Recent Posts

Pages: 1 ... 6 7 [8] 9 10
71
นักกอล์ฟชั้นนำร่วมถ่ายภาพประชาสัมพันธ์การแข่งขัน เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น


6 พฤศจิกายน 2568 – ตัวแทนนักกอล์ฟชั้นนำ (จากซ้าย) พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ, มิเกล ทาบัวนา แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฟิลิปปินส์ และเจมส์ เหลียว นักกอล์ฟดาวรุ่งชาวสิงคโปร์ ร่วมถ่ายภาพประชาสัมพันธ์การแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ รายการ เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ภาพ: Asian Tour)

กอล์ฟรายการ เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น เป็นการหวนกลับสู่ประเทศสิงคโปร์อีกครั้งจากความร่วมมือกันระหว่างเอเชียน ทัวร์ และสมาคมกอล์ฟสิงคโปร์ โดยจัดการแข่งขันครั้งล่าสุดในปี 2022 อีกทั้งยังเป็นการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการที่ 8 ของฤดูกาล 2025 ชิงชัย ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,295 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์  ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายนนี้ มีนักกอล์ฟชั้นนำของโลกและเหล่าผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์ลงแข่งขันรวม 144 คน โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 11 ล้านบาท

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
72
ทัพโปรไทยพร้อมลุยศึก สิงคโปร์ โอเพ่น ประชันดาวดังโลกและมือท็อปเอเชียน ทัวร์


(จากซ้าย) ตัวแทนนักกอล์ฟชั้นนำประกอบด้วย มิเกล ทาบัวนา แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฟิลิปปินส์, พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ และ เจมส์ เหลียว นักกอล์ฟดาวรุ่งของสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการ “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น”  ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ภาพ: Asian Tour)


พอล เคซีย์


โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์


นิติธร ทิพย์พงษ์

5 พฤศจิกายน 2568 – ทัพโปรหนุ่มไทย 27 คน พร้อมลงสู้ศึก “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ประชันเหล่าผู้เล่นฝีมือดีของเอเชียน ทัวร์ และดาวดังจากลิฟกอล์ฟลีก ที่สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ เปิดฉากดวลวงสวิงรอบแรกพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายนนี้ (ภาพ: Asian Tour)

เอเชียน ทัวร์ ร่วมกับ สมาคมกอล์ฟสิงคโปร์ จัดการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ รายการที่ 8 ของฤดูกาล 2025 รายการ “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น” ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,295 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์  ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายนนี้ มีนักกอล์ฟชั้นนำของโลกและเหล่าผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์รวม 144 คน จาก 29 ประเทศลงแข่งขัน โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 11 ล้านบาท


ความเคลื่อนไหวล่าสุดโดยเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นรอบฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการ โดย พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ, มิเกล ทาบัวนา แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฟิลิปปินส์ และเจมส์ เหลียว นักกอล์ฟดาวรุ่งเจ้าถิ่น เปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ความพร้อมก่อนการแข่งขันเปิดฉากดวลรอบแรกในวันรุ่งขึ้น

พอล เคซีย์ ดาวดังลิฟกอล์ฟจากทีม Crushers GC ชาวอังกฤษ ซึ่งคุ้นเคยกับกอล์ฟรายการ สิงคโปร์ โอเพ่น โดยทำผลงานดีสุดที่อันดับรองแชมป์ในปี 2019 เผยว่า “ผลงานของผมช่วงนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนผลงานในทีม Crushers GC ก็ถือว่ากำลังไปได้สวย ผมชอบที่จะมาเล่นที่สิงคโปร์และค่อนข้างคุ้นเคยกับสภาพอากาศที่นี่ แม้จะเป็นครั้งแรกที่มาสนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ แห่งนี้ แต่จากการที่ได้ลงฝึกซ้อม สภาพสนามสมบูรณ์มาก แต่กรีนค่อนข้างอ่านยาก แน่นอนว่าผมลงแข่งขันทุกครั้งก็ตั้งใจมาเพื่อชนะ และรู้สึกดีที่ได้รู้ว่าผู้ชนะคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองคนจะได้สิทธิมาเล่นในลิฟกอล์ฟลีก ผมรู้สึกยินดีกับนักกอล์ฟจากเอเชียน ทัวร์ ที่จะได้มีประสบการณ์ร่วมกันในรายการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมกับพวกเรา”


ทางด้านมือท็อปของเอเชียน ทัวร์ ที่จะร่วมแข่งขันในสัปดาห์นี้ อาทิ สองนักกอล์ฟอดีตมือหนึ่งของทัวร์จากสหรัฐฯ อย่าง จอห์น แคทลิน (ปี 2024) และซีฮวาน คิม (ปี 2022), สกอตต์ เฮนด์ (ปี 2016) จากออสเตรเลีย รวมถึง สกอตต์ วินเซนต์ จากซิมบับเว ผู้นำคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ และ คาซุกิ ฮิกะ มือหนึ่งคะแนนสะสมเอเชียน ทัวร์ จากญี่ปุ่น

ขณะที่นักกอล์ฟชื่อดังจากลิฟกอล์ฟ นอกจาก พอล เคซีย์ แล้วยังมี เทเลอร์ กูช โปรชาวอเมริกัน ดีกรีแชมป์บุคคลของลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาล 2023,  ชาร์ลส์ ฮาเวลล์ เดอะเธิร์ด ผู้เล่นทีม Crushers GC จากสหรัฐฯ และ โธมัส พีเตอร์ส เจ้าแชมป์ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 6 รายการจากเบลเยี่ยม


สำหรับนักกอล์ฟชาวไทยลงแข่งขัน 27 คน นำโดย โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ ผู้เล่นจากดีพีเวิลด์ ทัวร์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013, โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ มือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2019 และแชมป์เอเชียน ทัวร์ 7 รายการ, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ 4 รายการ, นิติธร ทิพย์พงษ์ และ รฐนน วรรณศรีจันทร์ แชมป์คนละ 3 รายการ, แดนไท บุญมา และ สาริศ สุวรรณรัตน์ แชมป์คนละ 2 รายการ

อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตแชมป์สิงคโปร์ โอเพ่น เมื่อปี 2019 และแชมป์อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ โมรอคโก กล่าวว่า “ผลงานในสัปดาห์ที่แล้วช่วยจุดไฟในเกมของผม โดยเฉพาะในสองสามรอบแรก ส่วนสัปดาห์นี้สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ แห่งนี้แตกต่างจากสนามเซนโตซ่าที่ผมเคยชนะมาก แต่นี่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของความท้าทาย”


ส่วน นิติธร ทิพย์พงษ์ นักกอล์ฟวัย 26 ปี ซึ่งเคยคว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ที่สนามทานาห์ เมราห์ คันทรี คลับ เมื่อปี 2022 กล่าวว่า “ช่วงต้นปีผมเล่นได้ไม่ดีอยู่พักหนึ่ง ซึ่งมันกระทบความมั่นใจของผมมาก แต่หลังจากจบแมทช์อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ที่โมร็อกโกเมื่อเดือนกรกฎาคม ก็ได้พักพอสมควร ผมจึงใช้ช่วงเวลานั้นฝึกซ้อมและปรับปรุงแก้ไข ทำให้เกมของผมแข็งแกร่งขึ้น และหวังว่าจะรักษาจังหวะการเล่นนั้นมาใช้ในสัปดาห์นี้”

สำหรับกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ได้เพิ่มโควต้าให้กับนักกอล์ฟที่สามารถจบในสองอันดับแรกของตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 จะได้รับสิทธิ์ไปเล่นในลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาลหน้า ส่วนผู้ที่ทำอันดับอยู่ในท็อป 40 จะได้สิทธิไปเล่นลิฟ กอล์ฟ ลีก โปรโมชั่นส์ ที่ฟลอริด้า ต้นปีหน้า เพื่อชิงตั๋วไปลิฟกอล์ฟลีกต่อไป


กอล์ฟรายการ เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น รอบแรก (6 พ.ย.) กลุ่มแรกเริ่มเวลา 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น  หรือเวลา 06.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยกลุ่มที่น่าจับตามองอาทิ เทเลอร์ กูช, โธมัส พีเตอร์ส และมิเกล ทาบัวนา ออกสตาร์ทด้านหลุมสิบเวลา 07.30 น. ส่วน พอล เคซีย์ ร่วมก๊วนกับ คาซุกิ ฮิกะ และเวด ออร์มส์บี จากออสเตรเลีย ออกสตาร์ทหลุมหนึ่งเวลา 12.20 น. ตามด้วยกลุ่มของ กิรเดช อภิบาลรัตน์, จอห์น แคทลิน และกากันจีต บูลลาร์ จากอินเดีย เวลา 12.30 น.

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
73
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ พลิกโฉมแอป GEN 365
ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า สู่แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านประกันชีวิตครบวงจร


             เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เดินหน้ายกระดับเพิ่มประสบการณ์ลูกค้า พลิกโฉมแอปพลิเคชัน GEN 365 ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ทั้งการจัดการกรมธรรม์ สิทธิพิเศษ และบริการด้านประกันที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่างคล่องตัว ตอกย้ำกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมดิจิทัล สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดและอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงชีวิต


             นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้า กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ในปีนี้ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มุ่งดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์หลัก Lifetime Partner 27: Driving Excellence อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการทำงานในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความสะดวก รวดเร็ว และความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการบริการ

             ล่าสุดได้อัปเกรดเครื่องมือสำคัญอย่างแอปพลิเคชัน GEN 365 ให้เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับความง่าย ความรวดเร็ว และการบริการที่ครบจบในช่องทางเดียว โดยการพัฒนาในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการทุกเรื่องประกันได้ด้วยตนเองอย่างคล่องตัว ตั้งแต่ตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ ยื่นเคลม ไปจนถึงรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำบทบาทของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล ที่พร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงชีวิตอย่างแท้จริง

             สำหรับฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชัน GEN 365 เริ่มจาก New Home การดีไซน์หน้าแอปพลิเคชันใหม่ที่จัดวางเมนูให้เข้าถึงง่าย ใช้งานได้อย่างราบรื่น และเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่าเดิม เสริมด้วย In-App New Reminder ระบบแจ้งเตือน ที่ช่วยอัปเดตข้อมูลสำคัญแบบเรียลไทม์ ทั้งสถานะการเคลม วันครบกำหนดชำระเบี้ย และวันหมดอายุของคะแนนสะสม เพื่อให้ลูกค้าไม่พลาดทุกขั้นตอนสำคัญในการดูแลกรมธรรม์ของตนเอง

             นอกจากนี้ ยังมี Personalization & Segmentation ระบบการสื่อสารแบบเฉพาะบุคคลที่ผสานเทคโนโลยี AI วิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของลูกค้า เพื่อคัดสรรสิทธิประโยชน์และข้อมูลที่ตรงใจได้อย่างแม่นยำพร้อมด้วย Earn & Burn Points ระบบสะสมคะแนนที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ารับคะแนนจากกิจกรรมภายในแอป เช่น การยื่นเคลมออนไลน์หรือดาวน์โหลดเอกสารภาษี และสามารถนำคะแนนไปแลกรับของรางวัลหรือสิทธิพิเศษจากพันธมิตรได้อย่างสะดวก เพื่อให้ลูกค้าไม่พลาดทุกโอกาสในการใช้สิทธิ์อย่างคุ้มค่า ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ GEN 365 เป็นมากกว่าแอปพลิเคชันด้านประกันภัย แต่เป็นผู้ช่วยดิจิทัลที่เข้าใจลูกค้าและอยู่เคียงข้างในทุกช่วงชีวิตอย่างแท้จริง

             ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GEN 365 คลิก https://generali-th.onelink.me/u0GI/hfu8rja0 ใช้งานฟรีทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เพื่อไม่พลาดกับสิทธิพิเศษและบริการดี ๆ จากเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์
74
คำแถลงการณ์ต่อสาธารณชนเกี่ยวกับจุดยืนและข้อเรียกร้องทางกฎหมายของเสอจื้อเจียง




ลงวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอันใกล้นี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพัวพันกับการเมืองระหว่างประเทศ อีกทั้งถูกใส่ความและทำร้ายจากสำนักข่าวที่ไม่ได้มีเจตนาดีบางสำนัก นายเสอจื้อเจียงและเอเชียแปซิฟิกกรุ๊ปได้ถูกลากเข้าสู่วังวนทางการเมืองอันซับซ้อน นายเสอจื้อเจียงได้ตกเป็นเป้าสายตาและการวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชนและเป็นผู้ได้รับผลร้ายจากการเมืองระหว่างประเทศ การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวนั้นไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ส่วนบุคคลของนายเสอจื้อเจียงเท่านั้น แต่ยังข้องเกี่ยวกับความปลอดภัยส่วนบุคคลของเขาอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นได้ส่งผลกระทบต่อเอเชียแปซิฟิกกรุ๊ป กระทั่งเศรษฐกิจและสภาพสังคมของพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ วันนี้พวกเราจึงออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะ เพื่อชี้แจงประวัติความเป็นมาของการพัฒนาตามเส้นเวลาของนายเสอจื้อเจียงและเอเชียแปซิฟิตกรุ๊ป และสำแดงความบริสุทธิ์ลบล้างข้อมูลอันเป็นเท็จ แสดงให้เห็นจุดยืนที่แท้จริงของนายเสอจื้อเจียงและเอเชียแปซิฟิคกรุ๊ป ในขณะเดียวกันก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องทางกฎหมายต่อทางสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ อีกทั้งเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศให้ยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรม คืนความเป็นธรรมให้แก่นายเสอจื้อเจียง รับรองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และสิทธิอันชอบธรรมทางกฎหมายให้กับเขา

1.       ความตั้งใจแรกเริ่มและโชคชะตา

เดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 นายเสอจื้อเจียงได้เหยียบแผ่นดินเมืองชเวก๊กโก ประเทศเมียนมาร์ เป็นครั้งแรก เขายังมีภาพจำฉากนั้นอย่างชัดเจน คือเต็มไปด้วยกระท่อมมุงจากอันทรุดโทรม ไฟสงครามทำเอาใจไม่ดี ลูกเด็กเล็กแดงวิ่งเท้าเปล่าอยู่บนซากปรักหักพัง ผู้สูงอายุทำได้เพียงนั่งนิ่งอยู่บนกองฟางเก่า ๆ อย่างช่วยไม่ได้

