“ดู เดย์ ดรีม” โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2560 สุดแกร่งด้วยรายได้โต 24.1%

“ดู เดย์ ดรีม” โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2560 สุดแกร่งด้วยรายได้โต 24.1% จากปีก่อน เดินหน้าไอพีโอเพื่อระดมทุนขยายโรงงาน ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และปรับปรุงฝ่ายวิจัยและพัฒนา





บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว “SNAILWHITE” และหนึ่งในผู้นำในตลาดสกินแคร์ของไทย ซึ่งมียอดขายกว่า 1,200 ล้านบาทในปี 2559 เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560 แกร่ง ทำกำไร 209 ล้านบาท จากการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการสร้างปรากฏการณ์ผ่านกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคระดับ Premium Mass ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดจีน พร้อมเดินหน้าโครงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน โดยมีการเตรียมระดมทุนสนับสนุนการขยายธุรกิจ ทั้งด้านการเพิ่มกำลังการผลิต การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการปรับปรุงฝ่ายวิจัยและพัฒนา เพื่อตอบรับเทรนด์ดูแลความงามของผู้บริโภคทั่วเอเชียพร้อมมุ่งสู่การเป็นท็อป 3 บริษัทชั้นนำด้านความงามของเอเชีย


ดร.สราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ดู เดย์ ดรีม เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว โดยมีธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว “SNAILWHITE” ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ (NAMU LIFE)  ที่ครองใจผู้บริโภคนับตั้งแต่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปี 2556 เป็นต้นมา และธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวให้แก่แบรนด์อื่นซึ่งเป็นธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดเล็ก”

“จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจสกินแคร์ ร่วมกับศักยภาพในการวางกลยุทธ์หลักด้านต่างๆ เช่น กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SNAILWHITE” ให้โดดเด่นเป็นที่จดจำ โดยมีการรับรู้และพูดถึงอย่างกว้างขวาง ภายใต้คอนเซ็ปท์ Beauty is Healthy กลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย กลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์บนสื่อออนไลน์ ด้วยสโลแกนที่โดดเด่นและพรีเซนเตอร์ระดับซูเปอร์สตาร์ รวมไปถึงความพิถีพิถันเอาใจใส่ในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการพัฒนานวัตกรรมที่ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกส่วนผสมไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้โตจากหลักร้อยล้านบาทสู่พันล้านบาทในเวลาเพียงแค่ 3 ปี นับจากเริ่มผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “SNAILWHITE” ในปี 2556 และด้วยทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ในการรุกตลาดในแบบฉบับคนรุ่นใหม่และมีประสบการณ์สูงในธุรกิจสกินแคร์ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามในเอเชียได้ในอนาคตอันใกล้ ตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้” ดร.สราวุฒิ กล่าวเสริม
 
ปัจจุบันบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ SNAILWHITE รวมทั้งสิ้น 6 กลุ่ม ได้แก่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย ผลิตภัณฑ์กันแดด และกิฟท์เซ็ตสำหรับเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ  รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 20 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ NAMU LIFE SNAILWHITE Facial Cream ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ากลุ่มร้านค้าขนาดใหญ่ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ถึงไตรมาส 2 ของปี 2560 โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้า ทั้งในกลุ่มโมเดิร์นเทรด ร้านค้าสะดวกซื้อ และร้านค้าแบบดั้งเดิม ช่องทางจำหน่ายบนสื่อออนไลน์ ร้านของ NAMU LIFE และเครือข่ายกระจายสินค้าในต่างประเทศ รวมแล้วกว่า 10,000 ร้านทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ


นางสาวเสาวคนธ์ พรพัฒนารักษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวเสริมถึงโอกาสในการเติบโตของ SNAILWHITE ว่า “อุตสาหกรรมสกินแคร์มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในสุขภาพและความงามมากขึ้น สำหรับในประเทศไทยธุรกิจสกินแคร์ได้รับการจัดอันดับจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยให้เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมดาวรุ่งในปี 2559 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริมจากโครงสร้างด้านประชากรศาสตร์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ Aging Society ซึ่งเป็นโอกาสให้เราขยายตลาดผ่านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ครอบคลุมต่อความต้องการในตลาดมากขึ้น เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยและชะลอวัย รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายที่ปัจจุบันหันมาดูแลรูปลักษณ์ตนเองมากขึ้น นอกจากนี้เทรนด์การเลือกสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ยังช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าอย่างไร้พรมแดน”

“นอกจากโอกาสสำหรับตลาดในประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังมีศักยภาพการแข่งขันที่โดดเด่น และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้บริโภคทั่วเอเชีย ตลอดจนการซื้อผลิตภัณฑ์ “SNAILWHITE” เป็นของฝากกลายเป็นกระแสในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน จากความสำเร็จนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสการขยายตลาดในเอเชีย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งตลาดสกินแคร์มีการเติบโตมากถึงร้อยละ 17 ต่อปี โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดทั้งในระยะสั้น เช่น การออกผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีน และระยะยาว เช่น การจับมือกับพันธมิตรผู้มีความชำนาญในแต่ละประเทศ ทั้งในด้านการผลิต บริหารจัดการ และกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ” นางสาวเสาวคนธ์กล่าวเสริม


นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์  ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน)   ได้ให้ข้อมูลความแข่งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทฯ ผ่านผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจาก 438 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 1,202 ล้านบาทในปี 2559 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 65.6 ต่อปี ซึ่งรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้จากการขายรวม 872 ล้านบาท เทียบกับ 703 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.1 นอกจากนี้ รายได้จากการขายในต่างประเทศในครึ่งแรกของปี 2560 อยู่ที่ 332 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 72 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2559 ซึ่งสะท้อนการเติบโตในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกัน ผลกำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 28 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 335 ล้านบาทในปี 2559 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่สูงถึงร้อยละ 248.8 ต่อปี โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.3 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 27.8 ในปี 2559 และสำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 กำไรสุทธิของบริษัทฯ อยู่ที่ 209 ล้านบาทลดลงเล็กน้อยจาก 213 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและส่งเสริมการขาย โดยการเติบโตในอนาคตของบริษัทฯ ยังมีแนวโน้มที่ดี จากรายได้ของผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการแข่งขันของผลิตภัณฑ์หลักซึ่งก็คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคตด้วยการเติบโตของยอดขายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่หลากหลายมากขึ้น

“ดังนั้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า SNAILWHITE ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั้งในแนวดิ่งหรือการที่ลูกค้าแต่ละรายใช้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นในปริมาณที่มากขึ้น และในแนวราบหรือจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ จึงตัดสินใจที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 76,000,000 หุ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเติบโตและสร้างอนาคตการลงทุนไปกับเรา โดยบริษัทฯ ได้ยื่น
ไฟลิ่งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) แล้วในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย  โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตของโรงงานของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศให้พร้อมต่อการเจาะตลาดลูกค้าทั่วเอเชีย และยังใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ในการขยายธุรกิจ อาทิ การปรับปรุงฝ่ายวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและขยายสำนักงานรวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดย ดู เดย์ ดรีม มั่นใจในศักยภาพของบริษัทฯ ที่พร้อมจะเดินหน้าสู่ความสำเร็จไปอีกขั้นกับเป้าหมายการขึ้นเป็นท็อป 3 บริษัทฯ ชั้นนำด้านความงามของเอเชีย พร้อมรักษาขีดความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและเติบโตหลังจากไอพีโอ” นายปิยวัชร กล่าวเสริม

ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ ก่อนและภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จะเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้ สัดส่วนหุ้นของกลุ่มครอบครัวพรพัฒนารักษ์ เปลี่ยนแปลงจากร้อยละ 93.2 เป็นร้อยละ 70.8 หุ้นของ North Haven Thai Private Equity Clarity Company (HK) Limited ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Private Equity ที่บริหารจัดการโดย Morgan Stanley จากจากร้อยละ 6.3 เป็นร้อยละ 4.7 สัดส่วนหุ้นโดยรวมของผู้หุ้นรายอื่น ๆ จากร้อยละ 0.6 เป็นร้อยละ 0.4 และสัดส่วนหุ้นของประชาชนทั่วไปหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอจะคิดเป็นร้อยละ 24.05

สำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวสำคัญของบริษัทดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ได้ที่เว็บไซต์ www.dodaydream.com

Do Day Dream…We Do to make every Day your Dream

Do Day Dream enjoys 6-month revenue growth of 24.1% in 2017 IPO planned to raise funds for production capacity and distribution channels expansion, R&D facilities improvement





Do Day Dream Public Company Limited, the producer and distributor of SNAILWHITE skincare products with sales revenue of over 1.2 billion baht in 2016, reported a strong performance for the first half of 2017 with net profit reaching 209 million baht which is mainly attributed to the addition of new product lines, effective marketing strategies and an overwhelming response in the premium mass market in Thailand and overseas, especially China.

With the excellent figures, the the company is ready to move forward with its initial public offering (IPO) plan to raise funds to support expansion of production capacity and distribution channels as well as research and development (R&D) improvement to cope with the rapidly growing beauty and skincare market across Asia. Do Day Dream hopes the plan will enable it to achieve its goal of becoming one of Asia’s top three beauty companies.


Dr. Sarawut Pornpatanarak, Chief Executive Officer, said: “Do Day Dream is the producer and distributor of high-quality skincare products. Our two main businesses are the production and distribution of SNAILWHITE skincare products under our own trademark NAMU LIFE, launched in 2013 and has become the top of mind brand ever since, and OEM (original equipment manufacturer) business where we produce skincare products for other small brands.

