MSN on September 25, 2019, 07:42:56 AM
CIMB และธนาคาร 130 แห่งทั่วโลก สินทรัพย์รวม 47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รับหลักการของการเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบ นับเป็นการตั้งมาตรฐานสูงขึ้นให้ภาคการธนาคารและการเงิน เพื่อปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ              



นิวยอร์ค: CIMB Group Holdings Berhad หรือกลุ่มซีเอ็มบี บริษัทแม่ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งหลักการด้านการธนาคารที่มีความรับผิดชอบมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในฐานะผู้ลงนามในหลักการด้านการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ กลุ่มซีไอเอ็มบีเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคาร 130 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 47 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ให้คำมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายอนาคตที่ยั่งยืน
ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นที่จุดเริ่มต้นของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการเปิดตัวหลักการอย่างเป็นทางการของธนาคารที่มีความรับผิดชอบ (the Principles for Responsible Banking) นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่สุดระหว่างอุตสาหกรรมการธนาคารทั่วโลกกับสหประชาชาติ

“หลักการของธนาคารเพื่อการรับผิดชอบของสหประชาชาติ (The UN Principles for Responsible Banking) เป็นแนวทางสำหรับอุตสาหกรรมธนาคารทั่วโลกที่จะตอบสนอง ขับเคลื่อน และได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างยั่งยืน The Principles นี้จะสร้างภาระรับผิดชอบ (accountability) ที่ทำให้ตระหนักในความรับผิดชอบ (responsibility) และความทะเยอทะยานที่จะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดการลงมือทำ” นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในงานเปิดตัว โดยมี 130 องค์กรและผู้บริหารระดับสูงกว่า 45 คนขององค์กรนั้นๆร่วมลงนาม

เต็งกู ซาฟรูล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี กล่าวว่า “ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งของ UNEP-FI Principles for Responsible Banking เราเชื่อมั่นว่าสังคมซึ่งก่อตั้งขึ้นบนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาค และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเท่านั้น ที่จะทำให้พนักงานของเรา ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ สามารถเจริญเติบโตได้ ซึ่งการลงนามในหลักการ เรามุ่งมั่นที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ และความสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนและเร่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันทั้งคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคต”

อิงเกอร์ แอนเดอร์เซน กรรมการบริหารโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมธนาคารที่วางแผนสำหรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่มีคาร์บอนต่ำและสภาพภูมิอากาศที่มีความยืดหยุ่นเท่านั้นแต่จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เมื่อระบบการเงินเปลี่ยนจากการทุ่มทรัพยากรอย่างหิวโหย กลับคืนสู่วิถีทางธรรมชาติ จะเป็นทางออกที่ทุกคนได้รับชัยชนะในระยะยาว”
The Principles for Responsible Banking ได้รับการสนับสนุนโดยกรอบการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและภาระรับผิดชอบ และจากการร่วมลงนาม กลุ่มซีไอเอ็มบีมุ่งมั่นในความโปร่งใส จากผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่มีต่อผู้คนและโลกใบนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีจะมุ่งเน้นไปที่จุดที่มีผลกระทบมากที่สุดในธุรกิจหลัก และจะกำหนดและดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อขยายผลลัพธ์เชิงบวก พร้อมทั้งชี้เป้าผลกระทบเชิงลบใดๆก็ตามที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ระดับโลกและระดับประเทศ

The Principles for Responsible Banking จะช่วยให้กลุ่มซีไอเอ็มบีมีกรอบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ในการระบุและคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่พัฒนาอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ธนาคารสามารถระบุและจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นกลุ่มธนาคารเดียวในอาเซียนที่จะเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของหลักการด้านการธนาคารที่รับผิดชอบ ด้วยความยั่งยืนที่ฝังอยู่ในแผนเติบโตเชิงกลยุทธ์ในปัจจุบัน นั่นคือ Forward23 กลุ่มซีไอเอ็มบีจึงเริ่มมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญเช่นหน่วยงานกำกับดูแล นักลงทุน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน และชุมชนเพื่อที่จะร่วมการเดินทางไปกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นสำหรับทุกคน ในฐานะหนึ่งในขั้นตอนแรกของการเร่งการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนในวันพรุ่งนี้ผ่านภาคธุรกิจและการเงิน กลุ่มซีไอเอ็มบีจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน The Cooler Earth [https://coolerearth.cimb.com/] การประชุมสุดยอดด้านความยั่งยืนขั้นต้นในวันที่ 1-2 ตุลาคม 2562 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

About the Principles for Responsible Banking
The Principles for Responsible Banking were developed by a core group of 30 Founding Banks through an innovative global partnership between banks and the UNEP Finance Initiative (UNEP FI). UNEP FI is the UN-private sector collaboration that includes membership of more than 250 finance institutions around the globe. Please see the Principles for Responsible Banking and their Framework Documents here.

For a complete list of all banks that have become the Founding Signatories of the Principles for Responsible Banking today and quotes from their CEOs please click here.

For more information, including infographics and videos, please visit: www.unepfi.org/banking/bankingprinciples/

To see the official UN press release on the Official Signing and Global Launch of the Principles for Responsible Banking, please click here.

About CIMB Group
CIMB Group is one of ASEAN’s leading universal banking groups and is Malaysia’s second largest financial services provider, by assets. It offers consumer banking, commercial banking, investment banking, Islamic banking and asset management products and services. Headquartered in Kuala Lumpur, the Group is present in all 10 ASEAN nations (Malaysia, Indonesia, Singapore, Thailand, Cambodia, Brunei, Vietnam, Myanmar, Laos and Philippines). Beyond ASEAN, the Group has market presence in China, Hong Kong, India, Sri Lanka, Korea, the US and UK.

CIMB Group has the most extensive retail branch network in ASEAN of around 740 branches as at 30 June 2019. CIMB Group’s investment banking arm is also one of the largest Asia Pacific-based investment banks, offering amongst the most comprehensive research coverage around 600 stocks in the region.

CIMB Group operates its business through three main brand entities, CIMB Bank, CIMB Investment Bank and CIMB Islamic. CIMB Group is also the 92.5% shareholder of Bank CIMB Niaga in Indonesia, and 94.8% shareholder of CIMB Thai in Thailand.

CIMB Group is listed on Bursa Malaysia via CIMB Group Holdings Berhad. It had a market capitalisation of approximately RM52.3 billion as at 30 June 2019. The Group has over 36,000 employees located in 16 countries.