขนาด 500 มิลลิลิตร จำนวน 2 ขวด รับฟรีอีก 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร (มูลค่า 873 บาท) กลิ่น Cinnamon Festive, Winter Joy หรือ Candy Apple โดยเลือกกลิ่นใดกลิ่นหนึ่ง

             ชุดเซ็ตก้านกระจายความหอมในกลุ่มคอลเลกชัน Aroma ราคาพิเศษ 1,850 บาท (จากปกติ 3,225 บาท ประหยัดไปได้ถึง 1,375 บาท) พร้อมน้ำหอมรีฟิล ขนาด 200 มิลลิลิตร ให้คุณเติมเสน่ห์ให้ทุกห้องของบ้าน ด้วยกลิ่นหอมผ่อนคลายและดีไซน์เรียบหรูในราคาสุดคุ้ม

             ชุดคอลเลกชัน Mini Duo เหมาะกับเป็นเซ็ตของขวัญที่มีทั้งก้านกระจายความหอมและเทียนหอมคู่กัน ราคาพิเศษ 1,350 บาท (จากปกติ 2,070 บาท ประหยัดไปได้ถึง 720 บาท)

             น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ ซื้อน้ำหอมเติม (Car Refill) 1 แถม 1 ได้ในกลิ่น Zest of Verbena, Oriental Star และ Amber Powder เพลิดเพลินกับการเดินทางในทุกเส้นทาง ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นที่คุณชื่นชอบ

             เลือกเครื่องหอมบ้าน Maison Berger Paris หลากหลายรูปแบบพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2568 ได้ที่

Facebook: MaisonBergerThailand
LINE: @maisonbergerthai
www.maisonbergerthailand.com
Lazada / Shopee / ShopSabuy / Tiktok
โทร. 02-672-2088
             
12
ผนึกกำลัง! สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ปล่อยคาราวานยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับจัดถุงยังชีพ รวมมูลค่า 1.7 ล้านบาท พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง ล่องใต้นำแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้




วันนี้ (วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ พร้อมด้วย คณะกรรมการ และผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมกับ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย นำโดย นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคม พันตำรวจเอก โกวิทย์ จิรชนานนท์ อุปนายก นายชุณห์ เลิศชัยประเสริฐ อุปนายก  จัดพิธีปล่อยคาราวานเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งได้รับบริจาคจากสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทยสำหรับจัดถุงยังชีพ  3,400 ชุด รวมมูลค่า 1,700,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน) บรรทุกรถเทรลเลอร์ รถบรรทุกมูลนิธิฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ และกำลังทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ออกเดินทางจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย มุ่งสู่ภาคใต้เพื่อนำแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้

พร้อมกันนี้ นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล ภริยานายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ จำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) โดยมี นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย







นับตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ส่งทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมอุปกรณ์ตอบโต้ภัยพิบัติ โรงครัวเคลื่อนที่ ถุงยังชีพฉุกเฉินและเสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที พร้อมระดมสรรพกำลัง พร้อมลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย มุ่งสู่ภาคใต้เพื่อบรรเทาทุกข์ต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป  อัปเดตข่าวสาร กิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung







มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สละแรงกาย แรงใจ  สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ  ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ แผนกบริจาคสัมพันธ์ **  การช่วยเหลือมูลนิธิฯ จะไม่มีการเรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตั้งอยู่ที่พลับพลาไชย ตรงเยาวราช ไม่มีสาขาที่ใด และไม่มีนโยบายส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเดินเรี่ยไรตามบ้านหรือสถานที่อื่นๆ กรุณาอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง ยกเว้นจะมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปรับบริจาคเท่านั้น **

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##


13
ไร้สังกัด / สวัสดี
« Last post by happy on December 13, 2025, 09:54:37 PM »
WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition แลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ จ.ระยอง
ชวนให้สัมผัสกับพลังแห่งดอกไม้แบบ 4 มิติ เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้ จองบัตรเข้าชมได้ทาง Zipevent




นิทรรศการพลังแห่งดอกไม้ WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition แลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดระยอง ที่จะทำให้ดอกไม้ในใจคุณกลับมาผลิบานอีกครั้ง ให้ทุกก้าวของคุณได้สัมผัสพลังอันอ่อนโยนแต่ทรงอานุภาพของดอกไม้นานาชนิด ผ่านประสบการณ์ 4 มิติ – แสง สี เสียง และกลิ่น พร้อมปลุกทุกความรู้สึกให้กลับมา สดชื่น อ่อนโยน อบอุ่นและเติมพลังให้หัวใจแข็งแรงกว่าเดิมอีกครั้ง เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้ ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10:00 – 20:00 น. จองบัตรได้ที่ Zipevent




WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition จัดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม 2568 ถึง มิถุนายน 2569 เล่าเรื่องราวผ่าน 3 ธีมหลัก ของพลังแห่งดอกไม้

