“ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์” ควง “ภาครัฐ”
จัดงาน “Bangkok International Digital Content Festival 2020”
ภายใต้แนวคิด “VR BIDC” เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
ภาคอุตสาหกรรมฯ ผนึกภาครัฐ เปิดมหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ “Bangkok International Digital Content Festival 2020” หรือ BIDC 2020 ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด VR BIDC ครั้งสำคัญกับการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ ยกทัพนิทรรศการในสู่โลกออนไลน์ อวดโฉมศักยภาพอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทย ร่วมด้วยการจัดสัมมนาออนไลน์อัดแน่นด้วยวิทยากรระดับโลกและไทย พร้อมการจับคู่เจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทย-เทศกว่า 96 บรืษัท งาน BIDC 2020 นับเป็นการผนึกพลังความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐ เพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน บุคคลในภาพ:จากซ้ายไปขวา
1.นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ 2.นางหริสุดา บุญยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) 3.นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า อุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ 4.นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง นายกสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย และผู้แทนภาคอุตสาหกรรม นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง นายกสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย และผู้แทนภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน Bangkok International Digital Content Festival หรือ BIDC เป็นงานมหกรรมของอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือของภาคเอกชน ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ (TCEB) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ (DEPA) และภาคเอกชนทั้ง 5 สมาคมของอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทย ประกอบด้วย สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย (e-LAT) สมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (BASA) และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) ซึ่งที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน รวมถึงการสร้างเครือข่ายให้อุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทยสู่เวทีระดับสากล นับเป็นการผนึกความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมฯและภาครัฐ ที่ได้ร่วมกันผลักดัน ส่งเสริม และบูรณาการ จนโครงการนี้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยงานในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 23 สิงหาคม 2563 ทั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นและสร้างเศรษฐกิจประเทศให้แข็งแกร่ง “อุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์เป็นส่วนหนึ่งและมีความสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอย่างมาก ดังที่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ได้ใช้ธุรกิจดิจิทัล คอนเทนต์ในการขับเคลื่อนและส่งออกเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง คาแรคเตอร์ “คุมามง” ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดคุมาโมโต้ของประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนเกม Pokemon ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1996 สามารถสร้างรายได้รวมมากกว่า 95,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นต้น ดังนั้นการรวมตัวของกลุ่มคาแรกเตอร์,เกม, แอนิเมชัน, เวอรชวล แอฟเฟ็ก, อี-เลิร์นนิง และเทคโนโลยีใหม่ (emerging technology) ของไทยนับเป็นการนำความสร้างสรรค์ด้านเอกลักษณ์ไทยและความเป็นสากล ผนวกกับความสามารถของคนไทยในอุตสาหกรรมฯ เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ และเสริมแกร่งด้านการแข่งขันกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ มีความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถพัฒนาและต่อยอดอุตสาหกรรมฯ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 25,000 ล้านบาทให้เติบโตยิ่งขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมและการส่งเสริมจากภาครัฐ” นายกฤษณ์ กล่าว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้น ส่งผลให้รูปแบบการจัดการในปีนี้ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์จึงเป็นที่มาในแนวคิด “VR BIDC 2020” ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางและการเปลี่ยนแปลงในยุควิถีความปกติใหม่ หรือ New Normal โดยกิจกรรมสำคัญที่เคยจัดขึ้นในรูปแบบออฟไลน์เปลี่ยนมาจัดในรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด ประกอบด้วย - การจัดนิทรรศการแบบ Virtual Exhibition โดยผ่านแพลตฟอร์ม “Mozilla Hub” ที่ทุกท่านสามารถสแกน QR code เรียบร้อยแล้วเข้าไปร่วมชมผลงานของบริษัท คนไทยทั้งหมดที่มาจัดแสดงได้เสมือนไปชมของจริง
- การจัด Business Matching ซึ่งเดิมเรา ต้องเชิญแขกจากประเทศต่างๆ มาร่วมจับคู่เจรจาที่จัดขึ้นในประเทศไทย แต่ในปีนี้รูปแบบการจับคู่เจรจาออนไลน์ (match online) ด้วยแพลตฟอร์ม Deal Room
