ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส และ แอมบลิน เอนเตอร์เทนเมนต์ ภูมิใจเสนอ
ผลงานความร่วมมือกับ ลีเจนดารี่ พิคเจอร์ส / เพอร์เฟ็กต์ เวิลด์ เอนเตอร์เทนเมนต์
JURASSIC WORLD: FALLEN KINGDOM
คริส แพร็ตต์
ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด
เรฟ สปอลล์
จัสติซ สมิธ
แดนีลล่า พิเนด้า
เจมส์ ครอมเวลล์
โทบี้ โจนส์
เท็ด เลวิน
บีดี หว่อง
อิซาเบลล่า เซอร์ม่อน
เจอรัลดีน แชปลิน
และ
เจฟฟ์ โกลด์บลัม
ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
สตีเว่น สปีลเบิร์ก
โคลิน เทรวอร์โรว์
อำนวยการสร้างโดย
แฟรงก์ มาร์แชลล์, P.G.A.
แพทริค โครว์ลี่ย์
เบเลน อาเทียนซ่า, P.G.A.
สร้างจากตัวละครที่สร้างสรรค์โดย
ไมเคิล ไครชตัน
เขียนบทโดย
เดอเร็ก คอนโนลลี่ และโคลิน เทรวอร์โรว์
กำกับโดย เจเอ บาโจน่า
ชื่อภาพยนตร์: JURASSIC WORLD: FALLEN KINGDOM
ชื่อไทย: จูราสสิค เวิลด์:อาณาจักรล่มสลาย
วันที่เข้าฉาย: 7 มิถุนายน 2562
จัดจำหน่าย: บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด2 นักแสดงนำทักทายแฟน ๆ ชาวไทย
https://www.youtube.com/watch?v=IELEJ3BKnxUตัวอย่างภาพยนตร์
https://www.youtube.com/watch?v=hD_zoGiyBTEสัมภาษณ์นักแสดงนำ
https://www.youtube.com/watch?v=pDivXwCMIIQ&t=121sเบื้องหลังงานสร้างเป็นเวลานานถึงสามปีแล้ว นับแต่ที่สวนสนุกและรีสอร์ทสุดหรู จูราสสิค เวิลด์ โดนไดโนเสาร์ที่หลุดออกมาจากที่คุมขัง ทำลายจนพินาศ บัดนี้ เกาะอีสลานูบลาร์ถูกมนุษย์ทอดทิ้ง ขณะที่ไดโนเสาร์ที่รอดชีวิต ต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองอยู่ในป่า
เมื่อภูเขาไฟยักษ์บนเกาะเริ่มส่งเสียงคำราม โอเว่น (คริส แพร็ตต์) และแคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด) ต้องช่วยกันรณรงค์เพื่อช่วยไดโนเสาร์ที่ยังเหลือรอดอยู่ให้พ้นจากเหตุภัยพิบัติที่อาจทำให้เหล่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ โอเว่นอยากตามหาบลู แร็ปเตอร์จ่าฝูงที่ยังคงหายตัวไปในป่า ขณะที่ แคลร์ มีความนับถือต่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ จนตอนนี้เธอถือว่ามันคือภารกิจที่ต้องช่วยพวกมัน พวกเขามาถึงเกาะที่แสนอันตรายขณะลาวาเริ่มกระจายพุ่งไปทั่ว แต่แล้ว การเดินทางของพวกเขากลับเผยให้เห็นถึงแผนสมคบคิดที่อาจเปลี่ยนโลกใบนี้ให้กลายเป็นแดนอันตรายในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นนับแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ด้วยความมหัศจรรย์ การผจญภัย และความตื่นเต้นที่ผสานไปพร้อมกับการเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ชุดที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้จะทำให้คนดูได้พบกับการกลับมาของเหล่าตัวละครและเหล่าไดโนเสาร์ที่พวกเขาชื่นชอบ รวมถึงไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่ทั้งให้แรงบันดาลใจและสร้างความน่าสะพรึงยิ่งกว่าที่เคยมีมา
ขอต้อนรับสู่ Jurassic World: Fallen Kingdom
