Recent Posts

Pages: [1] 2 3 ... 10
1
ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง นำเสนอศักยภาพตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ
ด้านอุตสาหกรรมทางทะเล ในงาน Thailand Marine & Offshore (TMOX) Expo 2025


            บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด นำเสนอศักยภาพในฐานะอู่ต่อเรือเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมทางทะเล ในงาน Thailand Marine & Offshore (TMOX) Expo 2025 งานอุตสาหกรรมการเดินเรือ การต่อเรือ และธุรกิจนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ


            ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้นำและผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากอุตสาหกรรมทางทะเล ออฟชอร์ พลังงาน และโลจิสติกส์ มาร่วมกันนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและแนวโน้มตลาดที่กำลังก้าวหน้า ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรม โดยยูนิไทยมุ่งเน้นแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในด้าน นวัตกรรม คุณภาพ และการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมทางทะเลและออฟชอร์ของประเทศไทยให้ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง





2
I Love Daddy!
คาเฟ่ แคนทารี ร่วมฉลองวันพ่อ 5 ธันวาคม 2568
“ซื้อเครื่องดื่ม1 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว”


              5 ธันวาคม 2568 คาเฟ่ แคนทารีทุกสาขา จัดเต็มกับโปรโมชั่นสุดคุ้มแทนคำบอกรัก เอาใจคุณพ่อ และครอบครัว ด้วยเครื่องดื่มหลากหลายเมนูแสนอร่อยสไตล์คาเฟ่ แคนทารี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มกาแฟร้อนและเย็น เมล็ดกาแฟพรีเมียม ชอคโกแลต ชาเขียว หรือสมูทตี้นานารสชาติ ฯลฯ “ซื้อเครื่องดื่ม1 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว” ทันที (ในราคาที่เท่ากันหรือน้อยกว่าแก้วแรกที่ซื้อ ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มแบบกระป๋อง)




              สาขาคาเฟ่แคนทารี: ปราจีนบุรี เชียงใหม่ เกาะยาวน้อย โคราช ภูเก็ต ศรีราชา ระยอง ระยองบายเดอะซี (หาดแสงจันทร์) อยุธยา และคาเฟ่ แคนทารี คอนเนอร์ สาขาคลาสสิค คามิโอ อยุธยา

              สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Centre: 1627 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.cafekantary.com






3
“กิรเดช-แดนไท” รั้ง 12 ร่วมศึก พีไอเอฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ รอบสอง “ซูแรตต์” นำต่อ


คาเลบ ซูแรตต์


กิรเดช อภิบาลรัตน์


แดนไท บุญมา


โธมัส ปีเตอร์ส

21 พฤศจิกายน 2568 – กิรเดช อภิบาลรัตน์ และ แดนไท บุญมา ทำสกอร์รวมสองวันคนละ 8 อันเดอร์พาร์ 134 อยู่ในกลุ่มอันดับ 12 ร่วม หลังผ่านครึ่งทางกอล์ฟพีไอเอฟซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส ที่สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,439 หลา พาร์ 71 ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ คาเลบ ซูแรตต์ โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน รักษาตำแหน่งผู้นำต่อด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 128 (ภาพ: Asian Tour)

เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ พีไอเอฟซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส รายการสุดท้ายของอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 160 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายนนี้ โดยมีนักกอล์ฟไทยลงชิงชัย 14 คน ทั้งนี้เวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบียช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง


ผ่านครึ่งทางของการแข่งขัน โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013 เก็บได้อีก 1 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134 เท่ากับ แดนไท บุญมา เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ สองรายการ ที่หวดอีก 4 อันเดอร์พาร์ 69 เป็นวันที่สอง ทั้งคู่รั้งในกลุ่มอันดับ 12 ร่วมกับโปรดังอย่าง พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ, ปีเตอร์ ยูไลน์ ผู้เล่นจากลิฟกอล์ฟ ลีก ชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองรายการ และ สกอตต์ วินเซนต์ จากซิมบับเว ซึ่งกำลังรั้งอันดับหนึ่งในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ในขณะนี้

ขณะที่ตำแหน่งจ่าฝูงยังเป็นของ คาเลบ ซูแรตต์ ดาวรุ่งวัย 21 ปี จากสหรัฐฯ ที่หวดเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ 66 จากการทำ 5 เบอร์ดี้ ไม่มีโบกี้ นำต่อเป็นวันที่สองด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 128 โดยมี โธมัส ปีเตอร์ส จากเบลเยี่ยม ที่ตีเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 ไล่จี้เพียงสโตรคเดียว


