รายการ "The One รวมไทยใจเดียวกัน" “ซอนย่า” ชวน “แอนดรูว์” ประเดิม “เดอะวันฯ”

รายการ "The One รวมไทยใจเดียวกัน" “ซอนย่า” ชวน “แอนดรูว์” ประเดิม “เดอะวันฯ” ฝรั่งหัวใจไทยกระตุ้นคนไทยร่วมทำลายสถิติโลก


 
          รายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน ประเดิมออกอากาศเป็นเทปแรกใน วันพุธที่ 6 ม.ค.53 เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์นทีวี พิธีกรรายการ “ซอนย่า คูลลิ่ง” ชวนแขกรับเชิญพิเศษ แอนดรูว์ บิ๊ก “ฝรั่งหัวใจไทย” มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมมองจากชาวต่างชาติ ที่มีความรู้สึกดีๆ เกี่ยวกับ “ประเทศไทย” และกิจกรรมที่ทำนอกเหนือจากการสอนภาษาอังกฤษที่หลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อน

          นอกจากการร่วมพูดคุยถึง “หัวใจ” ที่มีความเป็น “ไทย” เต็มร้อยแล้ว ยังนำตัวอย่างสถิติโลก (World Record) จากประเทศต่างๆ อาทิ การโดดร่มจากนักโดดร่มนานาชาติ จำนวน 400 คนเพื่อเฉลิมพระเกียรติการครองราชย์ ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ การรวมตัวกันตีกลองเป็นจำนวน 2,500 คน ที่ประเทศตุรกี เพื่อให้เห็นถึงความสามัคคีจากคนทั้งโลก

          พร้อมทั้งเชิญชวนคนไทยมาร่วมทำลายสถิติร่วมกันในรายการ เพราะจากที่เคยร่วมกิจกรรมวิ่งมาราธอน กับกรุงเทพมาราธอนมากว่า 10 ปี ทำให้เชื่อว่าการรวมตัวเพื่อทำลายสถิติร่วมกันในรายการเป็นสิ่งที่ “คนไทย” สามารถทำได้ ถ้ามีความร่วมมือร่วมใจกัน

          รายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน รายการเรียลลิตี้ที่จะชวนคนไทยที่มีหัวใจความเป็น “ไทย” มาร่วมเป็นตัวแทน นำทีมคนไทยมาร่วมสมานสามัคคี ด้วยการ ทำลาย 10 สถิติโลก ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้าน เศรษฐกิจ,สังคม,การท่องเที่ยว และ วัฒนธรรม ออกอากาศเป็นเทปแรกในวันพุธที่ 6 ม.ค.53 เวลา 23.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

รายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน ออกอากาศพุธที่ 20 ม.ค.53 “บัณฑิต อึ้งรังษี” รับเชิญรายการ “เดอะวัน” “คนไทย” ประกาศศักดา “วาทยกรระดับโลก”



          รายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน  วันพุธที่ 20 ม.ค.53 เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์น ไนน์  ทีวี  พิธีกร “ซอนย่า คูลลิ่ง” ทาบทามแขกรับเชิญพิเศษ “บัณฑิต อึ้งรังษี” มาร่วมระลึกความอลังการในการแสดง 4D Visual  Light & Sound  ซึ่งฉายบนพระที่นั่งอนันตสมาคมในโครงการ “พ่อ... The Greatest of  the Kings The Greetings of the Land”  ซึ่งมีการบรรเลงเพลงวงออเคสตร้าประกอบภาพยนตร์  ที่ถือเป็นการรวมตัวของนักดนตรีฝีมือเยี่ยมระดับประเทศจาก 4 ทวีปทั่วโลก จำนวน 129 คน ซึ่งเป็นการรวบรวมนักดนตรีที่เยอะที่สุด แต่สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจในฐานะ “คนไทย”  คือผู้ที่ทำหน้าที่อำนวยการเพลง หรือวาทยกรของงานในครั้งนั้นก็คือ “คุณบัณฑิต  อึ้งรังษี”  นั่นเอง

          นอกจากความอลังการในงานดังกล่าวแล้ว ยังพาไปไปชมตัวอย่างของการมีหัวใจดนตรี ด้วยสถิติจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ Brass Band วงดนตรีแตรวงชาวเบลเยียมที่รวมตัวกันเล่นดนตรีทำนองเพลงชาติเบลเยียม บนท้องถนนเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง การประกาศเอกราชครบรอบ 175 ปี แม้จะทำลายสถิติไม่สำเร็จแต่ก็มีผู้คนกว่า 2000 คนมาร่วมแรงร่วมใจกัน , Underwater Jazz  นักดนตรีชาวเยอรมันเปิดคอนเสิร์ตที่ใต้ทะเลลึก 15 เมตร,COCONUT RECORD  การก่อตั้งวงออเคสต้ากะลามะพร้าวของชาว นิวยอร์คสหรัฐอเมริกา  และสถิติโลกอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อกระตุ้นความรู้สึกฮึกเหิมให้คนไทย ตบเท้ามาทำลายสถิติในรายการในโอกาสต่อไป 

          The One รวมไทยใจเดียวกัน  เรียลลิตี้ที่จะชวนคนไทยที่มีหัวใจความเป็น “ไทย” มาร่วมเป็นตัวแทน นำทีมคนไทยมาร่วมสมานสามัคคี ด้วยการ ทำลาย 10 สถิติโลก ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้าน เศรษฐกิจ,สังคม,การท่องเที่ยว และ วัฒนธรรม ออกอากาศ ทุกวันพุธ เวลา 23.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

รายการ“เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” พุธที่ 27ม.ค.53 “พิม-เจ” บุกถ่ายทำเพนียดคล้องช้าง ลุยทุกสถานการณ์

 

          “พิม-เจ” บุกถ่ายทำเพนียดคล้องช้าง ลุยทุกสถานการณ์ใน “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน”
 
          รายการ  “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” ที่มีสาวสวย “พิม-ซอนย่า คูลลิ่ง” นั่งแท่นพิธีกรประจำรายการ  โดยนำบันทึกสถิติจากทั่วโลกมาให้ได้ชมกันถึง 3 เทปด้วยกัน โดยมีแขกเชิญพิเศษที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในสาขาต่างๆ มาร่วมพูดคุยกันทุกสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกคนไทยให้ฮึกเหิม รวมพลังกันทำสิ่งดีๆ ให้กับประเทศไทย ล่าสุดในวันพุธที่ 27 ม.ค.นี้  ทาง ทีม “แฮฟเอกู๊ดดรีม”  ถือโอกาสเดินทางไปถ่ายทำนอกสถานที่  ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนักร้องหนุ่มชื่อดัง “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” นักกีฬาเจ็ตสกีระดับโลก ที่ครองตำแหน่ง “แชมป์โลกเจ๊ตสกีประเภทสลาลม ในปี 2542” มาเป็นแขกรับเชิญ

          พิธีกร,แขกรับเชิญ และทีมงาน เดินทางมาถึงเพนียดคล้องช้าง จ.อยุธยา กันตั้งแต่เช้าตรู่  ตลอดระยะเวลาในการทำงาน ทั้ง “พิม ซอนย่า” และ “เจ เจตริน” มาแบบใจเกินร้อย   เนื่องจากต้องลงไปคลุกคลีอย่างใกล้ชิดกับบรรดาช้าง 10 กว่าเชือก เพื่อแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ ความยิ่งใหญ่ของสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยนั่นเอง

