MSN on December 12, 2019, 12:34:38 PM
อิปซอสส์ ปล่อยชุดสำรวจ “วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย” จำนวน 20.64 ล้านคน ที่มีรายได้เฉลี่ยร่วม 20 ล้านล้านบาทต่อเดือนสำหรับคนเอเชีย และ 1 แสนล้านบาทสำหรับคนไทย โดยผลวิจัยจากอิปซอสส์ชุดนี้นับเป็นการศึกษากลุ่มคนมั่งคั่งขนาดใหญ่ชุดเดียวในวงการ และทำต่อเนื่องมาร่วม 2 ทศวรรษ

     
                                                                                                                                                โดยลักษณะของกลุ่มคนมั่งคั่งนี้ เป็นกลุ่มคนที่มักจะคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด รักในการท่องเที่ยว และเต็มใจที่จะจ่ายแพงกว่าสำหรับสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสินค้าทีผลิตภายในประเทศ โดยคนรวยชาวไทยกว่า 62% เต็มใจที่จะจ่ายแพงกว่าสำหรับสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และ 53% ยินดีที่จะอุดหนุนสินค้าของไทย นับเป็นอัตราที่สูงกว่าคนมั่งคั่งชาวเอเชีย









ณ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์  วันที่ 11 ธันวาคม 2562  บริษัท อิปซอสส์ (ประเทศไทย) จำกัด  (Ipsos (Thailand) Co.,Ltd.)  ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยตลาดและสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค  ให้บริการงานวิจัยรูปแบบ Customized Research  บริการครบวงจรแบบ One Stop Service  โดยได้พัฒนาโมเดลการวิจัยพร้อมใช้มากที่สุดถึง 75 โซลูชั่นสำหรับตลาดโลก  และ 9 โซลูชั่นสำหรับตลาดวิจัยไทย นำโดย นางสาว อุษณา จันทร์กล่ำ (Usana Chantarklum) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นาย อิษณาติ วุฒิธนากุล (Aitsanart Wuthithanakul) หัวหน้าฝ่ายองค์กรลูกค้า ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึง รายงานวิจัยชุดพิเศษ “วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย” หรือ “Affluent Asia” โดยวิจัยชุดนี้ถือว่าเป็นการศึกษาเพียงชุดเดียวในวงการที่เป็นการศึกษากลุ่มคนมั่งคั่งขนาดใหญ่ และมีการวิจัยอย่างต่อเนื่องมานานนับ 2 ทศวรรษหรือกว่า 20 ปี

นางสาว อุษณา จันทร์กล่ำ เปิดเผยว่า “อิปซอสส์ ประเทศไทย ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี  2538  (1995 ) โดยเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องนับเป็นเวลากว่า 24 ปี ให้บริการใน 10 อุตสาหกรรมหลัก   ประกอบด้วย  กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค  (Consumer Packed Goods)  กลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร (Telecommunications & Technology) กลุ่มธนาคารและบริการด้านการเงิน  (Banking & Finance)  กลุ่มยานยนตร์  (Automotive)  กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (F&B)  กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ   (Real Estate)  กลุ่มสุขภาพ  (Healthcare)  กลุ่มท่องเที่ยว  (Travel & Tourism)  กลุ่มโรงแรม (Hotel) และ กลุ่มอีคอมเมิร์ซ (eCommerce) โดยบริษัทได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจจากลูกค้าแบรนด์ใหญ่รายสำคัญในตลาดประเทศไทยมากมาย 

นาย อิษณาติ วุฒิธนากุล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผลการศึกษาชุด “วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในทวีปเอเชีย” นี้นับเป็นข้อมูลชุดสำคัญที่สามารถช่วยให้บริษัทที่เกี่ยวข้องเข้าใจ ปรับตัว และสามารถก้าวขึ้นมาเป็น Game Changers –  ผู้เปลี่ยนเกม ให้ทันยุคที่แนวโน้มของความหรูหราได้กลายเป็น Truly Luxury หรือความหรูหราที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งของภายนอก แต่เป็นความหรูหราที่สะท้อนมาจากความคิดและคุณค่าที่มีอยู่ของแต่ละบุคคล เรียกได้ว่าเป็น “วิถีชีวิตที่หรูหราแบบใหม่”

รายงานชุดนี้ได้มีการริเริ่ม และเปิดเผยต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรกในปี 2540  (1997) โดยเบื้องต้นทำการศึกษาเพียง 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น ปัจจุบัน การศึกษานี้ได้มีการขยายขอบเขตการสำรวจ ครอบคลุมถึง 11 ประเทศทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย  ข้อมูลวิจัย “วิถีชีวิตกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย”  เป็นการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มคนมีฐานะ หรือบุคคลที่มีความร่ำรวยในหลากหลายมุม อาทิเช่น การใช้สื่อ การใช้จ่าย การท่องเที่ยว รวมถึงความสนใจต่อสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ตลอดจนทัศนคติ และความสนใจส่วนตัวของพวกเขา

