MSN on February 18, 2020, 08:45:01 AM
แฮปปี้กรุ๊ป ผุดแฮปปี้ช้อปปิ้ง บุกตลาดโฮมช้อปปิ้งเต็มตัว ขยายทุกแพลตฟอร์มเลือกสินค้าและบริการให้แม่น เจาะลูกค้าที่ใช่ เน้นกลุ่มผู้สูงวัย




แฮปปี้ช้อปปิ้ง (Happy Shopping) น้องใหม่ในวงการธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง เผยความสำเร็จยอดขายกว่า 185 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือน ด้วยกลยุทธ์ "Customer Centric" วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการ "ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกลุ่มเป้าหมาย" ตอกย้ำจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดโฮมช้อปปิ้งด้วยสินค้าและบริการ House Brand ภายใต้ชื่อ Happy Life+ แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคัดสรรถึงขีดสุด Thai Wisdom by Happy ยกระดับสินค้าโอท็อปขึ้นมาอีกขั้น และ Happy Experience บริการท่องเที่ยวไม่ซ้ำใคร ควบคู่ไปกับสินค้าจากพาร์ทเนอร์ที่ผ่านการพิถีพิถันคัดกรองอย่างเข้มข้นก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค พร้อมประกาศรุกตลาดปีนี้ด้วยแผน "เลือกสินค้าให้แม่น เจาะกลุ่มและช่องทางที่ใช่" ผ่านแพลตฟอร์ม Omni Channel เปิดประตูการค้าทุกช่องทางการขายทั้งแบบออฟไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางหลักแรกเริ่มให้กว้างขึ้น และรุกหนักออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย คาดธุรกิจจะเติบโตมากกว่า 186% ซึ่งเป็นเป้ายอดขายกว่า 530 ล้านบาท และ จำนวนลูกค้าเติบโตอยู่ที่ 200% ในปี 2563

จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ TV Home Shopping วัดได้จากเป้ามูลค่าการตลาดรวมถึง 14,000 ล้านบาทในปี 2562 ซึ่งเติบโต 7-8% จากปีก่อนหน้า และคาดว่าในปี 2563 จะสามารถโตขึ้นไปได้อีก สะท้อนถึงความไว้วางใจ และเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อรูปแบบการสั่งซื้อสินค้า TV Home Shopping โดยเฉพาะสินค้าคุณภาพ ราคาเหมาะสม จัดส่งถึงบ้าน และสามารถจ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้า หรือที่เรียกว่า COD (Cash on Delivery) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ ส่งผลทำให้ทั้ง 2 ผู้บริหารอย่าง อภิรวี พิชญเดชะ ที่มีประสบการณ์ในวงการดิจิทัล ทีวี และ TV Home Shopping และธนพงษ์ ไชยลาโภ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตคอนเทนต์ และการออกอากาศ ตัดสินใจก่อตั้ง Happy Shopping ขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง และเป็นส่วนหนึ่งของส่วนแบ่งของการตลาด TV Home Shopping ผ่านช่องทางทีวีดิจิทัลช่อง Nation 22 เป็นช่องทางแรก

นางสาวอภิรวี พิชญเดชะ กรรมการผู้จัดการ แฮปปี้ กรุ๊ป เปิดเผยที่มาของการสร้างธุรกิจโฮมช้อปปิ้งที่ใช้หลัก "Customer Centric" เป็นจุดยืน เพื่อตอบสนองในสิ่งที่ตลาดยังมีช่องโหว่ และนำเสนอสิ่งที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง โดย Happy Shopping เลือกโฟกัสกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอยู่จำนวนมากในสังคมและกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคนกลุ่ม Baby Boomer และGen X นั่นเป็นกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้าคุณภาพดี และมีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวสอดรับกับฐานผู้ชมทีวีดิจิทัลช่อง Nation 22 ด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดรูปแบบการตลาด "ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกลุ่มเป้าหมาย" สามารถยึดใจลูกค้าปัจจุบันซึ่งมีมากกว่า 100,000 ราย และสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา Happy Shopping ปิดยอดอยู่ที่ 185 ล้านบาท หลังจากทำการตลาดเพียง 7 เดือนเท่านั้น