          ทั้งนี้ผู้บริหาร หนุ่ม “กิติกร เพ็ญโรจน์” เจ้าของไอเดีย ยังเดินทางไปให้กำลังใจพิธีกรและทีมงานถ่ายทำ อย่างใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวเลยทีเดียว  ครั้นถึงเวลาถ่ายทำ “พิม” ก็ถือโอกาสควงแขน “เจ” ลงไปถ่ายทำบริเวณด้านในของเพนียด แม้แสงแดดจะร้อนเปรี้ยง และต้องยืนท่ามกลางบรรดาช้างที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลัง แม้จะมีเจ้าหน้าที่คอยคุมบรรดาช้างที่มาร่วมเข้าฉากก็ตาม แต่ก็ทำเอาทั้งคู่เกิดอาการตื่นเต้นแบบสุดๆ เพราะบรรดาช้างต่างเดินเข้ามาแสดงความสนิทสนมด้วยการเอางวงมานัวเนียอยู่ตลอดเวลา
   
          ไหนๆ ก็มาให้ใกล้ชิดกันถึงที่ ช่วงพักเบรกพิธีกรสาวคนสวยก็ถือโอกาสยืนโพสท่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยมีบรรดาช้างเป็นแบล็คกราวน์ให้ งานนี้สาวพิมดูสวยสง่าเป็นพิเศษ เพราะว่าเธอมาในชุดสวยสีทองเปล่งประกาย ทางด้านหนุ่มเจ ก็ไม่น้อยหน้า แอ็คท่าถ่ายรูปกับช้างไม่หนำใจยังขอให้ทีมงานสอนขึ้นช้าง  แล้วแอ็คท่าถ่ายรูปอย่างเท่ ได้ภาพเด็ดแล้วก็ลงมาหยิบบีบีขึ้นมาส่งข้อความทันที…ไม่รู้ว่าส่งข้อความไปอวดภรรยาสาว ปิ่น เก็จมณี หรือเปล่า...   

          หลังจากการพูดคุยกันด้านล่างแล้ว ก็ขึ้นมาคุยกันต่อ ถึงเรื่องราวของชีวิตการแต่งงาน, แรงบันดาลใจกับการเล่นกีฬาเจ็ตสกีจนคว้าตำแหน่งแชมป์โลก  ปิดท้ายด้วยการเล่นกีต้าร์โชว์ในเพลง “รูปที่มีทุกบ้าน”  ให้ฟังจากนั้นเมื่อได้โอกาสเหมาะสาวพิมเลยออกปากชวนหนุ่มเจมาเป็นพิธีกรรายการ “เดอะวัน รวมไทยใจหนึ่งเดียว” ด้วยกันซะเลย ด้านหนุ่มเจเห็นรูปแบบรายการน่าสนใจโดยเฉพาะการเชิญชวนคนไทยมาร่วมทำสถิติโลกถึง 10 สถิติด้วยกัน จึงรีบตกปากรับคำทันที การได้ออกมานอกสถานที่ครั้งนี้ ทำเอาสาวพิมดูท่าทางมีความสุขอย่างมาก เพราะว่าเธอได้แอบกระซิบว่า ชอบที่นี่อย่างมากเลย นานๆ จะมีโอกาสได้มาสถานที่แบบนี้ และแม้ว่าแดดจะแรงเพียงใด หรือแอบเกิดอาการกลัวช้างที่มาร่วมเข้ากล้องด้วยก็ตาม   แต่ทั้งพิมและเจก็ไม่หวั่น เรียกว่าทำงานแบบมืออาชีพจริงๆ

          ติดตามชมภาพความประทับใจทั้งหมดได้ในรายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน”

          ในวันพุธที่27 มกราคมนี้ เวลา 23.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

“พิม ซอนย่า” ยิ้มรับตำแหน่งพิธีกร “เดอะวันฯ” ปลื้มกระแสแรง คนไทยรวมใจสมัครล้นเวที

 

          รายการ The One รวมไทยใจเดียวกัน ซึ่งออกอากาศทุก วันพุธ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์น ไนน์ ทีวี พิธีกรหญิง ไทยแลนด์ ซุปเปอร์โมเดล “พิม-ซอนย่า (คูลลิ่ง) วัชรสินธุ์” ยิ้มรับ เปิดอกปลาบปลื้มกับการได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติในครั้งนี้พร้อมเผยว่า...

          ตอนนี้ พิม รับหน้าที่พิธีกร รายการ “The One รวมไทยใจเดียวกัน” ค่ะ ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ที่จะชวนคนไทยมาร่วมกันทำลายสถิติโลกด้วยกัน ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์น ไนน์ ทีวีค่ะ ช่วงแรกที่ออกอากาศไปแล้วจะเป็นเรื่องของการนำสถิติจากทั่วโลกมานำเสนอ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยมารวมพลังกันสู้กับสถิติโลกเดิมที่มีอยู่ โดยมีแขกเชิญพิเศษที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในสาขาต่างๆ มาร่วมพูดคุย หลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนการคัดเลือก 100 คน มาแข่งกันทำภารกิจต่างๆ เพื่อคัดให้เหลือ 6 คนมาเป็นตัวแทนในการเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศมาทำลายสถิติโลกถึง 10 สถิติ ซึ่งพิมเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะทำให้คนทั้งโลก ได้หันมามองประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศชาติ ค่ะ ล่าสุดช่วงการคัดเลือกรอบแรกที่ผ่านมาที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ก็มีน้องๆ คนไทยเข้ามาสมัครกันมากมาย เพื่อมาโชว์ให้เราเห็นว่าเค้ามีความเป็นไทยอยู่ในตัว วันนั้นพิมเป็นทั้งพิธีกรแล้วก็กรรมการด้วยรู้สึกปวดหัวมาก เพราะนอกจากจะมีคนมาสมัครมากมาย แต่ละคนก็มาโชว์กันหลากหลาย บางคนมาตำส้มตำ,รำไทย รำมวยไทย, เทคนิกการไหว้ หรือพูดเกี่ยวกับความเป็นไทย แต่สุดท้ายนอกจากจะโชว์ความเป็นไทยได้ดี เค้าต้องอธิบายให้ได้ว่า เค้ารักเมืองไทยอย่างไร เมื่อผ่านการคัดเลือกรอบแรก 100 คนแล้ว ก็จะต้องผ่านการคัดเลือกในรอบอื่นๆ ต่อเพื่อมาเป็นตัวแทน 6 คนสุดท้าย ที่จะไม่ใช่แค่รักเมืองไทยหรือมีความเป็นไทยอย่างเดียว เค้าต้อง ฉลาดและ มีไหวพริบด้วย เพราะเขาต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อรวมคนไทยเป็นแสนคน มาทำภารกิจ 10 ภารกิจให้สำเร็จ จึงต้องมีองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ซึ่งมันค่อนข้างยาก พิมว่านี่น่าจะเป็นรายการแรก ครั้งแรกที่เราจะรวบรวมคนไทยหลายๆ คนมาทำสิ่งดีๆให้กับประเทศผ่านสื่อ ผสมความสนุก ในช่วงเวลาที่เครียดอาจจะสร้างความสนุกให้คนมาทำสิ่งดีๆ หวังว่าคนที่ชมจะรักตัวเอง รักความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น ยังไงก็ขอฝากรายการด้วยนะคะ ทุกวันพุธ ห้าทุ่ม ทางช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวีค่ะ

The One รวมไทยใจเดียวกัน
 
          รายการเรียลลิตี้สายพันธุ์ใหม่ ที่จะค้นหาคนรุ่นใหม่ หัวใจเป็นไทย ที่จะเป็นตัวแทนพร้อมกับคนไทยทั้งชาติ สร้างความเป็นหนึ่งในโลก ให้กับประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยมี “สถิติโลก” เป็นเดิมพัน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย และจุดประกายความสามัคคีให้กับคนทั้งชาติ

          คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในโอกาสสำคัญนี้ได้ เพียงคุณเป็นลูกหลานไทย หัวใจเป็นไทย ชายหรือหญิง บุคลิกดี การแสดงออกเด่น อายุ 18-25 ปี เตรียมพกความเป็นไทยแบบไหนก็ได้มาแสดง ที่แเกรนด์ ฮอลล์สยามดิสคัฟเวอรี่  วันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. 2553 เวลา 10.00-20.00 น.

