wmt on August 21, 2018, 02:06:37 PM
“นกแอร์” เร่งเครื่องเดินแผนธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพลุยขยายเส้นทางบิน-เพิ่มการบริการ

นกแอร์เร่งเดินหน้าตามแผนธุรกิจ มุ่งเน้นลดต้นทุนค่าใช้จ่าย-เพิ่มรายได้ ยกเครื่องการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน พร้อมปรับรูปแบบบริการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสาร ยกชั้นสู่ไลฟ์สไตล์แอร์ไลน์ ชูจุดเด่นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ดึงพันธมิตรหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม มั่นใจลดขาดทุนได้ต่อเนื่อง 

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK
เปิดเผยว่า ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจการบิน ท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องในการรับมือกับแรงกดดันดังกล่าว โดยนกแอร์ได้มีการปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ในปลายปี 2560 เพื่อพัฒนาธุรกิจของสายการบินให้มีทิศทางที่ดีขึ้น

“ปี 2560 นกแอร์มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้านตามแผนธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ รวมทั้งมีการเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ซึ่งการดำเนินงานได้ผลตอบรับที่ดี เห็นได้จากผลงานในครึ่งแรกของปี 2561 ที่ขาดทุนลดลง 14.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เรามีรายได้รวมเพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าโดยสารและค่าบริการ แม้ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” 

สำหรับแผนธุรกิจของนกแอร์ แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ลดการขาดทุน และระยะที่ 2 การสร้างความพร้อมให้มีประสิทธิภาพ แล้วเดินไปข้างหน้า ส่วนระยะที่ 3 การขยายเส้นทางบิน ตลอดจนการจัดองค์กรใหม่ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีกระบวนการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้ปรับรูปแบบการบริการครั้งใหญ่ เพื่อพลิกธุรกิจจากสายการบินราคาประหยัดไปสู่การเป็นไลฟ์สไตล์ แอร์ไลน์ ที่ไม่เน้นแข่งขันด้านราคา แต่มุ่งเน้นการเสนอบัตรโดยสารและการให้บริการในรูปแบบที่ให้ผู้โดยสารสามารถเลือกสิ่งที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้มากที่สุด ภายใต้แนวคิด “นกเลือกได้” หรือการร่วมมือไทยกรุ๊ป เพิ่มสิทธิพิเศษแก่ผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกนกแฟนคลับ และสมาชิกรอยัล ออร์คิท พลัส ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับไมล์สะสมของรอยัล ออร์คิท พลัส เมื่อเดินทางกับนกแอร์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

รวมทั้งขยายเส้นทางบินต่างประเทศเพิ่ม โดยเฉพาะเส้นทางสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือว่าได้รับผลตอบรับดีมาก มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้จัดสรรทรัพยากรเครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการเพิ่มการใช้เครื่องบิน  AIRCRAFT UTILIZATION ให้มีจำนวนชั่วโมงบินต่อลำต่อวันเพิ่มขึ้น

นายปิยะกล่าวต่อว่า ปี 2561 ถือเป็นปีแห่งการวางรากฐานใหม่ของนกแอร์ โดยเร่งปรับปรุงพัฒนากระบวนการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามแผนธุรกิจที่วางไว้ เช่น เพิ่มอัตราการใช้เครื่องบินให้คุ้มค่า เพิ่มเส้นทางการบินไกลและเพิ่มเส้นทางบินไปต่างประเทศให้มากขึ้น ปรับปรุงเส้นทางการบินให้มีความเหมาะสมในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เป็นต้น รวมทั้งยังมุ่งเน้นการลดค่าใช้จ่าย เพื่อลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจด้วย

สำหรับในปี 2562 จะเป็นแผน Rebuild หรือการเริ่มต้นใหม่เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต เช่น การขยายเครือข่ายเส้นทางการบินให้ครอบคลุมภูมิภาคมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยนำจุดเด่น หรือจุดแข็งของสายการบินมาพัฒนาต่อยอดในการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง มีการจับมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้อื่นๆ รวมทั้งมองหาช่องทางการลงทุนที่เอื้อต่อธุรกิจ หรือสร้างรายได้ให้แก่สายการบิน 
     
“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก ปัจจุบันนี้ผู้คนเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินมากขึ้น แต่สายการบินก็มีจำนวนมาก ทำให้มีทางเลือกเยอะเช่นกัน การแข่งขันในธุรกิจสูง ดังนั้น นกแอร์ต้องปรับปรุงพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น ทำให้แบรนด์แข็งแกร่ง เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้โดยสาร ซึ่งจากแผนธุรกิจของเราเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจฟื้นตัวกลับมาและเติบโตได้อย่างแน่นอน” นายปิยะกล่าวทิ้งท้าย
« Last Edit: August 21, 2018, 02:09:21 PM by wmt »

wmt on August 21, 2018, 02:11:46 PM
Nok Air's turnaround plan gains traction

Bangkok, August 21, 2018 -- Nok Air is gearing up to add new dynamisms to its business rehabilitation plan that has gained ground.

The SET-listed low-cost airline will strive to bring the fundamental achievements made so far into great visibility.“We believe we are in the 'phase of the business stabilizing’, and that set the stage for 'rebuilding' the airline next year,” said Nok Air CEO Piya Yodmani.

He said it is imperative that the plan to restore a strong balance sheet does not lose momentum but gaining impetus.

The heart of Nok Air's business turnaround is about to migrate from being red to black by means of cost control, boosting revenue, efficiency gains, network expansion and the adoption of leaner-but-meaner organization,  he explained.

In the backdrop of hostile operating environment marked intensifying competition, fuel price hike and foreign exchange fluctuations, Nok Air will need to align its business practice and strategy accordingly.

Last year saw Nok Air adopted changes in many fronts along this line and thanks to a capital injection, and that brought about visible results.

Losses based on Nok Air's operation in the first-half of this year narrowed by 14.78% from the same period last year to were THB 774.68 million.

Revenue leaped 2.6% over the same period last year to THB 7.67 billion.

This year will see the airline putting more emphasis on new business initiatives and partnership, greater aircraft utilisation, introduction of longer routes and more international services especially to China, and adjusting flight plans for optimal value, Mr Piya stated.

Moving into a stronger future, Nok Air will next year expand its regional network, forging greater cooperation with business allies and exploring new investment opportunities.

Nok Air is transforming from the low-cost carrier (LCC) business model, in which fare competition is the name of the game, into a "lifestyle" landscape by offering fare and service ranges which match customers’ preferences under the “Choose Your Nok” concept.

To support that move, Nok Air has joined THAI Group in a loyalty programme which allows Nok Fan Club members to earn Royal Orchid Plus (ROP) mileage when travelling with Nok Air. 

These exercises constitute our aspiration to make Nok Air an airline of choice for travellers, he added.

“All in all, Nok Air is on the right track for a foundation building and heading for a robust future," he concluded.