ณ วินาทีนั้น เขารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นในใจ กระทั่งอดนึกถึงเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องที่มีแม่ชีรูปหนึ่งที่ใช้กำลังของตนทำให้สงครามระหว่างสองประเทศหยุดไปได้หลายวัน ทำให้เหล่าชาวบ้านต่างโล่งอกได้หายใจหายคอ

ในปีนั้น นายเสอจื้อเจียงอายุได้สามสิบกว่า ๆ เขาเป็นแค่เด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนจบแม้กระทั่งชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งด้วยซ้ำ บางทีในสายตาของคนอื่นนั้น เขาไม่อาจนับเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ในใจของเขามีแรงผลักดันอันแรงกล้า เขาต้องการจะอยู่ต่อ เขาอยากทดลองกระทำการบางอย่างเพื่อที่นี่ ให้คนที่หมดหนทางเหล่านี้ได้มีข้าวกิน มีเกราะกำบังลมฝนในพักพิง

นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของพรหมลิขิตระหว่างเขากับเมืองชเวก๊กโก




2.       แปดปีแห่งความมุ่งมั่นและทุ่มเท

ในปีพ.ศ. 2560 นายเสอจื้อเจียงได้เริ่มพัฒนาเมืองชเวก๊กโกด้วยน้ำมือของเขาอย่างเป็นทางการ ซึ่งใช้เวลาถึงแปดปี การสร้างเมืองบนพื้นที่รกร้างนั้นยากเหลือคณานับ แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ สิ่งที่เขาทุ่มเทลงไปไม่ได้มีเพียงเงินตราและแรงกายแรงใจ แต่ยังแบกรับความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างใหญ่หลวงเอาไว้ด้วย

ช่วงโรคระบาด

          ในขณะที่ทั่วโลกต่างล็อคดาวน์และตื่นตระหนกนั้น เมืองชเวก๊กโกยิ่งเผชิญกับภาวะขาดแคลนยาและเสบียงอาหาร ถ้าหากไม่ได้เงินทุนและทรัพยากรปริมาณมากที่นายเสอจื้อเจียงบริจาคให้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยโรคระบาดแล้วนั้น ไม่อาจทราบได้เลยว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากน้อยเพียงใด ในหลายปีนั้น หลายครอบครัวยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ก็ด้วยการป้องกันโรคระบาดและการช่วยเหลือที่นายเสอจื้อเจียงจัดแจงอย่างทันท่วงที

          เขาลงทุนสร้างพื้นที่กักกันโรค ติดต่อประสานงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้การสันบสนุนการป้องกันโรคระบาดและการรักษา ต่อให้สภาพจะทุรกันดาร แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดที่จะส่งกำลังคนและสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่นี้ให้ผ่านวิกฤตไปได้



(การก่อตั้งพื้นที่กักกัน สถานีป้องกันการแพร่ระบาก และสิ่งของช่วยเหลือในการต่อต้านโรคระบาดรวมมูลค่า 396 ล้านจ๊าดเมียนมาร์ในช่วงโรคระบาด)


โครงสร้างพื้นฐาน

นายเสอจื้อเจียงพาคนมาซ่อมถนน สร้างบ้าน ก่อสร้างเมืองให้เป็นรูปเป็นร่าง ไม่ว่าสภาพแวดล้อมที่นี่จะยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ความเสี่ยงจะสูงเสียดฟ้า เขาก็ไม่เคยท้อถอย



 
(YATAI Group พัฒนาการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง เช่น การก่อสร้างถนน การก่อสร้างโรงงาน การอนุรักษ์น้ำ ฯลฯ)



 
(จัดตั้งหน่วยดับเพลิงยุคปัจจุบัน จัดอุปกรณ์ของเมืองให้ครบครัน)





โอกาสในการประกอบอาชีพ

นายเสอจื้อเจียงได้สร้างอาชีพให้กับคนประมาณ 80,000 ตำแหน่งทางอ้อมผ่านการพัฒนาเมือง ในพื้นที่อย่างเมียนมาร์นี้นั้น การทำงานของคน ๆ เดียวสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ 5 คน นั่นแปลว่ามีคนที่มีกินมีใช้จากการที่เขาลงทุนไปทั้งหมดประมาณ 400,000 คน และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติมีมีศักดิ์ศรี



 
(พลเมืองย่าไท่เมืองชเวก๊กโกมีชีวิตชีวา มีอิสระในอาชีพการงาน มีความสุข)


นี่คือความมุ่งมั่นของนายเสอจื้อเจียงในช่วงหลายปีนี้ และเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา น่าเสียดายที่การอุทิศเหล่านี้ไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมจากโลกภายนอกเลย

3.       ข้อกล่าวหาอันต่อเนื่องไม่มีหยุด

อย่างไรก็ตาม ความทุ่มเทของนายเสอจื้อเจียงกลับถูกตอบแทนด้วยการโจมตีและใส่ร้ายป้ายสีครั้งแล้วครั้งเล่า

a.     ข้อกล่าวหาจากรัฐบาลจีน

พวกเขาบอกว่านายเสอจื้อเจียงประกอบกิจการพนันออนไลน์ในระหว่างปีพ.ศ. 2557 ถึงพ.ศ. 2560 และหลบหนีความผิด อีกทั้งยังได้รับหมายแดงจากนานาชาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 ถึงพ.ศ. 2562 เขายังคงเข้าออกประเทศจีนได้อย่างอิสระอยู่หลายครั้ง บนหนังสือเดินทางของเขามีตราประทับการตรวจลงตราอย่างชัดเจน อนุญาตให้เขาพำนักได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากเขาหลบหนีความผิดจริง ทำไมในตอนนั้นประเทศจีนจึงไม่จับกุมตัวเขา



(รูปภาพแสดงหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาที่ถูกต้องตามกฎหมายและวีซ่าประเทศจีน)



b.     ข้อกล่าวหาจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐอเมริกาก็ได้คว่ำบาตรนายเสอจื้อเจียง

หากพูดอย่างมีความรับผิดชอบที่สุดแล้ว สิ่งที่นายเสอจื้อเจียงยอมรับว่าเคยกระทำ มีเพียงสองเรื่องดังต่อไปนี้

1) เขาพัวพันกับการพนันออนไลน์จริง แต่นั่นอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และตอนนั้นก็มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย



 
(ใบอนุญาตเกี่ยวกับการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายประเทศฟิลิปปินส์)


2) เขาได้พัฒนาเมืองขึ้นมาจริง อีกทั้งมีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายที่ประเทศเมียนมาร์ มีเอกสารทางการรับรองจากทางรัฐบาลเป็นหลักฐาน



   
(ได้รับใบรับรองเอ็มไอซี ประเทศเมียนมาร์)



3) ได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาร์ ผลักดันเมืองย่าไท่และยกระดับคุณภาพชีวิตพลเมืองอย่างถูกกฎหมาย



 
(ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 รัฐบายเมียนมาร์วางแผนที่จะยกระดับชเวก๊กโกในรัฐกะเหรี่ยงให้เป็นเมือง)



