Recent Posts

Pages: 1 ... 7 8 [9] 10
81
“คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” ปลื้มยอดขายทะลุเป้าสานต่อกระแส BANDAI CARD GAMES ฟีเวอร์! ดันยอดขายปี 2568 โตแรง 30% พร้อมขยายฐานผู้เล่นทั่วประเทศ พร้อมรุกหนักตลาด Modern Trade ปี 2569


            บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด (Kidz & Kitz) ผู้แทนจำหน่ายและผลิตการ์ดเกมลิขสิทธิ์แท้จากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับ บริษัท บันได จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เจ้าของลิขสิทธิ์การ์ดเกมชื่อดังระดับโลก “BANDAI CARD GAMES” เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ จัดงาน “BANDAI CARD GAMES Fest 25-26 in Bangkok” มหกรรมการแข่งขันการ์ดเกมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1–2 พฤศจิกายน 2568 ณ MCC Hall ชั้น 3 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ภายในงานจัดเต็มทั้งการแข่งขันการ์ดเกมระดับประเทศ และกิจกรรมพิเศษมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์สุดมันส์ให้เหล่าแฟนๆ การ์ดเกมได้
ร่วมสนุกอย่างใกล้ชิด



            นาย จรกฤตย์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด เปิดเผยว่า งาน “BANDAI CARD GAMES Fest 25-26 in Bangkok” ครั้งนี้ จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในประเทศไทย หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดเมื่อปลายปี 2566 โดยในครั้งนี้ ประเทศไทยยังคงเป็น 1 ใน 12 ประเทศเป้าหมายของ BANDAI CARD GAMES ในการทำการตลาดและการจัดงาน World Tour ด้วยกระแสตอบรับของแฟนๆ ทั้งผู้เล่นหน้าใหม่และผู้เล่นมืออาชีพที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 9,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ยอดจำหน่ายสินค้าการ์ดเกมในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีก่อนหน้าซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เป็นผลมาจากการขยายฐานผู้เล่นทั้งกลุ่มมือใหม่และมืออาชีพ รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มแฟนการ์ตูนที่เริ่มหันมาสนใจและทดลองเล่นการ์ดเกมมากขึ้น สะท้อนถึงศักยภาพและความนิยมของตลาดการ์ดเกมในไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง


            “การเริ่มทำตลาดของแบรนด์ BANDAI CARD GAMES ในประเทศไทย โดยเฉพาะการจัดงานอีเวนต์และการแข่งขันต่างๆ ส่งผลให้วงการการ์ดเกมกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งในกลุ่มนักเล่นเดิมและผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้องการสัมผัสความสนุกและประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมในงาน ซึ่งช่วยให้การ์ดเกมกลายเป็นสื่อกลางที่สร้างความสัมพันธ์และความสุขให้กับคนทุกวัย” นาย จรกฤตย์ กิจเลิศไพโรจน์ กล่าว


            นาย จรกฤตย์ กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมอีเวนต์ยังคงเป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาดของบริษัทฯ เพราะเป็นช่องทางที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงและวัดผลได้จริง ในปี 2569 บริษัทมีแผนจัดงานแข่งขันและกิจกรรมในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเช่นเคย ควบคู่ไปกับการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์และกิจกรรมสื่อสารแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานผู้เล่นในทุกกลุ่มอายุ โดยคาดว่าจะทำให้จำนวนผู้เล่นการ์ดเกมมืออาชีพเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีที่ผ่านมา


            พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงขยายร้าน Card Game Authorized Retailer สำหรับร้านจำหน่ายการ์ดเกมลิขสิทธิ์แท้ต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การซื้อและเล่นการ์ดเกมให้สนุกและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงการนำเข้าการ์ดเกมใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ซึ่งคาดว่าภายในปี 2569 จะมีร้านค้าพันธมิตรกว่า 100 ร้าน จากปัจจุบันที่มีประมาณ 60 ร้านทั่วประเทศ พร้อมการขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปยังกลุ่ม Modern Trade และ ร้านหนังสือ ต่อเนื่องจากปีก่อน เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง คาดว่าการขยายตัวดังกล่าวจะช่วยผลักดันยอดขายในปี 2569 เพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีที่ผ่านมา

            สำหรับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบการ์ดเกมทุกท่าน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ BANDAI CARD GAMES พร้อมสินค้าและกิจกรรมสนุกๆ เพิ่มเติม ได้ที่ www.facebook.com/thaicarddassclub
82
เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) ผนึกกำลัง เกียรตินาคินภัทร เปิดตัว “KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par)” ยกระดับการบริหารความมั่งคั่ง สร้างสมดุลชีวิตและมรดก


             เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) ผนึกกำลัง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par)” ประกันชีวิตที่ช่วยยกระดับการบริหารความมั่งคั่ง ด้วยการ “พลัส” อิสระทางการเงิน สร้างสมดุลให้ชีวิตและมรดก ชูจุดเด่นจ่ายเบี้ยสั้นเพียง 2 ปี รับความคุ้มครองสูงสุด 300% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยควบคู่ผลตอบแทนระยะยาวเป็นเงินคืนการันตี 3%ของจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปีแรกจนถึงอายุ 90 ปี พร้อมโอกาสรับเงินปันผลรายปีเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนชีวิตและแผนมรดกได้อย่างยืดหยุ่น ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจในวันนี้ และส่งต่อความมั่งคั่งให้คนที่รักได้อย่างมั่นคง


