news on July 20, 2018, 09:51:12 AM
20 อันดับแอปพลิเคชันยอดนิยมของคนไทยในรอบ 10 ปีบนแอปสโตร์ บริษัทแอปเปิลเปิดตัวแอปสโตร์ (App Store) สำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่าน สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกเมื่อกลาง เดือนกรกฎาคมปี 2008 ในเวลานั้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในอนาคตสิ่ งนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิ ตประจำวันเป็นอย่างมาก ย้อนกลับไปในยุคบุกเบิกของแอปพลิ เคชัน สมาร์ทโฟนถือเป็นสินค้าราคาแพงสำ หรับลูกค้ากลุ่มบนเท่านั้น แต่ปัจจุบันใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ เนื่องจากการแข่งขันของแบรนด์ผู้ผลิตต่างๆ ที่เน้นขยายตลาดด้วยการผลิตสมาร์ ทโฟนในราคาที่จับต้องได้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้กับผู้บ ริโภคทุกกลุ่มทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศที่มีการใช้โทรศัพท์มื อถือมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังเคยเป็นอันดับ 1 ของการทำตลาดผ่านมือถือเป็นช่อง ทางหลัก (mobile-first market) ในปี 2558 จากผลสำรวจของ Google’s 2015 Consumer Barometer ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่สมาร์ทโฟนจะมี จำหน่ายอย่างแพร่หลาย แม้แต่ในร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่น-อีเลฟเว่น
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแอปสโตร์สามารถทำยอด ดาวน์โหลดจากผู้ใช้ทั่วโลกไปแล้ วกว่า 170 พันล้านครั้ง ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 130 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเป็นการร่วมฉลองเดือนแห่งการครบรอบ 10 ปีของแอปสโตร์ บริษัทแอ๊พซินท์ เอเจนซี่ผู้นำแห่งการพัฒนาแอปพ ลิเคชันในประเทศไทย ได้สรุปแนวโน้มตลาดโมบายล์แอปพลิ เคชันในธุรกิจประเภทต่างๆ จาก 20 อันดับแอปพลิเคชันยอดนิยมในรอบ 10 ปีของแอปสโตร์ซึ่งการจัดอันดับในครั้งนี้เป็นการจัดอันดับจากยอ ดดาวน์โหลดแอปของธุรกิจในประเทศ ไทยเท่านั้น โดยไม่รวมแอปพลิเคชันประเภทเกม ซึ่งข้อมูลทั้งหมดของการจัดอันดั บครั้งนี้ถูกรวบรวมโดย App Annie บริษัทผู้นำด้าน วิเคราะห์การใช้งานแอปพลิเคชัน (app analytics) และเก็บข้อมูลทางการตลาดของแอปพ ลิเคชันทั่วโลก
ผลของการจัดอันดับสะท้อนให้เห็น ถึงความหลากหลายของแอปพลิเคชันใ นแต่ละธุรกิจตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรายการโทรทัศน์ ธุรกิจกลุ่มธนาคารซึ่งมีแนวโน้ม ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด ตลอดจนกลุ่มธุรกิจร้านค้าและร้า นอาหารที่เน้นการแชร์ประสบการณ์ ของการใช้บริการ รวมถึงระบบการสะสมแต้มหรือ loyalty program เรียกได้ว่าโมบายล์แอปพลิเคชันนั้ นมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของ คนไทยเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลา10 ปีที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่ องในอนาคต
จากแนวโน้มของตลาดโลกในปัจจุบัน ธุรกิจกลุ่มธนาคารกำลังเผชิญกับ การสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้ กับคู่แข่งที่ทุ่มการลงทุนบนดิ จิทัลแพลตฟอร์มเป็นหลัก รวมถึงกลุ่ม ฟินเทค สตาร์ทอัพ หรือกลุ่มผู้พัฒนาโซลูชั่นทางกา รเงินขนาดเล็ก ที่พยายามเข้ามามีบทบาทในการยึด พื้นที่การให้บริการด้านการเงิน แทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน ในรูปแบบเดิม เช่น การเสนอทางเลือกของ mobile payment หรือการใช้จ่ายเงินผ่านโทรศัพท์ มือถือ โดยผู้บริโภคสามารถเติมเงินในกร ะเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) เพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการต่า งๆ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด เทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นการตัด ระบบการให้บริการของธนาคารแบบเดิ มๆ ออกจากวงจรการใช้งานของผู้บริโภ ค ซึ่งธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยส ามารถรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ ยนแปลงของธุรกิจที่เกิดขึ้นได้ เป็นอย่างดี โดยเร่งลงทุนและพัฒนาดิจิทัลแพล ตฟอร์มของตนเองในช่องทางต่างๆ อีกทั้งยังร่วมมือกับกลุ่ม ฟินเทค สตาร์ทอัพ ในการคิดค้นสินค้าและบริการรูปแ บบใหม่ๆ เพื่อตอบรับการใช้งานที่หลากหลา ยของผู้บริโภคในอนาคต จึงเป็นผลให้ธนาคารกสิกรไทยและธ นาคารไทยพาณิชย์ครองตำแหน่ง 2 อันดับแอปพลิเคชันยอดนิยมจากทั้ ง 20 อันดับ
คุณพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “จุดแข็งที่ทำให้ K PLUS แตกต่างจากแอปของธนาคารอื่นก็คื อ เราให้ความสำคัญในการใช้งานแบบโ มบายล์เฟิร์ส โดยเน้นสร้างประสบการณ์การใช้งา นแบบใหม่ ผ่าน Personalization ฟีเจอร์ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบ โจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่ หลากหลาย โดยธนาคารกสิกรไทยมีความมุ่งมั่ นที่จะพัฒนาแอปพลิเคชันให้มีประ สิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิมในปี ต่อๆไป เพื่อให้ K PLUS คงความเป็นแอปที่ตอบสนองดิจิตอล ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุกๆ วัน”
ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ก็เล็งเห็นเช่นกันว่ากลยุทธ์การ ตลาดแบบ Personalization (การปรับแต่งคุณสมบัติในแอปให้ต รงตามความชอบของแต่ละบุคคล) นั้นเป็นส่วนสำคัญของการสร้างคว ามพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค โดยการใช้โมบายล์เป็นช่องทางหลั กในการให้บริการ
คุณธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสาย Digital Banking กล่าวว่า “SCB EASY ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริก าร โดยเชื่อมโยงบริการทางการเงินทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอ ย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความสำเร็จของ SCB EASY คือ บทพิสูจน์ของความทุ่มเทในการพัฒ นาแอปพลิเคชันที่สามารถรองรับพฤ ติกรรมการใช้งานและความต้องการข องผู้บริโภคอย่างรอบด้าน เพราะเราเล็งเห็นว่าผู้บริโภคไม่ ได้เจาะจงการใช้งานเพียงช่ องทางใดช่องทางหนึ่ง แต่จะเลือกใช้งานบนช่องทางที่สะ ดวกที่สุดในขณะนั้น เราจึงต้องสร้างทางเลือกของการใ ช้บริการที่หลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโ ภคในทุกที่ ทุกเวลา”
ขณะที่ Alternative banking หรือกลุ่มทางเลือกใหม่ของผู้ให้ บริการด้านการเงิน เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญแทนที่ธุ รกิจการเงินแบบเดิมๆ TrueMoney Wallet ผู้ครองอันดับ 5 ของชาร์ต ถือเป็นผู้นำของการให้บริการใช้ จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในร้านค้ า การจ่ายบิลด้วยการแสกน แม้แต่การเติมเงินโทรศัพท์มือถื อก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันเ ดียวกันนี้ได้ นอกจากการเติมเงินเข้า TrueMoney Wallet ด้วยเงินสดแล้ว ผู้ที่มีบัญชีธนาคารก็สามารถผูก บัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัล กับบัญชีธนาคารเพื่อใช้การเติมเ งินแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย ถือเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้บริ การด้านการเงินที่สะดวกสบายกว่ าการใช้บริการกับธนาคารแบบเดิมๆ