เกณฑ์การตัดสิน
1.ผู้ที่ผ่านการเข้ารอบต้องมีความรู้เกี่ยวกับประเทศไทย / มีความอนุรักษ์ความเป็นไทย และมีความอ่อนโยนตามแบบของไทย
2.ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก 100 คนแรกจะได้เข้าร่วมในการถ่ายทำกับทางรายการ
3.ผู้ชนะมีรางวัลเงินสดและอื่นๆ อีกมากมาย

มารวมพลังไทยสร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศไทย
*** สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 262 3777 ***

          The One รวมไทยใจเดียวกัน ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00-24.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ดำเนินรายการโดย “ซอนย่า คูลลิ่ง” เริ่มออกอากาศ วันพุธที่ 6 ม.ค. 2553 เป็นต้นไป 

ไทยเบฟ สนับสนุนเรียลลิตี้โชว์ “The One” ตอกย้ำแคมเปญ “คนไทยหัวใจเดียวกัน”



          นายฐาปน สิริวัฒนภักดี (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด แถลงข่าวเป็นผู้สนับสนุนหลักการผลิตรายการ “The One รวมไทยใจเดียวกัน” เรียลลิตี้สายพันธุ์ใหม่ที่จะเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจเป็นไทย เพื่อเป็นตัวแทนรวมคนไทยที่มีหัวใจเดียวกันมาร่วมสร้างความเป็นหนึ่งในโลกให้กับประเทศไทย ซึ่งจะออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมของเบียร์ช้างเพื่อตอกย้ำแคมเปญสื่อสารการตลาด “คนไทยหัวใจเดียวกัน” โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเหล่าศิลปินดาราให้เกียรติมาร่วมงาน อาทิ อั๊ม – พัชรา ไชยเชื้อ และปู-ไปรยา สวนดอกไม้

รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 17 ก.พ. 53


 
          “พิม - เจ” ยกนิ้ว สปิริต 8 เด็กไทยสู้ขาดใจ ขึ้นเหนือล่องใต้ โชว์ท่องเที่ยวไทยใน “เดอะวันฯ”

          เข้มและข้น ทุกขณะ ทุกพุธ จากตอนที่แล้วเต็มอิ่มในการเรียนรู้วิถีชีวิตของ “ชาวนา” ในหัวข้อ “ข้าวไทย-ควายไทย” ใน รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” ผลิตและสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพโดย บริษัท แฮฟเอกู๊ดดรีม จำกัด ดูแลอย่างใกล้ชิดของ “กิติกร เพ็ญโรจน์” รายการน้ำดีที่ ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยในวันพุธที่ 17 ก.พ.นี้ เป็นการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน 8 ชีวิตที่จะพิชิตว่าใครจะเป็น 4 ผู้เข้ารอบต่อไปในการเป็นตัวแทนลูกหลานไทยตบเท้าไปทำลายสถิติโลก ด้วยภารกิจในหัวข้อ “ท่องเที่ยวไทย” เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ความมหัศจรรย์ของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือที่เราเรียกว่า “อันซีน ไทยแลนด์”

          เปิดรายการด้วยสองพิธีกร “เจ-จิรายุส – พิม ซอนย่า” ทำการมอบหมายโจทย์ให้กับ 8 ผู้เข้าแข่งขันที่จะต้องแยกออกเป็น 4 ทีม เพื่อไปสัมผัสกับความเป็น “อันซีนไทยแลนด์” แล้วกลับมานำเสนอให้คณะกรรมการชาวต่างชาติ 3 ท่านได้แก่ มร.ฟิลิป จอห์น วิลสัน, มร.นิโคลัส โซเออร์ และ มร.วอลเตอร์ อัลฟอร์ด ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตัดสินว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่มานำเสนอนั้นน่าสนใจและเชิญชวนให้อยากเดินทางไปเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน

          ผู้เข้าแข่งขันถูกแบ่งออกเป็น 4 ทีมๆ ละ 2 คนเพื่อแยกย้ายกันไปตามภาคต่างๆ ของประเทศไทย

          คู่แรก : อาร์ต-ฐิติพงศ์ เกิดมงคล จับคู่กับ มิ้น-ธิติรัตน์ โรจน์แสงรัตน์ ได้รับภารกิจให้ เพื่อไปยัง “เมืองบาดาล” อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี / คู่ที่ 2 : เจฟ-อาคม พิเชฎฐ์พิทยาพงษ์ และ หว่าหวา-อรรคพล ไชยถา กับภารกิจที่จะต้องเดินทางโดยรถทัวร์ไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อหา “แมงกะพรุนน้ำจืด” ที่ “สามพันโบก” / คู่ที่ 3 : บอย-สมชาย อุทยาพนาลี และ เบียร์-นิธินันท์ คูณสินศรัณย์ รับภารกิจให้ไปยัง จ.สุราษฎ์ธานี เพื่อเก็บภาพ “บัวผุด” ที่วนอุทยานแห่งชาติเขาสก / คู่ที่ 4 : ฮั่น-อิสริยะ ภัทรมานพ และ จ๊ะโอ๋-พัชราภรรับภารกิจ เดินทางลงใต้ไปยังหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เพื่อตามหา “ปูไก่” โดยมีกำหนดเวลาในการถ่ายภาพตามโจทย์ที่ได้รับเพียงแค่ 2 วัน และ 2 คืนและเงินติดกระเป๋าในจำนวนที่จำกัด เพื่อเรียนรู้การเดินทางและค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการได้ไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ในครั้งนี้

