MSN on February 21, 2019, 07:49:52 AM





ข่าวประชาสัมพันธ์ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เตรียมความพร้อมจัดงาน “ครบรอบ 80 ปี” เผยกิจกรรมมูลนิธิฯ ตลอดทั้งปี 2562 มุ่งเดินหน้าส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนตาบอดอย่างยั่งยืน










STATEMENT OF THE BLIND
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=XQMR_Fsf_DI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=XQMR_Fsf_DI</a>


มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดแถลงข่าว “ครบรอบ 80 ปี มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ MORE THAN EYES CAN SEE 80 ปี มากกว่าที่เห็น” เตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมครบรอบ 80 ปี มูลนิธิฯ และยังเผยกิจกรรมหลากหลายที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการทางการมองเห็นที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปีนี้

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ และพัฒนาโอกาสในทุกๆ ด้านให้ผู้พิการทางการเห็น ปี 2562 นี้นับเป็นวาระอันดีที่จะฉลองความสำเร็จในการดำเนินงานครบ 80 ปีของมูลนิธิฯ ที่จะได้แสดงให้เห็นถึงผลงานและศักยภาพของผู้พิการทางการเห็น รวมถึงเปิดให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุน และสร้างโอกาสที่ดีให้แก่พวกเขาเหล่านั้น ดังนั้น มูลนิธิฯ จึงได้จัดทำแคมเปญ “MORE THAN EYES CAN SEE 80 ปี มากกว่าที่เห็น”  ที่แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตา แต่พวกเขาก็มีศักยภาพและความสามารถที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้แก่สังคมและประเทศชาติได้ไม่ต่างกับคนปกติ”

สำหรับแคมเปญ MORE THAN EYES CAN SEE 80 ปี มากกว่าที่เห็น นั้นประกอบไปด้วยกิจกรรมหลากหลายที่จะเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปมาร่วมกันหยิบยื่นโอกาสที่ดีๆ แก่ผู้พิการทางการเห็น  ทั้งในรูปแบบการบริจาคเงิน  สิ่งของ และการลงมือทำกิจกรรม ได้แก่

1)   การประชุมวิชาการนานาชาติ 80 ปี การศึกษาคนตาบอดไทย ที่จะมุ่งสร้างโอกาส และส่งเสริมการศึกษาให้แก่ผู้บกพร่องทางการเห็นได้รับการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
2)   การปั่นจักรยานร่วมกันระหว่างคนทั่วไปกับผู้บกพร่องทางการเห็น
3)   Braille My Name กิจกรรมสร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาร่วมเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นอักษรเบรลล์
4)   การจัดงานกาลาดินเนอร์การกุศล การระดมทุนเพื่อสนับการดำเนินงานของมูลนิธิฯ
5)   คอนเสิร์ตการกุศล อีกมุมของการแสดงความสามารถทางดนตรีของผู้พิการทางการเห็น

“โดยกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิฯ จะประสบความสำเร็จได้นั้น คงจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์ และผลักดันในการสร้างโอกาสที่ดีให้แก่ผู้บกพร่องทางการเห็นได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อพวกเขาจะได้เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนสังคมไทยให้เดินหน้าต่อไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน” นายขรรค์กล่าวเสริม

ภายในงานแถลงข่าว “ครบรอบ 80 ปี มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ MORE THAN EYES CAN SEE  80 ปี มากกว่าที่เห็น” ในครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ร่วมกันพูดคุยกับผู้พิการทางเห็นที่อยู่ในหลากหลายอาชีพ การสาธิตกิจกรรม Braille My Name จากแขกรับเชิญพิเศษ “โม มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ” การแสดงสุดพิเศษจาก “OZEEOOS THE RAPPER” และเปิดตัววีดิทัศน์ชุด “STATEMENT OF THE BLIND” ที่สื่อให้เห็นถึงความสามารถ และศักยภาพของผู้พิการทางการเห็น โดยผู้สนใจสามารถรับชมวีดิทัศน์ได้ทาง https://youtu.be/XQMR_Fsf_DI


« Last Edit: February 21, 2019, 07:57:26 AM by MSN »

MSN on February 21, 2019, 07:53:17 AM
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นองค์กรเอกชนสาธารณกุศลที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามประกาศกระทรวงการคลังลำดับที่ 75 เป็นมูลนิธิฯ ที่ให้ความช่วยเหลือคนพิการแห่งแรกในประเทศไทย โดยมุ่งช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาด้วยการพัฒนาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวันโดยมิได้หวังผลตอบแทน จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2482 มีวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ประการ ดังนี้