“การกล่าวหา” อื่น ๆ ดังกล่าวล้วนถูกยัดเยียดให้กับนายเสอจื้อเจียง

c.     การรายงานข่าวและใส่ร้ายป้ายสีจากสื่อ

สื่อหลักที่เป็นเป็นกระแส 10 อันดับต้นของโลก รวมถึงสื่อหลักของประเทศจีน ล้วนรายงานข่าวของนายเสอจื้อเจียงทั้งสิ้น

มีเพียงจำนวนน้อยที่เรียกนายเสอจื้อเจียงว่าเป็น “นักพัฒนาเมือง” และยอมรับการอุทิศตนของเขา แต่ที่เหลือส่วนใหญ่กลับตราหน้าในเชิงลบ พรรณนาว่าเขาเป็นคนไม่ดี

พวกเขาใช้ “หลักฐาน” ที่ว่า ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้รับการตรวจสอบและข้อมูลเท็จ ดังเช่น “ฐานมิจฉาชีพหลอกลวง การบังคับทำงาน การใช้ความรุนแรง การพนัน การค้ายาเสพติด การค้าประเวณี” และอื่น ๆ ขอถามสำนักข่าวต่าง ๆ ว่าได้ใช้ผลการพิจารณาคดีของประเทศใดในการรายงานข่าวกันหรือ

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตที่สร้างขึ้นด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงอย่างร้ายแรง




4.       ความน้อยเนื้อต่ำใจและคับข้องใจของนายเสอจื้อเจียง

พวกเรายอมรับว่า ในกระบวนการพัฒนาเมืองนั้น อาจมีกิจการสีเทาบางส่วนปรากฏขึ้นมา แต่ขอให้ทุกคนลองคิดดู สถานการณ์เช่นนี้นั้นที่เมืองไหน ประเทศไหนจะไม่มีบ้าง ในประเทศจีน ต่อให้เป็นเมืองที่ใหญ่เพียงใด ก็ยังคงมีคนที่กระทำผิดกฎหมาย ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน

แต่ปัญหาก็คือ ในฐานะนักพัฒนาเมืองคนหนึ่ง นายเสอจื้อเจียงไม่ได้มีอำนาจการบังคับใช้กฎหมาย บทบาทของเขามีเพียงการปรับที่ดิน แล้วขายที่ดินให้แก่นักลงทุน จากนั้นพวกเขาจึงสร้างบ้าน ให้เช่า และค้าขาย ในส่วนที่ว่าให้ใครเช่า ภายในนั้นทำธุรกิจอะไร นั่นเป็นเรื่องที่หน่วยงานความมั่นคงท้องถิ่นต้องเป็นผู้ตรวจสอบ ไม่ใช่หน้าที่ของนายเสอจื้อเจียงจะไปควบคุมดูแลได้

ถ้าเป็นเพราะเพียงในเมืองมีกิจการผิดกฎหมาย แล้วโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับนักพัฒนาเมืองอย่างนายเสอจื้อเจียงแล้วล่ะก็ เช่นนั้นแล้วนายกเทศมนตรีทั่วโลกก็คงจะมีความผิดกันหมดไม่ใช่หรือ นับประสาอะไรกับเขาผู้ซึ่งไม่ได้เป็นนายกเทศมนตรีด้วยซ้ำ

ในใจของนายเสอจื้อเจียงนั้นเจ็บปวดเหนือคำบรรยาย เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่เติบโตมาจากบ้านนอก จะสามารถ “เขย่าโลก” ได้อย่างไร แต่เขาในตอนนี้กลับเป็นเหยื่อที่ถูกใช้ในการประชันกันระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ

5.       การอุทิศตนและความเป็นจริง

ทุกท่านกรุณาอ่านข้อเท็จจริงเหล่านี้ให้ชัดเจน

a.     เมืองที่นายเสอจื้อเจียงพัฒนาขึ้นได้สร้างอาชีพให้กับคน 80,000 คน เลี้ยงดูคนได้อย่างน้อย 400,000 ชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม

b.     นายเสอจื้อเจียงได้ช่วยให้คนที่นี่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด

c.     นายเสอจื้อเจียงมีประวัติเกี่ยวกับการพนันอยู่จริง แต่นั่นอยู่ในขอบเขตที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าแอบกระทำผิดกฎหมาย

d.     เมืองที่นายเสอจื้อเจียงพัฬนานั้นมีการจดทะเบียนกับประเทศเมียนมาร์และมีเอกสารถูกต้อง ไม่ใช่ “เมืองมืด” ที่ว่า

e.     เอเชียแปซิฟิกกรุ๊ปของนายเสอจื้อเจียงดำเนินงานเพื่อสังคม มีการบริจาคเงินสดและสิ่งของรวมมูลค่ามากกว่า 635 ล้านบาท ช่วยเหลือสถานเด็กกำพร้า คนชรา พระสงฆ์ในระยะยาว และให้ทุนช่วยเหลือเด็กยากจนให้ได้รับการศึกษา

f.      เอเชียแปซิฟิกกรุ๊ปของนายเสอจื้อเจียงได้สร้างอาชีพให้กับประชากรชาวเมียนมาร์โดยตรงกว่า 100,000 ราย อุทิศให้มีการพัฒนาพื้นที่อย่างยิ่งใหญ่



ภาพซ้าย: ปีพ.ศ. 2560 บริจาคเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตภัยพิบัติประเทศเมียนมาร์เป็นจำนวน 20,000,000 จ๊าดเมียนมาร์

ภาพขวา: ปีพ.ศ. 2560 ลงทุน 150 ล้านจ๊าดเมียนมาร์เพื่อช่วยเหลือในการสร้างโรงพยาบาล SMRU



ภาพซ้าย: ปีพ.ศ. 2566 บริจาคเงิน 1,600 ล้านจ๊าดเมียนมาร์ช่วยเหลือการสร้างบ้านให้กับผู้ประสบภัย

ภาพขวา: บริจาคสิ่งของให้กับผู้สูงอายุเมืองชเวก๊กโกในวันผู้สูงอายุของทุกปี



ภาพแรก: ปีพ.ศ. 2562 บริจาคเงิน 150 ล้านจ๊าดเมียนมาร์ให้แก่โรงพยาบาลชเวก๊กโก

ภาพที่สอง: ปีพ.ศ. 2563 บริจาคอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดมูลค่า 396 ล้านจ๊าดเมียนมาร์

ภาพที่สาม: ปีพ.ศ. 2567 บริจาคเงิน 300 ล้านจ๊าดเมียนมาร์ให้แก่วัดพันอ้น

ภาพที่สี่: ปีพ.ศ. 2568 บริจาคเงิน 25 ล้านบาทให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในมัณฑะเลย์


หากไม่ได้เป็นเพราะการริเริ่มพัฒนาเมืองนี้จากนายเสอจื้อเจียงแล้วล่ะก็ เกรงว่ารัฐกะเหรี่ยงจะยังคงตกอยู่ในสภาวะสงครามอย่างไม่หยุดหย่อนตราบจนปัจจุบัน ประเทศเมียนมาร์เองก็จะเผชิญกับปัญหาผู้ประสบอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้พลเมืองรัฐกะเหรี่ยงต่างรู้สึกขอบคุณการพัฒนานี้ เป็นเพราะสามารถยับยั้งการอพยพออกของผู้ประสบภัยได้พอดี เปิดทางสว่างในการดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยให้แก่พวกเขา ในขณะเดียวกันการพัฒนานี้ไม่เพียงแต่ลดจำนวนผู้ประสบภัยในประเทศเมียนมาร์แล้วแต่ยังคงลดแรงกดดันต่อการรับผู้ลี้ภัยของอำเภอเม่สอด ประเทศไทย ได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาคในพื้นที่ดังกล่าว