คาเลบ ซูแรตต์ ผู้เล่นลิฟกอล์ฟทีม Legion XIII ของจอน ราห์ม ซึ่งจบรองแชมป์รายการนี้เมื่อปีที่แล้ว เผยว่า “เป็นวันที่ดีมาก ผมออกไปเล่นวันนี้ บางครั้งก็คิดมาก บางครั้งก็คิดเร็วเกินไป แต่ผมก็ยังเล่นได้ดี ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีที่ผมได้เห็นตัวเอง และหวังว่าจะใช้โมเมนตัมแบบเดียวกันนี้ในอีกสองวันที่เหลือ ซึ่งสกอร์แต่ละคนบนลีดเดอร์บอร์ดยอดเยี่ยมมาก ก็ต้องรอดูกันต่อไป”

ทางด้านนักกอล์ฟชื่อดังอย่าง หลุยส์ อุสธุยเซน แชมป์ดิ โอเพ่น 2010 จากแอฟริกาใต้ เก็บอีก 1 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 135 อยู่ในกลุ่มอันดับ 19 ร่วมกับ มิเกล ทาบัวนา นักกอล์ฟจากฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังลุ้นติดสองอันดับแรกในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ เพื่อชิงตั๋วไปลิฟกอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2026 ส่วน แพทริค รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 รวมสองวันมี 2 อันเดอร์พาร์ 140 รั้งอันดับ 58 ร่วม ขณะที่ ดัสติน จอห์นสัน อดีตมือหนึ่งโลก, เทเลอร์ กูช แชมป์บุคคลลิฟกอล์ฟลีก 2023 จากสหรัฐฯ และเซอร์จิโอ การ์เซีย ดีกรีแชมป์เมเจอร์จากสเปน ไม่ผ่านเข้ารอบ หลังสองทัวร์นาเมนท์ตัดตัวผู้เล่นที่สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 140 มีนักกอล์ฟไทยผ่านเข้าไปเล่นสองวันสุดท้ายได้ 9 คน


สำหรับนักกอล์ฟไทยที่ผ่านตัดตัวอีก 7 คน ทำสกอร์ดังนี้ สดมภ์ แก้วกาญจนา (68) สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 137 อยู่ในกลุ่มอันดับ 31 ร่วม, เศรษฐี ประคองเวช (68) และ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (69) สกอร์รวมคนละ 4 อันเดอร์พาร์ 138 อันดับ 38 ร่วม, สาริศ สุวรรณรัตน์ (66) สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 139 อันดับ 49 ร่วม, รฐนน วรรณศรีจันทร์ (72), กัญจน์ เจริญกุล (71) และ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ (71) สกอร์รวมคนละ 2 อันเดอร์พาร์ 140 อันดับ 58 ร่วม

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
4
จุฬาฯ จัดเสวนาระดับโลกชี้ทางนวัตกรรมไทย ก้าวสู่เศรษฐกิจฐานความรู้และทรัพย์สินทางปัญญา



จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) เดินหน้ายกระดับศักยภาพนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ ผ่านการจัดงานเสวนา President’s Distinguished Speaker ครั้งที่ 6 “ก้าวสู่อนาคตของนวัตกรรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านมุมมองของผู้นำระดับโลก” โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวเปิดงาน จากนั้นเป็นการปาฐกถาจากผู้นำระดับโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา นวัตกรรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี คุณ Marco M. Alemán ผู้ช่วยอธิบดีองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) และคุณ Katharine Ku อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจาก Office of Technology Licensing จาก Stanford University มีคุณอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ และผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน มาเข้าร่วมเพื่อร่วมยกระดับผลงานวิจัยและทรัพย์สินทางปัญญาไทยสู่ตลาดโลกอย่างคับคั่ง


ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า “บทบาทของมหาวิทยาลัยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การศึกษาภายในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมถึงบทบาทในการสร้างนวัตกรรมและเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ นวัตกรรมที่สร้างขึ้นนั้นมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกระทบไม่ใช่สร้างรายได้ สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือการสร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต นวัตกรรมที่ดีจะต้องเริ่มจากนวัตกร มหาวิทยาลัยมีบทบาทหลักในการสร้างนวัตกร นวัตกรต้องมาก่อนนวัตกรรมเสมอ”


ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ รองอธิการบดีจุฬาฯ กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของจุฬาฯ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญานั้น เกิดจากยุทธศาสตร์สำคัญที่ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานตั้งแต่ “จุดเริ่มต้น” ของการพัฒนาความรู้และงานวิจัย “การบริหาร IP ที่ดี ต้องเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ” โดยแนวทางการดำเนินงานของ จุฬาฯ ได้สร้างระบบนิเวศความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศและภาคเอกชน ตั้งแต่ช่วงที่งานวิจัยยังเป็นเพียง วิจัยพื้นฐาน จนพัฒนาต่อเนื่องไปสู่การ ถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ ได้จริงจะเห็นได้จากผลงานความสำเร็จที่เป็น “ประวัติศาสตร์ของประเทศ” คือการถ่ายทอดเทคโนโลยี “ยาต้านมะเร็งไฮเทค” สู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการถ่ายทอดนวัตกรรมด้านยาไทยไปยังประเทศสหรัฐฯ โดยสมบูรณ์


คุณอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า IP คือหัวใจสำคัญในการสร้างรายได้ใหม่ให้ประเทศ และ DIP พร้อมสนับสนุนในทุกมิติทั้งการคุ้มครอง การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ การบังคับใช้สิทธิ์ และการเชื่อมโยงตลาดผ่าน Business Matching เพื่อให้งานวิจัยตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง สำหรับกรมฯ พร้อมเป็นพันธมิตรร่วมกับสถาบันการศึกษา เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความยั่งยืนและพร้อมก้าวสู่เวทีนวัตกรรมระดับโลก


คุณ Marco M. Alemán จากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ผู้กำหนดนโยบายและขับเคลื่อนระบบนิเวศนวัตกรรมในกว่า 30 ประเทศเชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา กล่าวว่า กรอบกฎหมายที่เข้มแข็ง คือรากฐานสำคัญในการคุ้มครองผลงานทางปัญญาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับการคุ้มครองด้วยสิทธิบัตร การระบุตัวตนของสินค้าโดยเครื่องหมายการค้า หรือผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองด้วยลิขสิทธิ์ กรอบกฎหมายเช่นนี้ทำให้ระบบทรัพย์สินทางปัญญาสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลกระทบเชิงบวก เขาเสริมว่า ระบบการบริหารจัดการที่เข้มแข็ง ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ระบบทรัพย์สินทางปัญญาตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วน นโยบายที่มีประสิทธิผลต้องตระหนักถึงบทบาทเฉพาะของแต่ละมิติ เช่น ระบบสิทธิบัตรส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม ระบบเครื่องหมายการค้าช่วยจัดระเบียบตลาด และระบบลิขสิทธิ์สนับสนุนการพัฒนาวัฒนธรรม องค์ประกอบทั้งหมดนี้รวมกันเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญา” ซึ่งนักวิจัย นักประดิษฐ์ ผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัย และหน่วยงานกำกับดูแล ต้องทำงานร่วมกันอย่างสอดประสาน เมื่อทุกองค์ประกอบเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ระบบก็จะสามารถเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง


ทั้งนี้ การถอดบทเรียนจาก Stanford University สู่โมเดลไทยผ่านงานเสวนานานาชาติครั้งนี้  คุณ Katharine Ku ผู้ทรงอิทธิพลด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง Stanford University มากว่า 27 ปี และขับเคลื่อนนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับพันล้านดอลลาร์ ได้กล่าวเชิญชวนให้มหาวิทยาลัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความมุ่งมั่นจะนำงานวิจัยไปสู่การสร้างนวัตกรรมระดับโลก และสตาร์ทอัพเชิงลึก (Deep Tech) ให้เริ่มลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เธอกล่าวเสริมว่า สำนักงานถ่ายทอดเทคโนโลยีของ Stanford University มีอายุยาวนานกว่า 55 ปี การสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องใช้เวลา สถาบันในภูมิภาคสามารถเรียนรู้จากสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ แต่ท้ายที่สุดจำเป็นต้องออกแบบระบบนิเวศนวัตกรรมที่สะท้อนบริบททางวัฒนธรรมและชาติของตนเอง เธอย้ำว่า ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในวันนี้สามารถเกิดขึ้นได้รวดเร็วกว่า Stanford ในอดีต เพราะทุกคนสามารถเรียนรู้จากเส้นทางที่ Stanford ได้ผ่านมาก่อนแล้ว




งานเสวนาครั้งนี้สะท้อนภาพชัดเจนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรนานาชาติ ที่มีเป้าหมายร่วมกันคือการผลักดันประเทศไทยสู่ “เศรษฐกิจที่มีรากฐานมาจากนวัตกรรม (Innovation-driven Economy)” ด้วยระบบนิเวศที่เชื่อมโยงภาควิจัยกับตลาดอุตสาหกรรมอย่างไร้รอยต่อ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงไทยกับเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก โดยมีเป้าหมายหลักในการผลักดันผลงานวิจัยหรือเทคโนยีของไทยไปสู่เชิงพาณิชย์ (Research/Technology Utilization) และส่งเสริมสตาร์ทอัพเชิงลึก (Deep Tech) ให้เติบโตระดับโลกผ่านมุมมองของทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม
5
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบรถ Mini Bus สนับสนุนภารกิจมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมมอบค่าพาหนะ เครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้รับขาเทียม และช่างอาสาสมัคร ในโครงการออกหน่วยฯ ครั้งที่ 175 รวมงบฯ กว่า 3.1 ล้านบาท