นอกจากความโดดเด่นด้านโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนแล้ว Happy Shopping ยังสร้างจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดด้วยการเน้นสินค้า House Brand ทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย Happy Life+ สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และบิวตี้ ได้แก่ วิตามินผักผลไม้รวม Vita Daily อาหารเสริมกระดูกข้อเข่าโดยรวมคอลลาเจน และแคลเซียมไว้ด้วยกัน Calcimac CII อาหารเสริมสมอง Brenifit อาหารเสริมปกป้องดวงตา C-Byte ตามด้วยกลุ่ม Thai Wisdom by Happy ซึ่งเป็นสินค้าภูมิปัญญาไทยและส่งเสริมสินค้า OTOP ปัจจุบันได้คัดสรรผลิตภัณฑ์และร่วมพัฒนากับวิสาหกิจชุมชนทั้ง 4 ดอย สร้างสรรค์เป็นแบรนด์กาแฟ 4 Valleys พร้อมวางแผนการจำหน่ายสินค้าตลอดทั้งปี ปิดท้ายด้วย Happy Experience บริการท่องเที่ยวแปลกใหม่แบบมีคอนเซ็ปต์ทุกเส้นทาง และมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเส้นทางเดินทางไปพร้อมกัน เช่น การท่องเที่ยวด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ระดับโลก การท่องเที่ยวจาริกแสวงบุญ พร้อมสถานที่ Unseen ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยปี 2563 นี้วางแผนการเดินทางทั้งหมด 6 ทริป

นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่นๆ จากพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ในประเทศซึ่งเป็นกลุ่มสินค้า Hero Product ของ Happy Shopping อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกาแฟสุขภาพ พี่ยักษ์ อาหารเสริมงาดำ Navis plus อาหารเสริมบำรุงสมองแบรนด์ มายไบรนี่ อาหารเสริมดูแลระบบทางเดินอาหาร GI365 และเครื่องดื่ม แพลนท์สตานอล Benecol ตามด้วยสินค้าแฟชั่นและบิวตี้ อย่าง เซรั่ม YURA เสื้อปีกนก Vanessa Lift กางเกงขาสั้น Alexsander ตลอดจนเครื่องใช้ภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ราวตากผ้า Perfect เครื่องล้างผัก ผลไม้ OZONE ชุดสว่านกระแทก INGGO เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง INGGO และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อย่าง กล้องติดรถยนต์ Aston กล้องวงจรปิด AXON เป็นต้น

สำหรับแผนการตลาดในปี 2563 นี้ อภิรวี กล่าวว่าจะเดินหน้ากลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าที่ยั่งยืน โดยยึดหลักการ "เลือกสินค้าให้แม่น เจาะกลุ่มที่ใช่" คำนึงถึงการนำเสนอสินค้าคุณภาพให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่เน้นสินค้า Mass ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่ต้องเป็นสินค้าและบริการที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของวัยและมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพประเภทอาหารเสริมเป็นหลัก

ส่วนการพัฒนารูปแบบการตลาดและการขายนั้น อภิรวี กล่าวเพิ่มเติมว่า Happy Shopping จะรุกหนัก "ช่องทางที่ใช่" ผ่านทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ในรูปแบบ Omni Channel แพลตฟอร์ม โดยวางสัดส่วนการทำงานไว้ที่ออฟไลน์ 80% ออนไลน์ 10% และ Outbound 10% จากเดิมทุ่มออฟไลน์เป็นหลักถึง 90% ซึ่งการเดินหน้าการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์ จะเน้นเพิ่มพันธมิตรธุรกิจทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น อย่าง ONE31 ไทยรัฐทีวี 32 และ อมรินทร์ทีวี 34 นอกเหนือจากช่อง Nation22 ที่มีอยู่เดิม ตลอดจนเพิ่มช่องทางการเช่าเวลาในโฆษณา 10 นาที และสปอต 2 นาทีในช่องทีวีดิจิทัลเพื่อขยายการรับรู้ไปสู่กลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการโทรหาลูกค้าโดยตรง (Outbound Call Center) ซึ่งเป็นการใช้ฐาน Database มากกว่าแสนรายที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยจะสร้าง CRM กับลูกค้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแต่ขายสินค้าอย่างเดียว

