"อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 1,236 ล้านโดส ใน 195 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 34.04 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 1.65 ล้านโดส"
➡️(7 พฤษภาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 1,236 ล้านโดส ใน 195 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 19.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 252 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 109 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 33.4 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (19.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 21.6 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 1,651,782 โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 49.5%🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 1,236 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 289.63 ล้านโดส (10.3% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 251.97 ล้านโดส (39.2%)
3. อินเดีย จำนวน 164.88 ล้านโดส (6%) 2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. อิสราเอล (57.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
2. มัลดีฟส์ (57%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (50.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. บาห์เรน (44.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. ชิลี (40.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สหรัฐอเมริกา (39.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnson)
7. สหราชอาณาจักร (38.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
8. ฮังการี (33.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
9. ภูฏาน (32.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
10. กาตาร์ (31%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech) 3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 49.2%
2. อเมริกาเหนือ 23.58%
3. ยุโรป 18.22%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.08%
5. แอฟริกา 1.69%
6. โอเชียเนีย 0.23%4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดส ได้แก่
1. สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
2. กัมพูชา จำนวน 2,608,983 โดส (7.7% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
3. อินโดนีเซีย จำนวน 21,666,868 โดส (3.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac
4. ลาว จำนวน 424,686 โดส (2.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 1,624,272 โดส (2.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac
6. ไทย จำนวน 1,651,782 โดส (1.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
7. บรูไน จำนวน 10,715 โดส (1.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
8. พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ฟิลิปปินส์ จำนวน 2,129,185 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
10. เวียดนาม จำนวน 675,956 โดส (0.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 2,402,688 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 1,651,782 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 1,201,258 โดส
-เข็มสอง 450,524 โดส
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)