             นางสาวยุวดี งานทวีกิจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par) เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ของปีนี้ที่สะท้อนความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนและความคุ้มครองอย่างแท้จริง ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงและผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง ซึ่งเป็นการผสานคุณสมบัติของประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองระยะยาวเข้ากับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องและเติบโต เพราะลูกค้าไม่เพียงได้รับผลตอบแทนที่การันตีเท่านั้นแต่ยังมีโอกาสรับเงินปันผลที่ช่วยเสริมศักยภาพในการสร้างความมั่งคั่ง ภายใต้นโยบายการจัดสรรเงินปันผลอย่างมืออาชีพของบริษัทฯ ซึ่งแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบตลอดชีพทั่วไป ที่เน้นในเรื่องของความคุ้มครองเพื่อดูแลคนข้างหลังในวันที่ผู้เอาประกันภัยจากไป แต่ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ “พลัส” มากกว่าความคุ้มครอง แต่เป็นการมอบผลประโยชน์ให้กับลูกค้าในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกัน


             นางเกษรา เลียงชเยศ ประธานสายธนบดีธนกิจและหัวหน้าฝ่ายตลาดผลิตภัณฑ์การเงิน ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ความร่วมมือกับเจนเนอราลี่ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความตั้งใจของเราในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจรและมีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้า เรามองว่าการวางแผนมรดกไม่ใช่เพียงการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต แต่คือการสร้างอิสระให้ผู้วางแผนได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการในวันนี้ ขณะเดียวกันก็สามารถดูแลคนที่รักในระยะยาวได้อย่างมั่นใจ ผลิตภัณฑ์ KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par) ถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าทำทั้งสองสิ่งนี้ได้พร้อมกัน ใช้ชีวิตได้เต็มที่ และส่งต่อคุณค่าที่สำคัญที่สุดอย่างมีแบบแผน เราเชื่อว่า KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par) จะเป็นอีกก้าวสำคัญของการยกระดับการวางแผนทางการเงินและมรดกในประเทศไทย

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par)

•     การันตีเงินคืนระหว่างสัญญา 3%ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทุกปี ตั้งแต่ปีแรกที่ทำประกัน จนถึงอายุ 90 ปี โดยไม่ถูกหักภาษี
•   ชำระเบี้ยสั้นเพียง 2 ปี คุ้มครองยาวถึงอายุ 90 ปี มั่นใจในความแน่นอน ไม่ต้องแบกรับภาระจ่ายเบี้ยประกันระยะยาว โดยใน 2 ปีแรกมอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 300% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 3 เป็นต้นไป คุ้มครองสูงสุด 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย 
•   โอกาสรับเงินปันผลรายปีตลอดสัญญา ตั้งแต่ปีแรกจนถึงอายุ 90 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับนโยบายการจัดสรรเงินปันผลที่บริษัทฯ กำหนดในแต่ละปี
•   รับเงินคืนครบกำหนดสัญญา 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเมื่ออายุครบ 90 ปี
•   สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 80 ปี ยิ่งเริ่มวางแผนเร็ว ยิ่งมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้เร็วขึ้นและมากขึ้น


             ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขาทั่วประเทศหรือโทร. 02 – 165 - 5555 รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ KKPGEN Heritage Plus 90/2 (Par) คลิก https://bank.kkpfg.com/th

หมายเหตุ: พิจารณารับประกันภัยโดย บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) ธนาคารเกียรตินาคินภัทรในฐานะนายหน้าประกันชีวิต ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
83
อลิอันซ์ ตอกย้ำตำแหน่งแบรนด์ประกันภัยที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แตะ 28.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

•     มูลค่าแบรนด์ของอลิอันซ์ เพิ่มขึ้น 20% เพิ่มขึ้นจาก 23.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 28.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
•   อลิอันซ์ขยับขึ้น 2 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 27 ของแบรนด์ระดับโลก และยังคงครองตำแหน่งแบรนด์ประกันภัยที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอีกครั้ง
•   การเติบโตมาจากผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่ง มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง




             อลิอันซ์ ผู้นำด้านประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก ได้รับการจัดอันดับให้เป็น บริษัทประกันภัยอันดับ 1 ของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากการจัดอันดับ “Best Global Brands 2568” โดยบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ Interbrand โดยในปีนี้ อลิอันซ์ได้ขยับขึ้นมาอีก 2 อันดับ อยู่ที่อันดับ 27 จากแบรนด์องค์กรทั้งหมดทั่วโลก โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Apple, Microsoft, Amazon, Google และ Samsung

             อลิอันซ์ ยังเพิ่มมูลค่าแบรนด์ขึ้นเป็น 28.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2567ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของแบรนด์อื่นๆ ถึง 5 เท่า

             มร. โอลิเวอร์ เบเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอลิอันซ์ กล่าวว่า "ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญความไม่แน่นอน หลายคนมองหาบริษัทที่ไว้วางใจได้เพื่อดูแลสิ่งสำคัญในชีวิต การที่อลิอันซ์ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์ประกันภัยอันดับหนึ่งของโลก พร้อมมูลค่าแบรนด์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึง ‘ความไว้วางใจ’ ที่กลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของเรา อลิอันซ์ มุ่งมั่นมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คน และสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะแบรนด์ระดับโลก"

             อลิอันซ์ ในฐานะพันธมิตรประกันภัยทั่วโลกของโอลิมปิกและพาราลิมปิก อลิอันซ์ สนับสนุนมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก อีกทั้งยังครองสิทธิ์การใช้ชื่อสนามกีฬาภายใต้แบรนด์ “Allianz Family of Stadiums” ในหลายทวีป จัดการแข่งขันกีฬาให้กับแฟนๆ ทั่วโลกกว่า 10 ล้านคนในแต่ละปี