“In addition to our expertise and experience in the skincare market, our key strategies contributed significantly to our success. A key strategy is to build SNAILWHITE into a top-of-mind brand among a larger group of consumers under the ‘Beauty is Healthy’ concept. Other strategies include distribution channel expansion, creative marketing with a focus on online media and the use of superstar presenters, and attention to product quality. We have also focused on innovations that improve product efficiency. We have carefully selected the best ingredients and packaging designs. All these have contributed to rapid sales growth as we saw our revenue increase from millions of baht to over a billion baht within only three years from the day SNAILWHITE made its debut in 2013.

“More importantly, our management team of young executives with vision and high experience in the skincare market has also given us greater confidence to become one of the top three leaders in Asia’s beauty product market as stated in our vision.”

The SNAILWHITE product portfolio covers six categories: facial skincare, body skincare, facial cleansing, body cleansing, sunscreen and gift sets. All 20 products are highly popular among consumers, especially NAMU LIFE SNAILWHITE Facial Cream, which has been the best seller among facial skincare products sold in large-scale retailers consecutively from 2015 to the second quarter this year.  SNAILWHITE products are available through over 10,000 shops in both modern trade and traditional trade as well as online shops, NAMU LIFE shops and overseas distribution channels.


Ms. Saowakon Pornpatanarak, Deputy Chief Executive Officer, amplified on the SNAILWHITE growth opportunity.

“Skincare has very strong growth potential due to the rising health and beauty care trend. In Thailand, skincare was ranked as the one of the top rising star industries in 2016 by Thai Chamber of Commerce University. In addition, this trend is enhanced by the fact that Thailand is becoming an ageing society. This opens a new opportunity for us to grow our market through new products that better match specific needs, such as anti-ageing and men’s skincare product lines. Growing online shopping behavior also expands our ability to reach consumers without limit.”

In terms of overseas markets, the company also has strong competitive advantages. Its products have been well received by consumers across Asia. SNAILWHITE has become one of the most sought-after souvenirs from Thailand among Chinese visitors. Seeing this trend, Do Day Dream is committed to market expansion in Asia, especially in China where the skincare market is growing by 17% per annum. The company is implementing both short and long-term strategies, including the introduction of exclusive products for the Chinese market and cooperation with partners to improve production, management and distribution, according to Ms. Saowakon.


Mr. Piyawat Ratchapolsitte, Chief Financial Officer, said Do Day Dream has grown strongly in terms of performance in the past three years. Its sales revenue jumped from 438 million baht in 2014 to 1,202 million baht in 2016, representing a compound annual growth rate (CAGR) of 65.6% per year.

In the first six months of 2017, the company continued its significant growth rate with 872 million baht in sales revenue compared to 703 million baht in the same period last year, or a 24.1% increase. Sales from the international market in the first half of 2017 stood at 332 million baht, a significant increase from 72 million baht in the same period of 2016. This is clear evidence of its rapid growth in overseas markets.

Meanwhile, the company’s profit rose from 28 million baht in 2014 to 335 million baht in 2016, representing an enormous CAGR of 248.8%. The company’s net profit margin increased from 6.3% in 2014 to 27.8% in 2016. For the first six months of 2017, net profit was 209 million baht, a slight drop from 213 million baht in the same period last year due to increasing sales expenses, especially advertising and sales promotions.

Looking ahead, the company expects to see strong sales growth in all product categories. This reflects its competitive advantages in its major product segment of facial skincare and long-term revenue growth driven by growing sales in other product categories.

“We have seen rapid growth in customers’ demand both vertically, with more product variety and consumption volume, and horizontally, with an increasing number of customers in Thailand and foreign countries. To increase our capability to meet this demand, we have decided to initiate our IPO plan to allow the general public and investors to join us in driving further growth for the business. Under this plan, 76,000,000 shares will be offered,” said Mr. Piyawat.

Do Day Dream submitted a filing to the Securities and Exchange Commission in August 2017. Bualuang Securities Pcl is working as its financial advisor and lead underwriter for this transaction. Funds raised from this plan will be used for expanding the company’s plant in Rojana Industrial Park in Ayutthaya province and to increase distribution channels both in Thailand and across Asia. Funds will also be used to support business expansion, such as development of the R&D department, office expansion and revolving working capital.

“We are strongly confident of Do Day Dream’s potential to reach a new milestone by achieving our goal to become one of the top three leaders in Asia beauty market. At the same time, we will increase our ability to create strong yield and growth after this fund mobilization,” said Mr. Piyawat.

After the IPO, the company’s shareholding structure will be changed. The Pornpatanarak family’s stake will be changed from 93.2% to 70.8%. North Haven Thai Private Equity Clarity Company (HK) Limited, managed by Morgan Stanley, will see its stake slightly reduced from 6.3% to 4.7%. Other shareholders’ stakes will be changed from 0.6% to 0.4%. The general public will hold 24.05% after the IPO.

Interested persons can find more information and updates from Do Day Dream Pcl at www.dodaydream.com.

Do Day Dream … We Do to make every Day your Dream.