1.   Hope Theme – ดอกไม้แห่งความหวัง เหมือนแสงยามเช้า…ที่ค่อย ๆ ปลุกหัวใจให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
2.   Heart Theme – ดอกไม้แห่งความรัก อบอุ่นจากดอกไม้ที่โอบกอด…พาคุณสัมผัสความรักที่ไร้เงื่อนไข ลึกซึ้งกว่าที่เคย
3.   Heal Theme – ดอกไม้แห่งการเยียวยา ให้ใจได้พัก…เพื่อกลับมาผลิบานใหม่อย่างงดงามยิ่งกว่าเดิม





พร้อมนำทางโดย “น้อง Hug” มาสคอตดอกเดซี่สุดน่าฮัก ที่คอยส่งต่อความอบอุ่น พาคุณ “หลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง” ที่จะทำให้หัวใจเบ่งบานขึ้นอีกครั้ง

Hope Theme: When Flowers Bring Hope ดอกไม้แห่งความหวัง เมื่อดอกไม้นำพาความหวังกลับคืนมา เหมือนแสงเช้าวันใหม่…ค่อยๆ ลอดผ่านกลีบดอกไม้โทนสี เหลือง–ทองอ่อน อุ่นใจเหมือนแสงอาทิตย์แรกของวัน แสงอ่อนค่อย ๆ เคลื่อนไหว ปลุกหัวใจที่อ่อนล้าให้กลับมาสดใส กลิ่นดอกไม้หอมละมุน ประหนึ่งเสียงกระซิบจากธรรมชาติว่า “วันนี้…คุณเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว”




11 ไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาด

1. Seeds of Future – เมล็ดพันธุ์สู่การเติบโต เคาน์เตอร์รูปกระถางต้นอ่อน สัญลักษณ์ของการลงมือ “ปลูกความหวัง” ในชีวิต
   
2. Light of Hope – อุโมงค์ดอกไม้อัศจรรย์ เดินเข้าสู่นิทรรศการผ่านอุโมงค์ไม้ไผ่ที่บิดเกลียวอย่างงดงาม ปลายทางคือแสงแรกของความหวัง…ที่พร้อมโอบรับคุณอย่างอ่อนโยน
   
3. Bug Eye View – โลกในมุมมองของแมลง ยืน ณ จุดชมวิวแรก เสมือนโบยบินอยู่เหนือมวลดอกไม้ในป่าใหญ่





4. Hope Garden – อ้อมกอดของดอกไม้ พื้นที่ดีไซน์เป็น “รังนก” ที่อ่อนโยนซ้อนล้อมรอบตัวผู้มาเยือน สื่อถึงรังที่อบอุ่นให้กำลังใจและความสดใสเพื่อเป็นจุดเริ่มใหม่ของชีวิต
 
5. Tree of Hope – ต้นไม้แห่งความหวัง ต้นไม้ยักษ์แห่งจิตวิญญาณ ศูนย์กลางของนิทรรศการ ที่ออกแบบเพื่อถ่ายทอดพลังของ ความหวัง กลีบดอกและแสงสีบนพุ่มไม้จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นโทน เหลือง–ทองอบอุ่น เหมือนแสงเช้าวันใหม่ที่ค่อย ๆ ปลุกหัวใจให้กลับมามีพลังอีกครั้งต้นไม้จะ “พูด” กับผู้มาเยือนผ่านภาพฉายบนพุ่มไม้ยักษ์ และการเคลื่อนไหวของแสง เสมือนธรรมชาติกำลังกระซิบว่า “วันนี้…คุณเริ่มใหม่ได้”
     
6. Children’s Dream – ปลุกความฝันในวัยเด็ก ดอกไม้ที่โค้งเรียงกันเป็นวาฬยักษ์ สัญลักษณ์แห่งจินตนาการ และความฝันที่ไร้ขอบเขต เชิญชวนให้เราย้อนกลับไปแตะเสียงของความฝันในวัยเด็ก ปลุกให้มันกลับมาหายใจอีกครั้ง… และเติบโตเป็นความจริงในวันนี้





7. Blooming Horizon – ของขวัญจากพระเจ้า Immersive Room ที่ออกแบบเหมือนกล่องของขวัญซ้อนกัน พร้อมกระจกหลายด้าน ให้คุณเห็น “ความงามในแบบของตัวเอง” สะท้อนออกมาอย่างมั่นใจ และงดงามในแบบที่เป็นคุณ
 
8. The Power of Flower Show – Immersive Motion Mapping เดินทางผ่าน 3 ซีซั่น พลังแห่งดอกไม้ Hope – Heart – Heal แสง สี เสียง และกลิ่นหอมละมุน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 3 มุมมองของฤดูกาลแห่งดอกไม้ - Hope, Heart, Heal ให้คุณได้สัมผัสความหมายที่ซ่อนอยู่… พร้อมปลุกหัวใจให้ผลิบานอย่างไม่รู้โรย
 
9. Immersive Art Room – นิทรรศการดิจิตอล 360° ก้าวเข้าสู่มิติใหม่ของพรรณไม้ ผ่านประสบการณ์ภาพและเสียงแบบ 360 องศา ราวกับเดินอยู่ในความคิดของธรรมชาติ ที่กำลังออกแบบ “ดอกไม้ของวันพรุ่งนี้” ดอกไม้ที่ไม่ได้บานแค่ในวันนี้…แต่บานในจินตนาการ เพื่อรอวันที่คุณพร้อมจะมองเห็นมัน