แพร็ตต์และฮาวเวิร์ด กลับมารับบทนำ โดยร่วมงานกับทีมผู้อำนวยการสร้างบริหารชุดเดิมอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก และโคลิน เทรวอร์โรว์ จากฝีมือการกำกับของ เจเอ บาโจน่า (The Impossible, The Orphanage), Jurassic World: Fallen Kingdom เขียนบทโดย เทรวอร์โรว์ ผู้กำกับของภาพยนตร์ Jurassic World และเดอเร็ก คอนโนลลี่ ร่วมเขียนบทด้วย ผู้อำนวยการสร้าง แฟรงก์ มาร์แชลล์ และแพทริค โครว์ลี่ย์ จับมือร่วมงานกับสปีลเบิร์กและเทรวอร์โรว์ นำทีมผู้สร้างสรรค์ให้กับผลงานอันสุดตระการตาเรื่องนี้ เบเลน อาเทียนซ่า เข้าร่วมทีมในฐานะผู้อำนวยการสร้าง
ที่เข้ามาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือ เจมส์ ครอมเวลล์ (Babe) ในบท เบนจามิน ล็อควู้ด มหาเศรษฐีนักลงทุนที่เคยเป็นหุ้นส่วนของ ดร. จอห์น แฮมมอนด์ เมื่อตอนที่สร้างจูราสสิค พาร์ค, จัสติซ สมิธ (The Get Down) รับบท แฟรงกลิน เว็บบ์ มือแฮ็คเกอร์ของแคลร์ในกลุ่มปกป้องไดโนเสาร์ ผู้รู้สึกสบายใจกับการนั่งทำงานอยู่ที่บ้านมากกว่าจะออกมาเป็นขาลุย, แดนีลล่า พิเนด้า (The Detour) รับบทดร.เซีย ร็อดริเกซ สัตวแพทย์สัตว์โบราณคนเก่งที่ความเชี่ยวชาญของเธอไม่เคยผ่านการทดสอบกับไดโนเสาร์ตัวเป็นๆ มาก่อน, เรฟ สปอลล์ (Prometheus) รับบท อีไล มิลล์ส มือขวาของล็อควู้ดที่เรียกตัว แคลร์และโอเว่น ให้มาช่วยนำไดโนเสาร์ไปศูนย์อนุรักษ์ส่วนตัว, เท็ด เลวิน (Shutter Island) รับบท วีทลี่ย์ ทหารรับจ้างสุดโหดที่มิลล์สให้เป็นผู้นำปฏิบัติการที่เกาะอีสลานูบลาร์, โทบี้ โจนส์ (Captain America series) รับบทเอฟเวอร์ซอลล์ ที่มิลล์สดึงตัวมาเพื่อให้ดูแลปฏิบัติการที่คฤหาสน์ของล็อควู้ดหลังภารกิจช่วยเหลือ, เจอรัลดีน แชปลิน (A Monster Calls) รับบท ไอริส แม่บ้านที่คอยดูแลคฤหาสน์ล็อควู้ด และยังเป็นผู้เก็บงำความลับของครอบครัวนี้ และอิซาเบลล่า เซอร์มอน ผู้ประเดิมงานแสดงชิ้นแรกด้วยการรับบทเป็นหลานสาวที่มองโลกในแง่ดีของล็อควู้ด เมซี่ เด็กหญิงวัย 10 ขวบที่ใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้มาทั้งชีวิต
สองนักแสดง บีดี หว่อง และเจฟฟ์ โกลด์บลัม กลับมารับบทเดิมของพวกเขา ในบท ดร.เฮนรี่ วู และดร.เอียน มัลคอล์ม โดย วู ก็คือนักพันธุศาสตร์โลภมากที่เคยทำงานกับอินเจน และยังคงพยายามสร้างชื่อเสียงในแวดวงวิทยาศาสตร์ สำหรับบทบาทของเขา นักคณิตศาสตร์ท่าทางเพี้ยนๆ อย่างมัลคอล์ม เขาเคยทำนายถึงชะตากรรมของ จูราสสิค พาร์ค ของแฮมมอนด์ เอาไว้เมื่อเกือบ 25 ปีก่อน และการนำเสนอทฤษฎีความยุ่งเหยิงของเขา และการทำนายถึงคนที่ใช้อำนาจไปในทางที่ผิด จะได้รับการพิสูจน์ว่ามันเป็นจริง โดยเฉพาะเมื่อโอเว่นและแคลร์ค้นพบเกมที่อันตรายที่สุด
บาโจน่าได้รวบรวมกองทัพทีมงานฝีมือดี ซึ่งนำทีมโดยผู้กำกับภาพ ออสการ์ ฟอร่า (A Monster Calls, The Orphanage), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ แอนดี้ นิโคลสัน (Gravity, Captain America: The First Avenger), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แซมมี่ เชลดอน ดิฟเฟอร์ (Ex Machina, Imitation Game), ซูเปอร์ไวเซอร์ที่สร้างสรรค์เอฟเฟ็กต์ไดโนเสาร์ เจ้าของรางวัลออสการ์ นีล สแคนแลน (Star Wars Episode VII: The Force Awakens, Rogue One: A Star Wars Story) และผู้แต่งดนตรีประกอบเจ้าของรางวัลออสการ์ ไมเคิล จิแอ็คชิโน่ (Up, Jurassic World) ดนตรีที่เป็นงานธีมของ Jurassic Park เป็นฝีมือของเจ้าของ 5 รางวัลออสการ์ จอห์น วิลเลี่ยมส์ (ภาพยนตร์ชุด Star Wars, ภาพยนตร์ชุด Harry Potter)