ส่วนออนไลน์จะมุ่งทำตลาดครอบคลุม ทั้งการนำเสนอผ่านเว็บไซต์บริษัท www.happyshopping2you.com ซึ่งมีรูปแบบการซื้อขายใช้ง่าย สินค้ามีให้เลือกมากมาย หลากหลายประเภท โดยวางเป้าหมายจำนวนสินค้าบนเว็บไซต์ มากกว่า 2,000 รายการภายในปีนี้ รวมทั้งสื่อสารผ่านเว็บไซต์ข่าวในเครือ Nation ทั้งหมดและให้ความสำคัญกับ Social Commerce มากขึ้นผ่าน Facebook (happyshopping2you) และ Line (@happy_shopping) ซึ่งปัจจุบันโลกโซเชียลมีเดียนั้นสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุได้มากกว่าที่คิด พิสูจน์ได้จากฐานลูกค้าที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปใช้ LINE ในการสั่งซื้อสินค้า และสอบถามรายละเอียดต่างๆของสินค้า อีกทั้ง 7-8% จากยอดขายรวมก็มาจากช่องทาง LINE ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังมุ่งกระจายสินค้าและบริการไปยังช่องทางมาร์เก็ตเพลซยอดนิยม เช่น Shopee และ Lazada (happyshopping_official) อีกด้วย

"เราเชื่อมั่นว่า Happy Shopping ไม่ได้เป็นเพียงน้องใหม่ในวงการธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ที่มาแรงและน่าจับตามองที่สุดเท่านั้น แต่ด้วยความสำเร็จและการเติบโตที่รวดเร็วนับตั้งแต่เปิดตัวมา ผนวกเข้ากับความมุ่งมั่นที่จะรุกช่องทางการขายแบบ Omni Channel และการพัฒนาคัดสรรสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10 สินค้าต่อเดือน รวมถึงการมีทีมงานคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ Happy Shopping จึงกล้าตั้งเป้าการเติบโตแบบก้าวกระโดดไว้ที่ยอดขาย 530 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 186% และคาดว่าจะมียอดการเติบโตของลูกค้ากว่า 200% ในปี 2563 ได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้" กรรมการผู้จัดการ แฮปปี้ กรุ๊ป กล่าวทิ้งท้าย
« Last Edit: February 18, 2020, 08:47:34 AM by MSN »

MSN on February 18, 2020, 08:45:14 AM
Happy Group Launches Happy Shopping to Fully Enter Home Shopping Market with Plans to Expand to All Platforms Selecting Right Products and Services for Right People with Focus on and target to valuable mature customer




Happy Group Launches Happy Shopping to Fully Enter Home Shopping Market with Plans to Expand to All Platforms Selecting Right Products and Services for Right People with Focus on and target to valuable mature customer

Happy Shopping, a new player in the home shopping business, has announced a great success with sales of over 185 million baht in only seven months, using the "Customer Centric" strategy to analyze customers' behavior in order to cater to their needs at the "right place and right time for the right target." Happy Shopping sets itself apart from other competitors in the market by offering quality house brand products and services such as Happy Life+—carefully selected food supplements, Thai Wisdom by Happy—another level of locally made and developed products, and Happy Experience—a one of a kind travel service. There are also other products the company has curated for consumers from its partner manufacturers. With this year's marketing plan "select only the right products for the right people through the right channels," Happy Shopping uses the Omni Channel platform to distribute products and services through all channels, both offline, which is the company's first mainstream channel, and online channels including websites and the social media. For 2020, the company has projected growth of higher than 186%, sales of over 530 million baht, and a 200% increase in customers member.

TV home shopping business has been continuously growing, based on its total market value of 14 billion baht or a 7-8% increase in 2019 compared with the previous year with a possibility of higher growth in 2020. The continuous growth of TV home shopping reflects consumers' trust and confidence in the business, particularly in reasonable priced quality products that can be delivered to their home and paid with the currently popular Cash on Delivery (COD). Two executives—Ms. Apirawee Pichayadecha, who has experience in digital TV and TV home shopping, and Mr. Tanapong Chaiyalapo, an expert in content production and broadcasting, decided to establish Happy Shopping on 10 May 2019 to fulfill customers' specific needs and win a TV shopping market share via Nation 22—the first offline channel for Happy Shopping.         