10. Flower Art & Craft Workshop – สร้างชิ้นงานแห่งแรงบันดาลใจกลับบ้าน ร่วมลงมือสร้างงานศิลปะจากดอกไม้ ที่สะท้อนพลังในหัวใจของคุณ เพื่อเก็บความรู้สึกแห่งการผลิบานกลับไปดูแลต่อ…
     
11. Harumiki House - คาเฟ่สตรอว์เบอร์รีญี่ปุ่น หอม หวาน สดชื่นทุกคำ สตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ พร้อมเสิร์ฟ ความหอม ฉ่ำ จากฟาร์มสู่เมนูพิเศษ ให้คุณ "ชอป ชม ชิม" เลือกของฝากสุดน่ารัก เพลิดเพลินกับบรรยากาศอบอุ่น และ ลิ้มรสความสุขในทุกคำ





WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้

●   เปิดเข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
●   เวลา 10:00 – 20:00 น.
●   ณ WONDARA อาคารพัฒนานิทัศน์ (ภายในสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ) จ.ระยอง
Google Map:
https://maps.app.goo.gl/Hu1xnQtydLQctsURA?g_st=ipc
●   ราคาบัตรเข้าชม
• วันธรรมดา 120 บาท
• เสาร์–อาทิตย์ / วันหยุดนักขัตฤกษ์ 150 บาท
●   จองบัตรได้ทาง Zipevent :
https://www.zipeventapp.com/e/WONDARA-EXHIBITION
●   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : Facebook / TikTok / IG : WONDARA   

#WONDARA #thepowerofflower #ImmersiveExhibition #แลนด์มาร์กแห่งใหม่ระยอง
14
WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition แลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ จ.ระยอง
ชวนให้สัมผัสกับพลังแห่งดอกไม้แบบ 4 มิติ เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้ จองบัตรเข้าชมได้ทาง Zipevent






นิทรรศการพลังแห่งดอกไม้ WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition แลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดระยอง ที่จะทำให้ดอกไม้ในใจคุณกลับมาผลิบานอีกครั้ง ให้ทุกก้าวของคุณได้สัมผัสพลังอันอ่อนโยนแต่ทรงอานุภาพของดอกไม้นานาชนิด ผ่านประสบการณ์ 4 มิติ – แสง สี เสียง และกลิ่น พร้อมปลุกทุกความรู้สึกให้กลับมา สดชื่น อ่อนโยน อบอุ่นและเติมพลังให้หัวใจแข็งแรงกว่าเดิมอีกครั้ง เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้ ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10:00 – 20:00 น. จองบัตรได้ที่ Zipevent




WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition จัดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม 2568 ถึง มิถุนายน 2569 เล่าเรื่องราวผ่าน 3 ธีมหลัก ของพลังแห่งดอกไม้

1.   Hope Theme – ดอกไม้แห่งความหวัง เหมือนแสงยามเช้า…ที่ค่อย ๆ ปลุกหัวใจให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
2.   Heart Theme – ดอกไม้แห่งความรัก อบอุ่นจากดอกไม้ที่โอบกอด…พาคุณสัมผัสความรักที่ไร้เงื่อนไข ลึกซึ้งกว่าที่เคย
3.   Heal Theme – ดอกไม้แห่งการเยียวยา ให้ใจได้พัก…เพื่อกลับมาผลิบานใหม่อย่างงดงามยิ่งกว่าเดิม





พร้อมนำทางโดย “น้อง Hug” มาสคอตดอกเดซี่สุดน่าฮัก ที่คอยส่งต่อความอบอุ่น พาคุณ “หลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง” ที่จะทำให้หัวใจเบ่งบานขึ้นอีกครั้ง

Hope Theme: When Flowers Bring Hope ดอกไม้แห่งความหวัง เมื่อดอกไม้นำพาความหวังกลับคืนมา เหมือนแสงเช้าวันใหม่…ค่อยๆ ลอดผ่านกลีบดอกไม้โทนสี เหลือง–ทองอ่อน อุ่นใจเหมือนแสงอาทิตย์แรกของวัน แสงอ่อนค่อย ๆ เคลื่อนไหว ปลุกหัวใจที่อ่อนล้าให้กลับมาสดใส กลิ่นดอกไม้หอมละมุน ประหนึ่งเสียงกระซิบจากธรรมชาติว่า “วันนี้…คุณเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว”




11 ไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาด

1. Seeds of Future – เมล็ดพันธุ์สู่การเติบโต เคาน์เตอร์รูปกระถางต้นอ่อน สัญลักษณ์ของการลงมือ “ปลูกความหวัง” ในชีวิต
   
2. Light of Hope – อุโมงค์ดอกไม้อัศจรรย์ เดินเข้าสู่นิทรรศการผ่านอุโมงค์ไม้ไผ่ที่บิดเกลียวอย่างงดงาม ปลายทางคือแสงแรกของความหวัง…ที่พร้อมโอบรับคุณอย่างอ่อนโยน
   