          หลังจากได้รับมอบหมายภารกิจ แต่ละคู่ก็แยกย้ายกันเดินทางไปตามสถานที่ๆ ได้รับมอบหมาย “อาร์ต-มิ้น” เดินทางโดยรถไฟ โดย “อาร์ต” ซึ่งคุ้นเคยกับสถานที่ แต่ก็ต้องติดต่อเรือเพื่อเดินทางไปชมเมืองบาดาล ส่วนคู่ของ “เจฟ-หว่าหวา” เกิดอาการหนักใจว่าในเดือนนี้จะเจอ “แมงกะพรุน” หรือไม่ นอกจากนี้การเดินทางโดยรถทัวร์ ทำให้ต้องใช้เวลาเกรงว่าจะกลับมานำเสนอไม่ทัน ด้านคู่ของ “บอย-เบียร์” ไม่เคยรู้จักอุทยานเขาสกและบัวผุดมาก่อน ในขณะที่ “ฮั่น-จ๊ะโอ๋” แม้จะเดินทางด้วยเครื่องบินแต่กว่าจะถึงหมู่เกาะสิมิลัน ก็ต้องนั่งเรือข้ามฟาก และจะเจอ “ปูไก่” ที่จะออกมาโชว์ตัวให้เห็นหรือไม่แต่ด้วยความพยายามและการวางแผนในการเดินทาง แต่ละคู่สามารถเก็บภาพและข้อมูลตามโจทย์ที่ได้รับและเดินทางกลับมายังจุดนัดพบเพื่อทำการนำเสนอให้คณะกรรมการชาวต่างชาติทันที

          “อาร์ต-มิ้น” นำภาพที่ได้ระหว่างการเดินทางไป “เมืองบาดาล” อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ออกมานำเสนอพร้อมข้อมูลที่ว่า อดีต “เมืองโบราณ” ที่เคยเป็นวัดวังก์วิเวการามที่สร้างในบริเวณที่เรียกว่า “สามประสบ” จุดที่แม่น้ำสามสาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี หลังจากมีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลมทำให้ น้ำท่วม ทำให้วัดนี้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี ในช่วงน้ำลดจะสามารถเห็นตัวโบสถ์ของวัดได้อย่างชัดเจนและสามารถนั่งเรือไปเที่ยวชมได้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์

          “เจฟ-หว่าหวา” นำเสนอความอัศจรรย์ของ “สามพันโบก” นครแห่งหินผาใต้บาดาลที่จมอยู่ใต้กระแสน้ำ ของแม่น้ำโขง พลังของสายน้ำ เชี่ยวกรากจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหินจนกลายเป็นหลุม ซึ่งชาวอิสานเรียกว่า “โบก” เมื่อแม่น้ำโขงลดระดับลง “โบก” นับร้อย นับพัน ที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำก็โผล่ให้เห็น ที่สำคัญ ภายใต้ “โบก” เหล่านี้มี “แมงกะพรุนน้ำจืด” ออกมาให้เห็นได้ดู

          “บอย-เบียร์” นำเสนอความแปลกของ “บัวพุด” ดอกไม้มหัศจรรย์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่จะหาพบได้บนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นดอกเดียวที่ขึ้นจากพื้นดิน ดอกจะบานอยู่ได้เพียง 4-5 วัน ในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น

          “ฮั่น-จ๊ะโอ๋” นำเสนอความสวยงามของ “หมู่เกาะสิมิลัน” ที่นอกจากจะเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับ 1 ใน10 ของโลก แต่สิ่งที่มีอยู่ในอุทยาน และเป็นดาราดังแห่งหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ในตอนนี้ก็คือมหัศจรรย์ของ “ปูไก่” ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่ “หมู่เกาะสิมิลัน” ซึ่งเป็น “ปูไก่” ปูน้ำจืด ที่ออกหากินตอนกลางคืน และส่งเสียงร้องเจี๊ยบ เจี๊ยบเหมือนลูกไก่
 
          ไม่ว่าผลของการตัดสินจากกรรมการชาวต่างชาติจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 คนที่ได้ไปสัมผัสกับความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย, ความแปลก และความมหัศจรรย์ ที่ต่างไม่เคยได้เห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลอดการเดินทาง ที่ไปปฎิบัติภารกิจในครั้งนี้ แต่ละทีมได้ยังได้รับรู้ถึงน้ำใจและ มิตรภาพ ของคนไทย ที่มีให้กัน แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ลูกหลานไทยทั้ง 4 ใน 8 คนไหนที่จะได้เป็นหนึ่งในตัวแทนไทยทั้งชาติ สร้างความภูมิใจให้กับไทยด้วยการ สร้างทุบสถิติโลกให้กับประเทศไทยติดตามได้ใน รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 17 ก.พ.นี้ เวลา 23.00 น.ทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี

“พิม - เจ” ยกนิ้ว สปิริต 8 เด็กไทยสู้ขาดใจ ขึ้นเหนือล่องใต้ โชว์ท่องเที่ยวไทยใน “เดอะวันฯ”



     
   
          เข้มและข้น ทุกขณะ ทุกพุธ จากตอนที่แล้วเต็มอิ่มในการเรียนรู้วิถีชีวิตของ “ชาวนา” ในหัวข้อ “ข้าวไทย-ควายไทย” ใน รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” ผลิตและสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพโดย บริษัท แฮฟเอกู๊ดดรีม จำกัด ดูแลอย่างใกล้ชิดของ กิติกร เพ็ญโรจน์ รายการน้ำดีที่ ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยในวันพุธที่ 17 ก.พ.นี้ เป็นการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน 8 ชีวิตที่จะพิชิตว่าใครจะเป็น 4 ผู้เข้ารอบต่อไปในการเป็นตัวแทนลูกหลานไทยตบเท้าไปทำลายสถิติโลก ด้วยภารกิจในหัวข้อ “ท่องเที่ยวไทย” เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ความมหัศจรรย์ของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือที่เราเรียกว่า “อันซีน ไทยแลนด์”

          เปิดรายการด้วยสองพิธีกร “เจ-เจตริน – พิม ซอนย่า” ทำการมอบหมายโจทย์ให้กับ 8 ผู้เข้าแข่งขันที่จะต้องแยกออกเป็น 4 ทีม เพื่อไปสัมผัสกับความเป็น “อันซีนไทยแลนด์” แล้วกลับมานำเสนอให้คณะกรรมการชาวต่างชาติ 3 ท่านได้แก่ มร.ฟิลิป จอห์น วิลสัน, มร.นิโคลัส โซเออร์ และ มร.วอลเตอร์ อัลฟอร์ด ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตัดสินว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่มานำเสนอนั้นน่าสนใจและเชิญชวนให้อยากเดินทางไปเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน

          ผู้เข้าแข่งขันถูกแบ่งออกเป็น 4 ทีมๆ ละ 2 คนเพื่อแยกย้ายกันไปตามภาคต่างๆ ของประเทศไทย  คู่แรก : อาร์ต-ฐิติพงศ์ เกิดมงคล จับคู่กับ มิ้น-ธิติรัตน์ โรจน์แสงรัตน์ ได้รับภารกิจให้ เพื่อไปยัง “เมืองบาดาล” อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี / คู่ที่ 2 : เจฟ-อาคม พิเชฎฐ์พิทยาพงษ์ และ หว่าหวา-อรรคพล ไชยถา กับภารกิจที่จะต้องเดินทางโดยรถทัวร์ไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อหา “แมงกะพรุนน้ำจืด” ที่ “สามพันโบก” /

คู่ที่ 3 : บอย-สมชาย อุทยาพนาลี และ เบียร์-นิธินันท์ คูณสินศรัณย์ รับภารกิจให้ไปยัง จ.สุราษฎ์ธานี เพื่อเก็บภาพ “บัวผุด” ที่วนอุทยานแห่งชาติเขาสก / คู่ที่ 4 : ฮั่น-อิสริยะ ภัทรมานพ และ จ๊ะโอ๋-พัชราภรรับภารกิจ เดินทางลงใต้ไปยังหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เพื่อตามหา “ปูไก่” โดยมีกำหนดเวลาในการถ่ายภาพตามโจทย์ที่ได้รับเพียงแค่ 2 วัน และ 2 คืนและเงินติดกระเป๋าในจำนวนที่จำกัด เพื่อเรียนรู้การเดินทางและค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการได้ไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ในครั้งนี้

