จัส คาร์ สตาร์ทอัพ รถมือสองรายแรกของประเทศเปิดระดมทุน อิควิตี้คราวด์ฟันดิง

จัส คาร์ สตาร์ทอัพ รถมือสองรายแรกของประเทศเปิดระดมทุน อิควิตี้คราวด์ฟันดิง โดยการควบคุมของ ก.ล.ต เดินหน้ารุกอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด ประกาศระดมทุนอย่างเป็นทางการ สำหรับโปรเจกต์ อิควิตี้คราวด์ฟันดิง ของธุรกิจรถมือสองออนไลน์ผ่านแฟลตฟอร์มดิจิตอลเจ้าแรกในประเทศไทยที่มีศูนย์บริการครบวงจร โดยตั้งเป้าระดมทุนอยู่ที่ 22 ล้านบาทภายในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2563 จนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 การระดมทุนครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตูให้นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนระดับแนวหน้าของประเทศไทยได้ร่วมลงทุนกับบริษัท จัสท์ คาร์ และตั้งเป้าหมายขยายฐานทางธุรกิจให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะเติบโตในอนาคต

การระดมทุนผ่านผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงเป็นการระดมทุนจากประชาชนหมู่มาก (the crowd) ผ่านเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลาง (funding portal) โดยอาศัยเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ลงทุนแต่ละรายจะลงทุนในจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่จะอาศัยพลังของจำนวนผู้ลงทุนที่มากพอจนสามารถตอบสนองความต้องการในการใช้เงินของธุรกิจได้ ในประเทศไทยเพิ่งจะมีผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการคราวด์ฟันดิงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  การระดมทุนผ่านคราวด์ฟันดิงมีขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทุกธุรกิจในประเทศไทย ในนิยามที่ว่า “ เราจะไม่ให้เงินทุนเป็นอุปสรรคสำหรับธุรกิจของคุณ ” ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่เพิ่งเปิดใหม่ หรือใครก็ตามที่สนใจสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ คราวด์ฟันดิงจะเป็นตัวช่วยในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนกับภาคธุรกิจในอนาคต

บริษัท จัสท์ คาร์ จัดกัด หนึ่งในธุรกิจรถมือสองออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอลในประเทศไทย จัสท์คาร์ได้ฉีกข้อจำกัดของธุรกิจรถมือสองด้วยการยกระดับมาตรฐานธุรกิจยานยนต์ เปลี่ยนค่านิยมให้คนไทยเชื่อว่าการซื้อขายรถมือสองเป็นเรื่องที่สะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลาด้วยการเปิดศูนย์ให้บริการครบวงจรในด้านการซื้อขายรถ,การบำรุงรักษารถ,การประกันคุณภาพรถ รวมไปถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและบริการด้านสินเชื่อ บริการของ จัสท์คาร์ พร้อมรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต แม้ในภายภาคหน้าเทคโนโลยีจะพัฒนาให้รถสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนได้  แต่ จัสท์คาร์ ก็ยังเชื่อว่ารถจะยังเป็นที่ต้องการของผู้คนในปัจจุบันและอนาคต เพราะรถถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด และการมีรถสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสินทรัพย์ได้อีกด้วย

ด้านคุณ ษรัญพัฒน์ ทวีสิทธาพล ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด เผยว่า กลไกลที่สำคัญในการ ผดักดันให้ธุรกิจประสบความความสำเร็จได้นั้น ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบที่ว่า รูปแบบทางธุรกิจจะโดดเด่นแค่ไหน จะไม่เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ ถ้าขาดเงินลงทุนที่เพียงพอ บริษัท จัส คาร์ จำกัด เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากการแก้ปัญหาให้กับผู้ซื้อขายรถในปัจจุบันแล้วมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดโดยมีการออกแบบให้แพลตฟอร์มสามารถใช้งานง่าย สะดวกสบาย มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน และยังสามารถแข่งขันกับธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์คู่แข่งได้ด้วย อัตลักษณ์ทางการตลาดที่โดดเด่นอย่างชัดเจน คือบริการขายรถด่วนภายใน 3 ชั่วโมง

สำหรับท่านใดที่สนใจในอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือกำลังมองหาการลงทุนในตลาดรถมือสอง จัสคาร์ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันกับเรา และเราจะมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นอันดับ 1 ของบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจรถมือสองออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอลให้สมกับปณิธานของบริษัทฯที่ว่า “ทำทุกวันให้เต็มที่ และดีที่สุด … Do your best every day” เพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่ายั่งยืนกับนักลงทุนและประชาชนทุกท่าน คุณ ษรัญพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด เปิดให้บริการอยู่ 2 สาขาตั้งอยู่ที่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และเทสโก้โลตัสรัตนาธิเบศร์ โดยมีช่องทางการให้บริการผ่าน www.justcar.co.th , line@justcar, facebook : justcarthailandหรือต้องการสอบถามข้อมูลที่ 02-821-5700

สามารถติดตามรายละเอียดการลงทุนหรือผลตอบแทนของ จัสท์คาร์ ได้พร้อมกัน ผ่านทาง​https://equity.sinwattana.com/ “Sinwattana” หนึ่งในแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้งที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประประเทศไทย ( ก.ล.ต ) หากท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการลงทุนติดต่อที่ 093-0499898 หรือศึกษาข้อมูลการลงทุนที่ https://equity.sinwattana.com/ ช่องทาง Line:@sinwattanaCF  Email: sta@sinwattana.com Tel: 083-7285585 บริษัท สินวัฒนา

และอีกหนึ่งช่องทางผ่านสำนักงานฝ่าย​ส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเงินสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประประเทศไทย ( ก.ล.ต ) โทรศัพท์ 0-2263-6524 และ 0-2033-9753