3. Bug Eye View – โลกในมุมมองของแมลง ยืน ณ จุดชมวิวแรก เสมือนโบยบินอยู่เหนือมวลดอกไม้ในป่าใหญ่





4. Hope Garden – อ้อมกอดของดอกไม้ พื้นที่ดีไซน์เป็น “รังนก” ที่อ่อนโยนซ้อนล้อมรอบตัวผู้มาเยือน สื่อถึงรังที่อบอุ่นให้กำลังใจและความสดใสเพื่อเป็นจุดเริ่มใหม่ของชีวิต
 
5. Tree of Hope – ต้นไม้แห่งความหวัง ต้นไม้ยักษ์แห่งจิตวิญญาณ ศูนย์กลางของนิทรรศการ ที่ออกแบบเพื่อถ่ายทอดพลังของ ความหวัง กลีบดอกและแสงสีบนพุ่มไม้จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นโทน เหลือง–ทองอบอุ่น เหมือนแสงเช้าวันใหม่ที่ค่อย ๆ ปลุกหัวใจให้กลับมามีพลังอีกครั้งต้นไม้จะ “พูด” กับผู้มาเยือนผ่านภาพฉายบนพุ่มไม้ยักษ์ และการเคลื่อนไหวของแสง เสมือนธรรมชาติกำลังกระซิบว่า “วันนี้…คุณเริ่มใหม่ได้”
     
6. Children’s Dream – ปลุกความฝันในวัยเด็ก ดอกไม้ที่โค้งเรียงกันเป็นวาฬยักษ์ สัญลักษณ์แห่งจินตนาการ และความฝันที่ไร้ขอบเขต เชิญชวนให้เราย้อนกลับไปแตะเสียงของความฝันในวัยเด็ก ปลุกให้มันกลับมาหายใจอีกครั้ง… และเติบโตเป็นความจริงในวันนี้





7. Blooming Horizon – ของขวัญจากพระเจ้า Immersive Room ที่ออกแบบเหมือนกล่องของขวัญซ้อนกัน พร้อมกระจกหลายด้าน ให้คุณเห็น “ความงามในแบบของตัวเอง” สะท้อนออกมาอย่างมั่นใจ และงดงามในแบบที่เป็นคุณ
 
8. The Power of Flower Show – Immersive Motion Mapping เดินทางผ่าน 3 ซีซั่น พลังแห่งดอกไม้ Hope – Heart – Heal แสง สี เสียง และกลิ่นหอมละมุน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 3 มุมมองของฤดูกาลแห่งดอกไม้ - Hope, Heart, Heal ให้คุณได้สัมผัสความหมายที่ซ่อนอยู่… พร้อมปลุกหัวใจให้ผลิบานอย่างไม่รู้โรย
 
9. Immersive Art Room – นิทรรศการดิจิตอล 360° ก้าวเข้าสู่มิติใหม่ของพรรณไม้ ผ่านประสบการณ์ภาพและเสียงแบบ 360 องศา ราวกับเดินอยู่ในความคิดของธรรมชาติ ที่กำลังออกแบบ “ดอกไม้ของวันพรุ่งนี้” ดอกไม้ที่ไม่ได้บานแค่ในวันนี้…แต่บานในจินตนาการ เพื่อรอวันที่คุณพร้อมจะมองเห็นมัน





10. Flower Art & Craft Workshop – สร้างชิ้นงานแห่งแรงบันดาลใจกลับบ้าน ร่วมลงมือสร้างงานศิลปะจากดอกไม้ ที่สะท้อนพลังในหัวใจของคุณ เพื่อเก็บความรู้สึกแห่งการผลิบานกลับไปดูแลต่อ…
     
11. Harumiki House - คาเฟ่สตรอว์เบอร์รีญี่ปุ่น หอม หวาน สดชื่นทุกคำ สตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ พร้อมเสิร์ฟ ความหอม ฉ่ำ จากฟาร์มสู่เมนูพิเศษ ให้คุณ "ชอป ชม ชิม" เลือกของฝากสุดน่ารัก เพลิดเพลินกับบรรยากาศอบอุ่น และ ลิ้มรสความสุขในทุกคำ





WONDARA – The Power of Flower – Immersive Exhibition เปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้

●   เปิดเข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
●   เวลา 10:00 – 20:00 น.
●   ณ WONDARA อาคารพัฒนานิทัศน์ (ภายในสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ) จ.ระยอง
Google Map:
https://maps.app.goo.gl/Hu1xnQtydLQctsURA?g_st=ipc
●   ราคาบัตรเข้าชม
• วันธรรมดา 120 บาท
• เสาร์–อาทิตย์ / วันหยุดนักขัตฤกษ์ 150 บาท
●   จองบัตรได้ทาง Zipevent :
https://www.zipeventapp.com/e/WONDARA-EXHIBITION
●   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : Facebook / TikTok / IG : WONDARA   

#WONDARA #thepowerofflower #ImmersiveExhibition #แลนด์มาร์กแห่งใหม่ระยอง
15
สจล. เปิดตัว “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา”
ปักหมุดผลิตกำลังคนสายเทคโนโลยีรองรับ EEC