อันดับที่ 3 ของชาร์ต ถือเป็นอีกหนึ่งอันดับที่น่าสนใ จ เพราะเป็นเพียงแอปพลิเคชันเดียว ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักพัฒนาอิสร ะ และกลายเป็นแอปยอดนิยมของคนไทยทั่ วประเทศในที่สุด TV Thailand นั้นเป็นแอปที่ให้บริการในการรั บชมละครฮิต การ์ตูน และมิวสิกวิดีโอ ในทุกที่ ทุกเวลา ผลสำรวจระบุว่ากว่า 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทย ดูวิดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือทุกวั น และ 81% ดูอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ จึงไม่น่าแปลกใจที่แอปผู้ให้บริ การวิดีโอสตรีมมิ่ง จะติด 20 อันดับยอดนิยม ถึง 4 แอปด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ Thai TV3 app ตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Mello ซึ่งเป็นเพียงแอปเดียวที่ถ่ายทอ ดคอนเทนต์โดยตรงจากผู้ผลิตรายกา รทีวีชั้นนำของประเทศ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า การที่จะผลิตแอปพลิเคชันให้ประส บผลสำเร็จได้ในตลาดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการลงทุนที่มห าศาลหรือความยิ่งใหญ่ของธุรกิจ หากแต่ขึ้นอยู่กับการให้บริการกั บผู้บริโภคอย่างตรงจุด
อีกหนึ่งแอปในชาร์ตที่น่าสนใจคือ Wongnai ซึ่งเป็นหนึ่งในสองของสตาร์ทอัพ ที่ทำตลาดผ่านมือถือเป็นช่องทาง แรก (mobile-first startups) ที่ติดอันดับ 20 แอปยอดนิยม โดย Wongnai แอปพลิเคชัน เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 เริ่มต้นจากการเป็นอินดี้แอปที่ รวบรวมข้อมูลร้านอาหารเด็ดๆ ในประเทศไทย ถึงวันนี้ Wongnai ประสบความสำเร็จในการเป็นกูรูร้ านอาหารอันดับ 1 ในไทย โดยที่แอปพลิเคชันมียอดดาวน์โหล ดสูงเป็นอันดับ 9 ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
นายยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอ วงในเผยเคล็ดลับความสำเร็จว่า “สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดของแอพ เราก็คือ มันช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาร้านอา หารชื่อดังในละแวกใกล้เคียงได้ อย่างทันที เป็นฟีเจอร์ที่ทุกคนชอบเพราะตอบ โจทย์ความต้องการของพวกเค้าได้ จริงๆ”
อีกหนึ่ง mobile-first startup ในชาร์ตก็คือ Kaidee ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันตลาดมือสองบ นดิจิทัลแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่สุ ดในประเทศไทย กว่า 50% ของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มต่อเดือนคื อผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ถ้าคิดเป็นจำนวนครั้งจะมากถึง 30 ล้านครั้ง นี่คือเหตุผลที่ทำให้แอปนี้ติดอั นดับที่ 8 ใน 20 อันดับต้น โดยมียอดดาวน์โหลดทั้งหมดกว่า 12 ล้านครั้ง แอป Kaidee ถือเป็นหัวใจหลักในการเติบโตที่ รวดเร็วของบริษัท เช่นเดียวกับที่คุณทิวา ยอร์ค Head Coach/CEO ได้ให้ความเห็นกับทาง Appsynth
“ตั้งแต่ปี 2556 Kaidee วางแผนพัฒนาการตลาดแบบ app-first ซึ่งเน้นโมบายล์เป็นแพลตฟอร์มหลั ก การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคั ญที่ทำให้เราได้ทำความรู้จั กและเข้าใจความต้องการของผู้บริ โภค รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่พึ่งเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ตครั้งแรกผ่า นสมาร์ทโฟน ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ Kaidee มีผู้ใช้งานผ่านโมบายล์แอปมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ ความสำเร็จครั้งนี้มาจากความมุ่ งมั่นในการสร้างประสบการณ์การซื้อ-ขาย ที่ง่ายและเร็วที่สุดสำหรับคนไท ยเป็นหลัก”
จากแพลตฟอร์มการซื้อ-ขายออนไลน์ มาถึงธุรกิจสายการบินกันบ้าง นกแอร์ หนึ่งในสายการบินประเภทโลว์คอส ของไทยเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่ติ ดยี่สิบอันดับแรกด้วยการให้บริ การเส้นทางการบินที่ครอบคลุมและ แผนการตลาดที่เจาะจงไปยังผู้บริ โภคหลากหลายกลุ่ม ทำให้นกแอร์เป็นทางเลือกอันดับต้ นๆ ของผู้บริโภค นอกจากนั้น นกแอร์ยังให้ความสำคัญกับการให้ บริการผ่านโมบายล์ที่สะดวก ในทุกที่ ทุกเวลา จึงไม่น่าแปลกที่แอปนกแอร์ จะเป็นโมบายล์แอปพลิเคชันที่ได้ รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาสาย การบินภายในประเทศอื่นๆ