6.       จุดยืนที่เกี่ยวข้องกับทางฝั่งสหรัฐอเมริกา

พวกเราขอประกาศอย่างหนักแน่นว่า

นายเสอจื้อเจียงยอมรับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนและการพิจารณาคดีตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งเชื่อมั่นในระบบตุลาการของสหรัฐอเมริกาว่าสามารถตัดสินเขาอย่างยุติธรรมได้ ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

ในเมื่อนายเสอจื้อเจียงถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรอย่างเปิดเผย รัฐบาลและระบบตุลาการของสหรัฐอเมริกาจึงไม่มีเหตุใดที่จะปฏิเสธผู้ที่ขอเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ความร่วมมือในการสอบสวน หากมารตรการการคว่ำบาตรนั้นเป็นเพียงแค่ข้อความในเอกสารและใบประกาศเท่านั้น แต่กลับไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างจริงภายใต้กรอบกระบวนการยุติธรรมของตุลาการของสหรัฐอเมริกาแล้วล่ะก็ มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะกลายเป็นเพียงตัวอักษรลอย ๆ ขาดทั้งความเป็นธรรมและความน่าเชื่อถือ

ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงขอเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจัง ดำเนินขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนทันที เพื่อให้นายเสอจื้อเจียงสามารถพิสูจน์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ต่อศาล ได้รับคำพิพากษาอันชอบธรรม ไม่ใช่ว่าตกเป็นเครื่องมือจากการใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลเท็จ

พวกเรายืนหยัดต่อต้านการกระทำกรรมวิธีใดอันเกิดจากแรงกดดันรัฐบาล มีเพียงองค์การตุลาการเท่านั้นที่สามารถหลีกจากความอยุติธรรมไปได้ พวกเราเชื่อมั่นว่า องค์กรตุลาการของสหรัฐอเมริกาจะมีความเป็นอิสระในการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง และสุดท้ายตัดสินว่าเสอเจ้อเจียงเป็นผู้บริสุทธิ์

7.       ข้อเรียกร้องต่อนานาชาติ

a.     ข้อเรียกร้องต่อสื่อนานาชาติ

พวกเราขอเรียกร้องให้สื่อนานาชาติ รวมถึงเอเอฟพี สำนักข่าวรอยเตอร์ สำนักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ เข้ามายังเมืองย่าไท่เพื่อรายงานข่าวจากพื้นที่จริง เพื่อเป็นการระงับข่าวเท็จลำเอียง

b.     ข้อเรียกร้องต่อองค์กรสิทธิมนุษยชน

พวกเราขอเรียกร้องให้สำนักงานองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมาคมเนติบัณฑิตยสภาระหว่างประเทศ และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ติดตามความคืบหน้าของคดีและกำกับดูแลความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม

c.     ข้อเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ

พวกเราเรียกร้องให้แต่ละประเทศพิจารณาอย่างเป็นอิสระ ไม่ถูกชักจูงให้เข้าใจผิด

8.       คำมั่นสัญญาและแนวทางในอนาคต

นายเสอจื้อเจียงและเอเชียแปซิฟิกกรุ๊ปจะดำเนินการต่อไปนี้อีกต่อไป

          ส่งเสริมการพัฒนากิจการที่ถูกกฎหมาย ถูกกฎระเบียบ และโปร่งใส

          ให้ความร่วมมือกับประชาคมโลก ให้ข้อมูลที่เป็นความจริง

          ยึดมั่นในหน้าที่ความรับผิดชอบ ปกป้องเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของพื้นที่

พวกเราเชื่อว่า

          สุดท้ายความจริงจะเปิดเผย ความยุติธรรมจะไม่จางหายไปไหน พวกเรายังคงเชื่อว่า นายเสอจื้อเจียงจะได้รับความบริสุทธิ์กลับคืนมาจากการตัดสินขององค์กรตุลาการสหรัฐอเมริกา และเอเชียแปซิฟิกกรุ๊ปเองก็จะร่วมมือกับภูมิภาคและรับชอบต่อสังคมต่อไป

9.       ความยากลำบากที่แท้จริงและข้อเรียกร้องต่อสหประชาชาติ

“ความผิด” ของเสอจื้อเจียงนนั้นคือการดำเนินการพัฒนาก่อสร้างเมืองในฐานะองค์กรเอกชน

เป็นเพราะเขาและเอชียแปซิฟิกกรุ๊ปได้พัฒนาและก่อสร้างเมือง จึงสร้างอาชีพให้แก่คนราว 80,000 คนทางอ้อม อีกทั้งเลี้ยงดูคนราว 400,000 ชีวิต

ในตอนนี้ พวกเราหวังว่าสหประชาชาติจะสามารถส่งตัวแทนมายังเมืองย่าไท่ รับรองการสร้างงานให้กับผู้คนราว 80,000 คน และแก้ไขปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนอีกหลายแสนคน

ถึงแม้ว่าในนามแล้วที่นี่จะเป็นเมือง แต่ในความเป็นจริงพื้นที่นี้ยังคงต้องแบกรับผู้ประสบภัย ช่วยเหลือให้ประชาชนยังคงมีชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางสงคราม

อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบนี้ในปัจจุบันนั้น นายเสอจื้อเจียงและเอเชียแปซิฟิกกรุ๊ปไม่สามารถแบกรับหน้าที่นั้นได้เพียงลำพังอีกต่อไป พวกเราร้องขอให้สหประชาชาติเข้ามาดำเนินการแก้ไข อีกทั้งยอมรับกระทำตามการตัดสินใจใด ๆ ของสหประชาชาติอย่างไม่มีเงื่อนไข พวกเราเชื่อว่าสหประชาชาติสามารถมองพวกเราได้อย่างถูกต้องและเป็นกลาง

10.     การจัดตำแหน่งกลุ่มและข้อเรียกร้อง

นายเสอจื้อเจียงเป็นเพียงผู้รับผิดชอบบริษัทจำกัดหนึ่งที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทดังกล่าวดำเนินกิจการงานพัฒนาและก่อสร้าง

พวกเรายอมรับว่าในเมืองนั้นมีพื้นที่สีเทาอยู่ แต่เมืองไหนในโลกบ้างที่ไม่มีพื้นที่สีเทากันเล่า

ทว่า องค์กรของพวกเราไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย มีเพียงศักยภาพในการพัฒนาและก่อสร้าง

ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงร้องขอให้สหประชาชาติส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามายังเมืองย่าไท่ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงการดำเนินกิจการและการก่อสร้าง ไม่ให้เมืองใหม่นี้ตกเป็นเหยื่อของการแย่งชิงอำนาจระหว่างมหาอำนาจสองประเทศ

ข้อเรียกร้องของนายเสอจื้อเจียงนั้นเรียบง่ายมาก ไม่ใช่เพื่อศักดิ์ศรี ไม่ใช่เพื่อการยกย่อง แต่เพียงเพื่อความยุติธรรมเท่านั้น
75
อลิอันซ์ อยุธยา ชวนคนไทยวางแผนรับมือโรคร้าย
มอบส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 20% สำหรับผู้เริ่มวางแผนคุ้มครองสุขภาพวันนี้

