MSN on June 13, 2018, 09:21:12 AM
“บอย โกสิยพงษ์-นภ พรชำนิ” เอาจริง!!! ย้ำโลกสวยมีอยู่จริง เปิดตัว “ไลฟ์อีส” ธุรกิจปลูกความดี โมเดลสังคมแห่งการเกื้อกูล “บอย โกสิยพงษ์” นำทีมผู้บริหารแนวคิดใหม่ “นภ พรชำนิ” พร้องกองหนุนทำเซอร์ไพรส์เปิดตัวบริษัท ไลฟ์อีส (LIFEiS) สร้างโมเดลแห่งการปลูกความดี หวังสร้างสังคมไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิด “ปลูกอะไรก็ได้อย่างนั้น” ผ่าน 3 คอนเซปท์หลัก คือ 1. Life stage ออกแบบให้สอดรับกับทุกช่วงวัยในชีวิต 2. Life supplement การเติมวิตามินบำรุงจิตใจให้ตรงตามแต่ละช่วงวัย 3. Lifestyle การให้กิจกรรมนั้นๆเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำรงชีวิต
บอย โกสิยพงษ์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไลฟ์อีส กรุ๊ป จำกัด (LIFEiS) กล่าวถึงการก่อตั้งไลฟ์อีสว่า “เกิดจากเมื่อหลายปีก่อนผมเห็นคนไทยทะเลาะกัน มีการด่าทอกันแรงๆ คนใช้คำหยาบกันเยอะมาก ยิ่งมีโซเซี่ยลยิ่งทำให้สะท้อนถึงความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลผลิตของสิ่งเหล่านี้เกิดจากการปลูกฝังในอดีตที่เราปลูกกันมา 20-30 ปีก่อน ทุกวันนี้ความเกลียดชังมีอยู่ทั่วโลกแต่เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่เราเชื่อในทฤษฎีของการเกษตรที่ว่า”ปลูกอะไรได้อย่างนั้น” ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปลูกความรัก ความรู้ ความเกื้อกูล ความเมตตา ตอนนี้ผมอายุ 50 ปีแล้วคิดว่าอีก 10 ปีที่เหลือผมอยากจะทำอะไรดีๆเพื่อสังคม ทำให้กับโลกเรา ให้กับลูกหลานเรา จึงตั้งเป็น บริษัท ไลฟ์อีส กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นโซเชี่ยล บิสสิเนส คือเป็นธุรกิจเพื่อสังคม เราขอเป็นคนทำตรงนี้ก่อนเพราะเราเชื่อว่าถ้ามีคนเริ่มและทำได้สำเร็จก็จะมีคนทำตามต่อไป ผมเคยได้ยินปรัชญาที่สะท้อนใจว่า...ความมืดไม่ได้มีอยู่จริงแต่เป็นเพราะความสว่างมันอยู่ห่างไกล ดังนั้น ความชั่ว ความเลว ความเกลียดชัง ก็ไม่ควรมีอยู่จริง แต่เพราะความดี ความเมตตา อยู่ห่างไกล จริงๆโลกมันสวย เพียงแต่หลายคนอาจจะเจอกับด้านมืดเลยคิดว่าโลกมันเป็นแบบนั้น เราจึงไม่ลังเลที่จะสร้างและลงมือทำ ไลฟ์อีส ในวันนี้ เพื่อที่เราจะได้สังคมแห่งการเกื้อกูลในอนาคต”
นายนภ พรชำนิ ซีอีโอ กล่าวว่า “เชื่อสิ่งที่พี่บอยพูด คือ เราปลูกสิ่งดีๆวันนี้ อนาคตเราจะได้เก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ ไลฟ์อีสเกิดจากการคิดวิเคราะห์หลายด้าน ไม่ใช่แค่คิดว่าจะทำ แต่ได้ผ่านไอเดียต่างๆ จากพวกเราและทีมงานทุกคน ความฝันพี่บอยมีอยู่มากแต่ผมขออาสาทำตรงนี้ ไลฟ์อีสจะเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนมุมมองของคนเราผ่านอีเวนต์ ต่างๆที่เรานำเสนอ และเร็วๆนี้ที่ไลฟ์อีสจะทำ คือ STAYING IN LOVE ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้”
นายบอย โกสิยพงษ์ กล่าวเสริมถึง STAYING IN LOVE ว่า “ก่อนที่จะขับรถเป็นเรายังต้องไปเรียนหัดขับรถก่อน แต่ก่อนแต่งงานไม่เคยมีใครมาสอนการใช้ชีวิตคู่ คนจะแต่งงานเขาจะรู้แค่ว่าเขาจะถ่ายพรีเวดดิ้งที่ไหน จัดงานโรงแรมอะไร ทำให้ชีวิตคู่บางคนจึงเกิดอุบัติเหตุแห่งความสุข เราอยากเชิญคู่รักที่แต่งงานแล้วมาร่วมฟัง ผมมองความรักก็เหมือนกับการเติมน้ำมันรถ ถ้าเราเติมน้ำมันผิด รถก็พัง ดังนั้นหากเรารู้ภาษาของคู่รักเรา เราจะเข้าใจกันได้ดีขึ้น STAYING IN LOVE นี้เราได้คุณไลฟ์-วาระ มีชูธน มาพูดในเรื่องชีวิตและความรักซึ่งคุณไลฟ์เรียนมาทางด้านการให้คำปรึกษาเรื่องการใช้ชีวิตคู่โดยเฉพาะ ส่วนผมจะพูดถึงประสบการณ์จริงของชีวิตการแต่งงาน ในงานเราจะมีการเสิร์ฟเพลงรักด้วย ลองเข้าไปดูรายละเอียดงานในเฟซบุ๊ก ไลฟ์อีส กรุ๊ป ได้ทาง www.facebook.com/lifeisgroup”