- การจัดสัมมนาด้วยระบบ Webinar สนับสนุนโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB โดยได้เชิญวิทยากรระดับโลกในสายงานดิจิทัล คอนเทนต์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ เทคนิค และ การปรับเปลี่ยนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยจัดขึ้นระหว่างในวันที่ 18-20 สิงหาคม 2563 รายละเอียดตารางสัมมนาฯ เข้าไปที่ เฟสบุ๊คเพจ Bangkok International Digital Content Festival ทางด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ส่งผลให้ภาคธุรกิจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสู่วิถีความปกติใหม่ หรือ New Normal กรมส่งเสริมฯ จึงได้ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าในปีนี้เป็นรูปแบบออนไลน์ ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการดิจิทัล คอนเทนต์ทั่วโลกเข้าร่วมเจรจาการค้าจำนวน 45 บริษัทจาก 15 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส โปแลนด์ อาร์เจนตินา ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย และเวียดนาม และมีผู้ประกอบการไทยจำนวน 51 บริษัทร่วมเจรจาการค้าออนไลน์ครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการแอนิเมชัน 20 ราย คาแรคเตอร์ 12 ราย อี-เลิร์นนิง 7 ราย และเกม 12 ราย ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทย ให้เกิดความแข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับบนเวทีการค้าโลก ทั้งนี้มีความเชื่อมั่นว่า BIDC จะเป็นส่วนสำคัญที่จะประกาศศักยภาพและความเชื่อมั่นในประเทศไทยให้กับผู้ประกอบการด้านดิจิทัล คอนเทนต์ทั่วโลก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า BIDC จะเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญระดับนานาชาติที่ผู้ประกอบการจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสำคัญและเข้าร่วมกันทุกปีที่ประเทศไทย แต่ในปีนี้ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือและกลไกสำคัญในการจัดงานในรูปแบบออนไลน์แบบครบครัน ทางด้านนางหริสุดา บุญยวัฒน์ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ทีเส็บในฐานะองค์กรที่มีบทบาทในการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการระดับประเทศ รวมถึงการพัฒนาอีเวนท์นานาชาติขนาดใหญ่ของประเทศ เล็งเห็นว่า การผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมฯ มีความเข้มแข็งและเติบโตได้มากขึ้น โดยนำเสนอเครื่องมือสำคัญ “Virtual Meeting Space” สนับสนุนผู้ประกอบการในการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการจัดงาน รวมถึงการเพิ่มทักษะความรู้ในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้ผู้ประกอบการ ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดวิกฤตไวรัสระบาด ทีเส็บได้พัฒนาและจัดรูปแบบออกเป็น 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. Webinar หรือ การประชุมสัมมนาเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ 2. O2O (Offline to Online) หรือ การจัดงานแสดงสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และ 3. E-Learning Platform หรือศูนย์การเรียนรู้ คอร์สฝึกอบรมออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ เพื่อเพิ่มทักษะและทบทวนความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ในช่วงที่งานได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ทีเส็บมีความเชื่อมั่นว่าจะช่วยสนับสนุนและเอื้ออำนวยคณะผู้จัดงาน ผู้เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์สามารถเข้าฟังและรับความรู้ในแขนงต่างๆ ของดิจิทัล คอนเทนต์ได้มากขึ้นด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพของทีเส็บ ทางด้านนายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า อุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ ประกอบด้วย ธุรกิจด้านเกม แอนิเมชัน คาร์แรคเตอร์ไทย อี-เลิร์นนิง VR&CG และVFX กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วตามพัฒนาการของเทคโนโลยีโลกและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา และในสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบัน รัฐบาลในหลายประเทศต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ ส่งผลให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้ ประชาชนใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ในส่วนของอุตสาหกรรมอี-เลิร์นนิงได้รับอานิสงค์ที่ขับเคลื่อนให้กลุ่มนี้มีการขยายตัว เนื่องจากทุกภาคส่วนรวมไปถึงประชาชนมีการปรับตัวและใช้การเรียนการสอนรวมไปถึงการทำงานผ่านรูปแบบ Online Live Streaming มากยิ่งขึ้น จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้แก่อุตสาหกรรม ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในหลายปีที่ผ่านมาโครงการ Bangkok International Digital Content Festival มีผู้ประกอบการดิจิทัล คอนเทนต์จากต่างประเทศเข้าร่วมมากกว่า 200 บริษัท และผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คน โดยสร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิจให้แก่อุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทยมากกว่า 2 พันล้านบาท นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง นายกสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย และผู้แทนภาคอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า สำหรับในวันนี้ขอร่วมแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการไทยที่มีผลงานโดดเด่นในรอบปีกับเวที BIDC AWARD 2020 ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลของคนในอุตสาหกรรม เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลงาน และการพัฒนาของบริษัทไทย อีกทั้งยังเป็นเวทีนำเสนอผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ และต่อยอดเชิงธุรกิจในอนาคตรวม 23 รางวัลจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเป็นต้นแบบในอุตสาหกรรมฯ โดย หวังกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดความสำเร็จในอนาคต ทั้งนี้ในฐานะตัวแทนภาคอุตสาหกรรมขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมที่ให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ โดยหวังว่าทุกความร่วมมือจะเป็นจิ๊กซอร์ในการสนับสนุนและผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ไทยให้มีความเข้มแข็ง เป็นหนึ่งในฟันเฟื่องของการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ เฟสบุ๊คเพจ Bangkok International Digital Content Festival ลิงค์ https://www.facebook.com/bidc.fest/