การออกแบบงานสร้าง
กอร์ดอน ชาน เผยว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ใน Mural ก็คือการคิดใหม่ทำใหม่ดินแดนในภาพวาด เพราะว่าในหนังเรื่องนี้มีความแตกต่างจากภาพของสวรรค์และนรกตามที่เคยเห็น ทีมงานต้องหนีให้ห่างจากแนวทางของหนังพีเรียดทั่วไป แต่พวกเขาก็ทิ้งทุกอย่างไม่ได้ โดยภาพในคอนเซ็ปท์ของ กอร์ดอน ชาน ก็เป็นเขาสีเขียวชอุ่ม ที่ท้องฟ้าประดับไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ดังนั้นการออกแบบก็จึงเริ่มด้วยคอนเซ็ปท์ของป่าบุปผชาติ
กอร์ดอน ชาน อธิบายถึงการออกแบบงานสร้างว่า "พวกเราต้องการสีสันเพื่อทำให้คนดูรู้สึกว่าทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ ในแต่ละช็อตพวกเรามีนักแสดงที่มีสีสันของเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้สีจึงมีความสำคัญ พวกเราหวังว่าคนดูจะรู้สึกถึงความอลังการ เมื่อได้เห็นอาณาจักรแห่งนี้ นี่คือสิ่งที่สำคัญเพราะป่าบุปผชาติหมายถึงสถานที่ที่รื่นรมณ์ที่สุดเท่าที่มนุษย์จินตนาการได้"
ก็เหมือนกับ กอร์ดอน ชาน การตามหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ Mural คือการหายุคสมัยมาอ้างอิง ซึ่งสุดท้ายแล้วเขาและผู้ออกแบบงานสร้าง ไซรัส โฮ ก็เลือกผลงานของกวี เถาหยวนหมิง ในยุคสมัยราชวงค์จินที่ชื่อ Peach Blossom Spring ที่อธิบายโลกของวิญญาณไว้อย่างชัดเจน ซึ่งก็ได้นำเอาสไตล์ผ่านเครื่องแต่งกายและการออกแบบตัวละคร รวมถึงเอฟเฟ็คพิเศษที่จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จ โลกแห่งวิญญาณพาคนดูเข้าไปใน เผิงไหล ด้วยภาพมุมสูง เทือกเขาเรียงรายอยู่ ภาพสะท้อนดั่งคริสตัลบนผืนน้ำ สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ท้องฟ้าทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่แปลกใจที่ผลงานการออกแบบใน Mural จะทำให้คนดูลืมโลกในปัจจุบันไป และอิ่มเอมไปกับความงามในโลกแห่งจินตนาการ
การแต่งหน้าและเครื่องแต่งกาย อู๋เป่าหลิง: สง่างามและโรแมนติก
อู๋เป่าหลิง ถือเป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายมือวางอันดับหนึ่งของฮ่องกง ได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards และรางวัลม้าทองคำมาแล้วนับไม่ถ้วน ผลงานของเธอไม่ว่าจะเป็น Green Snake, A Chinese Ghost Story 2 ในปี 2008 เธอได้ร่วมงานกับผู้กำกับ กอร์ดอน ชาน ในเรื่อง Painted Skin และก็กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในเรื่องนี้
กอร์ดอน ชาน รู้ว่าเธอเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่าองค์ประกอบที่เน้นหนักในเรื่องความงาม ความโรแมนติก และอลังการในการสร้างของเธอ ทั้งชุดสีเขียวของ หยานหนี่ ที่ถ่ายทอดถึงความเติบโตและความงามแบบผู้ใหญ่ ในขณะที่ ซุนหลี่ ก็แต่งในชุดสีขาว ซึ่งถือเป็นตัวแทนของความงามที่บริสุทธิ์และผุดผ่อง เจิ้งซวง ก็อยู่ในชุดสีน้ำแข็งที่สะท้อนแสงเหมือนเพชรที่แตะต้องไม่ได้ สีสันของเทพยดาแต่ละคนถือเป็นตัวแทนของจินตนาการที่เรามีกับความรู้สึกของสีนั้น
กอร์ดอน ชาน ได้พูดถึงแนวทางในการออกแบบเครื่องแต่งกายว่า "การออกแบบงานสร้างและเครื่องแต่งกายที่ดี ถือว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างผลกระทบให้กับคนดู ทั้งเรื่องทัศนคติและเรื่องราว ใน Mural ไม่มีเทพยดาองค์ในที่มีการออกแบบที่ซ้ำกัน เสน่ห์ของพวกเธอถ่ายทอดให้กับคนดูแตกต่างกัน ซึ่งก็ช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้กับหนังเรื่องนี้"
สัมภาษณ์ผู้กำกับ กอร์ดอน ชาน
รายละเอียดที่พิถีพิถันใน Mural เป็นสิ่งที่คุณต้องการทำตั้งแต่แรก หรือว่าเป็นทีมงานของคุณที่ช่วยกันคิดขึ้นมาระหว่างถ่ายทำ