จากสถิติพบว่าในเอเชียแปซิฟิกมีจำนวนคนมั่งคั่งสูงถึง 18% ของประชากรทั้งหมด นับเป็น 20.64 ล้านคน โดยมีสัดส่วนระหว่าง – ชาย และ หญิง ในจำนวนเท่าๆกัน และหากพิจารณาถึงระดับรายได้ต่อครัวเรือนของคนกลุ่มนี้พบว่า โดยเฉลี่ยชาวเอเชียมีรายได้ครัวเรือนต่อเดือนอยู่ที่ $USD 5,477 หรือประมาณ 1.6 แสนบาท อย่างไรก็ตามกลุ่มคนมั่งคั่งที่ไทยมีรายได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย โดยคนไทยมีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่เพียง $USD 4,826  หรือประมาณ 1.4 แสนบาทเท่านั้น ทั้งนี้ กว่า 87% ของกลุ่มดังกล่าวนี้  จะมีการศึกษาอย่างต่ำในระดับปริญญาตรี หรือ สูงกว่า

กลุ่มคนร่ำรวยในเอเชียแปซิฟิกนิยม ซื้อของดี ชอบจิวเวลรี่ นาฬิกาหรู เครื่องแต่งกายที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง รองเท้า และเครื่องประดับต่างๆ

ในแง่ของพฤติกรรมการช้อปปิ้งของกลุ่มคนที่มีรายได้สูง พวกเขามักจะเลือกคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่สามารถตอบสนองความต้องการและรูปแบบไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยจากสถิติพบว่าภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มคนมั่งคั่งทั้งในเอเชียและประเทศไทย  มีการใช้จ่ายกับ จิวเวลรี่ที่มีมูลค่าถึง $USD9,999 หรือราวๆ 3 แสนบาท  นาฬิกาหรูที่มีราคาถึง $USD1,999 หรือประมาณ  6 หมื่นบาท รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงถึง  $USD4,999  (1.5 แสนบาท) โดยมีอัตราดังนี้
 
จากการศึกษาที่พิจารณาถึง - เปอร์เซ็นต์ของการครอบครองสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่า $US1,000 หรือราวๆ 3 หมื่นบาท ในกลุ่มของคนมีฐานะทั้งในเอเชียแปซิฟิก และประเทศไทยจะพบว่า กลุ่มคนมั่งคั่งในไทยมีเปอร์เซ็นต์การเป็นเจ้าของเสื้อผ้าหรือเครื่องหนังที่มีดีไซน์เฉพาะ ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในแถบเอเชียแปซิฟิก แต่สำหรับสินค้าประเภทเครื่องประดับและรองเท้านั้น จะมีสัดส่วนในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
 
ญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมายอันดับหนึ่งของกลุ่มคนรวยในทวีปเอเชีย ตามด้วยฮ่องกง และเดินทางปีละอย่างต่ำ 4 ทริป

การท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ที่กลุ่มคนมีฐานะชาวเอเชียชื่นชอบมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความจำเป็นในการเดินทางเพื่อธุรกิจ และผู้ที่ชอบเดินทางเพื่อการพักผ่อน จากสถิติพบว่า คนเหล่านี้จะมีการเดินทางไปต่างประเทศอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี โดยกว่า 33% ของกลุ่มคนรวยในไทย และ 22% ของคนในเอเชียแปซิฟิกเลือกที่จะไปประเทศญี่ปุ่น ตามด้วยฮ่องกงในอัตรา 19% และ 14% ตามลำดับ โดยรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมากในกลุ่มคนมั่งคั่งในประเทศไทยคือการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ หรือเพื่อสุขภาพ ตามด้วยการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่มีค่าชี้วัดมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเกิน 1 เท่าตัว และ 50% ตามลำดับ

คนมั่งคั่งในเอเชียเสพสื่อทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง ทีวี และ แมกกาซีนต่างประเทศ และยึดสื่อโซเชียล เป็นเหมือนส่วนนึ่งของชีวิตเลยทีเดียว

สำหรับรูปแบบสื่อที่กลุ่มเป้าหมายที่มั่งคั่งในเอเชียชื่นชอบนั้นเรียกได้ว่าครอบคลุมแทบทุกแพลตฟอร์ม แต่มีการใช้เวลากับ เว็บไซต์ และ แอพต่างๆ สูงสุด ตามมาด้วย ทีวี หนังสือ พิมพ์ และ แมกกาซีน สำหรับกลุ่มคนมีรายได้สูงชาวไทย จะใช้เวลากับ แอพ และ เว็บไซต์ มากกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย โดยชอบทั้ง 2 แพลตฟอร์มทั้งสื่อรูปแบบดั้งเดิมและสื่อใหม่ดิจิทัล   

