Facebook on October 06, 2018, 01:29:41 PM









สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ชวนหนอนหนังสือบุก มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่23และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 กับแนวคิด “อ่านออกเสียง”สนุกกับนิทรรศการและเวทีเสวนา พร้อมกองทัพหนังสือให้จับจอง 17-28 ตุลาคม2561 พบกันที่เก่าเวลาเดิม...ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์





สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ประกาศความพร้อมจัด “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23”และ “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 เริ่มวันพุธที่17ตุลาคม2561ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” ชมนิทรรศหนังสือสาบสูญ 3018/ นิทรรศการสำหรับเด็กและครอบครัวWonder Land ดินแดนค้นพบตัวตน และนิทรรศการเยาวชน ท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU…จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม เป็นต้น พร้อมเวทีเสวนาและกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมายตลอด12 วัน โดย นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย นายคธาวุฒิ เกนุ้ย อุปนายกฝ่ายในประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย นายกิตติพล สรัคคานนท์ ผู้จัดทำนิทรรศการ “หนังสือสาบสูญ 3018” และนางสาวอรุณี อุนหะวรากร นักวาดเจ้าของภาพน่ารัก “การเดินทางของหมูป่า” จากเพจ SISIDEAร่วมสนทนาในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2561ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้ร่วมงานอย่างคับคั่ง


กิตติพล สรัคคานนท์

คธาวุฒิ เกนุ้ย
นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่23” ถือเป็นงานแสดงหนังสือระดับชาติที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดานักอ่านมาตลอด โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” การอ่านออกเสียง คือ การอ่านให้มีเสียงดัง เป็นการอ่านเพื่อส่งสาร การอ่านออกเสียง ยิ่งออกเสียงดังเท่าไร ก็จะช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ง่ายและได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้อ่านถึงจะอ่านหนังสือหรือบทความเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน จึงต้องออกเสียง เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน หนังสือและการอ่านจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันโดยตรงนั่นเอง และพิเศษสุดคือการจัดงาน“เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ขึ้นพร้อมกัน ทำให้งานครั้งนี้เป็นงานสำหรับทุกเพศและทุกวัยอย่างแท้จริง




รูปจำลองนิทรรศการหนังสือสาบสูญ

“ปีนี้เรามีในงานมีนิทรรศการหลักๆ อยู่ 3 นิทรรศการ เริ่มจากนิทรรศการ ‘หนังสือสาบสูญ 3018’ บริเวณหน้าห้องเพลนารีฮอลล์/ นิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน ที่ห้องมีทติ้งรูม 1-2 และนิทรรศการ ‘ท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU… จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม’ โซนฮออล์เอ นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการ ‘หนังสือติดดาว’/ นิทรรศการ ‘100ABCD’/นิทรรศการ ‘TK Book Rally รู้จักกันผ่านหนังสือ’และนิทรรศการ ‘สื่อสิ่งพิมพ์จีนสัญจร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2’รวมทั้งนิทรรศการอื่นๆ ที่จัดแสดงโดยหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่จะจัดแสดงให้ชมในงานครั้งนี้อีกด้วย”

“นิทรรศการหนังสือสาบสูญ 3018” เริ่มมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ‘หนังสือ 99.5%สูญสลายหายไปตามกาลเวลา และมีเพียงส่วนที่เหลือไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำที่จะสามารถคงอยู่ต่อไป’ผู้ชมนิทรรศการจะจินตนาการไปสู่โลกอนาคต กับภาพจำลองของห้องเก็บข้อมูลในยามที่หนังสือไม่มีอยู่อีกแล้ว สิ่งที่คงเหลือไว้คือประวัติศาสตร์ และปูมบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกหนังสือและการอ่านที่เปลี่ยนแปลงตลอดมา เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่า ‘ผู้อ่าน’ มีส่วนตัดสินชี้ขาดความเป็นไปของหนังสือหรืองานเขียนต่างๆ อย่างไร เฉกเช่นเดียวกับสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ที่เราจะเข้าใจได้ก็เมื่อทุกอย่างได้ดำเนินมาสู่จุดสิ้นสุด ซึ่งในนิทรรศการจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เช้าชมได้ร่วมสนุกอีกด้วย