•     อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดตัว “แพ็ครับมือโรคร้าย”
•   เตรียมความคุ้มครองให้ครบทุกช่วงของการรักษาที่ต้องเจอ ทั้งใน-นอก โรงพยาบาล


            มอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันโรคร้ายปีแรกสูงสุด 20% ของเบี้ยประกันภัย


            ในยุคที่สุขภาพไม่อาจคาดเดาได้เหมือนในอดีต โรคร้ายแรงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในกลุ่มผู้สูงอายุอีกต่อไป แต่เริ่มพบมากขึ้นในคนวัยทำงานและคนรุ่นใหม่ที่ต้องเผชิญทั้งความเครียด การใช้ชีวิตเร่งรีบ และพฤติกรรมสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จึงเดินหน้าตอบโจทย์ความท้าทายด้านสุขภาพยุคใหม่ ด้วยการเปิดตัว “แพ็ครับมือโรคร้าย” แผนความคุ้มครองเพิ่มเติมที่ออกแบบให้ดูแลครบทุกช่วงของการรักษา พร้อมมอบส่วนลดเบี้ยประกันภัยปีแรกสูงสุด 20% สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวางแผนคุ้มครองสุขภาพตั้งแต่วันนี้


            หลายคนเข้าใจว่ามีประกันสุขภาพทั่วไปก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง หากต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง ค่าใช้จ่ายกลับไม่ได้จบแค่ตอนรักษาในโรงพยาบาล แคมเปญ “แพ็ครับมือโรคร้าย” ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพอย่างรอบด้าน ด้วยประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง ที่ช่วยให้ผู้เอาประกันมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลต่อเนื่องในทุกขั้นตอนของการรักษา ตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายตามจริง ค่าผ่าตัด ล้างไต เคมีบำบัด การรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า ไปจนถึงค่ากายภาพบำบัดและการติดตามผลหลังออกจากโรงพยาบาล ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างครบวงจร ได้แก่


            ประกันสุขภาพ “ปลดล็อค ดับเบิล แคร์” ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริงในทุกขั้นตอนของการรักษา ไม่ว่าจะเป็นค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าตรวจทางห้องแล็บ หรือค่ารักษาเฉพาะทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายในหอผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) ที่มักเป็นภาระหลักของผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มวงเงินความคุ้มครองขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อพบโรคร้ายแรงตามเงื่อนไข เพื่อช่วยให้ผู้เอาประกันมีงบประมาณเพียงพอสำหรับการรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การล้างไต การทำเคมีบำบัด หรือการรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) พร้อมดูแลต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาล ทั้งค่ากายภาพบำบัดและค่าตรวจติดตามผลภายในระยะเวลาที่กำหนด


            ประกันโรคร้ายแรง “48 บียอนด์” มอบเงินก้อนทันทีเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงพักฟื้น เช่น ค่าพาหนะเดินทางไปพบแพทย์ ค่ายาเวชภัณฑ์ หรือค่าดูแลผู้ป่วยที่บ้าน โดยคุ้มครองครอบคลุมกว่า 75 โรคร้ายแรงและอาการ ซึ่งรวมถึงโรคร้ายแรงในเด็ก อาทิ มะเร็งระยะลุกลาม กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคไตวายเรื้อรัง รวมถึงโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสังคมไทยปัจจุบัน


            ประกัน “มะเร็งหายห่วง” เป็นแบบประกันเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อให้การคุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ไปจนถึงระยะลุกลามที่ต้องใช้การรักษาซับซ้อนและต่อเนื่องในระยะยาว โดยผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่ขั้นตอนการวินิจฉัย การรักษาด้วยเคมีบำบัด การฉายรังสี หรือการรักษาแบบมุ่งเป้า รวมถึงการติดตามผลหลังการรักษา หากกลับมาเป็นซ้ำหรือมีการลุกลามของโรค บริษัทก็ยังคงให้ความคุ้มครองต่อเนื่องในเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ประกันมะเร็งหายห่วงยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาแบบทันสมัย และสนับสนุนคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและครอบครัวในทุกช่วงของการต่อสู้กับโรค


            พิเศษ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวางแผนคุ้มครองสุขภาพตั้งแต่วันนี้ อลิอันซ์ อยุธยา มอบสิทธิพิเศษ ด้วยส่วนลดเบี้ยประกันภัยปีแรกสูงสุด 20% สำหรับแบบประกันโรคร้ายแรงที่ร่วมรายการ พร้อมรับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลเพิ่มเติมมูลค่า 100,000 บาทฟรีทันที

            ข้อเสนอความคุ้มครองโรคร้ายแรงครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการเดินหน้ายึดแนวทาง “อยู่เคียงข้างชีวิตคุณอย่างตรงไปตรงมา” ส่งเสริมให้คนไทยทุกคนได้เตรียมความพร้อมรับมือกับโรคร้ายอย่างรอบด้าน เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และมั่นใจได้ว่ามีแผนคุ้มครองที่เหมาะสมรองรับทุกช่วงของชีวิต โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนประกันชีวิตของอลิอันซ์ อยุธยา หรือ โทร. 1373
76
ดาวดังลิฟกอล์ฟตบเท้าสู้ศึก สิงคโปร์ โอเพ่น "กิรเดช" หวังแก้มืออีกครั้งในสัปดาห์นี้


กิรเดช อภิบาลรัตน์


โธมัส พีเตอร์ส


Scott Vincent


สดมภ์ แก้วกาญจนา

4 พฤศจิกายน 2568 – ดาวดังจากลิฟกอล์ฟตบเท้าสู้ศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการ “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น” ประชันเหล่ายอดฝีมือจากเอเชียน ทัวร์ ที่สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายนนี้ โดยมีเงินรางวัลให้ช่วงชิงรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ด้านโปรไทยนำทัพโดย กิรเดช อภิบาลรัตน์ ที่หวังแก้มือบนสังเวียนเอเชียน ทัวร์ อีกครั้งหลังทำผลงานดีที่ฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (ภาพ: Asian Tour)

เอเชียน ทัวร์ ร่วมกับ สมาคมกอล์ฟสิงคโปร์ จัดการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ รายการ “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น” ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,295 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ โดยมีดาวดังของโลกลงประชันฝีมือกับเหล่าผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์ อาทิ เทเลอร์ กูช โปรชาวอเมริกัน ดีกรีแชมป์บุคคลของลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาล 2023, โธมัส พีเตอร์ส เจ้าแชมป์ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 6 รายการจากเบลเยี่ยม รวมถึงสองผู้เล่นทีม Crushers GC อย่าง พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการชาวอังกฤษ และชาร์ลส์ ฮาเวลล์ เดอะเธิร์ด จากสหรัฐฯ