Managing Director of Happy Group Ms. Apirawee Pichayadecha said home shopping business is based on the "Customer Centric" strategy. In order to take an advantage of a gap in the market and present the right products and services for the target group, Happy Shopping has chosen to do marketing with mature customers, or the Baby Boomer and Gen X, who now account for a large population in the society with the number expanding. These health-conscious people with high purchasing power are looking for quality products. They are Happy Shopping's target group who are also the same group of Nation 22's audience. This is how we offer products and services at the "right place and right time for the right target"—the strategy that helps us acquire more than 100,000 customers. At the end of 2020, Happy Shopping reached the total sales of 185 million baht after only seven months of marketing.

Apart from Happy Shopping's clear focus on the older customers, the company's strength that leaves its competitors behind is its House Brand. The three categories of Happy Shopping's House Brand include Happy Life+ food supplements and beauty products such as Vita Daily fruits & vegetables vitamins, Calcimac CII collagen and calcium supplements for knee joints, Brenifit brain boosting supplements, and C-Byte eye supplements. The second category is Thai Wisdom by Happy--a brand for products made and developed by Thai entrepreneurs and locally made and developed product. The company has carefully selected products to be distributed under the brand and developed a new coffee product called 4 Valleys with community enterprises from four mountains. The last category is Happy Experience--a new, one of a kind, travel service with a different travelling concept to alternative route with experts. Happy Experience features themed travel such as world-class technology and innovation travel, pilgrimage travel, as well as trips to unseen destinations. In 2020, a total of six trips will be arranged.

Other products sold by Happy Shopping include its hero products made by large manufacturers in Thailand such as "Pee Yak" healthy coffee supplement, Navis Plus Natural sesame supplement, My Braini brain supplement, GI365 digestive supplement, and Benecol plant stanol drink. YURA serum, Vanessa Life blouse, and Alexander shorts are among Happy Shopping's fashion & beauty products. Home and electrical appliances sold by Happy Shopping range from Perfect clothes racks, Mahasamut ozone disinfector, INGCO hammer drills sets, high-pressure washers, and other electronic products such as Aston dash cam, AXON CCTV etc.

As for the company's 2020 marketing plan, Ms. Apirawee said Happy Shopping will continue implementing its strategy for sustainable customer retention based on the principle of "selecting the right products for the right people." The company will focus on presenting the quality products that are suitable for the target group rather than selling mass products that can be found everywhere. Happy Shopping's products and services must be able to address the pain points of the elderly and make them repeatedly buy the products, particularly health supplements.

Regarding sales and marketing, Ms. Apirawee said Happy Shopping will intensively use "the right channels," both offline and online, and the omni channel platform in the ratio of 80% offline, 10% online, and 10% outbound rather than using offline channels by 90% as it used to. For offline channels, Happy Shopping will expand its opportunity to more digital TV partners such as ONE31, Thairath TV 32, and Amarin TV 34, apart from its existing partner channel Nation22. More airtime will be sought for its 10-minute commercials and 2-minute spots on digital TV to reach out to the target group more. Database of more than 100,000 customers will be utilized to the maximum extent by Happy Shopping's outbound call center which will also seek to create true CRM with customers apart from just selling them products.

On the online platform, Happy Shopping will use a comprehensive marketing strategy to sell products on the company's website www.happyshopping2you.com-- website for easy shopping which offers a large quantity of products in variety of categories. Over 2,000 products are will be available on the website within this year. Moreover, Happy Shopping plans to communicate with its target group through all news websites of the Nation group while using social commerce more via Facebook (happyshopping2you) and Line (@happy_shopping). Happy Shopping has decided to focus on the social media due to its accessibility to customers who are 40 years old and over up use Line to order products and ask for information about products. Currently, 7-8% of the total sales of Happy Shopping is from Line. Popular marketplaces in Thailand such as Shopee and Lazada (happyshopping_official) are others channels used by Happy Shopping to distribute its products and services.

"Happy Shopping is not just the most groundbreaking new player in the home shopping business as we have seen the success and fastest growth since our business started. We are determined to use the omni channel and select more products and services that appeal to our customers by 10 products per month on average. With our team of new generations of people who are full of creative ideas, Happy Shopping is confident to set a high growth target for sales at 530 million baht or a 186% increase, and we expect to see a customer growth rate of over 200% as planned," Happy Group Managing Director concluded.
« Last Edit: February 18, 2020, 08:48:34 AM by MSN »