Jurassic World: Fallen Kingdom ถ่ายทำกันในสหราชอาณาจักร และหมู่เกาะฮาวายเบื้องหลังงานสร้างลาก่อน อีสลา นูบลาร์:
Fallen Kingdom ถือกำเนิด
มันอาจดูเหมือนยากที่จะเชื่อ แต่เมื่อตอนที่ทีมผู้สร้างที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ปี 2015 เรื่อง Jurassic World เริ่มต้นงานสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขายังไม่รู้เลยว่าภารกิจแห่งรักที่พวกเขาทำครั้งนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในห้าภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล สำหรับ Jurassic World ผู้กำกับ โคลิน เทรวอร์โรว์ ซึ่งร่วมเขียนบทให้กับภาพยนตร์ภาคที่แล้ว และยังกลับมาทำหน้าที่ผู้ร่วมเขียนบท และบัดนี้ ยังทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารให้กับ Jurassic World: Fallen Kingdom ด้วยนั้น การนำภาพยนตร์ชุดที่เคยทำให้เขาประทับใจตั้งแต่สมัยเด็ก มาสร้างใหม่ เขาได้จินตนาการเอาไว้ให้เป็นภาพยนตร์ไตรภาค เทรวอร์โรว์พร้อมด้วยผู้ร่วมเขียนบท เดอเร็ก คอนโนลลี่ รู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้นำเอาเรื่องราวของ ไมเคิล ไครชตัน และผลงานการสร้างสรรค์ระดับโลกของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก มาสรรค์สร้างสู่ระดับใหม่ที่คาดไม่ถึงและเต็มไปด้วยอันตราย
เมื่อการออกทัวร์แถลงข่าวทั่วโลกจบลง และปล่อยให้คนดูเฉลิมฉลองต่อความสำเร็จระดับที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งนี้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เริ่มกลับไปทำงานอีกครั้ง “ประมาณสองอาทิตย์หลังจาก Jurassic World เปิดตัวฉาย ผมใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส กับครอบครัวผม และต้องขับรถกลับไปบ้านของเราในเวอร์มอนต์” เทรวอร์โรว์เล่า “ผมถามเดอเร็กว่าเขาจะนั่งรถไปกับผมไหม เราจะได้ใช้เวลาระหว่างเดินทางข้ามฝั่งประเทศพูดคุยกันว่าเรื่องนี้จะเดินหน้าไปทางไหนได้บ้าง ผมมีไอเดียพื้นๆ ที่ผมอยากนำเสนอกับเขา ในที่ที่เราสามารถที่จะคิดอย่างอิสระ และรู้สึกแปลกกับสิ่งที่อนาคตจะเป็นไปได้”
ด้วยความเชื่อมั่นจากความสำเร็จอย่างมหาศาลของภาพยนตร์เรื่องนี้ และความเชื่อมั่นของสปีลเบิร์กในการเล่าเรื่องของพวกเขา ทั้งคู่จึงออกเดินทางเพื่อพูดคุยกันถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปกับอดีตผู้ฝึกแร็ปเตอร์อย่าง โอเว่น, ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการอย่าง แคลร์ และไดโนเสาร์หลายพันตัวที่เดินไปมาอยู่บนเกาะ และที่บินอยู่เหนือเกาะอีสลา นูบลาร์ “สตีเว่นบอกเราว่า ‘ลองเล่าถึงสิ่งที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นไปได้หน่อยซิ คุณคิดว่าตัวละครเหล่านี้ควรจะเดินทางไปไหน และเราควรพาพวกเขาไปในทิศทางไหน’” เทรวอร์โรว์เล่า “ดังนั้นเราก็เลยขับรถไปเวอร์มอนต์ และในระหว่างทาง เราก็คิดเรื่องที่กลายมาเป็น Fallen Kingdom ขึ้นมาครับ”