          หลังจากได้รับมอบหมายภารกิจ แต่ละคู่ก็แยกย้ายกันเดินทางไปตามสถานที่ๆ ได้รับมอบหมาย “อาร์ต-มิ้น” เดินทางโดยรถไฟ โดย “อาร์ต” ซึ่งคุ้นเคยกับสถานที่ แต่ก็ต้องติดต่อเรือเพื่อเดินทางไปชมเมืองบาดาล ส่วนคู่ของ “เจฟ-หว่าหวา” เกิดอาการหนักใจว่าในเดือนนี้จะเจอ “แมงกะพรุน” หรือไม่ นอกจากนี้การเดินทางโดยรถทัวร์ ทำให้ต้องใช้เวลาเกรงว่าจะกลับมานำเสนอไม่ทัน ด้านคู่ของ “บอย-เบียร์” ไม่เคยรู้จักอุทยานเขาสกและบัวผุดมาก่อน ในขณะที่ “ฮั่น-จ๊ะโอ๋” แม้จะเดินทางด้วยเครื่องบินแต่กว่าจะถึงหมู่เกาะสิมิลัน ก็ต้องนั่งเรือข้ามฟาก และจะเจอ “ปูไก่” ที่จะออกมาโชว์ตัวให้เห็นหรือไม่แต่ด้วยความพยายามและการวางแผนในการเดินทาง แต่ละคู่สามารถ

          เก็บภาพและข้อมูลตามโจทย์ที่ได้รับและเดินทางกลับมายังจุดนัดพบเพื่อทำการนำเสนอให้คณะกรรมการชาวต่างชาติทันที “อาร์ต-มิ้น” นำภาพที่ได้ระหว่างการเดินทางไป “เมืองบาดาล” อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ออกมานำเสนอพร้อมข้อมูลที่ว่า อดีต “เมืองโบราณ” ที่เคยเป็นวัดวังก์วิเวการามที่สร้างในบริเวณที่เรียกว่า “สามประสบ” จุดที่แม่น้ำสามสาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี หลังจากมีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลมทำให้ น้ำท่วม ทำให้วัดนี้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี ในช่วงน้ำลดจะสามารถเห็นตัวโบสถ์ของวัดได้อย่างชัดเจนและสามารถนั่งเรือไปเที่ยวชมได้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์

          “เจฟ-หว่าหวา” นำเสนอความอัศจรรย์ของ “สามพันโบก” นครแห่งหินผาใต้บาดาลที่จมอยู่ใต้กระแสน้ำ ของแม่น้ำโขง พลังของสายน้ำ เชี่ยวกรากจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหินจนกลายเป็นหลุม ซึ่งชาวอิสานเรียกว่า “โบก” เมื่อแม่น้ำโขงลดระดับลง “โบก” นับร้อย นับพัน ที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำก็โผล่ให้เห็น ที่สำคัญ ภายใต้ “โบก” เหล่านี้มี “แมงกะพรุนน้ำจืด” ออกมาให้เห็นได้ดู

          “บอย-เบียร์” นำเสนอความแปลกของ “บัวพุด” ดอกไม้มหัศจรรย์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่จะหาพบได้บนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นดอกเดียวที่ขึ้นจากพื้นดิน ดอกจะบานอยู่ได้เพียง 4-5 วัน ในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น

          “ฮั่น-จ๊ะโอ๋” นำเสนอความสวยงามของ “หมู่เกาะสิมิลัน” ที่นอกจากจะเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับ 1 ใน10 ของโลก แต่สิ่งที่มีอยู่ในอุทยาน และเป็นดาราดังแห่งหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ในตอนนี้ก็คือมหัศจรรย์ของ “ปูไก่” ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่ “หมู่เกาะสิมิลัน” ซึ่งเป็น “ปูไก่” ปูน้ำจืด ที่ออกหากินตอนกลางคืน และส่งเสียงร้องเจี๊ยบ เจี๊ยบเหมือนลูกไก่

          ไม่ว่าผลของการตัดสินจากกรรมการชาวต่างชาติจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 คนที่ได้ไปสัมผัสกับความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย, ความแปลก และความมหัศจรรย์ ที่ต่างไม่เคยได้เห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลอดการเดินทาง ที่ไปปฎิบัติภารกิจในครั้งนี้ แต่ละทีมได้ยังได้รับรู้ถึงน้ำใจและ มิตรภาพ ของคนไทย ที่มีให้กัน แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ลูกหลานไทยทั้ง 4 ใน 8 คนไหนที่จะได้เป็นหนึ่งในตัวแทนไทยทั้งชาติ สร้างความภูมิใจให้กับไทยด้วยการ สร้างทุบสถิติโลกให้กับประเทศไทยติดตามได้ใน รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 17 ก.พ.นี้ เวลา 23.00 น.ทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี 

รายการ "เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” เปิด “ตำรับอาหารไทย”

 
 
          เปิด “ตำรับอาหารไทย” ที่กรุงเก่าเฟ้นตัวแทน “เดอะวันฯ”นักแสดงรุ่นเก๋า “สมบัติ เมทะนี” ร่วมตัดสินผู้เข้ารอบ   
       
          ขึ้นชื่อ “อาหารไทย ” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ ความประณีตบรรจง และยังคงไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพ รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” ในวันพุธที่ 24 ก.พ.นี้ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เวลา 23.00 น. สองพิธีกร “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” และ “พิม-ซอนย่า (คูลลิ่ง) วัชรสินธ์” หยิบหัวข้อ “ตำรับไทย” อาหารไทยที่มีวัฒนธรรมถ่ายทอดมายาวนาน มาทำการการคัดเลือกตัวแทนลูกหลานไทย ด้วยการพาผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกทั้งชาย-หญิงจำนวน 12 คน เดินทางไปยัง คุ้มขุนแผน จ.อยุธยา เพื่อมอบหมายภารกิจในหัวข้อ “อาหารไทย-ต้นตำรับไทย” พร้อมเปิดครัวให้โชว์ฝีมือปรุงอาหาร 3 รายการ ได้แก่ “แกงมัสมั่นเม็ดบัว”, “ต้มโคล้งกุ้ง” และ “น้ำพริกลงเรือ”

          ด้วยเงื่อนไขเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคตามวิถีชีวิตในสมัยโบราณ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 12 คน จะต้องสวมชุดไทยมาปรุงเมนูอาหารตามต้นตำรับแล้วจับคู่ชาย-หญิง 6 คู่ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตามกติกาที่กำหนดไว้ โดยต้องเดินทางไปตลาดเพื่อหาซื้อวัตถุดิบด้วยตัวเอง ภายในเวลา 1 ช.ม.โดยมีเงินติดตัวทีมละ 500 บาท แล้วกลับมาปรุงอาหารด้วยกรรมวิธีแบบโบราณโดยการใช้เตาฟืน และอุปกรณ์หม้อดินทั้งหมด รวมไปถึงการขูดมะพร้าวด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว, ตำเครื่องแกง ฯลฯ และตกแต่งหน้าตาอาหารให้ได้ตามรูปภาพของโจทย์ที่ได้รับ