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัว “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” พร้อมเดินหน้าปักหมุดศูนย์กลางการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รองรับการเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมยกระดับพื้นที่บางกรูดสู่เมืองอัจฉริยะและฐานการเรียนรู้แห่งใหม่ของภูมิภาคตะวันออก โดยได้รับเกียรติจากดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เกียรติกล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมและความร่วมมือ, ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ได้เข้าร่วมแสดงความยินดี, รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวรายงานการจัดตั้งโครงการ,  ร่วมด้วย ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและผู้นำชุมชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง และภายในงานยังจัดให้มีเสวนา “ KMITL ฉะเชิงเทรา: ศูนย์กลางเทคโนโลยีขั้นสูงและกำลังคนคุณภาพสูงของภาคตะวันออก ซึ่งจัดขึ้น ณ สจล. วิทยาเขตฉะเชิงเทรา และ ศาลาอเนกประสงค์ วัดผาณิตาราม ตำบลบางกรูด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา


ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า การเปิดตัว “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” เป็นความร่วมมือระหว่าง สจล.และโรงเรียนผาณิตวิทยา ตำบลบางกรูด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งที่หารือถึงแนวทางพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน โดยได้แรงสนับสนุนจากชุมชนที่พร้อมร่วมมือและสนับสนุน สจล. ในการยกระดับการศึกษาในตำบลบางกรูด โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันเห็นชอบให้ สจล. เข้ามาพัฒนาพื้นที่โรงเรียนผาณิตวิทยา รวมถึงสนับสนุนหลักการขับเคลื่อนคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก และการจัดตั้งเป็นวิทยาเขต สจล. ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกันชุมชนยังได้ร่วมมอบที่ดินเพื่อใช้ในการพัฒนาพื้นที่ เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และต้องการมีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาจังหวัด ส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรายืนยันจะเร่งรัดขั้นตอนให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของ สจล. ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาและแก้ไขข้อห่วงใยต่าง ๆ เช่น ประเด็นผังเมือง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายได้อย่างราบรื่นในอนาคต


รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะความร่วมมือกับโรงเรียนผาณิตวิทยาในการจัดตั้ง “ศูนย์เตรียมวิศวกรรมผาณิตวิทยา” เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบและศูนย์สร้างแรงงานแห่งอนาคต นอกจากนี้ สจล. ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายสำคัญ อาทิ มูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนาสถาบันพัฒนาทักษะดิจิทัลและนวัตกรรม (iMake) และภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) ให้แก่ครูและนักเรียนในพื้นที่ ผ่านหลักสูตรพัฒนาทักษะใหม่ ทั้งในด้าน Upskill -  Reskill มุ่งสร้างกำลังคนสมรรถนะสูง รองรับการยกระดับสู่ Smart EEC


รวมทั้ง ภารกิจสำคัญของสถาบันอีกประการ คือ การพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Education การจัดทำแผนแม่บทดิจิทัลให้หน่วยงานภาครัฐ การดำเนินโครงการระบบแพทย์ฉุกเฉินร่วมกับ สพฉ. การสร้างศูนย์เทคโนโลยีโรงเรียนวัดผาณิตาราม การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อภาครัฐและอุตสาหกรรมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเพื่อพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน ตลอดจนการพัฒนาศูนย์ Wellness Center นอกจากนี้ ยังเปิดสอนหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา (CIIM) ได้แก่ Master of Management (Innovation & Industrial Management), Master of Science (Innovation Technology & Industry) และ Ph.D. in Innovation & Industrial Management เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองและภาคอุตสาหกรรมภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC รวมทั้งพร้อมเปิดหลักสูตร Upskill - Reskill ที่ครอบคลุมทั้งภาคชุมชนและอุตสาหกรรม เพื่อสร้างกำลังคนสมรรถนะสูงสู่ Smart EEC และรองรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเตรียมเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นเพื่อพัฒนาวิศวกรและบุคลากรด้านเทคโนโลยี รวมถึงการอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนและภาคการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นหลักสูตรที่ทันต่อความต้องการของโลกและยุทธศาสตร์ประเทศอย่างแท้จริง ได้แก่ Data Center Engineering หลักสูตรสำหรับวิศวกรและผู้ที่สนใจด้านการบริหารจัดการ ออกแบบ และบำรุงรักษา ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยุคดิจิทัล และ OT Cybersecurity for Industrial 5.0 การพัฒนาทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับระบบควบคุมปฏิบัติการ (Operational Technology: OT) ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในยุคอุตสาหกรรม 5.0 ที่มีการเชื่อมโยงระหว่างคน เครื่องจักร และข้อมูลอย่างซับซ้อน


ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า นโยบายสำคัญภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC คือการผลักดันความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อยกระดับการพัฒนาคนทุกระดับ โดยเฉพาะแรงงานกว่า 551,378 คน ในจังหวัดฉะเชิงเทราที่ต้องการการพัฒนาทักษะให้สอดรับกับภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพื่อขยายศักยภาพด้านการศึกษา การวิจัย และการสร้างนวัตกรรมให้เชื่อมโยงกับแผนงานการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ต่อยอดให้เกิดพื้นที่การเรียนรู้ แลกเปลี่ยน ทดลอง และสาธิตเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนเป็นฐานทางวิชาการที่ตอบโจทย์ความต้องการของท้องถิ่นอย่างแท้จริง


ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราได้จัดทำร่างแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยกำหนดพื้นที่นำร่อง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกง พร้อมระบุ 7 ระบบอัจฉริยะ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม พลังงาน เศรษฐกิจ การบริหารภาครัฐ การเดินทางและขนส่ง พลเมือง และการดำรงชีวิต เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน




การพัฒนาอุตสาหกรรม EEC ได้กำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ครอบคลุม 5 อุตสาหกรรม First S - curve และ 5 อุตสาหกรรม New S - curve อาทิ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ ท่าเรือแหลมฉบัง อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารสมัยใหม่ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในอนาคต




นายกฤษณ ไทยดำรงค์ นายกสมาคมศิษย์เก่า สจล. กล่าวว่า สมาคมศิษย์เก่า สจล. เป็นอีกหนึ่งสมาคมที่มีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะสนับสนุน ส่งเสริม และช่วยผลักดันในเกิดความร่วมมือระหว่าง สจล. กับจังหวัดฉะเชิงเทรา และชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งในการมอบที่ดินในการสำหรับ “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” เพราะได้เล็งเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อน ECC ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา และภาคตะวันออกต่อไป

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ สจล. ได้ที่ https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ www.kmitl.ac.th สอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 329 8000
16
สจล. เปิดตัว “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา”
ปักหมุดผลิตกำลังคนสายเทคโนโลยีรองรับ EEC


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัว “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” พร้อมเดินหน้าปักหมุดศูนย์กลางการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รองรับการเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมยกระดับพื้นที่บางกรูดสู่เมืองอัจฉริยะและฐานการเรียนรู้แห่งใหม่ของภูมิภาคตะวันออก โดยได้รับเกียรติจากดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เกียรติกล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมและความร่วมมือ, ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ได้เข้าร่วมแสดงความยินดี, รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวรายงานการจัดตั้งโครงการ,  ร่วมด้วย ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและผู้นำชุมชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง และภายในงานยังจัดให้มีเสวนา “ KMITL ฉะเชิงเทรา: ศูนย์กลางเทคโนโลยีขั้นสูงและกำลังคนคุณภาพสูงของภาคตะวันออก ซึ่งจัดขึ้น ณ สจล. วิทยาเขตฉะเชิงเทรา และ ศาลาอเนกประสงค์ วัดผาณิตาราม ตำบลบางกรูด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า การเปิดตัว “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” เป็นความร่วมมือระหว่าง สจล.และโรงเรียนผาณิตวิทยา ตำบลบางกรูด อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งที่หารือถึงแนวทางพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน โดยได้แรงสนับสนุนจากชุมชนที่พร้อมร่วมมือและสนับสนุน สจล. ในการยกระดับการศึกษาในตำบลบางกรูด โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันเห็นชอบให้ สจล. เข้ามาพัฒนาพื้นที่โรงเรียนผาณิตวิทยา รวมถึงสนับสนุนหลักการขับเคลื่อนคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก และการจัดตั้งเป็นวิทยาเขต สจล. ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกันชุมชนยังได้ร่วมมอบที่ดินเพื่อใช้ในการพัฒนาพื้นที่ เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และต้องการมีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาจังหวัด ส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรายืนยันจะเร่งรัดขั้นตอนให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของ สจล. ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาและแก้ไขข้อห่วงใยต่าง ๆ เช่น ประเด็นผังเมือง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายได้อย่างราบรื่นในอนาคต

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะความร่วมมือกับโรงเรียนผาณิตวิทยาในการจัดตั้ง “ศูนย์เตรียมวิศวกรรมผาณิตวิทยา” เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบและศูนย์สร้างแรงงานแห่งอนาคต นอกจากนี้ สจล. ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายสำคัญ อาทิ มูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนาสถาบันพัฒนาทักษะดิจิทัลและนวัตกรรม (iMake) และภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) ให้แก่ครูและนักเรียนในพื้นที่ ผ่านหลักสูตรพัฒนาทักษะใหม่ ทั้งในด้าน Upskill -  Reskill มุ่งสร้างกำลังคนสมรรถนะสูง รองรับการยกระดับสู่ Smart EEC

