news on October 25, 2018, 10:55:01 PM


การผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีและศิลปะ: เสี่ยวหมี่ เปิดตัวสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ Mi MIX 3 ณ พระราชวังต้องห้าม ประเทศจีน





กรุงเทพ, ประเทศไทย, 25 ตุลาคม 2561 - ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก เสี่ยวหมี่ (Xiaomi) เปิดตัวสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุด  Mi MIX 3 วันนี้ที่ พระราชวังต้องห้าม ประเทศจีน ( หรือที่รู้จักกันในนามพิพิธภัณฑ์พระราชวัง) หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีนMi MIX 3เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลMi MIXseriesที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ ที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยีและศิลปะเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว มาในกรอบหลังเซรามิคสวยงามมีให้เลือกถึง3สี พร้อม เทคโนโลยีสไลด์หน้าจอแถบแม่เหล็กแบบใหม่ล่าสุด

นอกจากการแสดงผลหน้าจอแสดงผลแบบฟูลสกรีนที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว Mi MIX 3ยังมีฟีเจอร์การตั้งค่ากล้องที่ได้คะแนนจากDxOMark สูงถึง 108 คะแนน  ตัวเครื่องด้านหลังที่โค้งมนสวยทั้งสี่ด้านมาในสีฟ้าไพลิน มีความจุสูงสุดถึง 10GB RAM

Mi MIX 3 จะวางขายในประเทศจีนครั้งแรก ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ในราคา 15,643 บาท รวมถึงรุ่นที่ได้รับการออกแบบพิเศษร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังด้วยเช่นกัน

นายเหลย จุน ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของเสี่ยวหมี่ กล่าวในงานเปิดตัวว่า “เสี่ยวหมี่คาดว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมียอดขายเกินกว่า 100 ล้านเครื่องภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2561 โดยความสำเร็จครั้งนี้ทำให้บรรลุเป้าหมายประจำปีที่ได้ประกาศไว้ในงานประชุมของผู้จัดจำหน่ายหลักระดับนานาชาติ เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560 โดยเสี่ยวหมี่จะสามารถบรรลุเป้าหมายสองเดือนก่อนกำหนดและจัดส่งสินค้ากว่า 90 ล้านชิ้นในปีพ. ศ. 2560

แถบสไลด์แม่เหล็กที่เป็นเอกสิทธิ์มอบประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟแบบใหม่ๆ
แถบสไลด์ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ สมาร์ทโฟนรุ่น Mi MIX 3 ประกอบด้วยแม่เหล็กนีโอไดเมียที่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดเมื่อสัมผัสหน้าจอกลไกแม่เหล็กจะตอบสนองในเวลาอันรวดเร็วจากปริมาณแรงกดที่เหมาะสมเสี่ยวหมี่ได้ทุ่มเทความตั้งใจอย่างมากในการพัฒนากระบวนการผลิตและตรวจสอบในห้องทดลองการใช้งานแถบสไลด์มีอายุการใช้งานมากถึง 300,000 รอบ

ดีไซน์การสไลด์หน้าจอ ไม่เพียงเพิ่มพื้นที่ระหว่างกล้องหน้าและเสาอากาศเท่านั้นแต่ยังช่วยการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอสูงสุด Mi MIX 3 มีจอขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2340x 1080พิกเซล แสดงผล FHD + Samsung AMOLED อัตราส่วนภาพ 19.5: 9กรอบได้รับการลดขนาดลงจากรุ่นก่อนหน้าเพื่อให้ได้อัตราส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องได้มากที่สุดถึง 93.4 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายหรือปรับแต่งฟังก์ชั่นต่างๆได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันพิเศษให้สามารถแคปภาพหน้าจอ บันทึกหน้าจอหรือซ่อนการแจ้งเตือนในระหว่างการเล่นเกมได้อีกด้วย

คุณภาพการถ่ายภาพระดับโลกด้วย 108 คะแนน จากDxomark
Mi MIX 3 มาพร้อมกล้องถึง4ตัว ประกอบด้วย กล้องคู่ด้านหลัง 12MP + 12MP ที่ใช้เซนเซอร์เดียวกับ Mi8 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายรูปในสภาวะแสงน้อย เสี่ยวหมี่เพิ่มโหมดถ่ายภาพด้วยการใช้มือในตอนกลางคืน นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆอีกมากมาย เช่น การลดเสียงรบกวน,การปรับภาพให้สวยงามในทุกแสง, AI วัดแสงและการปรับเสถียรภาพ AI ควบคู่ไปกับ OIS 4แกนของกล้องคู่หลัง, Mi MIX 3 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของเสี่ยวหมี่ สำหรับภาพถ่ายที่มีแสงปริมาณน้อยจนถึงแสงปกติ ทั้งกล้องคู่ด้านหลังยังมีการบันทึกวิดีโอขนาด 4K และการจับภาพวิดีโอได้ถึง 960 เฟรมต่อวินาที และด้วยคุณลักษณะพิเศษของ AI ที่จะช่วยเพิ่มเพลงพื้นหลังได้โดยอัตโนมัติตามจังหวะการเคลื่อนไหวในวิดีโอ