ทางด้านผู้เล่นแถวหน้าของเอเชียน ทัวร์ นำโดย สกอตต์ วินเซนต์ จากซิมบับเว ผู้นำคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ และ คาซุกิ ฮิกะ มือหนึ่งคะแนนสะสมเอเชียน ทัวร์ จากญี่ปุ่น ส่วนนักกอล์ฟจากดีพีเวิลด์ ทัวร์ อย่าง โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ หวังกลับมาแก้มือในเวทีเอเชียน ทัวร์ อีกครั้งหลังทำผลงานติดท็อปบนลีดเดอร์บอร์ดในรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่ฮ่องกง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013 เผยถึงการกลับมาเล่นเอเชียน ทัวร์ เป็นรายการที่สองในรอบปีเผยความพร้อมในการลงแข่งว่า “รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้เจอเพื่อนๆ เพราะผมอยากกลับมาเล่นเอเชียน ทัวร์ เสมอ การได้มาเล่นกับน้องๆ รุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตในเวทีระดับโลกทำให้ได้เห็นการเติบโตของนักกอล์ฟรุ่นใหม่ และเป็นการท้าทายตัวเองที่เราต้องแข่งขันกับเด็กที่มีไฟ ซึ่งผมก็ต้องการอะไรมากระตุ้นตัวเองเช่นกัน ช่วง 3-4 เดือนที่ผานมาผมตีกอล์ฟได้ค่อนข้างดี ผลงานครึ่งฤดูกาลหลังเป็นที่น่าพอใจทั้งในยุโรปและเอเชีย สัปดาห์ที่แล้วทำได้ดีแต่มาผิดพลาดช่วงเก้าหลุมสุดท้าย ถือว่าเอาความผิดพลาดมาปรับปรุง และจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดในสัปดาห์นี้ สำหรับสภาพสนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ แห่งนี้ถือดีมาก ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ จะมีแค่เรื่องสภาพอากาศ และเดินเหนื่อย ต้องพยายามรักษากำลังของตัวเองให้ครบ 4 วัน คาดว่าสัปดาห์นี้น่าจะตัวตัวที่สกอร์ค่อนข้างต่ำ เราอาจเห็นนักกอล์ฟรุ่นใหม่ตีสกอร์ต่ำๆ เข้ามา สำหรับผมเป้าหมายหลักแค่ได้มาเล่นที่นี่ก็มีความสุขแล้ว และยังอยากกลับมาชนะอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปเกือบ 6 ปี คิดว่าไม่นานเกินรอ”


ทั้งนี้กอล์ฟรายการ สิงคโปร์ โอเพ่น จัดการแข่งขันครั้งล่าสุดในปี 2022 ซึ่ง โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา นักกอล์ฟแถวหน้าของไทยคว้าชัยชนะไปครองได้ในปีนั้น ขณะที่นักกอล์ฟที่สามารถจบในสองอันดับแรกของตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 จะได้รับสิทธิ์ไปเล่นในลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาลหน้า

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
77
ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 เสิร์ฟหนังไทยเข้มข้น 3 เรื่อง 3 อารมณ์  ห้ามพลาด 9 พฤศจิกายนนี้


ในวันที่ความกล้าหาญต้องเผชิญหน้ากับอำนาจมืด และศรัทธาต้องท้าทายโชคชะตา ภาพยนตร์ไทยระดับตำนานกลับมาอีกครั้งเพื่อปลุกพลังในใจผู้ชม ผ่านเรื่องราวของฮีโร่หน้ากากสีแดง มือปราบผู้มีอาคม และนักเลงรุ่นเก๋าผู้ไม่ยอมจำนนต่อกาลเวลา นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริงแฮม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, สมชาย เข็มกลัด และผู้พันเบิร์ด ถ่ายทอดบทบาทเข้มข้นใน “อินทรีแดง”, “ขุนพันธ์” และ “อันธพาล”


เริ่มความสนุกด้วย “อินทรีแดง” (เวลา 08.30 น.) นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริงแฮม รับบท “โรม” ชายหนุ่มผู้ปลอมตัวเป็น “อินทรีแดง” ฮีโร่หน้ากากสีแดงที่ออกตามล่าความจริงเกี่ยวกับองค์กรลับ “ไป่หลง” ผู้มีอิทธิพลและอยู่เบื้องหลังการตายของน้องชาย เขาร่วมมือกับนักข่าวสาว และนายตำรวจ เพื่อเปิดโปงเครือข่ายอำนาจมืดที่แฝงตัวอยู่ในสังคม


“ขุนพันธ์” (เวลา 18.40 น.) อนันดา เอเวอริงแฮม รับบท “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้มีอาคมและศรัทธาอันแรงกล้า ต้องเผชิญหน้ากับ “อัลฮาวียะลูพันธ์” (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยมที่ฆ่าไม่ตาย การต่อสู้ระหว่างอาคมและความเชื่อเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายของบ้านเมือง


“ขุนพันธ์ 2” (เวลา 21.00 น.) ขุนพันธ์ยังคงภารกิจปราบปรามโจรผู้ร้าย โดยแฝงตัวเข้าไปในชุมชนเสือ พบกับ “เสือฝ้าย” (ผู้พันเบิร์ด-พันเอก วันชนะ สวัสดี) และ “เสือใบ” (เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ) สองเสือร้ายที่มีอิทธิพลและอาคมแรงกล้า ขุนพันธ์ต้องเลือกข้างระหว่างความดีและความอยู่รอด


ตบท้ายด้วย “อันธพาล” (เวลา 23.00 น.) กฤษดา สุโกศล แคลปป์ รับบท “จ๊อด” และ สมชาย เข็มกลัด รับบท “แดง” สองนักเลงรุ่นเก๋าที่กลับมารวมตัวกันในยุคฮิปปี้ เพื่อร่วมงานกับแก๊งเจ้าพ่อใหญ่ โดยมี “ธง” และ “เปี๊ยก” อันธพาลรุ่นน้องที่ยกให้ทั้งคู่เป็นฮีโร่ในดวงใจ

ฝากติดตามชมภาพยนตร์ไทยคุณภาพทั้ง 3 เรื่องดังได้ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ รับชมสดได้ที่ www.true4u.com/live
78
4-6 พฤศจิกายน นี้ ชวนอุดหนุน “ดอกแก้วกัลยา”
รายได้ช่วยเหลือคนพิการทั่วประเทศ ที่ศูนย์การค้าแพลทินัม


ศูนย์การค้าแพลทินัม ขอเชิญชวนร่วมกันอุดหนุนผลิตภัณฑ์ “ดอกแก้วกัลยา” ดอกไม้พระราชทานสัญลักษณ์คนพิการ รายได้ช่วยเหลือ คนพิการทั่วประเทศ จัดจำหน่ายโดย สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชูปถัมภ์  ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2568  ณ บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าแพลทินัม โซน 1 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน  FB : Platinum Fashion Mall – แพลทินัม แฟชั่น มอลล์




“ดอกแก้วกัลยา เป็นดอกไม้ประดิษฐ์ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนาม เพื่อเป็นดอกไม้แห่งสัญลักษณ์ของคนพิการทั่วประเทศ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คนพิการ ซึ่งดอกแก้วกัลยาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการในศูนย์ส่งเสริมอาชีพของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์





79
ผงปรุงรสไทเชฟ แพ็กเกจใหม่ 4 รสชาติ "อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความพรีเมียม"