รวมทั้ง ภารกิจสำคัญของสถาบันอีกประการ คือ การพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Education การจัดทำแผนแม่บทดิจิทัลให้หน่วยงานภาครัฐ การดำเนินโครงการระบบแพทย์ฉุกเฉินร่วมกับ สพฉ. การสร้างศูนย์เทคโนโลยีโรงเรียนวัดผาณิตาราม การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อภาครัฐและอุตสาหกรรมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเพื่อพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน ตลอดจนการพัฒนาศูนย์ Wellness Center นอกจากนี้ ยังเปิดสอนหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา (CIIM) ได้แก่ Master of Management (Innovation & Industrial Management), Master of Science (Innovation Technology & Industry) และ Ph.D. in Innovation & Industrial Management เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองและภาคอุตสาหกรรมภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC รวมทั้งพร้อมเปิดหลักสูตร Upskill - Reskill ที่ครอบคลุมทั้งภาคชุมชนและอุตสาหกรรม เพื่อสร้างกำลังคนสมรรถนะสูงสู่ Smart EEC และรองรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเตรียมเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นเพื่อพัฒนาวิศวกรและบุคลากรด้านเทคโนโลยี รวมถึงการอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนและภาคการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นหลักสูตรที่ทันต่อความต้องการของโลกและยุทธศาสตร์ประเทศอย่างแท้จริง ได้แก่ Data Center Engineering หลักสูตรสำหรับวิศวกรและผู้ที่สนใจด้านการบริหารจัดการ ออกแบบ และบำรุงรักษา ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยุคดิจิทัล และ OT Cybersecurity for Industrial 5.0 การพัฒนาทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับระบบควบคุมปฏิบัติการ (Operational Technology: OT) ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในยุคอุตสาหกรรม 5.0 ที่มีการเชื่อมโยงระหว่างคน เครื่องจักร และข้อมูลอย่างซับซ้อน

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า นโยบายสำคัญภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC คือการผลักดันความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อยกระดับการพัฒนาคนทุกระดับ โดยเฉพาะแรงงานกว่า 551,378 คน ในจังหวัดฉะเชิงเทราที่ต้องการการพัฒนาทักษะให้สอดรับกับภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพื่อขยายศักยภาพด้านการศึกษา การวิจัย และการสร้างนวัตกรรมให้เชื่อมโยงกับแผนงานการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ต่อยอดให้เกิดพื้นที่การเรียนรู้ แลกเปลี่ยน ทดลอง และสาธิตเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนเป็นฐานทางวิชาการที่ตอบโจทย์ความต้องการของท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราได้จัดทำร่างแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยกำหนดพื้นที่นำร่อง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกง พร้อมระบุ 7 ระบบอัจฉริยะ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม พลังงาน เศรษฐกิจ การบริหารภาครัฐ การเดินทางและขนส่ง พลเมือง และการดำรงชีวิต เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน

การพัฒนาอุตสาหกรรม EEC ได้กำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ครอบคลุม 5 อุตสาหกรรม First S - curve และ 5 อุตสาหกรรม New S - curve อาทิ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ ท่าเรือแหลมฉบัง อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารสมัยใหม่ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในอนาคต

นายกฤษณ ไทยดำรงค์ นายกสมาคมศิษย์เก่า สจล. กล่าวว่า สมาคมศิษย์เก่า สจล. เป็นอีกหนึ่งสมาคมที่มีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะสนับสนุน ส่งเสริม และช่วยผลักดันในเกิดความร่วมมือระหว่าง สจล. กับจังหวัดฉะเชิงเทรา และชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งในการมอบที่ดินในการสำหรับ “โครงการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” เพราะได้เล็งเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อน ECC ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา และภาคตะวันออกต่อไป

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ สจล. ได้ที่ https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ www.kmitl.ac.th สอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 329 8000
17
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจ บจก.คันทรีเฟรชแดรี่ มอบนมยูเอชที แก่ผู้ยากไร้
ในสถานสงเคราะห์ 5 จังหวัด รวม 27 แห่ง รวม 33,600 กล่อง





ระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ จัดทีมนักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพ เจ้าหน้าที่แผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ เจ้าหน้าที่แผนกบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ส่งมอบนมยูเอชที ที่ได้รับบริจาคจาก บริษัท คันทรีเฟรชแดรี่ จำกัด ให้กับสถานสงเคราะห์เด็กและเยาวชน ผู้พิการ คนชรา และคนไร้ที่พึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และนครปฐม รวม 27 แห่ง ประกอบด้วย สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี(ชายและหญิง) สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านเฟื่องฟ้า สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (ชายและหญิง) สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร บ้านพักเด็กและครอบครัว สถานสงเคราะห์เด็กบ้านตะวันใหม่ บ้านเด็กเร่ร่อน มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ มูลนิธิเด็กบ้านทานตะวัน มูลนิธิหลวงตาน้อย ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนสิรินธร ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก และบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร รวม 33,600 กล่อง โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เป็นผู้รับมอบ







มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สละแรงกาย แรงใจ  สมทบทุนงานสาธารณกุศล ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ  ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418








18
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทุ่มงบกว่า 26.2 ล้านบาท ส่งต่อธารน้ำใจ ต้านภัยหนาว ลงพื้นที่แจกจ่ายผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดารรวม 4 ภาค เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง




ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ห่วงใยผู้ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดาร มอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ นำโดย  นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน และนายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย และทีมบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปฏิบัติการ ลงพื้นที่ประสบภัยหนาวในถิ่นทุรกันดาร โดยแบ่งเป็น 5 สาย ครอบคลุมพื้นที่ 4 ภาค  ดังนี้ ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และ สุโขทัย ภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ เลย ขอนแก่น มหาสารคาม อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สกลนคร บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ภาคกลาง และภาคใต้ ได้แก่ กาญจนบุรีราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร เพื่อแจกจ่ายผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ผ้าห่มกันหนาว ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาล ปลาประป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนม ฯลฯ  รวมการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวทั้งสิ้น  4 ภาค 45 จังหวัด ผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภครวม 52,600 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 26,246,348 บาท (ยี่สิบหกล้านสองแสนสี่หมื่นหกพันสามร้อยสี่สิบแปดบาทถ้วน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง




โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริพร โอภาสวงศ์ และ นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์  อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่าย รวมทั้ง มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครร่วมลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรีในพื้นที่ประสบภัยหนาวรวม 10 จังหวัด ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ







โครงการแจกผ้าห่มกันหนาว มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมาไม่ต่ำกว่า 65 ปี โดยตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน





19
"ควิกแสบ" สร้างปรากฏการณ์วัยรุ่นประกาศผล
Quick Zabb Idol Contest 2025 Season 2 สุดยิ่งใหญ่


บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย จุดไฟให้วัยรุ่นลุกเป็นไฟอีกครั้ง กับการประกาศผล "Quick Zabb Idol Contest 2025 Season 2" เวทีเฟ้นหาไอดอลสายแซ่บที่ทั้งสวย เก่ง กล้า และมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว ซึ่งปีนี้จัดขึ้นอย่างคึกคัก ณ CDC BALLROOM พร้อมเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ตั้งแต่ต้นจนจบงาน


ไฮไลต์ของค่ำคืนสุดร้อนแรง คือการมอบรางวัลชนะเลิศให้กับ "น้องโฟนลิ้งค์ – สุวพิชชา สมบัติ" ที่คว้าตำแหน่งไปครองด้วยความมั่นใจเฉพาะตัว เสน่ห์สดใส และพลังบนเวทีที่สะกดทุกสายตา สำหรับรายชื่อผู้ได้รับรางวัลในลำดับต่าง ๆ มีดังนี้
- รองชนะเลิศอันดับ 1: "แตงกวา – ธัญญกมน ธนนนท์รัฐรวี"
- รองชนะเลิศอันดับ 2: "เนย – โยษิตา ชำนิไกล"
- รองชนะเลิศอันดับ 3: "วันหนึ่ง – นรีภัสร์ มาลัย"
- รองชนะเลิศอันดับ 4: "น้ำ – เบญจพร ศรีสมุทรนาค"
- รองชนะเลิศอันดับ 5: "เอิร์นนี่ – บุศรินทร์ แขขุนทด"



นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปควิกแสบ กล่าวถึงความสำเร็จในปีนี้ว่า "ควิกแสบเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทยเสมอ การจัด Quick Zabb Idol Contest ไม่ได้เป็นเพียงเวทีประกวด แต่เป็นพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้แสดงความสามารถ เปิดประสบการณ์ใหม่ และเรียนรู้การพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง ปีนี้ผู้เข้าร่วมทุกคนทำได้ดีมาก ทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ บุคลิกภาพ และการนำเสนอ เราภูมิใจในทุกก้าวของพวกเขา ไม่เฉพาะผู้ชนะ แต่รวมถึงทุกคนที่กล้าออกมาท้าทายตัวเอง และในฐานะแบรนด์ที่เติบโตมาคู่กับคนรุ่นใหม่ 'ควิกแสบ' จะยังคงสนับสนุนเยาวชนไทยให้ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคงต่อไป"


ด้าน "โฟนลิ้งค์ – สุวพิชชา สมบัติ" กล่าวว่า "ดีใจมากค่ะที่ได้รับตำแหน่งนี้ ต้องขอบคุณ ควิกแสบที่ให้โอกาส และขอบคุณทุกคนที่เชียร์ หนูจะตั้งใจพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นกว่านี้ และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นคนอื่น ๆ ที่มีความฝันเหมือนกันค่ะ"


นายยศสรัล กล่าวทิ้งท้ายว่า "ควิกแสบ ไม่ได้มองหาความแซ่บแค่บนเวที แต่มองหาพลังและไฟของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะก้าวไปสู่อนาคตของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ปีหน้าเราจะกลับมาพร้อมโปรเจกต์ที่ใหญ่กว่าเดิม ไฟแรงกว่าเดิม และสร้างพื้นที่ให้เยาวชนไทยได้ฉายแสงมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ"







20
เปิดแล้ว!! ร้านควิกเทอเรส สาขาที่ 6 บ้านแพ้ว สมุทรสาคร


นายวีระ นภาพฤกษ์ชาติ ผู้บริหาร บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า "ไวไวและควิกแสบ" เปิด ร้านควิกเทอเรส (Quick Terrace) สาขา 6 บ้านแพ้ว สมุทรสาคร มุ่งเน้นความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหาร ที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน ในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ (Food Retail) ซึ่งเป็นความพยายามของ ผู้บริหารทายาทรุ่นที่ 3 เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลาย โดยมีผู้บริหารไวไว GEN 3 นำโดย นายยศสรัล แต้มคงคา และ นายธีรเมธ เลาวานันท์พันธุ์ ร่วมงานด้วย ณ ร้านควิกเทอเรส ปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านแพ้ว สมุทรสาคร เมื่อเร็ว ๆ นี้
Pages: 1 [2] 3 4 ... 10