Chosen Group มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจพลังงานทางเลือกเชิงนวัตกรรม เดินหน้าขยายตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนเต็มกำลัง
กลุ่มบริษัท Chosen Group ดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการ เดินหน้าด้วยแนวทางธุรกิจแบบยั่งยืนด้วยพลังงานทางเลือก ควบคู่กับโมเดล CSV (Creating Shared Value) คือการพัฒนาและสร้างคุณค่าเชิงเศรษฐกิจและสังคม และความร่วมมือจากพันธมิตรหลากหลายแขนง เพื่อการขับเคลื่อนให้สังคมใช้พลังงานทางเลือกทดแทนทรัพยากรที่กำลังจะหดหาย พร้อมผลักดันการเป็นต้นแบบที่ดีตามนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อเป็นฟันเฟืองที่มีส่วนช่วยให้เกิดความก้าวหน้าอีกขั้นของประเทศอย่างยั่งยืน
ดร.กฤษณะ บุหลัน ที่ปรึกษากรรมการผู้บริหาร และพัฒนาธุรกิจของ Chosen Group กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่สังคม Smart City ที่ประกอบด้วย ด้านดิจิทัล, ระบบนิเวศวิทยา (Ecology), พลังงานทดแทน (Alternative Energy) เป็นต้น ซึ่งในขณะเดียวกันหลายองค์กรยังมุ่งเน้น และเดินหน้าธุรกิจที่ไม่เพียงสร้างผลกำไรสูงสุด แต่ดำเนินงานไปพร้อม ๆ กับความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น (Maximize Profit based on Corporate Social Responsibility) ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการขมวดรวมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จัดตั้งกลุ่มบริษัท Chosen Group ได้แก่ Chosen Technology Co., Ltd., Chosen Energy Co., Ltd. และ Chosen Agro Co., Ltd. โดยดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการ พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีในรูปแบบของ One Stop Solution อย่างชาญฉลาด และประหยัดคุ้มค่าด้วยแนวคิดการพัฒนาพลังงานทางเลือกเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมอัจฉริยะในทุกมิติ
“กลุ่มบริษัท Chosen Group ตั้งเป้าเดินหน้าเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือกเชิงนวัตกรรมอันดับต้นของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โดยการดำเนินธุรกิจแบบ Total Solution ที่ครอบคลุมทั้งด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงาน และด้านเกษตรกรรม ก้าวตามให้ทันโลกเข้าสู่การแก้ไขปัญหาที่ฉลาดกว่า ลดต้นทุนมากกว่า และยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานสะอาด พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสขยายให้ธุรกิจขนาดใหญ่ ตลอดจนธุรกิจขนาดย่อม และขนาดเล็ก หรือ SMEs สามารถเข้าถึง Solution 4.0 ได้ด้วยเช่นกัน”
ด้านนายวรพจน์ รื่นเริงวงศ์ ผู้เริ่มก่อตั้งและประธานบริหาร CHOSEN GROUP กล่าวว่า ด้วย One stop smart and Energy saving เป็นแนวคิดตั้งต้นสู่การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่เรียกว่า New EV Business Platform โดยพัฒนามาจากโมเดลธุรกิจ EV Charging ที่ในแถบยุโรปใช้มายาวนานกว่า 10 ปี และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้าน software และโมเดลธุรกิจ จนเสถียรใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม EV Business ยังเป็นธุรกิจที่แปลกใหม่สำหรับประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียนด้วย
หนึ่งใน New EV Business Platform คือการนำเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ามาใช้ หรือที่เรียกว่า “EV-Box” เครื่องชาร์จไฟฟ้าอัจฉริยะ สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบ Home Line, Business Line และ Public Line กระบวนการทำงานเป็นแบบชาร์จที่ควบคุมการจ่ายไฟด้วยระบบอัจฉริยะ Load Balance ป้องกันการเกิดไฟกระชาก และระบบคำนวณค่าไฟขณะชาร์จด้วยระบบ Software ที่เป็นระบบออนไลน์ ช่วยลดข้อจำกัดของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอีกทางเลือกในอนาคต โดยสามารถรองรับรถยนต์ได้ทุกประเภท ถือได้ว่าเป็นเครื่องชาร์จอัจฉริยะชั้นนำอันดับหนึ่งของโลกที่น่าจับตามอง