และสุดท้าย แอปหนึ่งเดียวที่ติด 20 อันดับแรก ในธุรกิจประเภทร้านค้าปลีก คือ เซเว่น-อีเลฟเว่น ผู้นำตลาดกลุ่มร้านสะดวกซื้อในป ระเทศไทย โดย เซเว่น-อีเลฟเว่น ได้ก้าวเข้ามาบนโมบายล์แพลตฟอร์ มเพียงไม่นาน แต่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอ ย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก แอป 7-Eleven TH เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การใช้ จ่ายในร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น นั้นสะดวกสบายมากขึ้นกับผู้บริโ ภค ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การสะสมแสตม ป์ดิจิทัลผ่านแอป ที่ง่ายกว่าการสะสมแสตมป์กระดาษ แบบเดิมๆ รวมถึงการเข้าถึงโปรโมชั่น กิจกรรม และส่วนลดพิเศษอื่นๆ อีกมากมายผ่าน 7Rewards ซึ่งเป็น loyalty campaign หลักภายในแอป สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้ งานแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นอย่างต่ อเนื่องในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี ที่ผ่านมา ปัจจุบันแอป 7-Eleven TH ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเป็นหนึ่งใน 5 อันดับต้นของแอปพลิเคชันยอดนิยม ในปี 2561 ด้วย
พร้อมกันนี้มิสเตอร์โรเบิร์ต แกลลาเกอร์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบ ริษัทแอ๊พซินท์ ได้ให้ความเห็นว่า “กว่า 71% ของคนไทยในปัจจุบันใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งแอปพลิเคชันมีบทบาทอย่างมาก ในการเปลี่ยนรูปแบบการซื้อสินค้ าและบริการ การติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้ธุรกิจชั้นนำด้านต่า งๆ จึงหันมาใช้โมบายล์เป็นช่องทางห ลักในการส่งเสริมธุรกิจบนโลกดิ จิทัล”
เกี่ยวกับแอ๊พซินท์ (Appsynth)
แอ๊พซินท์ คือเอเจนซี่ผู้นำแห่งการพัฒนาแอ ปพลิเคชันในประเทศไทย ให้บริการด้านการพัฒนาและการตลา ดอย่างเต็มรูปแบบ กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศกว่ า เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น, ไลน์, ทรู, โตโยต้า, กรุงไทย แอ๊กซ่า, คาสิโอ, บริติช เคาน์ซิล และธนาคาร เดอะรอยัลแบงค์อ๊อฟสกอตแลนด์ ปัจจุบัน แอ๊พซินท์ ได้ให้บริการลูกค้าทั่วโลกกว่า 15 ประเทศ สร้างผลกำไรกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ และสร้างยอดดาวน์โหลดให้กับลูกค้ ารวมกันกว่า 30 ล้านครั้ง
ดูข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.appsynth.net
เกี่ยวกับ App Annie
App Annie คือบริษัทผู้นำด้านวิเคราะห์และ เก็บข้อมูลทางการตลาดของแอปพลิ เคชันทั่วโลก โดยสมาชิกมากกว่า 1 ล้านรายใช้ข้อมูลจาก App Annie เพื่อทำความเข้าใจตลาดแอปพลิเคชั นในธุรกิจของตนและโอกาสทางธุรกิ จอื่นๆรอบด้าน สำนักงานใหญ่ของ App Annie ตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งมีทีมงานกว่า 450 คน ใน 15 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ App Annie ยังเคยได้รับเงินทุนกว่า 157 ล้านเหรียญสหรัฐ จากหลายผู้ลงทุนชั้นนำของโลก เช่น e.ventures, Greenspring Associates, Greycroft Partners, IDG Capital Partners, Institutional Venture Partners และ Sequoia Capital
ดูข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.appannie.com
ข้อมูลอ้างอิง
- ผลสำรวจ Google Barometer ในปี 2015 และ 2017
- รายงานจาก We Are Social Global Digital Report ปี 2018
« Last Edit: July 26, 2018, 10:09:56 PM by news »
Logged