จริงๆแล้วกระบวนการในการสร้างทั้งหมดมีการควบคุมกันเป็นระบบ ผมคิดทั้งหมดว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง และหลังจากผมกำหนดแนวทางแล้วว่าแต่ละส่วนควรไปในทิศทางไหน ทีมงานในแต่ละแผนกก็จะเจาะลงในรายละเอียดอีกที ทุกสิ่งทุกอย่างจึงถูกทำออกมาอย่างพิถีพิถันและงดงาม ผมย้ำเสมอว่าการทำหนังต้องมีความเป็นมืออาชีพ นั้นหมายถึงทีมงานในทุกตำแหน่งต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ควรมีคนพูดว่า "ถ้าพูดกำกับไม่สั่ง ฉันก็จะไม่ทำ" นี่คือโปรดักชั่นหนังใหญ่ ผมไม่สามารถลงไปควบคุมทั้งหมดได้ ผมต้องเชื่อใจพวกเขาในการเจาะลงในรายละเอียด
มีสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คมากมายใน Mural คุณมีความคิดเห็นยังไงกับการใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค
หลายคนคิดว่ายิ่งมีการใช้เอฟเฟ็คมากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าหนังของคุณจะยิ่งดีมากขึ้น ผมเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้น โดยเฉพาะหนังสเกลใหญ่ เมื่อพวกเขาต้องการสร้างโลกขึ้นมา พวกเขาก็มักคิดถึงการใช้ซีจีเสริมสร้างขึ้นมา มันก็อาจทำให้คนดูไม่มีความรู้สึกร่วม คุณมีนักแสดง แต่ไม่มีฉากหรืออุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจริง นักแสดงก็จะไม่รู้สึกว่าพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน ดังนั้นแนวทางที่ผมทำก็คือแนวทางที่มีค่าใช้จ่ายมากที่สุด เมื่อ Mural เล่าเรื่องในดินแดนแห่งเทพยดา เราก็จึงต้องการสถานที่เพื่อที่จะสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา และนอกเหนือไปจากสิ่งที่สามารถสร้างขึ้นมาได้ เราถึงค่อยใช้คอมพิวเตอร์เอฟเฟ็คในการเติมเต็ม และนั้นก็คือส่วนที่สำคัญของการใช้เอฟเฟ็คใน Mural
อะไรคือสิ่งที่พิเศษในการคัดเลือกนักแสดง คุณได้เห็นความแตกต่างของพวกเขาไหม
ผมขอพูดถึง ซุนหลี่ ก่อน พวกเราเคยร่วมงานกันมาแล้วใน Painted Skin ในตอนนั้นเธอยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เธอจะรู้สึกประหม่าตลอดเวลาระหว่างอยู่ในกองถ่าย แต่ในปัจจุบันเธอแสดงหนังมาหลายเรื่องแล้ว เธอเปลี่ยนไปในมิศทางที่ดีขึ้น ในขณะที่ผมไม่เคยร่วมงานกับ เติ้งเชา แต่เราก็ได้พูดคุยกันหลายครั้ง เพราะตัวละคร จูเสี่ยวเหลียน คือหัวใจของหนัง พวกเราช่วยกันพัฒนาตัวละครนี้ขึ้นมา สำหรับ หยานหนี่ ผมเป็นแฟนหนังของเธอตั้งแต่ได้ดูเรื่อง My Own Swordman เมื่อหลายปีที่แล้ว ผมต้องการให้เธอแสดงเป็นราชินี ซึ่งแตกต่างจากที่เธอเคยแสดงมาก่อน แต่เธอก็ตื่นเต้นที่จะได้รับโอกาสนี้ และ คอลลิน โจว ก็คือเป็นแอ็คชั่นสตาร์ที่สุดยอด แต่ผมก็หวังว่าผมได้ถ่ายทอดด้านที่ไม่เคยเห็นในตัวเขามาก่อน
คุณคิดว่าคนดูจะได้อะไรจาก Mural
ผมหวังว่าหลังจากได้ดู Mural คุณจะรู้สึกซาบซึ้งกับความสัมพันธ์ที่คุณกำลังมีหรือเคยมี ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่สมหวังหรือผิดหวัง ความสัมพันธ์ที่เคยเกิดขึ้นหรือว่าไม่ได้เริ่มต้น ผมหวังว่าคุณจะรู้สึกซาบซึ้งไปกับความรู้สึกที่ตัวละครมีแก่กันและกัน สังคมในปัจจุบันบอกว่าพวกเราขาดความรัก แต่ความรักระหว่างเรามักจะเกิดเรื่องผิดพลาด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น พวกเราทุกคนล้วนที่มีหัวใจที่ต้องการความรัก แต่ทำไมความสัมพันธ์ถึงสามารถล้มเหลวได้ ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะได้มอบมุมมองความรักที่ดี และให้เหตุผลว่าทำไมความรักถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
Mural เป็นหนังที่มีความพิเศษ มันเกี่ยวกับรักแท้ ความบริสุทธิ์ ความรักที่สมหวังและผิดหวัง และแรงตัณหาที่อันตราย หนังเรื่องนี้มีทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่หนังเรื่องนี้ต้องการบอกก็คือ อะไรคือความรัก ใน Painted Skin รักมีอำนาจเหนือทุกสิ่ง และสามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งมวลได้ แต่ใน Mural มันจะบอกคุณว่า ความรักมักมาพร้อมกับความเจ็บปวด และความรักก็มักมีราคาค่างวดเสมอ