“ด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Car) คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบอื่น ๆ และด้วยข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดได้ทันทีทำให้รถพลังงานไฟฟ้ามีอัตราเร่งที่เรียบและรวดเร็ว สำหรับ EV Charger เป็นมากกว่าตัวชาร์จรถยนต์ด้วยระบบ Backend ในรูปแบบ Software ที่ทันสมัยที่สุดของโลก หรือ OCPI เพราะสามารถตอบโจทย์ทุกมิติโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด อีกทั้งยังตอบสนองนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมของภาครัฐที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเดินหน้าใช้พลังงานทางเลือกมากยิ่งขึ้นในอนาคต”
นายอัญชลิต บูรณะนิตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Chosen Group กล่าวเสริมว่า กลุ่มบริษัท Chosen Group ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เป็นมากกว่าการดำเนินธุรกิจเพียงลำพัง แต่ยังมองถึงการสร้างเครือข่ายพันธมิตร อาทิ บริษัท บางกอก โซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด, เครือเซ็นทาราแกรนด์ และสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร เป็นต้น ทั้งนี้ยังได้วางแผนการเจาะตลาดเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีบ้านและใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า โดยเน้น Product กลุ่ม Home Line และเข้าถึงผู้ใช้ EV Car เพื่อให้ผู้บริโภครวมถึงผู้ประกอบการสถานที่ติดตั้งเครื่อง Charger ได้ตระหนักถึงความสำคัญของ Software back office มากกว่า Hardware ในโมเดลธุรกิจ EV Charger โดยเฉพาะกลุ่ม Hybrid Plug-in เป็นกลุ่มเป้าหมายในช่วงแรก ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแนวทางตลาดรถยนต์อย่างสิ้นเชิง ในด้านพื้นที่อสังหาริมทรัพย์จะกลายเป็น Prime Location สำหรับธุรกิจนี้ในอนาคต
กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทฯ มองว่าในอนาคต พฤติกรรมการใช้รถ EV Car จะไม่ใช่การบริการเติมไฟฟ้า ณ จุด สถานีเหมือนกับสถานีน้ำมัน แต่จะหมายถึงสามารถเติมได้ทุกที่ที่พบระบบติดตั้ง ดังนั้นพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม คอนโดมิเนียม คอมมูนิตี้มอลล์ ก็สามารถเป็นสถานีไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น ปัจจุบันมีการติดตั้งระบบพร้อมใช้งานจริงที่ โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ และ บริษัท บางกอก โซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ กำลังทยอยติดตั้ง โดยมุ่งเน้นที่ส่วนขยายหัวเมือง เพื่อความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร
“ในปี 2561 บริษัทฯ มุ่งขยายตลาดผ่านเครือข่ายพันธมิตรโดยเจาะจงในด้านอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทรถยนต์ที่นำเข้ารถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น และรุกตลาดอาเซียน อาทิ สปป.ลาว ในฐานะประเทศที่เน้นนโยบายพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาด เสริมด้วยแผนดำเนินงานในอีกมิติของการดำเนินธุรกิจ ด้วยโมเดล CSV (Creating Shared Value) คือการพัฒนาและสร้างคุณค่าเชิงเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมกัน โดยการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ร่วมกับสถานศึกษา และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้ด้านพลังงานทดแทน และอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตอีกด้วย” นายอัญชลิต กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ได้ทำพิธีลงนามเซ็นสัญญา (MOU) ร่วมกับ เซ็นทาราแกรนด์ โดย Mr. Robert Maurer-Loeffler, GM of Centara Grand at CentralWorld ในฐานะผู้ให้บริการ สถานที่ติดตั้ง EV CHARGER และ ดร.ทิศพล นครศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการติดตั้ง และ นายอภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร ในฐานะ Strategic partner ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้วัตถุประสงค์เดียวกัน โดยมีแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนด้วยพลังงานทางเลือก และดำเนินธุรกิจด้วยความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนให้สังคมมุ่งเน้นใช้พลังงานทางเลือก และเป็นต้นแบบ ดังนั้น Chosen Group จึงมองว่าเราไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ แต่เราสร้างธุรกิจให้เป็นโมเดลที่เป็นมาตรฐานของธุรกิจรถไฟฟ้าในอนาคตต่อไปอย่างยั่งยืน