             สนามอลิอันซ์ อารีน่า สนามเหย้าของสโมสร FC บาเยิร์น มิวนิค ครบรอบ 20 ปี ในปี 2025 และเป็นสัญลักษณ์ของฟุตบอลสมัยใหม่  นอกจากพันธมิตรระดับโลก อลิอันซ์ ยังให้การสนับสนุนสโมสรและมูลนิธิระดับประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน การส่งเสริมสุขภาพ ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมในสังคม เพื่อเปิดโอกาสและสร้างทักษะให้กับคนรุ่นใหม่

             อลิอันซ์ สะท้อนความหมายของชื่อแบรนด์ Alliance หรือพันธมิตร ผ่านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจในยุคที่โลกกำลังเผชิญความแตกแยกและความเห็นต่าง เปิดตัวโครงการ Power of Unity เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ ปลูกฝังมุมมองเชิงบวกทั้งในระดับบุคคลและองค์กร มุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และความร่วมมือผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเวที thought leadership โปรแกรมพัฒนาและเรียนรู้ กิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงรางวัล Unity Sports Awards ที่มุ่งเชิดชูผู้สร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬา เป้าหมายสำคัญคือการเชื่อมโยงผู้คนจากความหลากหลาย เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในสังคม และฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อองค์กรและชุมชนทั่วโลก
84
ภารกิจลับสุดมันส์! นางฟ้าชาร์ลี 3 เจเนอเรชั่นรวมพลังบนทรูโฟร์ยู ช่อง 24


            เตรียมพบกับ “นางฟ้าชาร์ลี” ทั้ง 3 เจเนอเรชั่น ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของภารกิจลับสุดระห่ำ พร้อมนักแสดงหญิงระดับแถวหน้าของฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น คาเมรอน ดิแอซ, ดรูว์ แบร์รี่มอร์, ลูซี่ ลิว, คริสเตน สจ๊วต, นาโอมิ สก็อตต์ และเอลล่า บาลินสกา กับบทบาทที่ทั้งเท่ ฉลาด และทรงพลัง หนังแต่ละภาคได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมทั่วโลก ด้วยฉากแอ็กชั่นสุดมันส์และเคมีของทีมนางฟ้าที่ลงตัวไม่แพ้ใคร




            เริ่มต้นเวลา 13.00 น. กับภาพยนตร์ “นางฟ้าชาร์ลี” ปี 2000 เรื่องราวของสามสาวสายลับแห่งองค์กรชาร์ลี นาตาลี คุก (คาเมรอน ดิแอซ), ดีแลน แซนเดอร์ส (ดรูว์ แบร์รี่มอร์) และอเล็กซ์ มันเดย์ (ลูซี่ ลิว) ที่ต้องเผชิญหน้ากับน็อกซ์ แฮกเกอร์อัจฉริยะและอดีตแองเจิลผู้หักหลังองค์กร เพื่อขโมยเทคโนโลยีระบุตัวตนสุดล้ำ พวกเธอใช้ทักษะการปลอมตัว การสืบสวน และการต่อสู้เพื่อหยุดยั้งแผนร้ายนี้ เวลา 14.55 น. ต่อด้วย “นางฟ้าชาร์ลี 2 เสน่ห์เข้มทะลุพิกัด” ปี 2003 เมื่อแหวนแต่งงานสองวงที่บรรจุข้อมูลลับของพยานในโครงการคุ้มกันของรัฐถูกขโมย เหล่านางฟ้า นาตาลี (คาเมรอน ดิแอซ), ดีแลน (ดรูว์ แบร์รี่มอร์) และอเล็กซ์ (ลูซี่ ลิว) ต้องเผชิญหน้ากับอดีตนางฟ้าตกสวรรค์ แมดิสัน ลี (เดมี่ มัวร์) พร้อมภารกิจสุดระห่ำจากมองโกเลียสู่แคลิฟอร์เนีย ที่เต็มไปด้วยการปลอมตัวและการต่อสู้สุดมันส์ ปิดท้ายเวลา  16.50 น. กับ “นางฟ้าชาร์ลี” ปี 2019 เจเนอเรชั่นใหม่ของทีมนางฟ้า ได้แก่ ซาบินา (คริสเตน สจ๊วต), เอเลน่า (นาโอมิ สก็อตต์) และเจน (เอลล่า บาลินสกา) ที่ต้องร่วมมือกันหยุดยั้งเทคโนโลยีอันตรายที่อาจคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก ภายใต้การนำของบอสลีย์หลายชีวิต พวกเธอใช้ความกล้าหาญ มันสมอง และทักษะการต่อสู้อันเฉียบคมเพื่อพิชิตภารกิจสุดหิน ติดตามชม “นางฟ้าชาร์ลี 3 ภาค” ในวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และรับชมสดได้ที่ true4u.com/live
85
“สิงคโปร์ โอเพ่น” หวนสู่โปรแกรมแข่งเอเชียน ทัวร์ อย่างยื่งใหญ่ “สดมภ์” ลงป้องกันแชมป์สัปดาห์นี้



สดมภ์ แก้วกาญจนา


พอล เคซีย์


ปีเตอร์ ยูไลน์

3 พฤศจิกายน 2568 - เอเชียน ทัวร์ พร้อมจัดศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการ “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น” ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการที่ 9 ของอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายนนี้ โดยมี สดมภ์ แก้วกาญจนา โปรหนุ่มแถวหน้าของไทยลงป้องกันตำแหน่ง (ภาพ: Asian Tour)

กอล์ฟรายการ เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น เป็นการหวนกลับสู่ประเทศสิงคโปร์อีกครั้ง ด้วยการร่วมมือกันระหว่างเอเชียน ทัวร์ และสมาคมกอล์ฟสิงคโปร์ หลังจากที่สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ เคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี พ.ศ. 2504 ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์กอล์ฟประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย


สำหรับนักกอล์ฟชั้นนำที่เข้าร่วมแข่งขันในสัปดาห์นี้มีทั้งผู้เล่นจากลิฟกอล์ฟที่จะลงประชันวงสวิงกับยอดนักกอล์ฟแถวหน้าของเอเชียน ทัวร์ และผู้เล่นฝีมือดีของเจ้าภาพสิงคโปร์ เพื่อเป็นบันไดสู่การเก็บคะแนนสะสมของอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 ในการคว้าสิทธิ์ไปเล่นในลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาลหน้า และยังเป็นการเปิดตัว กุ้ยโจว เหมาไถ ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งเป็นความร่วมมือที่เชื่อมโยงคุณค่าของทัวร์นาเมนต์เข้ากับชื่อเสียงระดับโลกและกระแสวัฒนธรรมของแบรนด์

โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและซีอีโอ เอเชียนทัวร์ เผยว่า “สิงคโปร์ โอเพ่น เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันที่โดดเด่นที่สุดในปฏิทินการแข่งขันเอเชียนทัวร์มาอย่างยาวนาน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นรายการนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับจุดมุ่งหมายใหม่และดึงดูดใจผู้ชมทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนจากกุ้ยโจว เหมาไถ และประวัติศาสตร์ของสนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ เราพร้อมที่จะจัดการแข่งขันที่เชิดชูเกียรติประวัติศาสตร์อันยาวนานของรายการนี้”

ทางด้านโฆษกของกุ้ยโจว เหมาไถ กล่าวเสริมว่า “เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการกลับมาของการแข่งขันอันทรงเกียรติที่สืบทอดความเป็นเลิศเช่นนี้ การแข่งขันสิงคโปร์โอเพ่นเป็นการแข่งขันที่เหมาะสมกับเรา และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยยกระดับการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้เพื่อทั้งนักกีฬาและแฟนๆ”


ทั้งนี้กอล์ฟรายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ในสัปดาห์นี้ ยังเป็นการกลับมาป้องกันแชมป์ของ สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่คว้าชัยชนะในการจัดครั้งล่าสุดเมื่อปี 2022 ก่อนทำผลงานโดดเด่นด้วยการคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ เป็นครั้งที่สามให้กับตัวเองจากรายการ โคลอน โคเรีย โอเพ่น เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้

ขณะที่ดาวดังจากลิฟกอล์ฟลีกที่ตอบรับร่วมชิงชัยในรายการนี้นำโดย พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการชาวอังกฤษจากทีม Crushers GC ซึ่งคุ้นเคยกับกอล์ฟรายการ สิงคโปร์ โอเพ่น โดยทำผลงานดีสุดที่อันดับรองแชมป์ในปี 2019 ซึ่งแชมป์เป็นของ โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ในปีนั้น รวมถึงสองโปรกอล์ฟชาวอเมริกันอย่าง เทเลอร์ กูช จากทีม Smash GC และ ปีเตอร์ ยูไลน์ จากทีม Range Goats GC ที่เพิ่งจบรองแชมป์ในรายการอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ที่ฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
86
“แมคกิบบิน” นำรวดคว้าแชมป์ ลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น “ปวิธ” ดีสุดอันดับ 9 ร่วม


ทอม แมคกิบบิน


ทอม แมคกิบบิน


ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ


โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์

2 พฤศจิกายน 2568 – ทอม แมคกิบบิน โปรดาวรุ่งจากไอร์แลนด์เหนือ รักษาฟอร์มแรงต่อเนื่องจนถึงวันสุดท้าย หวดได้อีก 7 อันเดอร์พาร์ 63 จบด้วยสกอร์รวม 27 อันเดอร์พาร์ 253 คว้าแชมป์ ลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น ไปครองแบบนำรวดม้วนเดียว ที่สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ พาร์ 70 เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ ทำผลงานดีสุดในกลุ่มนักกอล์ฟไทยที่อันดับ 9 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 263 (ภาพ: Asian Tour)

เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการที่ 7 ของฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ณ สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,710 หลา พาร์ 70 ในเมืองฟานหลิง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีนักกอล์ฟไทยผ่านเข้ารอบได้ 14 คน โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมสิทธิ์ไปเล่นสองรายการเมเจอร์ เดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพ่น ในปีหน้า


ปิดฉากการชิงชัยปรากฎว่า ทอม แมคกิบบิน นักกอล์ฟวัย 22 ปีจากทีม Legion XIII ในลิฟกอล์ฟลีก ซึ่งทำสกอร์ขึ้นนำมาตลอดสามวัน รักษาฟอร์มร้อนแรงจนถึงรอบสุดท้ายหวดได้อีก 7 อันเดอร์พาร์ 63 จากการทำ 8 เบอร์ดี้ พลาดเสียโบกี้เดียวในหลุมสุดท้าย จบด้วยสกอร์รวม 27 อันเดอร์พาร์ 253 ครองแชมป์แรกในเอเชียน ทัวร์ ให้กับตัวเอง โดยมีสกอร์ทิ้งห่าง ปีเตอร์ ยูไลน์ ผู้เล่นจากลิฟกอล์ฟชาวอเมริกัน ที่ทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 68 ถึง 7 สโตรค

แมคกิบบิน เผยหลังครองแชมป์เอเชียน ทัวร์ เป็นครั้งแรกว่า “ผมเล่นกอล์ฟได้ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะการชนะในทัวร์นาเมนต์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและนักกอล์ฟฝีมือเยี่ยมมากมาย ด้วยสถิติการทำสกอร์ได้แบบนี้เป็นความพิเศษมาก และจะอยู่กับผมตลอดไป และรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้กลับไปเล่นโอเพ่นครั้งที่สามของผม”