ของที่ระลึก

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ได้แก่

“นิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน” นิทรรศการสำหรับเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี เพื่อให้เด็กได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจ จากโซนกิจกรรม10 ฐานที่ทั้งสนุกและสร้างการเรียนรู้แตกต่างกันไป โดยการเข้าชมนิทรรศการนี้ เด็กๆ จะต้องเข้าไปกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เพื่อทำกิจกรรมแต่ละฐานร่วมกัน และมีของที่ระลึกพิเศษมอบให้หากร่วมกิจกรรมครบทุกฐาน

“นิทรรศการท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU… จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม” นิทรรศการระดับโลกที่ผ่านการจัดแสดงทั้งใน กรุงปารีส เซี่ยงไฮ้ โตเกียว และไทเป และส่งตรงมางานมหกรรมหนังสือที่ กรุงเทพฯ โดยนำภาพสเก็ตช์และสตอรี่บอร์ดจริงของ Hosoda Mamoru (โฮโซดะมาโมรุ) ผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังและผลงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ล้วนมาจากภาพยนตร์ของเขาที่เข้าฉายในประเทศไทย และได้รับการตีพิมพ์เป็นนิยายและหนังสือการ์ตูนในฉบับภาษาไทยอีกด้วย

และครั้งแรกสำหรับงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนที่จะเชิญเด็กจากชุมชนปีนัง ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่พวกเขากลับไม่เคยมีโอกาสได้เข้ามาร่วมงานเลย โดยจะเชิญมาเป็นแขกพิเศษร่วมงานเปิดนิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตนและมอบบัตรของขวัญ เพื่อนำไปซื้อหนังสือจากในงานอีกด้วย

ด้านเวทีเสวนาหรือเวทีเอเทรียม ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกจับตามองในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษให้กับโครงการหนึ่งอ่านล้านตื่น ในหัวข้อ “การอ่านสร้างนวัตกรรม” ในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 11.00 น. อีกหนึ่งรายการสำคัญจากทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คือการเสวนาในชื่อว่า “เสียงที่ไม่(เคย)ได้ยิน”ซึ่งจัดขึ้น 2 วันเริ่มจากวันที่ 18 ตุลาคมจะเป็นเวทีภาคประชาชน ผู้ร่วมเสวนาจะได้แก่เดย์ ฟรีแมน นักแสดงนางโชว์ตัวแม่และนักอ่านตัวยงบังเจ๊ะหัน ยะลา ชาวบ้านจากกระบี่ ผู้พลิกชีวิตจากศูนย์เป็นล้านด้วยความรู้จากการอ่าน พลอย – สโรชากิตติสิริพันธุ์ นักเขียนผู้ดวงตาพิการ เจ้าของวรรณกรรมเยาวชน“จนกว่าเด็กปิดตาจะโต” อักษรศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจิดานันท์เหลืองเพียรสมุท นักเขียนซีไรต์ที่อายุน้อยที่สุด และวันศุกร์ที่19ตุลาคม จะเป็นเวทีภาคการเมือง ซึ่งจะมีพรรคการเมืองต่างๆ ส่งผู้แทนเข้าร่วมเสวนาแนวคิดและความเห็นเกี่ยวกับหนังสือและการอ่านในประเทศไทยจากมุมมองของนักการเมือง โดยทั้งสองวันจะเริ่มเวลา 17:00 – 19:00 น. นอกเหนือจากนี้ ยังจะมีการเสวนาและการเปิดตัวหนังสือใหม่ จากผู้มีชื่อเสียง อาทิ ท่าน ว วชิรเมธี/ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ/ ดร. มีชัย วีระไวทยะ/ น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา/ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ/ ทนายษิทรา เบี้ยยังเกิด และ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ที่มากับ อาเลย์ดา เกวารา บุตรสาวคนโตของเช เกวาราบินตรงจากคิวบา เพื่อร่วมงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดการเสวนาและกำหนดการเวทีเสวนาได้จาก www.facebook.com/Bookthai