วันนี้ (วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการ และนางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่ มอบค่าพาหนะ พร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย เส้นหมี่ขาว วุ้นเส้น น้ำมันพืช ขนมเบ็ดเตล็ด รองเท้าฟองน้ำ บรรจุถุงผ้าดิบมูลนิธิฯ ให้แก่ผู้รับขาเทียม และช่างอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 175 รวมจำนวน 175 คน รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 158,928.75 บาท  พร้อมมอบรถโดยสารขนาดเล็ก (Mini Bus) มูลค่า 2,950,000 บาท แก่มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมงบประมาณดำเนินการในครั้งนี้ทั้งสิ้น 3,108,928.75 บาท (สามล้านหนึ่งแสนแปดพันเก้าร้อยยี่สิบแปดบาทเจ็ดสิบห้าสตางค์)  โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานกรรมการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นประธานในพิธี ณ โดมอเนกประสงค์ สำนักงานเทศบาลตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

การสนับสนุนมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ตั้งแต่การดำเนินการครั้งที่ 165 รวม 11 จังหวัด คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4.9 ล้านบาท







ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารและกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418








6
ไข่หวานบ้านซูชิ รุกตลาดแคทเทอริ่ง เปิดตัว “Kaiwanbaansushi Catering” 
เจาะกลุ่มงานอีเวนต์ องค์กร ปาร์ตี้ พร้อมเซตเมนูซูชิพรีเมียมแบบครบวงจร


“ไข่หวานบ้านซูชิ” แบรนด์ในใจที่ผู้บริโภคนึกถึง เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ ด้วยการขยายธุรกิจสู่บริการแคทเทอริ่งอย่างเต็มรูปแบบ เปิดตัวบริการใหม่ ภายใต้ชื่อ “Kaiwanbaansushi Catering” เพื่อตอบรับความนิยมของอาหารญี่ปุ่นและความต้องการบริการจัดเลี้ยงที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกโอกาส ไม่ว่าจะงานประชุม งานเลี้ยงองค์กร งานปาร์ตี้ส่วนตัว หรืองานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และคุณภาพระดับร้านอาหาร พร้อมชูจุดเด่นด้านวัตถุดิบคุณภาพ ความสดใหม่ รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และการรังสรรค์เมนูเฉพาะทาง เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการแบบมืออาชีพในสไตล์ไข่หวานบ้านซูชิ และตอบรับเทรนด์บริการอาหารยุคใหม่


นายสุรพงศ์ สุทธิกุญชร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว Kaiwanbaansushi Catering เป็นอีกก้าวสำคัญของไข่หวานบ้านซูชิ เพื่อต้องการยกระดับประสบการณ์การจัดงานของลูกค้าให้สะดวกสบายขึ้น ด้วยอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดี สดใหม่ ทำสดในวันงาน และสามารถออกแบบเมนูให้เหมาะกับแต่ละงานได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นงานบริษัท งานประชุม ทีมบิลดิ้ง งานเปิดตัวสินค้า หรืองานเลี้ยงต่างๆ โดยอยากให้ทุกงานเต็มไปด้วยสีสันและความประทับใจในสไตล์ของไข่หวานบ้านซูชิ  การเปิดตัว Kaiwanbaansushi Catering ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการก้าวสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ความแตกต่างด้านประสบการณ์อาหาร และรูปแบบบริการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้ตลาดแคทเทอริ่งยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสสำคัญที่ไข่หวานบ้านซูชิสามารถต่อยอดสู่ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับรูปแบบการให้บริการมีให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกัน คือ 1. Full Service (Type A) ปั้นสดพร้อมพนักงาน เหมาะสำหรับงานขนาดใหญ่ งานเลี้ยงที่ต้องการความประทับใจ และการบริการแบบจัดเต็ม ซึ่งจุดเด่นจะได้รับความอลังการและการบริการจากพนักงานปั้นซูชิสดๆ พร้อมสิทธิพิเศษ พนักงานปั้นสดๆที่หน้างาน 2. Delivery Service (Type B) จัดส่งซูชิถึงที่ เหมาะสำหรับงานประชุม สัมมนา หรืองานที่เน้นความรวดเร็วและความคุ้มค่า โดยมีจุดเด่นสามารถสั่งได้ ไม่มีขั้นต่ำ เน้นความประหยัดงบประมาณ โดยเป็นการจัดส่งอาหารพร้อมทาน (ไม่มีพนักงานบริการ) และ 3. Set Box Service (Type C) กล่องพร้อมทาน เหมาะสำหรับงานสัมมนา งานอบรม หรืองานที่ต้องการแจกอาหารแบบกล่องเดี่ยว (Snack Box) สำหรับจุดเด่นเป็นการจัดทำเป็น Set Box (สำหรับ 3 คำ หรือ 5 คำ) พร้อมเครื่องเคียงและน้ำดื่ม เน้นความสะดวกในการแจกจ่าย (ไม่มีพนักงานบริการ)