          และที่สำคัญอาหารทั้ง 3 รายการที่ทั้ง 6 คู่ช่วยกันปรุงทั้ง 6 สำรับนั้น จะได้รสชาติตามแบบอย่างที่แท้จริงมากน้อยแค่ไหน และจะถูกลิ้นและถูกปากคณะกรรมการอย่างนักแสดงอาวุโส สมบัติ เมทะนี, อ.อมินตรา ทินกร ณ อยุธยา อาจารย์สอนด้านอาหารไทยต้นตำรับชาววังและการแกะสลักผักผลไม้ มาเป็นเวลามากกว่า 40 ปี,อ.วรรณา มณีบุตร์ วิทยากรพิเศษหลักสูตรคหกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต ม.เทคโนโลยีราชมงคลฯ และสามารถฝ่าด่านเข้ารอบไปสู่การแข่งขันในด่านต่อไปหรือไม่ ติดตามได้ในรายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 23.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่10 มี.ค.53 “เจ” นำทัพคัดเลือกตัวแทน “เดอะวันฯ” ย้อนรำลึก-เรียนรู้การละเล่นไทย





          จากการคัดเลือกผู้เข้ารอบที่จะเป็นตัวแทนลูกหลานไทยเพื่อเข้าไปเป็นเดอะวัน ด้วยบทพิสูจน์ความเป็นไทย ในด้านต่าง ๆ ที่ผ่านมาแล้วถึง 4 สัปดาห์  มาถึงสัปดาห์ล่าสุด กับการแข่งขันของผู้เข้ารอบแรกกลุ่มสุดท้ายที่จะชิงชัยเข้าไปเป็นหนึ่ง 50 คนที่จะเข้าไปแข่งขันในด่านที่สอง ในรายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน”  ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

          โดยในวันพุธที่ 10 มี.ค.53 เวลา 23.00 น. “หนุ่มเจ-เจตริน วรรธนะสิน”  ลุยเดี่ยว นำตัวแทนผู้เข้าแข่งขันให้ปฏิบัติภารกิจเพื่อเรียนรู้ และร่วมอนุรักษ์ “การละเล่นไทยโบราณ” ที่ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่สร้างความบันเทิง ด้วยภูมิปัญญาไทยที่นอกจากจะก่อให้เกิดความสนุกสนานแล้วการละเล่นต่างๆ ล้วนฝึกให้เกิดสมาธิ  ไหวพริบ และความอดทนได้ดีอีกด้วย

          เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและ การปฏิบัติภารกิจการละเล่นในแบบไทยโบราณ ทั้งพิธีกรและผู้เข้าแข่งขัน จึงเปลี่ยนมานุ่งโจงกระเบน  เสร็จเรียบร้อย พิธีกรขาลุย ก็พาน้องๆ ลงสนามอุ่นเครื่องด้วยเกมแรกทันที กับการ “ตีวงล้อ” ซึ่งเป็นการนำอุปกรณ์ใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้ คือการนำหวายหรือไม้ไผ่มาทำเป็นวงล้อและใช้ไม้ตีลูกล้อให้กลิ้งไปข้างหน้า กติกาการแข่งขันต้องตีวงล้อไปตามระยะทางที่กำหนดให้ถึงเส้นชัยหากใครเข้ารอบคนสุดท้ายตกรอบ       

          ผ่านภารกิจแรก ไปแบบเบาะๆ  มาสู่การละเล่นที่สอง กับผู้แข่งขันที่เหลือที่จะต้องเล่นเกม “หัวล้านชนกัน”  ซึ่งเป็นกีฬาที่มีมาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์  ฝึกพละกำลัง ความแข็งแรงและอดทน  โดยในสมัยก่อนผู้เล่นจะต้องมีหัวล้านเท่านั้น แต่มาประยุกต์ในรายการโดยให้ผู้เข้าแข่งขันสวมหมวกกันน็อกที่ทำเป็นหัวล้าน และจะต้องวิ่งเข้ามาเลือกประตูคู่ต่อสู้ บางคนดวงดีเลือกได้คู่ต่อสู้เป็นเด็ก

          สามารถเอาหัวชนคู่ต่อสู้ออกนอกวงกลมได้แบบผ่านฉลุย  บางคนดวงจู๋เลือกได้พี่บึ้กกล้ามใหญ่ แถมส่งเสียงขู่คำราม ถูกเขี่ยออกนอกวงกลมเป็นอันตกรอบไปโดยปริยาย  แม้จะได้แผลกันไปเป็นแถว แต่ก็สร้างทั้งความสนุกสนานให้กับผู้เข้าแข่งขันได้ไม่น้อย 

          ผ่านเกมในด่านที่สองไปแล้วก็มาถึง ด่านต่อมากับเกม “ปลาหมอตกกระทะ” ผู้แข่งขันสวมบทเป็น “ปลาหมอ” ที่จะต้องกระโดดเข้าไปในวงที่มีคนนั่งล้อมวงจับมือกันเป็นรูปกระทะ  คนที่เป็นกระทะจะยกมือขึ้นกั้นระหว่างที่ปลาหมอกระโดด ส่วน “ปลาหมอ” ก็ต้องพยายามกระโดดให้พ้นจึงถือว่าผ่าน  การละเล่นที่ดูเหมือนง่าย แต่กลับยากเพราะบางคนกะจังหวะไม่ดี เกิดสะดุดขอบกระทะ ล้มคะมำหัวเข่ากระแทก ได้แผลกันไปตามๆ กัน   

          ถึงด่านที่สี่กับการละเล่น  “อ้ายเข้ อ้ายโขง”  ที่ผู้เข้ารอบต้องลงน้ำกันจริง ๆ  โดยมีทีมงานที่แปลงกายเป็นอ้ายเข้ มารอดักอยู่ในน้ำ คอยจับคนที่ลงมาไม่ให้ขึ้นฝั่ง ฝ่ายผู้เข้าแข่งขันก็ต้อง เอาตัวรอดโดยใช้การหลอกล่ออ้ายเข้ และวิ่งขึ้นฝั่งให้เร็วที่สุด  หากหมดเวลาแล้วยังไม่สามารถขึ้นฝั่งได้เป็นอันตกรอบไปตามระเบียบ  ด้านหนุ่มเจและผู้เข้าแข่งขันที่เหลือยืนร้องเพลงเชียร์ และช่วยลุ้นกันอย่างเต็มที่บนสะพาน
 
          มาถึงด่านสุดท้ายของวันนี้  “การเดินกะลา” เกมจากภาคอีสาน ฝึกการใช้กำลังขา และความไว เป็นเกณฑ์ตัดสิน วัสดุที่ใช้คือเชือกร้อยกับตากะลามะพร้าว 2 อัน ใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้หนีบเส้นเชือกเอาไว้แล้วเดินไปตามเส้นทางที่กำหนด เกมที่คิดว่า “ง่าย” แต่กลับกลายเป็น “ยาก”  เพราะเส้นทางที่เดินไม่ได้เป็นแค่ทางเรียบธรรมดา แต่ต้องเดินขึ้นเนินดิน แต่ละคนทุลักทุเลไปตามๆ กัน สร้างความสนุกสนานไม่น้อยจนลืมการแข่งขันไปโดยปริยาย แต่เกมก็คือเกม ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบ แบบลอยลำจะมีเพียงแค่ 12 ผู้เข้าแข่งขันชาย  และ 12 ผู้เข้าแข่งขันหญิง ที่สามารถประคองตัวบนกะลามาถึงยังเส้นชัยได้ก่อน ถือว่าเข้ารอบ     