             เปลี่ยนลุคแต่ไม่เปลี่ยนรส! "ไทเชฟ" (ThyChef) ผู้นำด้านผงโรยอาหารและผงชงเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ เปิดตัวผงปรุงรสแพ็กเกจใหม่ สุด Exclusive ในแบบซองคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับแฟน ๆ เก่ง - น้ำปิง ที่อัปเกรดความอร่อยด้วย ผงปรุงรสสุดพรีเมียม 4 รสชาติสุดฮิต ได้แก่ ผงปรุงรสไก่, ผงปรุงรสเผ็ด, ผงปรุงรสบาร์บีคิว และผงปรุงรสน้ำยำ ที่สวยสะดุดตา สีสันสดใส แม้จะเปลี่ยนลุคใหม่ให้น่าตื่นตา แต่รับประกันความจัดจ้าน เข้มข้น ถึงใจ และรสชาติอร่อยกลมกล่อมไม่เปลี่ยนแปลง! รังสรรค์เมนูอาหารให้หลากหลาย ตัวช่วยสำหรับการทำกับข้าวด้วยผงปรุงรสไก่, ผงปรุงรสเผ็ด และผงปรุงรสน้ำยำ หรืออร่อยง่าย ๆ เพียงแค่โรยหรือคลุกเคล้ากับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด, เฟรนช์ฟรายส์, ป็อปคอร์น หรือข้าวแต๋น ด้วยผงปรุงรสบาร์บีคิว ก็เปลี่ยนเมนูธรรมดาให้กลายเป็นจานเด็ดสุดสร้างสรรค์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เยอะ อร่อยกับแพ็กเกจใหม่ที่รสชาติยังเข้มข้นถึงใจเหมือนเดิมแน่นอน

             สำหรับผู้ที่สนใจผงปรุงรสแพ็กเกจใหม่ ขนาด 100 กรัม สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์กับบริการ “ฟาสต์ ไทเชฟ” สั่งวันนี้ ส่งวันนี้พรุ่งนี้ถึง เร็วทันใจที่ www.thychef.com หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40vul8664q หรือทาง Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/ thychef, Shopee : https://s.shopee.co.th/ 7zslrSS489, FB: ThyChef, ID Line: @thychef สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-968-3723-6
80
“ท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี” ซิวแชมป์ “TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย”
จุดประกายความฝันนักเตะเยาวชนอาเซียน





               ศึกฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ “TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย” (เทยิน   ยู-17 นิว เจเนอเรชัน คัพ 2025 ประเทศไทย) ปิดฉากลงอย่างเร้าใจ เมื่อทีมท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี โชว์ฟอร์มเด่นเฉือนเอาชนะ พีวีเอฟ เวียดนาม ไปอย่างสุดมันส์ด้วยสกอร์ 2 – 1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์ไปครองท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่ม ณ ธนบุรี สเตเดี้ยม




               พิธีปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจาก มร. มาซาโอะ คิบะ ผู้จัดการแข่งขัน และประธานองค์กร Japan Dream Football Association (JDFA) มร. คาซูชิเกะ อาซาดะ ประธาน บริษัท เทยิน โพลีเอสเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ ดร. บัญชา เกิดมณี อธิการดี มหาวิทยาลัยธนบุรี ร่วมมอบรางวัลและแสดงความยินดีกับเหล่านักเตะเยาวชนผู้สร้างความประทับใจตลอดทัวร์นาเมนต์ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 โดยมี 8 สโมสรเยาวชนจาก 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม และเมียนมา ร่วมประชันฝีเท้าในสมรภูมิลูกหนังเยาวชนสุดเข้มข้น ได้แก่

               สาย A: บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BG Pathum), พราม เอฟซี (Prime FC), ท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี (THAKHAM Chonburi FC), ฟัลคอน เอฟซี (Falcon FC) ประเทศเมียนมา
โดยแชมป์สาย A ได้แก่ ท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี (THAKHAM Chonburi FC)

               สาย B: อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด (Assumption United), ราชนาวี เอฟซี (Rajnavy FC), พีวีเอฟ เวียดนาม (PVF Vietnam) ประเทศเวียดนาม, อิวากิ เอฟซี (IWAKI FC) ประเทศญี่ปุ่น
โดยแชมป์สาย B ได้แก่ พีวีเอฟ เวียดนาม (PVF Vietnam) ประเทศเวียดนาม




               สำหรับคู่รองชนะเลิศอันดับที่ 2 เป็นการแข่งขันระหว่าง ฟัลคอน เอฟซี (ประเทศเมียนมา) และ ราชนาวี เอฟซี โดย ฟัลคอน เอฟซี โชว์ฟอร์มเด่น ทำประตูชนะราชนาวี เอฟซี ด้วยสกอร์  3 – 1 ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ เป็นการขับเคี่ยวระหว่างทีม ท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี และทีม พีวีเอฟ เวียดนาม โดยทีมท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี โชว์ฟอร์มร้อนแรง จบเกมส์ด้วยสกอร์  2 – 1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องจากผู้ชมทั่วสนาม

               ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ฟัลคอน เอฟซี (Falcon FC) จากประเทศเมียนมา และยังมีการมอบรางวัลเกียรติยศให้กับนักเตะดาวเด่นที่สร้างความประทับใจตลอดรายการ ได้แก่

รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (Most Valuable Player):
พสิษฐ์ วงศ์แสนสุข จาก ท่าข้าม ชลบุรี เอฟซี

รางวัลผู้ทำประตูสูงสุด (Top Scorer Award):
Nyi Nyi Thant (ญีญี ตาน) จาก ฟัลคอน เอฟซี (Falcon FC) ประเทศเมียนมา




               โดย มร.มาซาโอะ คิบะ ประธานองค์กร Japan Dream Football Association (JDFA) และผู้จัดการแข่งขัน กล่าวขอบคุณบริษัท เทยิน โพลีเอสเตอร์ จำกัด ผู้สนับสนุนหลักของรายการ รวมถึง มหาวิทยาลัยธนบุรี ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตลอดจนผู้สนับสนุนทุกภาคส่วน คณะกรรมการผู้ตัดสิน และนักกีฬาทุกคนที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของการแข่งขัน “TEIJIN U-17 New Generation Cup 2025 ประเทศไทย” พร้อมกล่าวว่า การได้เห็นความมุ่งมั่นและพลังของนักกีฬาเยาวชนในสนาม สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของรายการนี้ในการพัฒนาวงการฟุตบอลในอนาคต โดย JDFA จะมุ่งมั่นจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นรายการที่ได้รับความรักและการสนับสนุนจากทุกคนต่อไป
   
               สำหรับ มร. คาซูชิเกะ อาซาดะ ประธาน บริษัท เทยิน โพลีเอสเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน ได้กล่าวปิดท้ายว่า การได้เห็นนักฟุตบอลเยาวชนทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอดการแข่งขัน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงพลัง ความมุ่งมั่น และการเติบโตทั้งในด้านทักษะกีฬา และจิตใจ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ พร้อมส่งกำลังใจให้นักเตะทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่ความฝันในการเป็นตัวแทนทีมชาติและนักฟุตบอลระดับโลกในอนาคต

               การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ตอกย้ำเจตนารมณ์ของ JDFA และพันธมิตรทุกภาคส่วน ที่มุ่งมั่นสร้างเวทีแห่งโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะฟุตบอลในระดับสากล พร้อมเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนักเตะอาชีพในอนาคต และเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพอันแข็งแกร่งระหว่างชาติในภูมิภาคอาเซียน


Pages: 1 ... 6 7 [8] 9 10