•   เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาทั้งชายหญิง โดยไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา
•   เพื่อให้การศึกษาสายสามัญและการฝึกอบรมด้านอาชีพ เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข
•   เพื่อร่วมมือกับหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้พิการทางสายตา

เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ มูลนิธิฯ จึงมีการบริหารและดำเนินงานด้านต่าง ๆ 5 ส่วนคือโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอด ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด ศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอดและศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน โดยมีสำนักบริหารมูลนิธิฯ เป็นศูนย์กลางประสานงาน มูลนิธิฯ ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลืออย่างดีจากผู้ที่เล็งเห็นคุณค่าความสำคัญในการหยิบยื่นโอกาสให้กับผู้พิการทางสายตา ทั้งในรูปแบบการบริจาคเงิน สิ่งของ และการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ นำมาซึ่งความหวังและโอกาสที่ดีแก่ผู้พิการทางสายตา เพื่อช่วยให้เกิดแสงสว่างในชีวิต

ประวัติและความเป็นมา
การก่อตั้งมูลนิธิฯ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ มิสเจนีวีฟ คอลฟิลด์ สตรีตาบอดชาวอเมริกัน ที่มีความมุ่งมั่นและต้องการช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็น และเห็นว่าประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่มีองค์กรใดให้ความสนใจช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็น จึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสอนคนตาบอดขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ณ บ้านเช่าหลังเล็ก ถนนคอชเช่ ศาลาแดง

โดยได้ร่วมกับนักศึกษาไทยประดิษฐ์อักษรเบรลล์ภาษาไทยขึ้น ต่อมามีผู้มีจิตกุศลช่วยเหลือและสนับสนุนร่วมกันจัดตั้งมูลนิธิชื่อว่า “มูลนิธิช่วยให้การศึกษาแก่คนตาบอดในประเทศไทย” เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาแก่ผู้บกพร่องทางการเห็นตามสมควรแก่อัตภาพ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองและอยู่ในสังคมได้อย่างคนปกติทั่วไปโดยมิต้องเสียค่าใช้จ่าย

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มิสเจนีวีฟ คอลฟิลด์ จำต้องวางมือจากงานเพื่อเดินทางไปญี่ปุ่น จึงได้ติดต่อขอนักบวชคณะซาเลเซียนมาช่วยบริหารงานแทน คณะซิสเตอร์ได้เข้ามาดูแลนักเรียนด้วยความเอาใจใส่ให้กำลังใจ ทำให้เด็กๆมีกำลังใจต่อสู้อุปสรรคต่างๆ พิสูจน์ให้สังคมทั่วไปเห็นว่าพวกเขามีความสามารถในการเรียนรู้ และทำสิ่งต่างๆได้ เป็นเด็กมีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์ และมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีผู้ศรัทธาบริจาคเงินให้การสนับสนุนมากขึ้น ทำให้การศึกษาของเด็กนักเรียนผู้บกพร่องทางการเห็นเจริญก้าวหน้าและมั่นคงยิ่งขึ้น คณะซิสเตอร์ได้มอบงานคืนให้มูลนิธิฯ ในปี พ.ศ. 2535

ในปี พ.ศ. 2502 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์” โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้บริหารงาน

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ให้การสงเคราะห์ผู้บกพร่องทางการเห็น โดยตั้งอยู่ในหลักการที่ว่า การช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็นนั้น มิใช่ช่วยเพียงการเริ่มต้นที่โรงเรียนเพื่อให้ได้รับการศึกษาเท่านั้น หากแต่ต้องช่วยพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางวิชาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงตนเอง โดยไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ จึงจะถือได้ว่าการดำเนินงานของมูลนิธิฯ นั้น สัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์

มูลนิธิฯ ได้ดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ข้างต้นอย่างเคร่งครัดและโปร่งใสมาโดยตลอด จนได้รับคัดเลือกเป็นหน่วยงานดีเด่นของชาติประจำปี พ.ศ. 2542 จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

วิสัยทัศน์

“เป็นผู้นำในการฟื้นฟู ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพ และสมรรถภาพของผู้บกพร่องทางการเห็น ในประเทศไทย เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี”

พันธกิจ
•   มุ่งส่งเสริมการเรียนการสอนด้านภาษา ดนตรี กีฬา สู่ความเป็นเลิศ
•   มุ่งส่งเสริมการสอนและฝึกอบรมด้านอาชีพเพื่อให้เลี้ยงตัวเองได้
•   มุ่งส่งเสริมและประสานงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางสังคมและเศรษฐกิจแก่ชุมชน
« Last Edit: February 21, 2019, 07:57:48 AM by MSN »