สำหรับ Kaiwanbaansushi Catering ถูกออกแบบให้เป็นบริการที่ครบวงจร มีมาตรฐานสูง และสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น โดยมีโดดเด่นและแตกต่างดังนี้

1. ความสดใหม่ที่ปั้นถึงหน้างาน (สำหรับ Full Service Type A) ไข่หวานบ้านซูชิ ไม่ได้แค่เตรียมอาหารมาให้ แต่เรานำความสดใหม่มาเสิร์ฟถึงที่ "ปั้นสดใหม่พร้อมเสิร์ฟ" แขกของคุณจะได้เห็นพนักงานปั้นซูชิด้วยตัวเอง ณ จุดจัดเลี้ยง ทำให้มั่นใจได้ว่าซูชิทุกคำนั้นสดใหม่และมีคุณภาพสูงสุด วัตถุดิบเกรดพรีเมียม สด สะอาด ไข่หวานบ้านซูชิ คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่อร่อยและปลอดภัยในทุกๆ คำ
2. ความคุ้มค่าและยืดหยุ่นทางด้านงบประมาณ ไข่หวานบ้านซูชิ เข้าใจว่าการคุมงบประมาณคือกุญแจสำคัญในการจัดงาน คุณสามารถเลือกเมนูที่มีให้หลากหลายให้เหมาะกับงบประมาณที่ตั้งไว้ได้เลย
3. ครบครันและพร้อมใช้งานทันที หมดกังวลเรื่องการจัดการด้านอาหาร ครบจบในที่เดียว เราเตรียมอุปกรณ์ ภาชนะ ตะเกียบ โชยุ และวาซาบิ ให้ในจำนวนที่เหมาะสมกับปริมาณอาหาร
4.ทางเลือกบริการที่ตอบโจทย์ทุกขนาดงาน ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่หรืองานเล็ก ไข่หวานบ้านซูชิ มีทางเลือกที่หลากหลายพร้อมให้การบริการ ตั้งแต่บริการแบบเต็มรูปแบบ (Type A) ไปจนถึงแบบจัดส่ง (Type B และ C)



ทั้งนี้ “ไข่หวานบ้านซูชิ” ยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเมนู การจัดวางรูปแบบอาหาร และการบริการ เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการส่งมอบประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นคุณภาพในทุกโอกาสสำคัญ

ปัจจุบัน Kaiwanbaansushi Catering เปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมแพ็กเกจสำหรับงานประเภทต่างๆ โดยปรับขนาดและรูปแบบบริการได้ตามงบประมาณและวัตถุประสงค์ของงาน โดยมีเมนูให้เลือกทั้งชุดข้าวและ Snack Box พร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่เริ่มต้นเพียงชุดละ 65 บาทเท่านั้น ไม่ว่าจะจัดงานขนาดเล็กหรือใหญ่  ก็สั่งได้ง่าย รวดเร็วทันใจ และมั่นใจว่าบริการนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ในระยะยาวต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูล Kaiwanbaansushi Catering  เพิ่มเติมได้ที่ Line official : @kaiwanbaansushi
หรือ 092 674 7444
7
MAAT Media Awards 2025 เวทีแห่งพลังสื่อเพื่อการตลาดสุดคึกคัก ยกย่อง “Branded Media” ที่ทรงคุณค่า พร้อมเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ก้าวสู่ปีที่ 20


บรรยากาศงานมอบรางวัล MAAT Media Awards 2025 จัดโดยสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) เต็มไปด้วยความคึกคักจากเหล่ามีเดียเอเจนซี่ชั้นนำที่มาร่วมเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์และพลังของ “สื่อที่ขับเคลื่อนแบรนด์” โดยปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 357 ชิ้น ครอบคลุม 21 หมวดรางวัล