พิเศษสุด โปสการ์ด “อ่านออกเสียง” Limited Edition การผนึกลายเส้นครั้งสำคัญจาก17 นักวาดชั้นนำและสำนักพิมพ์ชื่อดัง เริ่มจาก Art Jeeno/ Eat all day/ Jaytherabbit/ Sisidea/ คิ้วต่ำ/ เดอะดวง/ตัวกลม/ ปังปอนด์/ มะม่วง/ มุนิน/ หนูหิ่น/ หัวแตงโม/ สำนักพิมพ์แจ่มใส/ สำนักพิมพ์นาบู/ สำนักพิมพ์พราว/ สำนักพิมพ์พูนิก้า และสำนักพิมพ์อี.คิว. พลัส แจกฟรีให้กับผู้เข้าชมงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 23และสำหรับหนอนหนังสือนักเดินทาง ต้องมารับหนังสือ Guidebook ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จากกรมการพัฒนาชุมชนที่จะนำมาแจกฟรีอีกเช่นกัน

พบกับหนังสือราคาพิเศษที่คัดสรรมาให้เลือกกว่า 1,000,000เล่ม  จากสำนักพิมพ์ 376ราย รวมทั้งสิ้น 931บูธบนพื้นที่กว่า 20,000ตารางเมตรมาร่วมอ่านออกเสียงให้ดังสนั่นที่ “งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23”และ“เทศกาศหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12”ระหว่างวันพุธที่ 17–วันอาทิตย์ที่ 28ตุลาคม พ.ศ. 2561รวมทั้งสิ้น 12 วัน ตั้งแต่เวลา10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
« Last Edit: October 06, 2018, 01:47:09 PM by Facebook »

Facebook on October 06, 2018, 01:30:24 PM
นิทรรศการสื่อสิ่งพิมพ์จีนสัญจร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เยือนกรุงเทพ ฯ พบกันในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่17 ถึง19 ตุลาคม2561ณ ห้องโลตัส ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์   

นิทรรศการสื่อสิ่งพิมพ์จีนสัญจร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้(Chinese Publication Exhibition Tour in Southeast Asia) ครั้งนี้นับเป็นการสัญจรมายังกรุงเทพมหานครเป็นครั้งที่สองซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สมาคมผู้จัดจำหน่ายหนังสือและวารสารแห่งประเทศจีน (The Books and Periodicals Distribution Association of China) กรมการบริหารสื่อ สิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และภาพยนตร์แห่งมณฑลฝูเจี้ยน (Fujian Provincial Administration of Press, Publication, Radio, Film and Television) คณะกรรมการบริหารเขตทดลองการค้าเสรีเซี่ยเหมิน (ฝูเจี้ยน) สาธารณรัฐประชาชนจีน(Administration of Xiamen Area of China (Fujian)Pilot Free Trade Zone) และบริษัท เซี่ยเหมิน อินเตอร์เนชั่นแนล บุ๊ก จำกัด (Xiamen International Book Company Limited) โดยจะจัดขึ้นในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12ระหว่างวันที่17 ถึง19 ตุลาคม2561ณ ห้องโลตัส ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ภายในงานจะจัดแสดงและจำหน่ายหนังสือภาษาจีนนับหมื่นปก ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งตำราเรียนภาษาจีน วัฒนธรรมธรรมจีนดั้งเดิม สิ่งพิมพ์สำหรับเด็ก ศิลปะ วรรณกรรม สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯทั้งนี้คณะผู้จัดงานยังได้นำเอากิจกรรมทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย มานำเสนอให้นักอ่านชาวไทยที่สนใจได้เข้าชมฟรี อาทิการแสดงละครหุ่นไม้ อันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแห่งชาติจีนจากคณะนักแสดงระดับศิลปินแห่งชาติ การบรรยายเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยแพทย์แผนจีนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระหว่างนิทรรศการ นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีงานจับคู่ทางธุรกิจ(Business Matching)ระหว่างสำนักพิมพ์ไทยและจีน เพื่อเจรจาซื้อ-ขายลิขสิทธิ์สิ่งพิมพ์ระหว่างกัน เปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอีกด้วยงานครั้งนี้จึงถือเป็นการจัดนิทรรศการทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้อ่านชาวไทยนั่นเอง
« Last Edit: October 06, 2018, 01:45:46 PM by Facebook »