ขณะที่ โปรไช้-ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ เจ้าของสองแชมป์เอเชียน ทัวร์ เร่งเครื่องหวด 6 อันเดอร์พาร์ 64 จากการทำโบกี้ในหลุมแรก แต่เก็บคืนได้ 7 เบอร์ดี้ รวมสี่วันมี 17 อันเดอร์พาร์ 263 จบอันดับ 9 ร่วม ดีสุดในกลุ่มนักกอล์ฟชาวไทย พร้อมรับเงินรางวัล 38,633 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยมี โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ 7 รายการ ที่เก็บได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 67 ตามมาที่อันดับ 12 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 264 ส่วน โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013 ซึ่งทำสกอร์ติดท็อปบนลีดเดอร์บอร์ดมาตลอดสามวัน พลาดตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ 73 หล่นไปอยู่อันดับ 21 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 266


ทางด้านสองโปรมือดีของโลกอย่าง หลุยส์ อุสธุยเซน แชมป์ดิ โอเพ่น 2010 จากแอฟริกาใต้ ตีเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 261 จบอันดับ 3 ร่วม และ ชาร์ล ชวาร์ทเซล จากแอฟริกาใต้ เก็บอีก 3 อันเดอร์พาร์ 67 อยู่ในกลุ่มอันดับ 14 ร่วมด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 265 เท่ากับ เอกปริษฐิ์ หวู่ และภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ ทางด้าน แพทริค รีด แชมป์ปีที่แล้วชาวอเมริกัน และแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 ทำเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสี่วัน 12 อันเดอร์พาร์ 268 รั้งอันดับ 31 ร่วม พอล เคซีย์ เจ้าของสามแชมป์พีจีเอทัวร์จากอังกฤษ เก็บได้ 2 อันเดอร์พาร์ 68 รั้งอันดับ 59 ด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 273

สำหรับผลงานนักกอล์ฟไทยที่น่าสนใจรายอื่น สุรดิษ ยงค์เจริญชัย (65) และ อติรุจ วินัยเจริญชัย (70) สกอร์รวมคนละ 13 อันเดอร์พาร์ 267 รั้งอันดับ 26 ร่วม, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย (68) สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 268 อันดับ 31 ร่วม และศรุต วงค์ชัยสิทธิ์ (68) สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 269 รั้งอันดับ 36 ร่วม

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
87
LingoAce ชี้ “ทักษะภาษา” ไม่ใช่แค่วิชา แต่คือใบเบิกทางให้ Gen Alpha ในโลกที่เด็กเกิดน้อยลง
ทุ่มเปิดคอร์สอังกฤษรายเดือน 999 บาท ปั้นเด็กไทยสู่พลเมืองโลก





กรุงเทพฯ – LingoAce แพลตฟอร์มเรียนภาษาแบบสอนสดตัวต่อตัวชั้นนำของเอเชีย สร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในวงการ EdTech ไทย ด้วยการเปิดตัวคอร์สภาษาอังกฤษรูปแบบใหม่ “English Subscription Program” ในราคาที่เข้าถึงได้เพียง 999 บาทต่อเดือน เพื่อตอบโจทย์ผู้ปกครองยุคใหม่ที่ต้องการปูทางให้บุตรหลานก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) ในยุคที่การแข่งขันไร้พรมแดน




LingoAce ซึ่งเป็นบริษัท EdTech ระดับสากลที่ดำเนินงานในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก มีประสบการณ์ในตลาดประเทศไทยกว่า 6 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเปิดสอนภาษาจีนจนติด Top 3 ในประเทศจีนมาแล้ว การเปิดตัวโปรแกรมภาษาอังกฤษครั้งนี้จึงเป็นการนำความเชี่ยวชาญและคุณภาพระดับโลกมาสู่เด็กไทยโดยตรง

ลูกคนเดียวแบกความหวัง ท่ามกลางวิกฤตเด็กเกิดน้อย

ภายในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Amarin Baby & Kids Fair Carnival 2025 คุณณัฐนิช ทองไกรแสน ที่ปรึกษาประจำสำนักงานประเทศไทยของ LingoAce ได้ฉายภาพความท้าทายของผู้ปกครองไทยในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับวิกฤตการณ์อัตราการเกิดต่ำ (Low Birth Rate Crisis) ที่ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เพียง 530,000 คนในปีล่าสุด

“เมื่อเด็กมีจำนวนน้อยลง แต่การแข่งขันในเวทีโลกกลับสูงขึ้น ‘ลูกหนึ่งคน’ จึงต้องแบกรับความคาดหวังของครอบครัวและสังคมมากกว่าที่เคย คำถามคือ เราจะให้เครื่องมืออะไรกับเขา เพื่อให้มีที่ยืนบนเวทีโลกได้? LingoAce มองเห็นคำตอบชัดเจนว่า ‘ทักษะภาษา’ คือกุญแจสำคัญสู่อนาคตของเด็กไทย” คุณณัฐนิชกล่าว

“ทักษะภาษาอังกฤษมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กไทยยุคเจนอัลฟ่า LingoAce เข้าใจถึงความคาดหวังของพ่อแม่ไทยที่ต้องการให้ลูกเก่งภาษาโดยไม่ต้องจ่ายแพง เราจึงออกแบบคอร์สภาษาอังกฤษรายเดือนที่เข้าถึงง่ายในราคาเพียงหลักพัน แต่คุณภาพระดับโลก”




เจาะกลุ่ม Gen Alpha พลเมืองโลกยุคดิจิทัล

กลุ่มเป้าหมายหลักของหลักสูตรนี้คือ “เจนอัลฟ่า” (Gen Alpha) หรือเด็กที่เกิดระหว่างปี 2010–2025 ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟนและ AI ทำให้พวกเขาเป็น “Digital First Generation” ที่ต้องการการเรียนรู้แบบ Interactive Learning ที่รวดเร็ว สนุก และมีส่วนร่วม LingoAce จึงออกแบบหลักสูตรที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมของเด็กกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