ดร.สร เกียรติคณารัตน์ ประธานคณะกรรมการจัดงานฯ กล่าวว่า “หลายปีที่ผ่านมา ตลาดแข่งขันกันด้วยราคาและโปรโมชั่น จนคุณค่าของแบรนด์ถูกลดทอน ปีนี้เราต้องการตอกย้ำแนวคิด ‘Branded Media: Powering Brands through Media Excellence’ เพื่อให้สื่อกลับมาเป็นพลังหลักในการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่คือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้แบรนด์เติบโตอย่างมีอิทธิพลและมีความหมายต่อผู้บริโภค”


“MAAT Awards สะท้อนมาตรฐานใหม่ของการใช้สื่อแบรนด์ โดยเฉพาะการใช้สื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในช่วงเวลาที่เปิดรับมากที่สุด และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและ AI เพื่อสร้างความเข้าใจเชิงลึกแบบ one-on-one at scale ในเวลาจริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสื่อยุคใหม่ไม่เพียงสร้างการรับรู้ แต่สร้างความแตกต่างและคุณค่าได้จริง”


MAAT Media Awards คือเวทีที่รวมพลังของเอเจนซี่ แบรนด์ และพันธมิตรในวงการสื่อ เพื่อยกระดับมาตรฐานแห่งความเป็นเลิศด้านกลยุทธ์ สื่อ และความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิดประจำปี “Branded Media — สื่อสร้างแบรนด์” ที่ตอกย้ำบทบาทของสื่อจากผู้สนับสนุนแบรนด์ สู่พลังขับเคลื่อนธุรกิจผ่านกลยุทธ์และเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด หลังจากการคัดเลือกผลงานอย่างเข้ม มีผลงานกว่า 140 ชิ้น ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายใน 17 สาขา สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพของคนในแวดวงสื่อและโฆษณาไทยที่พร้อมผลักดันมาตรฐานของอุตสาหกรรมให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น


โดยผลงานที่ได้รับความสนใจและโดดเด่น มีดังนี้

• 28 แคมเปญได้รับรางวัลเหรียญทองแดง

• 33 แคมเปญได้รับรางวัลเหรียญเงิน

• 13 แคมเปญได้รับรางวัลเหรียญทอง

และไฮไลต์สำคัญคือ 2 รางวัลสูงสุดของงาน ได้แก่



MAAT Agency of the Year มอบให้กับเอเจนซี่ที่ได้รับคะแนนรวมรางวัลมากที่สุดของปี โดย Initiative สามารถคว้าถ้วยรางวัลไปได้สำเร็จ

รางวัล Grand Prix มอบให้กับแคมเปญ Bucketware ของ KFC โดย Initiative


รศ.ดร.รัตนสุดา ปุณณะหิตานนท์ กรรมการตัดสิน และ นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า “ผลงานที่ได้รับรางวัล Gold, Grand Prix และ Agency of The Year ล้วนสะท้อนแนวคิด ‘Media Thinking’ ที่เฉียบคมและเป็นระบบ สื่อไม่ได้ทำหน้าที่เพียงช่องทางเผยแพร่ แต่กลายเป็นตัวกำหนดทิศทางของแคมเปญ ผ่านการผสานแพลตฟอร์มและการใช้ข้อมูลเชิงลึกออกแบบจุดสัมผัสที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แคมเปญที่ดีไม่เพียงสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ แต่ต้องส่งผลบวกต่อสังคม ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Branded Media ที่สร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจให้วงการ”


พร้อมกันนี้ สมาคม MAAT ยังได้เปิดตัว โลโก้ใหม่ เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนผ่านของวงการสู่ยุค Immersive Digital Transformation, AI Agent และ Data-Driven Marketing นายภวัต เรืองเดชวรชัย นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “สมาคมกำลังจะก้าวสู่ปีที่ 20 จึงได้เปิดตัวโลโก้ใหม่ภายใต้แนวคิด ‘The Power of Connection’ เพื่อสะท้อนบทบาทใหม่ของ MAAT ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน (Transformation) ในฐานะศูนย์กลางที่เชื่อมโยงคน ความคิดสร้างสรรค์ และความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมสื่อไทย โลโก้นี้ไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ทางภาพลักษณ์ แต่คือเครื่องหมายแห่ง ‘MAAT ที่ก้าวทันโลกสื่อยุคใหม่’ ที่พร้อมขับเคลื่อนวงการไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและร่วมสมัย”


