news on September 04, 2018, 08:04:18 AM

ผู้บริหาร สวทช. และผู้บริหาร โชคนำชัยฯ และสกุลฏ์ซี ร่วมลงนามด้านวิจัยและพัฒนา


ผู้บรีหาร สวทช. และ กลุ่มบริษัท ซีเอ็นซี กรุ๊ป ร่วมลงนามความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนา


ก.วิทย์ฯ-สวทช. ผนึก กลุ่มบริษัทโชคนำชัย พัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบการผลิตยานพาหนะสมัยใหม่ น้ำหนักเบา เพื่อพัฒนายานยนต์สัญชาติไทยรุ่นใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย


ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผอ.สวทช. (กลาง) ร่วมมือด้านวิจัยพัฒนา กับ นายนำชัย สกุลโชคนำชัย ประธานกลุ่ม โชคนำชัย และสกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (ซ้าย) และนายวีรพลน์ เตชะผาสุขสันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สก


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จับมือ บริษัท โชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่ง จำกัด และ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทโชคนำชัย (CNC Group) ผู้ผลิตแม่พิมพ์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบการผลิตยานพาหนะสมัยใหม่ และโครงการสร้างน้ำหนักเบา รวมถึงการพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนายานยนต์สัญชาติไทยรุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ที่สามารถนำมาต่อยอดในการสร้าง หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ พร้อมทั้งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยให้สูงขึ้น


ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
เปิดเผยว่า ทาง สวทช. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับกลุ่มบริษัท โชคนำชัย ในด้านการวิจัยและพัฒนาโครงสร้างเรือ และรถโดยสาร โดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) และ ศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) หน่วยงานในสังกัด สวทช. ด้วยการใช้กลไกของโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การยื่นขอรับการพิจารณาบัญชีนวัตกรรม และการลดภาษี 300% ซึ่งการดำเนินโครงการต่างๆ นั้น ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ช่วยให้บริษัท โชคนำชัย และบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่นฯ สามารถพัฒนากระบวนการผลิตโดยมีนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา

ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมวิจัยและพัฒนายานพาหนะสมัยใหม่ รวมถึง ชิ้นส่วน โครงสร้าง และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ร่วมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแม่พิมพ์ การออกแบบ และผลิตโครงสร้างน้ำหนักเบา ตลอดจนร่วมพัฒนาบุคลากรและกำลังคนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยียานพาหนะสมัยใหม่ จากความสำเร็จที่ผ่านมาทำให้ สวทช. มีความมั่นใจและประสงค์ที่จะร่วมมือกับกลุ่มบริษัท โชคนำชัย ในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เพื่อสร้างองค์ความรู้ และยกระดับศักยภาพในการผลิตยานยนต์ เพื่อคนไทยให้เกิดขึ้นในประเทศต่อไป

สวทช. ดำเนินงานกิจกรรมทางด้านยานยนต์มากว่า 10 ปี แล้ว และในอนาคตเทคโนโลยียานยนต์จะมุ่งไปสู่การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ รวมถึงการนำระบบอัจฉริยะต่างๆ มาติดตั้งในยานยนต์ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอดไปสู่การขับเคลื่อนยานพาหนะได้หลายรูปแบบ อาทิ จากการขับเคลื่อนผ่านล้อยางเป็นมอเตอร์ใบพัดในลักษณะของการบิน หรือเรือ ซึ่ง สวทช. ได้ทำวิจัยและพัฒนาประเด็นมุ่งเน้นด้านการขนส่งสมัยใหม่ หรือ Modern Transportation ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการจ้างงาน การลงทุน การลดปัญหามลพิษ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างอุตสาหกรรมและบริการใหม่ๆ อีกหลายประเภท ในอนาคตทิศทางของแนวโน้มเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้การผลิตยานยนต์แบบเดิมๆ อาจไม่สามารถตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัว และใช้โอกาสในช่วงนี้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตต่อไป


