activity on October 25, 2018, 10:44:03 PM
ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 460 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย

ปอร์เช่เพิ่ม 2 รุ่นแห่งขุมกำลังยนตรกรรมสายพันธุ์จีทีเอส (GTS) ใหม่ล่าสุด เสริมทัพตระกูลสปอร์ตซาลูน พานาเมร่า (Panamera)












สตุ๊ทการ์ท.ปอร์เช่เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ต 4 ประตู พานาเมร่า (Panamera) เพิ่มเติมถึง 2 รุ่นพิเศษ ที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังมหาศาลจากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน  V8เทอร์โบคู่ ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร (460 แรงม้า/338 กิโลวัตต์)ผสานการทำงานกับระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ three-chamber air suspension ที่ได้รับการปรับแต่งโดยเน้นการขับขี่สไตล์สปอร์ตเต็มขั้นเพียบพร้อมด้วยงานออกแบบ อุปกรณ์และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นปอร์เช่ พานาเมร่าจีทีเอส(Porsche Panamera GTS) และปอร์เช่พานาเมร่าจีทีเอสสปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo)ติดตั้งชุดตกแต่ง performance packageโดยตรงจากโรงงาน อาทิอุปกรณ์ตกแต่งตัวถัง Sport Design package สีดำและงานตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุ Alcantaraเป็นมาตรฐานยิ่งไปกว่านั้น ปอร์เช่ยังได้เพิ่มเติมระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกสำหรับพานาเมร่า (Panamera) นั่นคือระบบแสดงข้อมูลการขับขี่head-up display ซึ่งสามารถปรับแต่งวิธีการใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่

ปลุกเร้าทุกสัมผัสแห่งสมรรถนะ: เครื่องยนต์ V8 พลังแรง 460 แรงม้า และระบบระบายไอเสียแบบสปอร์ต
หัวใจหลักใต้ฝากระโปรงหน้าของปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอสใหม่ (The new Porsche Panamera GTS) ทั้ง 2 รุ่น คือเครื่องยนต์เบนซิน V8เทอร์โบคู่ ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 460 แรงม้า (338 กิโลวัตต์)พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 620 นิวตันเมตร ปลุกอารมณ์สปอร์ตให้โลดแล่นด้วยเสียงคำรามอันกึกก้องของเครื่องยนต์ทรงพลัง และประสบการณ์การขับขี่ชั้นเลิศจากระบบระบายไอเสียแบบสปอร์ต ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์เทอร์โบคู่รุ่นใหม่ ให้พละกำลังมากขึ้นถึง 20 แรงม้า(15 กิโลวัตต์) และแรงบิดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100นิวตันเมตร ปอร์เช่ พานาเมร่าจีทีเอส(Porsche Panamera GTS) และปอร์เช่พานาเมร่าจีทีเอสสปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo) มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.1 วินาที เมื่อทำงานร่วมกับชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono package ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพานาเมร่า (Panamera) ทั้ง 2 รุ่น สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 292 และ 289 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามลำดับถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่8 จังหวะ PDK ไปยังระบบ Porsche Traction Management (PTM)และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel driveสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมดังกล่าวมาพร้อมอัตราการ บริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างเหลือเชื่อ เพียง9.7 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.3 ลิตรต่อ 100กิโลเมตร(รุ่น สปอร์ต ทัวริสโม่: 9.4กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.6ลิตรต่อ 100กิโลเมตร) (รายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ); อัตราการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 235 กรัมต่อกิโลเมตร(รุ่น สปอร์ต ทัวริสโม่: 242กรัมต่อกิโลเมตร)

สมดุลแห่งพลังและความนุ่มนวลสะดวกสบาย: ระบบช่วงล่างถุงลม three-chamber air suspension
ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส(Porsche Panamera GTS)ได้รับการปรับแต่งระบบรองรับใหม่ โดยเน้นการตอบสนองต่อการขับขี่สไตล์สปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ โดดเด่นด้วยช่วงล่างถุงลมเทคโนโลยีthree-chamber ปรับระดับอัตโนมัติ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ผสมผสานการทำงานที่ยืดหยุ่นจากค่าความแข็งของถุงลมที่แปรผันไปตามสภาวะการขับขี่ ทั้งนี้ระดับความสูงของช่วงล่างในปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส(Porsche Panamera GTS)จะลดต่ำลงจากรุ่นปกติ 10 มิลลิเมตร เสริมประสิทธิภาพการบังคับควบคุมด้วยระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งผ่านการปรับตั้งฟังก์ชันการทำงานให้เฉียบคมและขับขี่ได้อย่างดุดันยิ่งขึ้น  ผลลัพธ์ที่เกิดจากการพัฒนาดังกล่าวคือเสถียรภาพการทรงตัวในระดับที่ยอดเยี่ยม จานเบรกขนาดใหญ่พิเศษ(คู่หน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง 390 มิลลิเมตร, คู่หลังเส้นผ่านศูนย์กลาง 365 มิลลิเมตร) มั่นใจในประสิทธิภาพการลดความเร็วที่เหนือกว่า

ดึงดูดทุกสายตาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสายพันธุ์จีทีเอส(GTS): ชุดตกแต่งตัวถัง Sport Design package สีดำ
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา พานาเมร่าจีทีเอสใหม่ (The new Panamera GTS) สร้างความแตกต่างของรูปโฉมภายนอกด้วยการยกระดับชิ้นงานตกแต่งตัวถังในหลายจุด โดยการติดตั้ง Sport Design package ซึ่งประกอบด้วยชายกันชนล่างด้านหน้าและด้านหลังสีดำและอุปกรณ์เพิ่มเติมรอบคันอีกหลายตำแหน่ง ขับเน้นความกร้าวแกร่งให้แก่รูปโฉมภายนอกของสปอร์ต 4 ประตูตัวแรงเฉพาะรุ่นจีทีเอส(GTS) ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 20นิ้ว ลวดลาย Panamera Design เป็นมาตรฐาน ในส่วนของบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara สีดำ และอะลูมิเนียม อะโนไดซ์ นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งพวงมาลัยสปอร์ตมัลติฟังก์ชันหุ้มวัสดุAlcantaraพร้อมระบบทำความร้อน และสวิทช์เปลี่ยนเกียร์shift paddles ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมชุดตกแต่งภายในห้องโดยสาร GTS packageเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่เลือกงานออกแบบรวมไปถึงวัสดุในการตกแต่งได้ตามความต้องการ เช่น มาตรวัดความเร็วรอบ ดีไซน์ของกรอบตะเข็บ และตราสัญลักษณ์ GTS ที่มีให้เลือกถึง 2 เฉดสี คือ Carmine Red หรือ Crayon

ครั้งแรกของปอร์เช่พานาเมร่า(Porsche Panamera) : ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ head-up display พร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย
พานาเมร่าจีทีเอส(Panamera GTS)เพียบพร้อมไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย เฉกเช่นเดียวกับ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นล่าสุดทุกคัน ซึ่งรวมไปถึงระบบควบคุมการทำงานด้วยดิจิทัล Porsche Advanced Cockpitระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear-axle steering เป็นอุปกรณ์พิเศษนอกเหนือจากนี้ พานาเมร่าจีทีเอส(Panamera GTS)ยังได้รับการติดตั้งหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่ปรากฎเป็นครั้งแรกในตระกูลพานาเมร่า (Panamera) ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ head-up displayโดยจะรับหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลที่จำเป็นให้แก่ผู้ขับขี่โดยตรงด้วยการแสดงภาพสีไปยังกระจกบังลมหน้าในระดับสายตา

รองรับทุกการใช้งานเพื่อทุกวันของชีวิต: ปอร์เช่ พานาเมร่าจีทีเอสสปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo)
ธรรมเนียมปฏิบัติของปอร์เช่ที่ได้รับการยึดถือกันมาโดยตลอดเมื่อกล่าวถึงสายพันธุ์สุดแกร่งจีทีเอส(GTS)ซึ่งมีย่อมาจากคำว่าGran Turismo Sport ในฐานะของรถสนามที่ได้รับการผลิตขึ้นเพื่อโลดแล่นบนท้องถนน เริ่มต้นความยิ่งใหญ่เกรียงไกรจากปอร์เช่ 904 คาร์เรร่าจีทีเอส(Porsche 904 Carrera GTS)เปิดตัวเมื่อปี 1963โดดเด่นด้วยการนำเทคโนโลยีจากสนามความเร็วมาบรรจุลงในสายพานการผลิต ตามมาด้วยปอร์เช่ 924 จีทีเอส(Porsche GTS)และ 928จีทีเอส(928 GTS)2 ยนตรกรรมสปอร์ตที่สืบทอดแนวคิดดังกล่าวอย่างเหนียวแน่น ถือครองความยิ่งใหญ่ในยุค 1980s และ 90s ตามลำดับ จนกระทั่งปี 2007ถึงวาระเฉลิมฉลองให้กับการหวนกลับมาอีกครั้งของสายพันธุ์จีทีเอส(GTS)นั่นคือ ปอร์เช่ คาร์เรร่าจีทีเอส(Porsche Carrera GTS)สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 1 ของ พานาเมร่าจีทีเอส (Panamera GTS)ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 2011ภายใต้รูปโฉมตัวถังสปอร์ตซาลูนในขณะนั้น และในวันนี้ปอร์เช่ พานาเมร่าจีทีเอสรุ่นล่าสุดPorsche Panamera GTS) พร้อมแล้วกับการมาถึงของตัวถัง สปอร์ต ทัวริสโม่ (Sport Turismo) งามสง่าด้วยฝาท้ายขนาดใหญ่ที่วางตัวในระดับต่ำ อำนวยความสะดวกและเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระพร้อมรองรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่งในสไตล์การจัดวางที่นั่ง 4+1 มั่นใจได้ว่าปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche Panamera GTS) คือรถสปอร์ตสี่ประตูที่เต็มไปด้วยศักยภาพสูงสุดในการตอบสนองต่อทุกความต้องการในชีวิตประจำวันรวมทั้งยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่และพละกำลังที่โดดเด่นเหนือระดับ

ปอร์เช่ พานาเมร่าจีทีเอสใหม่(The new Porsche Panamera GTS) เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละประเทศสอบถามข้อมูลได้ที่โชว์รูมปอร์เช่บริษัทเอเอเอสออโต้เซอร์วิสทุกสาขา

ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche PanameraGTS): อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.7กิโลเมตรต่อลิตร หรือ10.3ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 235กรัมต่อกิโลเมตร

ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo): อัตราการบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.4กิโลเมตรต่อลิตร หรือ10.6ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์242กรัมต่อกิโลเมตร

ค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ NEDCที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้

สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร“Guidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars” [Leitfadenüber den Kraftstoffverbrauch, die CO2-Emissionen und den StromverbrauchneuerPersonenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche AutomobilTreuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น


เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Porsche Centre Bangkok  โทร.02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn  โทร.02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911