“เด็กเจนนี้เปิดรับวัฒนธรรมจากทั่วโลกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้พวกเขาเป็น ‘Global Native’ ที่โลกทั้งใบคือห้องเรียนของพวกเขา” คุณณัฐนิชกล่าวเสริม

ทลายกำแพงความกลัวด้วย Framework 3C และหลักสูตรมาตรฐานโลก

จากผลสำรวจของ LingoAce พบว่ากว่า 70% ของผู้ปกครองไทยกังวลว่าลูกเรียนภาษาอังกฤษมานานแต่ยังไม่กล้าพูดจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อแก้ปัญหานี้ LingoAce ได้ออกแบบแนวทาง Framework 3C ขึ้นมาโดยเฉพาะ ประกอบด้วย:

          1. Confidence (ความมั่นใจ) – สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กกล้าแสดงออกและใช้ภาษาอย่างมั่นใจ
          2. Consistency (ความสม่ำเสมอ) – ออกแบบการเรียนรู้ให้ต่อเนื่องและเป็นระบบ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
          3. Curriculum Fit (หลักสูตรที่เหมาะสม) – หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเด็กไทยโดยเฉพาะ แต่ยังคงยึดมาตรฐานสากล




สำหรับหลักสูตร LingoAce English Program ได้รับการพัฒนาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษานานาชาติ โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน CEFR, University of Cambridge และ TESOL International Association มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะครบทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ผ่านคลาสเรียนสดตัวต่อตัว (1:1) ความยาว 25 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมกับสมาธิของเด็ก นอกจากนี้ ยังใช้เทคนิค Gamification และ Immersive Learning ทำให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านเกมและสถานการณ์จำลองจริงอย่างสนุกสนาน พร้อมมีระบบ Feedback Report รายเดือน และ Learning Advisor ส่วนตัวสำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้สามารถติดตามพัฒนาการของบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิด

“การเริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็กคือข้อได้เปรียบมหาศาล หากใช้เทคโนโลยีและ Gamification ที่เหมาะสม จะทำให้ภาษาเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว” คุณณัฐนิชย้ำ




คุณณัฐนิชได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยวิสัยทัศน์ของ LingoAce ว่า “ภาษาไม่ใช่วิชาในห้องเรียน แต่คือ Skill for Life ของเด็กเจนอัลฟ่า ของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อแม่มอบให้ลูก ไม่ใช่เงินทอง แต่คือความมั่นใจที่จะสื่อสารกับคนทั้งโลก”

รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมโปรแกรมภาษาอังกฤษ LingoAce

          ● รูปแบบ: Subscription รายเดือน ราคาเพียง 999 บาท
          ● จำนวนคลาส: เรียนได้สูงสุด 8 คลาสต่อเดือน
          ● ผู้สอน: ครูเจ้าของภาษาที่ผ่านการอบรมการสอนเด็กโดยเฉพาะ
          ● กลุ่มอายุ: เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4–13 ปี
          ● จุดเด่น: สนุก คุ้มค่า และเห็นผลจริงตั้งแต่คลาสแรก

ช่องทางการสมัครและข้อมูลเพิ่มเติม

● ลงทะเบียน: https://lingoaceth.com/english-skills
● Line ID: @lingoace
88
อุณหภูมิติดลบ ยกมาไว้กลางกรุง
ปะทะความหนาวสุดขั้ว ไม่ต้องบินไกลถึงต่างประเทศ





​เปิดประตูสู่ดินแดนน้ำแข็งระดับขั้วโลกร่วมผจญภัยไปกับ Frozen Fantasia กับความหนาวเย็นอากาศติดลบ -15°C ที่ชวนทุกคนมาดื่มด่ำชมศิลปะการแกะสลักน้ำแข็งสุดตระการตา ที่ผสานเรื่องเล่าแห่งท้องทะเลเข้ากับอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ​“Frozen Fantasia – Ice Gallery” เปิด Grand Opening ให้เข้าชมแล้วอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้ กับแม็กเน็ตใหม่ใจกลางกรุง เปิดประสบการณ์ความสนุกครั้งใหม่ กระแสตอบรับดีและยอดจองบัตรเข้าชมเกินความคาดหมาย เรียกได้ว่าในวันนี้วันแรกยอดจองเข้าชมเต็มทุกรอบ และยอดจองบัตรจากผู้ที่ต้องการมาร่วมเข้าชมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน งานนี้เราจะชวนให้ทุกคนมาร่วมผจญภัยไปกับสิ่งมีชีวิตในตำนาน และเหล่าสมบัติที่ถูกจารึกในน้ำแข็ง และแสง สี สุดอลังการ ที่จะพาให้คุณหลุดเข้าไปในโลกของนิทานเหนือจินตนาการ กับนิทรรศการแกะสลักน้ำแข็งที่จะพาทุกคนก้าวเข้าสู่โลกแฟนตาซี ที่ผสมผสาน “เรื่องเล่าแห่งท้องทะเล” เข้ากับ “อัตลักษณ์ความเป็นไทย” ที่จะเชิญชวนให้ทุกคนมาถ่ายรูปกันให้สนุกสุดว้าว ไปกับ 7 จุดไฮไลต์ แห่งความหนาวเย็นแบบฟินๆ ได้แก่