คนมั่งคั่งในเอเชียแปซิฟิก และคนมีรายได้สูงชาวไทย ต่างมีความนิยมในการเสพสื่อทีวี และนิตยสารต่างประเทศเหมือนๆกัน เพียงแต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกัน โดย 44% เป็นอัตราสำหรับคนมีรายได้สูงในเอเชียแปซิฟิก และ 50% ของคนมีรายได้สูงชาวไทย

ส่วนสื่อโซเชียล นับได้ว่าเป็นสื่อที่แทบจะถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกลุ่มคนมั่งคั่งทั้งหลาย สำหรับกลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียแปซิฟิกนั้น มีความนิยมใช้ช่องทาง Facebook ถึง 69% รองมาเป็น สื่อ YouTube 63% Instagram 42% และ LinkedIn 21% แต่สำหรับคนรวยในชาวไทย นิยมใช้ช่อง ทาง Facebook YouTube Instagram และ LinkedIn ในอัตรา 94% 90%  61%  และ 18% ตามลำดับ
      
ยิ่งไปกว่านั้นจากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนมีฐานะในประเทศไทยใช้เวลากับโซเชียลมีเดียต่างๆ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มคนมั่งคั่งในเอเชีย คนไทยใช้เวลากับแพลตฟอร์มเหล่านี้มากกว่า 500 นาทีภายในระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมาหรือราวๆ 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งค่าเฉลี่ยของเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่เพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น 

มากกว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มคนมีฐานะในภูมิภาคเอเชียให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของโลกมากกว่าการใช้จ่ายเพื่อเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยินดีที่จะสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ

โดย 53% ของกลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียในยุคปัจจุบันเปิดเผยว่า พวกเขาพร้อมและยินดีที่จะจ่ายมากกว่าสำหรับสินค้าหรือบริการที่เป็นให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และอีก 47% ยังยินดีที่จะซื้อหรืออุดหนุนสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มคนมีฐานะในประเทศไทยถึง 63% ยินดีที่จะจ่ายมากกว่าสำหรับสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 53% ระบุว่ามีความยินดีที่จะอุดหนุนสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่ากลุ่มคนมั่งคั่งชาวเอเชียอย่างมีนัยยะสำคัญ

บริการที่แตกต่างแบบ  Customized Service  เน้น 10 กลุ่มอุตสาหกรรม พร้อม โซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อความรวดเร็วและบริการอย่างเจาะลึกด้วยความเชื่อที่ว่า ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับงานวิจัยรูปแบบเดียวที่ใช้ได้กับลูกค้าทุกรายเพราะต่างก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน   สำหรับตลาดประเทศไทย  บริษัทได้มีการพัฒนาโมเดลโซลูชั่นขึ้นเป็นพิเศษถึง  9 โซลูชั่น กล่าวคือ   Market   Strategy & Understanding  /  Innovation   /   Customer Experience  /   Mystery Shopping  /    Brand Health Tracking   /  Qualitative Research (UU) /  Creative Excellence      /   Social Intelligence Analytics     และ   Observer    ทั้งนี้  อิปซอสส์  ถือเป็นเพียงไม่กี่บริษัทในวงการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 20252  นางสาว อุษณา กล่าวปิดท้าย

จับกระแสโลกเปลี่ยน ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา โลกได้เข้าสู่ภาวะ Accelerated Change อิปซอสส์ ได้นำหน้าปูทาง พลิกบทเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม” (Game Changers) แทนการอยู่ล้าหลัง ปล่อยแคมเปญ “บี ชัวร์” (Be Sure) หนุนลูกค้าเป็น “ผู้คุมเกม” พลิกวงการวิจัยพร้อมๆ กัน

จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปี 2562 โลกได้เข้าสู่ยุค Accelerated Change ซึ่งคือการที่โลก เทคโนโลยี และความต้องการของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อิปซอสส์ เชื่อว่า ทุกคนและทุกธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้ทันกับกระแสโลก อิปซอสส์ จึงได้ปูทางนำหน้าสู่การเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม (Game Changers) ผ่านแคมเปญ “Be Sure” โดยแคมเปญนี้ต้องการสื่อสารว่า การมีข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำเท่านั้นที่จะทำให้ธุรกิจให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง ตอบรับสโลแกน “YOU ACT BETTER WHEN YOU ARE SURE” ผลลัพธ์คุณจะเหนือกว่า เมื่อเต็มเปี่ยมด้วยพลังของความมั่นใจ นางสาวอุษณา กล่าวปิดท้าย
« Last Edit: December 12, 2019, 12:41:41 PM by MSN »