นางสาวปรารถนา จริยวิลาศกุล ผู้บริหารด้าน Branding Communication กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมของไลฟ์อีสจะออกแบบขึ้นมาภายใต้ 3 คอนเซปท์หลัก คือ 1. Life Stage เพราะคนแต่ละช่วงวัยมีความต้องการ การเติบโต และมีความกดดันที่แตกต่างกัน ไลฟ์อีสจึงออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมกับกลุ่มคนในแต่ละช่วงวัย โดยในเบื้องต้นนี้ เราแบ่งออกเป็น 8 ช่วงวัยตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงวัย 2.Life Supplement คือการเติมวิตามินบำรุงจิตใจที่แต่ละช่วงวัยต้องการต่างกัน แต่ละกิจกรรมจะถูกออกแบบให้สามารถเติมเต็มความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยผ่านผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ และ 3. Lifestyle แต่ละอีเวนต์จะมีศิลปินที่เป็นตัวแทนของคนแต่ละช่วงวัยเพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูลพร้อมพ่วงการสร้างความบันเทิง เพราะความบันเทิงสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ดีกว่าการบอกเล่าธรรมดา
นายชาตรี ซาบาโด ศรีวิจิตร ผู้บริหารด้าน Business Model กล่าวว่า ไลฟ์อีสเกิดจากความเชื่อของพี่บอยที่ว่า 1.แสงสว่างมีอยู่จริง 2.ทุกคนมีความต้องการที่จะให้ และ 3.การให้ไม่ว่ามากหรือน้อยก็มีสิทธิ์ได้รับสิ่งดีๆตอบแทน โมเดลธุรกิจจึงออกแบบออกเป็น 3 ช่วงให้สอดคล้องกับแนวคิดนี้ โดยช่วงแรกเราจะมีกิจกรรมเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าความหวังที่จะทำให้สังคมกลับมาดีอีกครั้งมีอยู่จริง หลังจากนั้นเราจึงจะเริ่มเชื่อมกับหน่วยงาน SE เพื่อให้เกิดการเกื้อกูลกันอย่างแข็งแรงและมีระบบมากขึ้น และสุดท้ายเมื่อ SE แข็งแรงและสามารถยืนได้ด้วยตัวเองบ้างแล้วก็จะเริ่มเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจให้มารถเข้ามาลงทุนใน SE ได้มากขึ้น การทำธุรกิจของไลฟ์อีสจะแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่เขาเริ่มต้นที่ปลายทาง แต่ไลฟ์อีสเริ่มต้นที่ต้นทาง ไลฟ์อีสพร้อมจะเอากลุ่มคนมาทำความดีร่วมกันโดยบริษัทเป็นตัวเชื่อมให้พวกเขาได้เห็นแสงสว่างร่วมกัน
สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปี 2561 นายนภ พรชำนิ กล่าวว่า “เรามีกิจกรรมหลายช่วงอายุ อย่าง Staying in love ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เรามองเห็นว่าประเทศไทยมีคนแต่งงานปีหนึ่ง 200,000 กว่าคู่ เราก็จะเอาอีเวนต์ขยายไปตามเมืองต่างๆเพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ของคู่รักให้แข็งแรงขึ้น ในช่วงเด็กอายุ 0-5 ปีก็มี คุณเพลิน ประทุมมาศ (พรชำนิ) เป็นผู้มาออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็ก โดยนำเสนอผ่านรายการทีวีสำหรับเด็กที่มีเพลินและเดอะแก๊งของเขาร่วมทำรายการ ซึ่งพ่อแม่ที่ดูรายการก็จะนำกิจกรรมเหล่านั้นไปพัฒนาลูก แล้วเราก็จะมีการจัดอีเว้นต์ให้พ่อแม่และเด็กได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน สำหรับเด็กช่วงประถม 1 – 6 จะมี คุณโต๋ - ศักดิสิทธิ์ เวชสุภาพร มาฝึกฝนสมาธิผ่านดนตรี ช่วงมัธยมหรืออาชีวะก็มี คุณอุ๋ย - บุดด้าเบลส มาพูดถึงชีวิตวัยรุ่นที่เขาก็เคยผ่านมาก่อน ช่วงมหาวิทยาลัย มีคุณหนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ มาชวนน้องๆ ค้นหาตัวเอง ช่วงผู้สูงวัยมี คุณอาต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา และพี่ปุ๊ - อัญชลี จงคดีกิจ มาสอนการวางแผนชีวิตวัยเกษียณ”
บอย โกสิยพงษ์ กล่าวว่า “สำหรับกลุ่มคนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับไลฟ์อีสจะเป็นกลุ่มแฟนเพลงของเลิฟอีสซึ่งคนกลุ่มนี้เขารู้จักเลิฟอีสเป็นอย่างดี เมื่อพ่อแม่ฟังเขาก็จะให้ลูกๆฟัง ผมเชื่อว่าหากเราร่วมกันปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ที่ดีไปในจิตใจของเด็กหรือคนรุ่นใหม่ในประเทศก็น่าจะมีโอกาสเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆในอนาคตได้อย่างแน่นอน”
« Last Edit: June 13, 2018, 03:36:41 PM by MSN »
Logged