          ​Chapter 1.Frozen Gateway (ประตูสู่โลกน้ำแข็ง) - ประตูน้ำแข็งสุดอลังการ เปิดฉากการผจญภัยสู่ดินแดนน้ำแข็งของก้าวแรกที่เดินผ่านประตู เหมือนหลุดเข้าไปในโลกเหนือจินตนาการ ท่ามกลางม่านหมอกและมิติของแสง สี ที่สร้างความสวยงามของแท่นน้ำแข็งให้เปล่งประกายส่องแสง
          ​Chapter 2.Fairy Ice Village (หมู่บ้านในนิทาน) - หมู่บ้านน้ำแข็งในเทพนิยาย รูปทรงแฟนตาซี ที่รายล้อมไปด้วยประติมากรรมน้ำแข็งเหมือนอยู่ในหนังสือนิทาน
​          Chapter 3.Frozen Clock Tower (หอเวลาแห่งสมุทรน้ำแข็ง) - หอนาฬิกาน้ำแข็งแห่งเวลา ที่พร้อมจะเปล่งประกาย ให้ชมความสวยงามของแสงและเงาสุดวิจิตร
          ​Chapter 4.The Ice Wall of Thai Waves (กำแพงน้ำแข็งแกะสลัก) - กำแพงน้ำแข็งลวดลาย “คลื่นไทย” ที่ผสานศิลปะไทยเข้ากับเทคนิคการแกะสลักน้ำแข็งร่วมสมัยให้เป็นการเล่าเรื่อง “ความงดงามของสายน้ำเจ้าพระยา” ผ่านมิติแห่งความเย็นที่ดึงดูดใจสะกดได้ทุกสายตา
​          Chapter 5.The Starlit Voyage (เรือแห่งแสงดาว) - เส้นทางแห่งแสงดาว ที่สร้างความสวยงามให้เหมือนยืนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับเหนือศีรษะ และพื้นน้ำแข็งสะท้อนแสงราวกับหลุดเข้าไปในอีกจักรวาล
          ​Chapter 6.Mythical Sea Creatures (สัตว์มหัศจรรย์แห่งท้องทะเล) - ก้าวเข้าสู่การเดินทางในมหาสมุทรภายใต้ท้องทะเลลึก สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลในตำนาน
          ​Chapter 7.The Frost Lounge (Ice Café) - คาเฟ่และบาร์น้ำแข็งสุดคูล พร้อมบริการเครื่องดื่มเย็นๆ ที่จัดเสิร์ฟในแก้วน้ำแข็งให้เย็นถึงใจในทุกเมนู







คุณกัญธนัช กิตติถิรธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดราก้อน ออแกไนซ์เซอร์กรุ๊ป จำกัด เจ้าของโปรเจกต์นี้ กล่าวว่า “จากการที่เราได้ตั้งใจทำโปรเจกต์ Frozen Fantasia ในครั้งนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นการเปิดโลกน้ำแข็งมหัศจรรย์ที่ทุกคนต้องมาสัมผัสความหนาวที่กรุงเทพฯ ให้คนไทยมาเที่ยวเมืองไทยโดยที่ไม่ต้องบินไปถึงเมืองนอก สัมผัสกับอุณหภูมิติดลบของความเย็นระดับขั้วโลกกับประสบการณ์ครั้งใหม่และเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ที่พร้อมรองรับได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาเป็นคู่รัก หรือมาเป็นครอบครัว และที่สำคัญอีกหนึ่งความภูมิใจที่ได้เราร่วมกันสร้างและผลักดันโชว์ผลงานของคนไทย ที่มีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ในครั้งนี้ นั้นคือนักแกะสลักน้ำแข็งไทย ที่สร้างชื่อเสียงมาแล้วมากมายให้กับประเทศไทยที่มีฝีมือเยี่ยมไม่แพ้ชาติใด กับการคว้าแชมป์รายการการแข่งขันแกะสลักหิมะและน้ำแข็งในระดับนานาชาติ อีกทั้งเรายังช่วยกันสนับสนุนพานักแกะสลักน้ำแข็งไทย ให้ไปต่อยอดโชว์ฝีมือประกาศศักยภาพที่เป็นเอกลักษณ์กับการแข่งขันในระดับนานาชาติ ซึ่งในครั้งต่อไปกับสนามการแข่งขันที่อเมริกา และเราก็พร้อมที่จะผลักดันนักแกะสลักน้ำแข็งไทยให้ก้าวเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ”







เตรียมตัวแต่งตัวจัดเต็มพกพาความกิ๊บเก๋กับเอสเซสเซอรี่เมืองหนาวมาให้พร้อม แล้วมาสัมผัส “ความหนาวที่กลายเป็นศิลปะ” และ “เรื่องเล่าที่กลายเป็นประสบการณ์จริง” ด้วยตัวคุณเอง ที่ถ่ายรูปได้ทุกมุม สนุกได้ทุกวัย มาร่วมกันสนุกและมาสัมผัสความเย็นสุดขั้วไปด้วยกัน

เปิดจองบัตรได้แล้ววันนี้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน-19 ธันวาคม 2568
​เปิดจองรอบให้เข้าชม ตั้งแต่ เวลา 10:00-00:00 น.
​จองบัตรเข้าชมได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/FROZENFANTASIA-2025
​บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 399 บาท
​บัตรเข้าชมสำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. ราคา 329 บาท
​บัตรเข้าชมสำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม. เข้าชมฟรี (โดยต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด)

















89
พม. จัดงานใหญ่ MOU ผนึกกำลัง 4 กระทรวง 3 สมาคม อปท. บูรณาการความร่วมมือพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย - หนุน "พม.ใกล้คุณ" ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิต




               กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดงาน “การบูรณาการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย” โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบนโยบายการบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทย ด้านคุณภาพชีวิต ด้านคนเปราะบาง ด้านการศึกษา และด้านอาชีพ อีกทั้งเป็นประธานในพิธีการลงนามความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทย ระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กับ 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แก่ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย , สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย




               ซึ่งมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. หัวหน้าหน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ ทีม พม.ใกล้คุณ ทั่วประเทศ, นายวัฒนา ช่างเหลา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย, นายวิสูตร จงชูวณิชย์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย, รศ.ดร. วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย, ผู้บริหารและผู้แทนภาคีเครือข่าย  และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี




               นายอัครา กล่าวว่า ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงส่งเสริมความเสมอภาคของสตรี เด็ก และเยาวชน ควบคู่การเสริมพลังครอบครัว ผู้สูงอายุ และคนพิการ ด้วยความเอื้ออาทรอันลุ่มลึก และพระราชจริยวัตร แนวพระราชดำริของพระองค์ ทรงย้ำคุณค่าของการไม่ทอดทิ้งกัน ให้เป็นรากฐานของสังคมไทยที่อบอุ่นและมั่นคง ซึ่งตนและผู้ร่วมงานวันนี้ ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และจะถือเป็นเข็มทิศในการปฏิบัติราชการด้วยความตั้งใจ เที่ยงตรง และไม่ทอดทิ้งประชาชนทุกหมู่เหล่า

               ภายใต้แรงบันดาลใจจากพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ดังนั้น  รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่มาร่วมงานวันนี้ โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมด้วย รัฐมนตรี ผู้บริหาร และบุคลากรจากกระทรวง พม. กษ. ศธ. และ กก. รวมถึงผู้บริหารสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย จะร่วมกันทำงานโดยยึด "ประชาชนและครอบครัว" เป็นศูนย์กลาง




               ทั้งนี้ ในโอกาสที่ตนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ตนได้มอบแนวทางการพัฒนาสังคม ครอบครัว และประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้นโยบาย "พม.ใกล้คุณ"  ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิต เพื่อพัฒนาการทำงานของหน่วยงานกระทรวง พม. โดยยึด "ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง" และพัฒนาการดูแลทุกครอบครัวอย่างไร้รอยต่อแบบ Family First ที่ต้องเริ่มต้นจากครอบครัว เพื่อเชื่อมสิทธิสวัสดิการสังคมที่พึงได้ ควบคู่การซ่อมสร้างที่อยู่อาศัย การคุ้มครองทางสังคม และการปรึกษาและแก้ไขหนี้สินแบบมุ่งเป้า รวมถึงการพัฒนาอาชีพใกล้บ้าน ภายใต้แนวคิด "เศรษฐกิจใสใจ" หรือ Care Economy ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ และช่วยให้กลุ่มคนเปราะบางพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน




               นายอัครา กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบาย "พม.ใกล้คุณ"  ลดรายจ่าย สร้างรายได้ และรีสตาร์ทชีวิต" สอดคล้องกับนโยบายการบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทย ด้านคุณภาพชีวิต ด้านคนเปราะบาง ด้านการศึกษา และด้านอาชีพ ของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญที่ชี้เป้าให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านการพัฒนาสังคม เกิดผลสัมฤทธิ์ ดังนั้น การทำงานระหว่างกระทรวง พม. กษ. ศธ. กก. และ 3 สมาคม อปท. จึงเป็นกลไกที่สำคัญในการร่วมแก้ปัญหา และเป็นที่มาของวัตถุประสงค์ในการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งการขับเคลื่อนให้ "นโยบายใกล้คุณ" เป็น "นโยบายใกล้บ้าน" นั้น เป็นที่มาของการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ซึ่งจะทำให้ "นโยบายถึงบ้าน" ได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น  รวมถึงการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรในระดับพื้นที่อย่างสอดคล้อง ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ให้ท้องถิ่นร่วมกำหนดเป้าหมายจากพื้นที่อย่างแม่นยำ และสร้างผลสำเร็จของโครงการได้จริง ผ่านการทำงานของท้องถิ่นที่ใกล้ชิดกับปัญหาระดับครอบครัว




               นายอัครา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงนามความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทยในวันนี้ นับเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาสังคม ด้วยความร่วมมือระหว่าง กระทรวง พม. กษ. ศธ. กก. และ 3 สมาคม อปท. ในการขับเคลื่อนมาตรการและแนวทางการลดรายจ่าย การสร้างรายได้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นทุกจังหวัดของประเทศไทย ทั้งด้านคุณภาพชีวิต ด้านคนเปราะบาง ด้านการศึกษา และด้านอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น การลดรายจ่ายครัวเรือนเปราะบางและร่วมกันดูแลครัวเรือนเปราะบางให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ทันที , การส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนา ด้านการเกษตรให้กับคนทุกช่วงวัย เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างอาชีพและรายได้ , การส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาที่ครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงการเข้าถึงระบบการศึกษาที่เหมาะสมให้กับเด็กและเยาวชนและประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างอาชีพและรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว  และการนำสินค้าและบริการจากคนทุกช่วงวัยมาใช้ยกระดับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างงานรายได้ให้กับคนทุกช่วงวัย

#พมใกล้คุณ
90
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วยหน่วยงานในเครือ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568
ณ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร





พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว น้อมนำผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2568 ไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ คณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ และผู้บริหารมูลนิธิฯ คณะผู้บริหารจากโรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว เป็นประธานร่วมในพิธี โดยมี ดร.นรเทพ ชูพูล ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน พร้อมด้วย ดร.เมธาวี ธารดำรงค์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (เขตปทุมวัน) นายปสิทธิ์พงษ์ ชินประเสริฐ ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดบรมนิวาส นายเจริญ วณิชเจริญพงษ์ ไวยาวัจกรวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ร่วมในพิธี ทั้งนี้ ได้มีผู้มีจิตกุศลร่วมถวายจตุปัจจัย บำรุงและบูรณะพระอาราม ทำบุญกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น  2,182,514.44 บาท (สองล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นสองพันห้าร้อยสิบสี่บาทสี่สิบสี่สตางค์)







ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารและกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน








Pages: 1 ... 7 8 [9] 10