MSN on August 15, 2018, 07:42:30 AM

 
KTAMแนะลงทุนKT-Indiaจับตาเศรษฐกิจอินเดียโตต่อเนื่อง รับเสี่ยงต่ำเสนอล็อคผลตอบแทนKTFF193อายุ1ปียิลด์1.75%


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนเด่นในเดือนสิงหาคม บริษัทขอแนะนำการลงทุนในกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-India ) เนื่องจาก ตัวเลขการเติบโต GDPของอินเดีย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า7% รวมถึงการคาดการณ์ของ IMF และ World Bank เห็นว่าการเติบโต GDP ของอินเดียในอีก1-2 ปีข้างหน้า ก็จะยังคงอยู่ในระดับ7% อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในอินเดีย  มีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ และคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีก3-5 ปี ข้างหน้า ทั้งจากการลงทุนของภาครัฐ ที่เน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการบริโภคภายใน ที่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัญหาเรื่อง  Trade   War ระหว่างสหรัฐและจีน นั้นส่งผลกระทบต่ออินเดียไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

กองทุน KT-India มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมหลัก Invesco India Equity Fund ที่บริหารโดยบริษัท Investco โดยกองทุนรวมหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียน ในตลาดหุ้นของประเทศอินเดีย เน้นการเลือกหุ้นแบบ Bottom up ซึ่งผู้จัดการกองทุนเป็นชาวอินเดีย มีความเข้าใจ และเข้าถึงบริษัทได้ดี โดยเลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก สอดคล้องกับทิศทางเงินเฟ้อที่เริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน นอกจากนิ้ กองทุนรวมหลักได้รับ Morningstar 4 ดาว  ( ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 )

สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2561 YTD (3ม.ค.-10 ส.ค.61 ) อยู่ที่ 13.47%  ย้อนหลัง3 เดือน อยู่ที่ 12.56% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 13.13% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 13.10% เปรียบกับ Benchmark MSCI India10-40 Index NR YTD อยู่ที่ 13.49% ย้อนหลัง3 เดือนอยู่ที่ 13.61% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 12.89% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 13.08%

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 193( KTFF193 ) อายุ 12 เดือน และกองทุนเปิดกรุงไทย ตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 195 ( KTFF195 ) อายุ 6 เดือน  เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2561 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  โดยกองทุน KTFF 193 ลงทุนใน เงินฝากประจำ Agricultural Bank China10 % , Bank  of  China 15% China Construction Bank Asia 10% , Al Khli Bank19 % , Al Khalij Commercial Bank 19% บัตรเงินฝาก Industrial and Commercial Bank of China 8% , China Merchants Bank 5% ,Bank of Communications 5% และ MTN   Mashreq Bank 9%   ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.75% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย

ส่วนกองทุน KTFF195 ลงทุนใน เงินฝากประจำ  Agricultural Bank China   15 %  , Bank  of  China 15% China Construction Bank Asia 10% , Al Khli Bank19 % , Al Khalij Commercial Bank 19% บัตรเงินฝาก Industrial and Commercial Bank of China 5% ,  China Merchants Bank 5% ,Bank of Communications 5% และ MTN  Mashreq Bank 7%  ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.45% ต่อปี โดยทั้ง 2กองทุน บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี  หัก ณ ที่จ่าย
                     
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
« Last Edit: August 15, 2018, 03:08:13 PM by MSN »