          การละเล่นไทยโบราณของบรรดากลุ่มตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการแข่งขันรอบนี้จะเป็นอย่างไร  จะสร้างบรรยากาศความสนุกสนาน, รอยยิ้มหรือน้ำตาของผู้เข้าแข่งขันอย่างไร  ติดตามได้  รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” ในวันพุธที่ 10 มีนาคมนี้ เวลา 23.00 น.ทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี   

The One รวมไทยใจเดียวกัน “ป๊อด-น้ากล้วย-หมอแคนสมบัติ” ร่วมคัดเลือกตัวแทน “เดอะวันฯ” ด่านสอง


         
          ผ่านด่านแรกไปเรียบร้อยกับการ คัดเลือกตัวแทนลูกหลานไทยในรายการ เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. กับบทพิสูจน์ความเป็นไทยในด้านต่าง ๆ จนได้ผู้เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 50 คน เพื่อตบเท้าเข้ามาสู่การคัดเลือกด่านที่สอง โดยด่านนี้พิธีกร “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” และ “พิม-ซอนย่า (คูลลิ่ง) วัชรสินธุ์” เปิดภารกิจด่านสองให้ผู้เข้ารอบทั้ง 50 คน ด้วยหัวข้อ “รอบรู้ความเป็นไทย” เพื่อทดสอบ “กึ๋น” ผู้เข้าแข่งขัน ด้วยการตอบคำถามเรื่องราวของความเป็นไทยให้ถูกต้องและ “วัดดวง” ผู้เข้ารอบด้วย “เกมบันไดงู”

          กติกาการเล่นเกมคือ หลังจากตอบคำถามถูกต้อง พิธีกรจะเป็นผู้ทอดลูกเต๋า ให้ผู้เข้าแข่งขันเดินไปตามจำนวนช่อง หากเดินไปหยุดที่ “ช่องบันได” จะได้เดินไปข้างหน้าเพิ่มตามขั้นบันได,หากไปตกที่ “ช่องงู” จะต้องถอยไปอยู่ตรงหางงู, หากไปตกที่ “ช่องสีแดง” จะต้องถอยไปที่จุดเริ่มต้นใหม่ หรือถ้าเดินไปตกที่ “ช่องเดอะวัน” ถือว่าโชคดีผ่านเข้ารอบเป็น 1 ใน 12 คน เข้าสู่การแข่งขัน “ด่านที่ 3” ต่อไปทันที
ไม่เพียงแต่ต้องตอบคำถาม 15 คำถามเกี่ยวกับความรู้รอบตัวเกี่ยวกับเรื่องของประวัติศาสตร์ไทย, สังคมศาสตร์, ประเพณีและวัฒนธรรมไทย แล้วยังมีแขกรับเชิญพิเศษอีก 3 ท่าน ที่มาร่วมคัดเลือกตัวแทนไทย ด้วยการตั้งประเด็นคำถามให้ผู้เข้าแข่งขันตอบ ได้แก่ “คุณธนชัย อุชชิน” หรือ “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” หยิบเพลงประจำรายการ “เดอะวัน” ที่รับหน้าที่ทั้งผู้แต่งและผู้ ขับร้องออกมาโชว์ พร้อมกับการตั้งคำถามผู้เข้าแข่งขันว่า “ภาพปกในอัลบั้ม โมเดิร์นด็อกหรรษาปาร์ตี้ทิงนองนอย” มีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยคือที่ใด? ส่วน “น้ากล้วย เชิญยิ้ม” ยกคณะลิเกออกมาโชว์ ตบท้ายด้วยคำถามหลังโชว์เสร็จว่า “เรื่องราวที่นำมาโชว์กล่าวถึงนิทานพื้นบ้านเรื่องอะไร?” และ อ.สมบัติ สิมหล้า อาจารย์สอนแคนแห่งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โชว์เดี่ยวแคน และตั้งคำถามว่า “หมอลำที่ร้องเพลงประกอบแคนอย่างเดียวเรียกว่าอะไร?”

          พบกับโชว์พิเศษจากแขกรับเชิญคนสำคัญ ป๊อด โมเดิร์นด็อก, คณะลิเกกล้วย เชิญยิ้ม และ หมอแคนสมบัติ สิมหล้า พร้อมกับร่วมลุ้นว่าผู้เข้ารอบทั้ง 50 คน ว่าใครจะมี “กึ๋น” และ “ดวง” ผ่านด่านสองเข้ารอบไปสู่ด่านต่อไป ในรายการ “The One รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 17 มีนาคม 2553 นี้เวลา 23.00 น. เป็นต้นไป ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี 

รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” แนะนำ 7 ลูกหลานไทย “เดอะวันฯ” รับซองภารกิจ “ทุบสถิติโลก”

       
 
          รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 31 มีนาคม นี้ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เปิดตัว “เดอะวัน” ทั้ง 7 ที่ฝ่าด่านผ่านดวงเข้ารอบมาเป็นตัวแทนลูกหลานไทย มาทำหน้าที่รวบรวม “คนไทย” รวมใจสามัคคีตบเท้ามาร่วมทุบ 10 สถิติโลก เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ลงใน “กินเนสบุ๊ค (Guinness World Records)” โดยทั้ง 7 จะถูกจับกลุ่มออกเป็น 3 คู่ ได้แก่ คู่แรก : เข้ม..ทางความคิด “ฮาฟ-เหมวรรษ นิตยารส” และ “ซาร่า-อนุสรา แบล็ทเลอร์” / คู่ที่สอง : นุ่มลึก..กล้าคิดกล้าทำ “บีบี-คิน รัตนชูโชค” และ “นิว-ปทิตตา อัธยาตมวิทยา” / คู่ที่สาม : ที่เข้ารอบมาเป็นคู่รวมทีมกันเป็น 3 คนได้แก่คู่แฝด “ไอคิว-ก้องศรุษฐ์ และ ไอเดีย-ก้องคริษฐ์ ฤชาภา” และ “น้ำ-ชลนที อักษรสิงห์ชัย”

          โดยพิธีกร “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” ทำหน้าที่มอบหมายซองภารกิจที่มี “สถิติโลก” ที่จะต้องไปปฏิบัติ ให้กับ ได้แก่ เชิญชวนคนมา “บริจาคอวัยวะ” ให้ได้ 500 คน ให้คนทั้งโลกได้รับรู้เรื่องการเสียสละของคนไทย / รวมนักดำน้ำมา “ดำน้ำ” พร้อมกันให้ได้ 3,000 คน ให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเล / รวมนักกีฬามา “รำมวยไทย” ให้ได้ 1,000 คน เพื่อให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของศิลปะมวยไทย / รวมตัวนักปั่นจักรยานมาร่วม “ขบวนจักรยาน” ใหญ่ที่สุด ให้ได้ 3,000 คัน ร่วมประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม / รวมคนไทยมา “ดำนา” มากที่สุดให้ได้ 1,000 คน ให้ทั้งโลกรับรู้ความเป็นที่หนึ่งของข้าวไทย / รวมนักดนตรีมา “เล่นกีตาร์” ให้ได้จำนวน 2,000 คน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สะท้อนให้คนทั้งโลกร่วมรับรู้ถึงความจงรักภักดีของคนไทย แต่ละภารกิจกับ สถิติโลกที่จะต้องไปปฏิบัติ ลูกหลานไทยทั้ง 7 จะวางแผนการทำงานอย่างไร ติดตาม ได้ในรายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 23.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

