sianbun on February 12, 2010, 03:37:56 PM
ปูนซีเมนต์นครหลวง รายงานผลประกอบการดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2551



บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด  (มหาชน)  ได้รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 อยู่ที่ร้อยละ 17.2 ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 16.1 การแบ่งปันกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 704 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 3.06 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรอยู่ที่ 676 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2.94 บาท

ความต้องการปูนซีเมนต์ภายในประเทศขยายตัวร้อยละ 10ในไตรมาส 4 ปี 2552 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 สืบเนื่องมาจากความต้องการปูนซีเมนต์ในไตรมาส 4 ปี 2551 มีปริมาณที่ต่ำมากอันเนื่องมาจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก และภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา จากความมั่นใจของนักลงทุนและผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ความต้องการปูนซีเมนต์ภายในประเทศสำหรับปี 2552 ปรับตัวลดลงร้อยละ 2 จากปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 10 เมื่อตอนต้นปี

ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิรวมจากการขาย 5,008 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว ซึ่งมีรายได้สุทธิรวมจากการขาย 5,237 ล้านบาทอยู่ที่ร้อยละ 4.4 และมีรายได้สุทธิรวมจากการขายของบริษัทฯ สำหรับปี 2552 อยู่ที่ 19,971 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ารายได้สุทธิรวมจากการขายของบริษัทฯ ในปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ 21,305 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.3

ทั้งนี้ จากความมุ่งมั่นของบริษัทฯที่จะลดค่าใช้จ่ายคงที่ในการดำเนินงานและการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตทำให้อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานสำหรับปี 2552 อยู่ที่ร้อยละ 19.7 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงาน อยู่ที่ร้อยละ 19.6   การแบ่งปันกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ สำหรับปี 2552 อยู่ที่ 2, 946 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 12.81 บาท เปรียบเทียบกับปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ 3,173 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 13.79 บาท

ในขณะเดียวกัน การลดลงของเงินลงทุนหมุนเวียนสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 33.2 หรือเท่ากับ 4,128 ล้านบาท สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552เปรียบเทียบกับกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานสำหรับปี 2551 ที่ 3,099 ล้านบาท

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอ จ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงาน ปี 2552 ในอัตราหุ้นละ 11.00 บาท จากกำไรสุทธิต่อหุ้น 12.81 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายในอัตราร้อยละ 86 ของกำไรสุทธิ  เนื่องจากบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 6.00 บาท ในเดือนสิงหาคม 2552 จึงเหลือเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี ที่จะต้องจ่ายอีกหุ้นละ 5.00 บาท โดยจะจ่ายภายในเดือนพฤษภาคม 2552 นี้

บริษัทฯได้มีการคาดการณ์ถึงความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ของภาครัฐ บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการลดต้นทุนต่างๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการจัดเตรียมเชื้อเพลิงและวัตถุดิบทดแทน และหน่วยผลิตไฟฟ้าจากความร้อนเหลือใช้ของเตาเผาที่ 5 และ 6 ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึงปีละ 25 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มดำเนินงานในเดือนกรกฎาคม 2553 นี้

รวมถึงโครงการ ‘Growing green together’ ซึ่งทางบริษัทฯได้มุ่งเน้นถึงการนำเสนอแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อชุมชน คู่ค้า พนักงานและสังคมโดยรวม นับว่าเป็นการแสดงออกถึงการยึดมั่นในหลักการของความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ 
« Last Edit: February 15, 2010, 10:21:30 AM by sianbun »

sianbun on February 12, 2010, 03:38:22 PM
Siam City Cement improved operating profit margin and net profit in Q4 of 2009 Y-O-Y

Siam City Cement Public Company Limited announced to the Stock Exchange of Thailand today that it achieved an operating profit margin in Q4 of 2009 of 17.2 percent, up from 16.1 percent recorded during the same period of 2008. Consolidated net profit attributable to equity holders for the quarter was 704 million baht, or earnings per share of 3.06 baht, compared to 676 million baht, or earnings per share of 2.94 baht, in the same period of 2008.

In the 4th quarter of 2009, domestic cement consumption grew by 10 percent, compared to the same period of the previous year. This was due manly to the low base of the 4th quarter of 2008 and to a rebound of the construction sector as a result of public spending and improving consumers and investors’ confidence. Consequently, Thailand ’s full-year 2009 cement consumption declined by 2 percent from a year earlier, a much lower level than the 10 percent drop anticipated at the beginning of the year.

Consolidated net sales for Q4 of 2009 were 5,008 million baht, 4.4 percent lower than the 5,237 million baht net sales posted during the same period in 2008. Consolidated net sales for the full-year 2009 were 19,971 million baht and 6.3 percent lower than the 21,305 million baht net sales recorded the previous year.

Thanks to the Company’s determination to reduce fixed cost and to increase production efficiency, full-year operating profit margin reached 19.7 percent, exceeding slightly the 19.6 percent of the same period in 2008. Full-year consolidated net profit attributable to equity holders of the parent was 2,946 million baht with earnings per share of 12.81 baht, compared to 3,173 million baht or earnings per share of 13.79 baht in year 2008.

Furthermore, significant net working capital reduction contributed to a 33.2 percent rise in operating cash flow up to 4,128 million baht for the year ended 31 December 2009, compared to 3,099 million baht in the previous year.

The SCCC Board of Directors at its meeting on February 11th decided to propose the payment of a full-year dividend of 11.00 baht per share, based on the earnings of 12.81 baht per share, representing a payout ratio of 86 percent for financial year 2009, pending the approval at the Annual General Meeting. The interim dividend of 6.00 baht per share was paid in August 2009 and the final dividend of 5.00 baht per share is expected be paid within May 2010.

In terms of outlook, SCCC projects domestic cement consumption to improve by 3 to 5 percent from 2009, driven by the Government’s second stimulus package. The Company expects also to benefit from various cost improvement programs, including the continuing development of the Alternative Fuels and Raw Materials (AFR) project, and the Waste Heat Recovery (WHR) project which is due to generate 25 mW of electricity per year starting in July 2010.

Launching its new initiative “Growing Green Together”, SCCC will intensify its efforts to offer sustainable concrete solutions for its customers – a development that will benefit the communities, business partners, employees and the society as a whole, while staying fully committed to its social responsibility efforts.