“อุตสาหกรรมสื่อไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุคของการซื้อขายและวางแผนสื่อแบบดั้งเดิม สู่ยุคที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เทคโนโลยี และความเข้าใจผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง MAAT จึงมุ่งยกระดับบุคลากรและมาตรฐานวิชาชีพให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมส่งเสริม ‘Media Professionalism’ ผ่านจรรยาบรรณและความโปร่งใส โดยเฉพาะในยุคที่ Social Media กลายเป็น Mainstream Media ที่สร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค เราต้องการให้วงการเปลี่ยนจากการวัดยอดวิวหรือคลิก ไปสู่การวัด ‘คุณค่าที่แท้จริง’ ทั้งในมิติของ Brand Trust, Engagement Quality และผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม MAAT Awards จึงไม่ได้เป็นเพียงเวทีประกวด แต่คือเวทีสร้างมาตรฐานใหม่ของวงการ และเป็นแรงบันดาลใจแห่งคุณค่าที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมสื่อไทยเติบโตไปพร้อมกัน”

สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนง ที่เป็นแรงสำคัญในการผลักดันให้งาน MAAT Media Awards 2025 สำเร็จลุล่วงอย่างงดงาม และขอขอบคุณบริษัทมีเดียเอเจนซี่ไทยทุกแห่งที่พร้อมใจส่งผลงานสร้างสรรค์กว่า 357 ชิ้น เข้าร่วมประกวดในปีนี้ ซึ่งถือเป็นพลังร่วมสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ติดตามผลประกาศรางวัล MAAT Media Awards ได้ที่ https://www.mediaagencythai.com/award/

#MaatMediaAwards2025 #Maat #BrandedMedia#สมาคมมีเดียเอเยนซี่ #มีเดียเอเจนซี่ #การตลาด #โฆษณา

8
คณะทันตแพทยศาสตร์ อินเตอร์ สจล. เปิดรับสมัคร 'ทันตแพทย์นวัตกร' รุ่นใหม่ เพื่อสร้างทันตแพทย์ที่ก้าวทันยุคดิจิทัล


            คณะทันตแพทยศาสตร์ อินเตอร์ ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้าพัฒนาทันตแพทย์รุ่นใหม่ให้มีความสามารถแบบรอบด้าน ทั้งด้าน เทคโนโลยี AI, วิศวกรรม, วิทยาศาสตร์การแพทย์, การออกแบบนวัตกรรม และทักษะด้านธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกทันตกรรมยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง


            หลักสูตรนานาชาติถูกออกแบบให้แตกต่างจากสถาบันอื่น โดยเน้น การบูรณาการหลายศาสตร์ (Interdisciplinary Integration) ให้สอดคล้องกับทักษะแห่งอนาคตที่ทันตแพทย์ต้องมี ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์


            รองศาสตราจารย์ ดร.ทพญ.อารยา พงษ์หาญยุทธ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ สจล. กล่าวว่า “หลักสูตรทันตแพทย์อินเตอร์ของ สจล. มุ่งเน้นการสร้างทันตแพทย์ที่มีวิสัยทัศน์ ใช้เทคโนโลยีเป็น ทำวิจัยเป็น และคิดนวัตกรรมได้จริง ทั้งหมดนี้เป็นทักษะสำคัญสำหรับผู้นำด้านทันตกรรมในอนาคต” ท่านยังกล่าวถึงจุดเด่นของหลักสูตร ได้แก่:




•   Digital Dentistry ตั้งแต่ปี 1: การเรียนการสอนใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น CAD/CAM, 3D Printing, Intraoral Scanner และ Simulation ดิจิทัลตั้งแต่ปีแรก ช่วยให้นักศึกษามีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่แข็งแรงตั้งแต่ต้น

•   อุปกรณ์และห้องปฏิบัติการทันตกรรมขั้นสูง: ห้องแลบและคลินิกมีอุปกรณ์ครบวงจร พร้อมระบบจัดการมาตรฐานสากล ช่วยเสริมทักษะการรักษาและทักษะบริหารจัดการไปพร้อมกัน

•   การเรียนรู้แบบ Interdisciplinary: นักศึกษาได้เรียนร่วมกับหลายคณะ เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ IT และการออกแบบเพื่อสร้างนวัตกรรมทันตกรรมแบบข้ามศาสตร์ (Multi-disciplinary Innovation) ที่ตอบโจทย์โลกจริง

•   อาจารย์ผู้สอนระดับนานาชาติ: มีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมสอน พร้อมอุปกรณ์ล้ำสมัย ช่วยยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ให้เทียบเท่าสถาบันชั้นนำทั่วโลก




โครงสร้างการศึกษาและจำนวนรับ

•      ระยะเวลาเรียน: 6 ปี
•   รับนักศึกษา: ไม่เกิน 30 คนต่อรุ่น
•   ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย: ประมาณ 550,000 บาทต่อภาคการศึกษา
รวมตลอดหลักสูตรประมาณ 6.6 ล้านบาท
เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีความสามารถ คณะฯ มี ทุนเต็มจำนวนและทุนบางส่วน 6 ทุนต่อปี