ในขณะที่ Jurassic World นำเสนอสวนสนุกที่ดูจะมีอนาคต และนำพาไปสู่ชีวิตที่น่าสยดสยอง เทรวอร์โรว์รู้ดีว่าเรื่องราวบทต่อไป สามารถเล่นกับธีมที่มันเลวร้ายได้มากขึ้น นักเล่าเรื่องที่สร้างชื่อด้วยผลงานอย่าง Safety Not Guaranteed รู้สึกอยากรู้ว่าการมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ขัดแย้งจะเป็นอย่างไร “ไดโนเสาร์พวกนี้เคยอยู่ในโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน บัดนี้ พวกมันอยู่ในที่ที่แปลกหน้าสำหรับพวกมันอย่างแท้จริง” เทรวอร์โรว์เล่า “ผมคิดว่ามีอยู่วิธีหนึ่งที่เราสามารถเล่าเรื่องราวที่เป็นมุมมองของมนุษย์ได้ คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณถูกนำมาสู่โลกที่ไม่ใช่โลกของคุณ เพียงเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับคนอื่น นั่นคือสิ่งที่เรายังไม่เคยนำเสนอกันมาก่อน และมันก็คือสิ่งที่เรารู้ดีว่าภาพยนตร์เหล่านี้จะได้ประโยชน์ได้”
ขณะที่มือเขียนบททั้งสองออกแบบองก์ที่ 2 ของเรื่อง พวกเขาก็เริ่มวางแผลว่าจะพาคนดูไปยังจุดไหน ด้วยความโลภของนักลงทุนที่พยายามเล่นบทพระเจ้า กับแขกที่มาเยือนสวนสนุกแห่งนี้ที่พากันทุ่มเงินทอง จูราสสิคเวิลด์จึงถูกทำลายลงอย่างสิ้นซาก ทีมเขียนบทรู้ดีว่ายังมีพื้นที่นอกเกาะที่พวกเขาสามารถนำเสนอได้ โดยพวกเขาได้หว่านเมล็ดพันธุ์เอาไว้มานานหลายปีแล้ว “ผลของการทำลายล้างนั้นเป็นอย่างไร แล้วก้าวต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร” เทรวอร์โรว์ตั้งคำถาม “โชคดีที่มีเงื่อนงำมากมายที่เราได้วางเอาไว้ในภาพยนตร์ภาคที่แล้ว ทั้งในส่วนของแผนที่และในเว็บไซต์ ในหลายจุดที่คนดูอาจไม่ได้มองหาคำใบ้เกี่ยวกับภาพยนตร์สองเรื่องต่อไป มีข้อมูลที่ถูกฝังเอาไว้ในทุกเรื่องเลยครับ”
มีตัวละครเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่อยู่ใกล้ชิดกับเทรวอร์โรว์มากเท่า แคลร์ เดียริ่ง และโอเว่น เกรดี้ อดีตคู่รักที่ดูเหมือนโชคชะตากำหนดให้ต้องใกล้ชิดและบ่นว่ากันตลอด เทรวอร์โรว์ได้พูดถึงพัฒนาการของสองตัวละครเอกคู่นี้ว่า “เราคิดเยอะมากว่าในช่วงสองสามปีต่อมา แคลร์จะเป็นยังไง และเธอรู้สึกผิด เสียใจ และต้องรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งเธอพยายามกระทำเพื่อชดเชยความรู้สึกผิดนั้น แคลร์รู้ดีว่ากำลังจะมีหายนะทางธรรมชาติเกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งทำให้เกิดคำถามต่อคนทั้งโลกว่า ‘เราควรจะปล่อยให้สัตว์เหล่านี้ตาย หรือเราควรจะช่วยพวกมันดี’ เธอคือคนที่รู้สึกว่าเธอต้องรับผิดชอบในการช่วยเหลือไดโนเสาร์พวกนี้มากที่สุด”