ทางด้าน นายนำชัย สกุลฎ์โชคนำชัย ประธานกลุ่มบริษัท โชคนำชัย และบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทโชคนำชัย (CNC Group) เป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็น Top 5 Asia ที่ทำแม่พิมพ์สำหรับผลิตตัวถังรถยนต์ได้ทุกชิ้นส่วน ส่งตรงบริษัทชั้นนำมากมายทั่วโลก ประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี และมีผลงานการค้นคว้าวิจัยด้านเทคโนโลยีที่บริษัทได้คิดค้นขึ้น นับเป็นองค์ความรู้สำคัญต่อการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น จนทัดเทียมกับระดับสากลสามารถต่อยอดมูลค่าทางเศรษฐกิจไทย นำมาซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคม และต่อยอดนวัตกรรมให้มีคุณภาพมากขึ้น

บริษัทโชคนำชัยฯ จึงได้ร่วมมือกับ สวทช. เพื่อนำองค์ความรู้ที่สำคัญต่อการพัฒนาของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบสารสนเทศสำหรับการบริหารทรัพยากรขององค์กร (ERP) เข้ามาประยุกต์ใช้งานภายในและทดแทนระบบสารสนเทศที่ใช้อยู่เดิม ก่อให้เกิดความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กรมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังต่อยอดองค์ความรู้ด้านการผลิตเรืออลูมิเนียม ของบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จํากัด อีกหนึ่งบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทโชคนำชัย นั่นก็คือ แนวทางในการออกแบบ เรือ SAKUN C โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการคำนวณทางพลศาสตร์ของไหล หรือ CFD ช่วยในการจำลองสภาวะการใช้งานและศึกษาความสัมพันธ์ ตลอดจนผลกระทบจากการไหลของน้ำที่มีต่อเรือ ที่สำคัญ สวทช. ยังช่วยให้คำปรึกษา และช่วยในการวิเคราะห์ความแข็งแรงของโครงสร้างรถโดยสารตัวถังอลูมิเนียม ซึ่งบริษัท สกุลฎ์ซีฯ ได้นำมาศึกษาและหาแนวทางลดน้ำหนักของโครงสร้างในอนาคต ความรู้นี้จะช่วยในการลดค่าใช้จ่าย และลดอัตราการกินน้ำมัน สร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมของประเทศได้โดยตรง

นายนำชัย กล่าวต่อว่า จากผลงานและความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้ปีนี้บริษัทโชคนำชัยได้ร่วมมือกับ สวทช. อีกครั้ง การร่วมมือกันในครั้งนี้จะสร้างผลประโยชน์ให้กับวงการเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมไทยมากยิ่งขึ้น โดย สวทช. มีโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการในการนำมาขยายขีดความสามารถในการผลิตนวัตกรรม และพัฒนากระบวนการผลิตโดยระบบ Automation ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงร่วมกันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบ ยานยนต์สมัยใหม่ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยใช้โครงสร้างน้ำหนักเบา พร้อมเทคโนโลยี IT ที่ตอบรับยุค Thailand 4.0 อย่างเต็มตัว นอกจากนั้น สวทช. ยังให้การสนับสนุนการสร้างเครือข่ายภาคเอกชนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนแบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบขับเคลื่อน ระบบ IT ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อให้เกิดการสร้างโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่ยั่งยืน สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทสกุลฎ์ซี และ สวทช. ริเริ่มโครงการพัฒนาเรืออัจฉริยะ ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชั่นเก็บข้อมูลและวิเคราะห์การขับขี่ของผู้ขับเรือ สร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารมากขึ้น การใช้ระบบ GPS และมอเตอร์ขับเคลื่อนในการควบคุมตำแหน่งของเรือ ลดการเกิดอุบัติเหตุและการแล่นออกนอกเส้นทาง รวมถึงการใช้ระบบข้อมูล IOT เก็บข้อมูลเรือที่จำหน่ายออกไป เพื่อบริหารจัดการข้อมูลคู่ค้าและนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดสร้างจุดแข็งการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และบริษัทโชคนำชัย กับ สวทช. ยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือกันพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการวิจัย การพัฒนา และการบริหารองค์ความรู้ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรในองค์กร เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีไทยต่อไป
« Last Edit: September 04, 2018, 08:08:28 AM by news »