            คณะทันตแพทยศาสตร์(หลักสูตรนานาชาติ)สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมเปิดรับสมัครนักศึกษาปีการศึกษา 2569 รอบแรก ตั้งแต่วันนี้ 5 พฤศจิกายน 2568 ถึง 25 ธันวาคม 2568 ติดตามรายละเอียด และเกณฑ์การรับสมัครได้ดังรายละเอียดต่อไปนี้

•   KMITL official website: https://kmitl.ac.th
•   School of Dentistry website: https://dent.kmitl.ac.th/
•   Facebook page: School of Dentistry, KMITL
•   Email: dent@kmitl.ac.th
•   Tel. 02 329 8000 ต่อ 2189 หรือ 095 072 8540
9
แอ็กซอลตา แสดงความยินดี ตัวแทนจากศูนย์บริการโตโยต้า อุตรดิตถ์ คว้ารางวัล
รองชนะเลิศอันดับ 2 จากการแข่งขันทักษะการบริการลูกค้าโตโยต้า ครั้งที่ 47


             บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสนับสนุนออกบูธงานแข่งขันทักษะการบริการลูกค้าโตโยต้า รอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 47 ณ ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรม (สุวินทวงศ์) เมื่อวันที่ 15 - 16 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอแสดงความยินดีแก่ นายมานะ วิเศษสิงห์ ตัวแทนจากศูนย์บริการโตโยต้า อุตรดิตถ์  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ประเภทช่างซ่อมสีรถยนต์ ในการแข่งขันทักษะการบริการลูกค้าโตโยต้า ครั้งที่ 47 ณ ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้า (สุวินทวงศ์)  ขอแสดงความยินดีกับแผนกช่างซ่อมสีที่สามารถคว้ารางวัลมาได้สำเร็จ เพื่อพัฒนาการสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า






             รูปแบบการแข่งขัน มีความสอดคล้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละบุคคล ตลอดจนให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน การแข่งขันระดับประเทศนี้จะเป็นการเพิ่มทักษะและยกระดับความเชี่ยวชาญของบุคลากรโตโยต้าให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแอ็กซอลตามีความภาคภูมิใจที่โตโยต้าให้ความไว้วางใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์มาตรฐานระดับโลก “โครแมกซ์ โปร” ได้เป็นส่วนสำคัญในการแข่งขันและพัฒนาทรัพยากรบุคคล มอบงานคุณภาพให้แก่ลูกค้าต่อไป

###

เกี่ยวกับ แอ็กซอลตา

แอ็กซอลตา เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมแห่งสีสัน สูตรสีที่สวยงามคงทน พร้อมด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยานพาหนะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ สีเพื่องานพ่นซ่อม อุปกรณ์ ส่วนประกอบที่เป็นไฟฟ้า อาคาร ท่อส่งน้ำ สีของแอ็กซอลตาทนทานต่อการกัดกร่อน เพิ่มประสิทธิภาพ ให้สีติดทนนาน ด้วยประสบการณ์กว่า 150 ปี ในอุตสาหกรรมสีเคลือบ ตอบสนองกลุ่มลูกค้ากว่า 100,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 140 ประเทศทั่วโลก แอ็กซอลตาพร้อมตอบสนองลูกค้าด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ดีที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมที่ axalta.co.th Facebook: @Axalta Coating Systems Thailand
10
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย อาสาสมัครกู้ภัยจุด สภ.อินทร์บุรี ท่าช้าง และบางระจัน
ยังคงผนึกกำลังสู้ภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง! จัดตั้งกองอำนวยการรับแจ้งเหตุ-ช่วยเหลือ อพยพ
แจกจ่ายถุงยังชีพ และอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องพร้อมน้ำดื่ม อาหารสุนัขและแมว
แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี





วานนี้ (วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568)  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย หัวหน้าจุดอาสาสมัครกู้ภัย จุดสภ.อินทร์บุรี ท่าช้าง และบางระจัน ยังคงนำทีมเร่งปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่เทศบาลตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยจัดทีมอาสาฯ กู้ภัย เร่งอพยพผู้ประสบภัย ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย ประกอบอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องพร้อมน้ำดื่ม พร้อมนำอาหารสุนัขและแมว บรรทุกเรือออกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยจัดตั้งกองอำนวยการ ณ บริเวณที่ว่าการอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อประสานงานรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และในขณะนี้ยังคงปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ หากผู้ประสบภัยในพื้นที่ต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ตลอด 24 ชั่วโมง







ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##








Pages: [1] 2 3 ... 10