Gossip: คุณชาลี จิตจรุงพร แห่งไทยเบฟ


 
          ประเดิมภารกิจแรก เรียลลิตี้โชว์เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน ก็ทำลายสถิติซะแล้ว ก็เขาระดมคนไทยใจบุญ มาบริจาคอวัยวะได้มากถึง 562 คน เป็นสถิติโลกใหม่ที่จะได้บันทึกกินเนสบุ๊ก แทนที่สถิติเดิมที่ประเทศอเมริกาเคยทำไว้ที่ 241 คน ข่าวนี้ทำให้ ชาลี จิตจรุงพร แห่งไทยเบฟ ซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ของรายการถึงกับเป็นปลื้มเลยทีเดียว เพราะจะได้ประกาศให้โลกรู้ว่าพลังคนไทยที่รวมใจกันทำสิ่งดีๆ ถวายในหลวงนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน เจอะเจอใครก็ไม่วายชักชวนให้เปิดเปิดดูรายการที่จะออนแอร์ทางโมเดิร์นไนน์ พุธที่ 7 เมษายนนี้ เวลา 5 ทุ่ม

รายการ "เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” “รวมไทยใจเดียวกัน” รณรงค์ “คนไทยสามัคคี” ผนึกกำลังนักปั่น 3,515 คันทุบสถิติโลก

 
         
          รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 12 พ.ค.2553 เวลา 23.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี พิธีกร “เจ-เจตริน วรรธนะสิน” จะพาไปดูภาพบรรยากาศของ 7 ตัวแทนลูกหลานไทย “ฮาฟ-ซาร่า-บีบี-นิว-ไอเดีย-ไอคิว-น้ำ” ทำหน้าที่รณรงค์ให้คนไทยหันมาร่วมแรงร่วมใจ “สมัครสมานสามัคคี” ทำสิ่งดีๆ ให้กับประเทศชาติอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการผนึกกำลังกับสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทยแห่งประเทศ เชิญชวนนักปั่นจักรยานจากทั่วประเทศมาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ “ขบวนจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Largest parade of bicycles)” บันทึกลง “กินเนสบุค” ด้วยจำนวน 3,515 คัน ด้วยระยะทาง 4 ก.ม. ทุบสถิติเดิมที่ประเทศไต้หวัน บันทึกไว้เพียงแค่ 2,284 คัน

          นอกจากจะเป็นการบันทึกสถิติโลก “การสร้างขบวนจักยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Largest parade of bicycles)” โดยคนไทยเพื่อบันทึกลงกินเนสบุ๊ค (Guinness Book World of Records) แล้ว ยังเป็นการรณรงค์ให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญของการประหยัดพลังงาน, การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และสะท้อนเสียงคนไทยให้ทั้งโลกได้รับรู้ถึงความ “สามัคคี”

          ภาพของพลัง “สามัคคี” ของการเคลื่อนขบวนจักรยาน ตั้งแต่จุดรวมพล ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ผ่านสะพานพระราม 8 เข้าสู่ถนนลอยฟ้าผ่านเส้นทางคู่ขนาน ถ.บรมราชชนนี จนภารกิจในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้นจะสวยงามและประทับใจแค่ไหน ติดตามได้ในรายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” ในวันพุธที่ 12 พ.ค.นี้ เวลา 23.00 น.เป็นต้นไป ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี 

 รายการ "เดอะวัน ไทยใจเดียวกัน” จุดพลัง “สามัคคี” โชว์ศาสตร์นวดแผนไทยล้มแชมป์ “กินเนสบุค”


         
          รายการ “เดอะวัน รวมไทยใจเดียวกัน” วันพุธที่ 19 พ.ค.2553 เวลา 23.00 น.ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี พิธีกร “ซอนย่า (คูลลิ่ง) วัชรสินธ์” พาไปพบกับการบันทึกสถิติโลก ( Guinness World Records ) การนวดแผนไทยด้วยจำนวนคนมากที่สุด (Longest massage chain) โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดแผนไทยจากทั่วประเทศสมัครสมานสามัคคี เดินทางมาร่วมบันทึกสถิติโลกกันบริเวณด้านหน้าหอรัชมงคล สวนหลวง ร.๙ ถ.ศรีนครินทร์ รวม จำนวนทั้งสิ้น 1,223 คน ทุบสถิติเดิม ที่ประเทศอังกฤษบันทึกไว้เพียงแค่ 430 คน

          แต่ก่อนจะเริ่มจับเวลาบันทึกสถิติโลก เพื่อความแม่นยำในการนวดตามกติกาและหลักเกณฑ์ของ “เวิลด์ เรคคอร์ด” ว่าต้องนวดด้วยท่านวดที่ถูกต้องต่อเนื่องกันไปในระยะเวลาต้องไม่ต่ำกว่า 5 นาที ตัวแทนลูกหลานไทยทั้ง 7 “ฮาฟ-ซาร่า-บีบี-นิว-ไอเดีย-ไอคิว-น้ำ” ได้เชิญ “อ.ยุพิน โตเอี่ยม” อาจารย์สอนศาสตร์ของการนวดแผนโบราณมาเป็นเวลา 30 ปี และวิทยากรพิเศษในศาสตร์ของการนวดแผนไทยให้กับกระทรวงสาธารณสุข มาทบทวนท่านวด 5 ท่า เพื่อใช้ในการทำลายสถิติ เริ่มตั้งแต่การนวดขมับ,นวดโค้งคอ, นวดบ่าและไหล่, นวดแขน และปิดท้ายด้วยสับบ่าหลัง

          หลังจากทบทวนท่านวดเสร็จเรียบร้อย พิธีกร “ซอนย่า” ก็เริ่มจับเวลาทันที ผู้ที่มานวดทำลายสถิติ ซึ่งนั่งล้อมรอบเลขเก้าไทย หันหน้าไปทิศเดียวกัน แล้วนวดต่อๆ กันในลักษณะของลูกโซ่ ต่อเนื่องตั้งแต่ท่าแรกไปจนถึงท่าที่ 5 ปิดจบด้วยท่าสับบ่าหลัง จากนั้นพิธีกรจึงนับถอยหลังไปจนสิ้นสุดเวลาที่กำหนด การทำสถิติโลก

          จึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยมีคุณเสรัชย์ ตั้งตรงจิตร ผอ.โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชคุพนฯ (วัดโพธิ์) และ คุณอร่าม อามระดิษ นายกสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ให้เกียรติมาเป็นพยานกิตติมศักดิ์และเซ็นหนังสือรับรองการทำสถิติในครั้งนี้
การนวดแผนไทยด้วยจำนวนคนมากที่สุด (Longest massage chain) นอกจากจะเป็นการเผยแพร่การนวดแผนไทยคุณค่าในภูมิปัญญาไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก และบันทึกลงใน “กินเนสบุค” ยังเป็นการสะท้อนให้ทั้งโลกได้รับรู้ถึงความ “สามัคคี” แล้วยังจะเป็นการเริ่มต้นเล็กๆ ให้คนไทยหันมาจับมือกันทำดีเพื่อประเทศชาติ