“ในอีกด้านหนึ่ง เราก็มี โอเว่น ผู้รับผิดชอบในการพิสูจน์ว่าพวกแร็ปเตอร์สามารถเชื่อฟังคำสั่งได้ เขารู้ดีว่าพวกมันมีความสามารถที่จะทำหน้าที่ในแบบเดียวกับที่สัตว์เคยถูกใช้ในการทำสงครามในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา” เทรวอร์โรว์กล่าวต่อ “นั่นก็คือการเปิดกล่องของแพนโดร่า เรามีตัวละครสองตัวนี้ที่เป็นเหมือนพ่อและแม่ของโลกใหม่ใบนี้ พวกเขาคือพ่อแม่ของหายนะทางชีวภาพที่ถูกสร้างขึ้นอย่างช้าๆ โดย จอห์น แฮมมอนด์ สำหรับเราแล้ว เป็นเรื่องสำคัญมากครับที่จะต้องหาวิธีที่จะใส่แฮมมอนด์ลงไปในเรื่องนี้ และเชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกัน รวมไปถึงยังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวประวัติศาสตร์ที่ จูราสสิค พาร์ค เริ่มต้นขึ้นอีกด้วยครับ”
ไดโนเสาร์ถือเป็นตัวละครมากพอๆ กับแคลร์และโอเว่น และคงไม่มีหลักฐานใดจะชัดเจนเท่ากับ บลู เวโลซีแร็ปเตอร์ที่มีความผูกพันกับโอเว่นมาตั้งแต่ยังอยู่ในช่วงฟักไข่ หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดกับ เอ็คโค่ พี่น้องในคอกเดียวกัน จนทำให้บลูมีรอยแผลเป็นที่ปาก บลูกลายเป็นจ่าฝูง เมื่อโอเว่นแสร้งทำเป็นบาดเจ็บระหว่างการฝึก บลูแสดงความสงสารโอเว่น แต่บลูก็มีทั้งด้านที่ดุร้ายและด้านที่อ่อนโยน น่าเศร้าที่หลังจากยุคจูราสสิคเวิลด์แล้ว บลูกลายเป็นแร็ปเตอร์ตัวสุดท้าย
สำหรับทีมเขียนบท เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องนำแร็ปเตอร์ตัวนี้กลับมา เพราะทุกคนต่างรู้สึกผูกพันกับบลู ระดับในการเล่าเรื่องนี้ถือเป็นคุณสมบัติที่พิเศษมากในสายตาของสปีลเบิร์ก “บลูกลายเป็นตัวละครที่เราประทับใจครับ” สปีลเบิร์กบอก “ในภาพยนตร์ภาคแรก จอห์น แฮมมอนด์อยากอยู่ใกล้ๆ เวลาที่มีไดโนเสาร์ถือกำเนิดขึ้นทุกตัว เพราะเขาอยากให้ไดโนเสาร์เหล่านี้จำเขาได้ ในกรณีนี้ คนดูก็จำบลูได้ ทำให้บลูกลายเป็นตัวละครหลักตัวหนึ่งที่เราห่วงใยที่จะใส่ลงไปในภาพยนตร์ภาคที่ 2 นี้ครับ”
เป็นเรื่องสำคัญต่อการเล่าเรื่องที่จะต้องเปิดเรื่องราวของภาพยนตร์ชุดนี้ และแนะนำให้รู้จักกับไดโนเสาร์กลุ่มใหม่จากหลายยุคด้วยกัน ตั้งแต่บารีโอนิกซ์ และคาร์โนทอรัส จนถึงสไตกิโมล็อค ทีมเขียนบนได้ใส่ไดโนเสาร์ที่มีสีสันมากขึ้นลงไปใน Fallen Kingdom มากกว่าภาพยนตร์ทุกภาคก่อนหน้านี้ ราวกับนั่นจะยังไม่เพียงพอ พวกเขายังจินตนาการไดโนเสาร์ที่ถูกปรับแต่งพันธุกรรมที่รู้จักในชื่อ อินโดแร็ปเตอร์ โดยผสมดีเอ็นเอของเวโลซีแร็ปเตอร์, อินโดมินัสเร็กซ์ และใครจะรู้ว่ามีอะไรอีกที่ดร.วูจับผสมใส่เข้าไป ไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้น่ากลัวเพราะขนาดของมัน แต่เป็นเพราะความเฉลียวฉลาด ความเร็ว และความสามารถที่จะทำตามคำสั่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอินโดแร็ปเตอร์คืออาวุธที่สมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่าคงจะไม่ใช่ภาพยนตร์ Jurassic แน่ถ้าปราศจากดาราดาวเด่นอย่าง ทีเร็กซ์ “ทีเร็กซ์ก็กลับมาเช่นกันครับ” เทรวอร์โรว์บอก “เราติดตามตัวละครตัวเดิมนี้ตั้งแต่ต้น มันยังเป็นทีเร็กซ์ตัวเดิมใน Jurassic Park และใน Jurassic World มันคือตัวละครที่โด่งดัง ไม่ใช่เพราะมันคือทีเร็กซ์ แต่เป็นเพราะมันคือทีเร็กซ์ตัวนี้เท่านั้นครับ”