โมดูลด้านหน้าขนาด 24MP + 2MP มีเซ็นเซอร์หลักของ Sony IMX576 สามารถจับภาพได้แม่นยำกว่าที่เคย ในสภาพแสงน้อย เซนเซอร์จะใช้เทคโนโลยีซุปเปอร์พิกเซลเพื่อรวมข้อมูลจากสี่พิกเซลให้เป็นพิกเซลเดียวที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.8 µm  ช่วยเพิ่มความคมชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ร่มและมีแสงน้อย เซ็นเซอร์รอง 2M ยังช่วยจับข้อมูลในระดับลึกเพื่อการถ่ายภาพ โหมด AI หน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh effect)

การพัฒนาเหล่านี้ทำให้ Mi MIX 3 ได้คะแนนจากDxOMark ถึง 108 คะแนน และได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลก

ฝาหลังเซรามิคโค้งมนสวยทั้งสี่ด้าน
Mi MIX 3 ยังคงเอกลักษณ์การใช้วัสดุที่ไม่เหมือนใครด้วยการออกแบบสุดพิเศษ และยังเพิ่มสีใหม่คือสีฟ้าไพลินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลกชันเซรามิกในพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ชิ้นเซรามิคเหล่านี้มีความงดงามผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันและได้รับการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ

ในงานเปิดตัว  เสี่ยวหมี่ร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ได้เปิดตัว Mi Mix 3รุ่นพิเศษที่ได้สลักภาพสัตว์ในตำนานจีนโบราณ Xiezhi (อสูรในตำนานจีนที่เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม) ไว้บนฝาหลังนอกจากนี้ ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเวอร์ชั่นแรกของโลกที่มี RAM ขนาด 10GB เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

อุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย 10 วัตต์ ที่สามารถใช้ได้กับทุกยูนิต
Mi MIX 3 สนับสนุนการชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi และมีที่ชาร์จแบบไร้สาย 10 วัตต์ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องชาร์จแบบไร้สายในรุ่นก่อนหน้าถึง 30 เปอร์เซ็นต์

สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของเสี่ยวหมี่ที่มาพร้อมกับปุ่ม AIแบบพิเศษ
เป็นครั้งแรกของเสี่ยวหมี่ที่เพิ่มปุ่ม AIแบบพิเศษที่ด้านซ้ายของโทรศัพท์ ผู้ใช้สามารถใช้เทคโนโลยีการใช้เสียง หรือ  Xiao AI โดยการกดปุ่ม AIค้าง และผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าปุ่มกด การคลิกหนึ่งครั้งหรือสองครั้งเพื่อการใช้งานในฟังก์ชั่นต่างๆ

Mi MIX 3 มีจำหน่าย 3สี ประกอบไปด้วย สีเขียวหยก (Jade Green), สีฟ้าพลอย (Sapphire Blue) และสีดำนิล (Onyx Black)โดยจะเริ่มจำหน่ายในประเทศจีน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์โดยราคาจะอยู่ที่
6GB + 128GB ในราคา 15,643บาท   
8GB +128G ในราคา 17,066บาท
8GB + 256GB ในราคา 18,963บาท
10GB + 256GB (Palace Museum Edition) ในราคา 23,704บาท

สำหรับราคาและช่วงเวลาในการจัดจำหน่ายในประเทศไทยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ :http://blog.mi.com/en/

เกี่ยวกับเสี่ยวหมี่
เสี่ยวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมายน 2553 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 (1810.HK.) เสี่ยวหมี่ บริษัทให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และสมาร์ทฮาร์ดแวร์ เพื่อเชื่อมต่อสู่แพลทฟอร์ม IoT

ด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานและการเป็นบริษัทที่โดดเด่นที่สุดในใจของลูกค้า เสี่ยวหมี่ มุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโฟกัสและประสิทธิภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลง เสี่ยวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจในราคาเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม

ปัจจุบัน เสี่ยวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 4 ของโลก และได้สร้าง IoTแพลตฟอร์มสำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 100 ล้านผลิตภัณฑ์ (ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสี่ยวหมี่วางจำหน่ายมากกว่า 70 ประเทศ และภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และอยู่ในอันดับต้นในตลาดสำคัญต่างๆ 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสี่ยวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.mi.com/th
« Last Edit: October 25, 2018, 11:00:08 PM by news »