MSN on September 12, 2017, 07:54:07 PM
ดารา คนดังแสดงพลัง #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง ชวนคนไทยละเลิกงาช้าง
ดารา นักธุรกิจ นักกีฬา และผู้มีอิทธิพลทางสังคมของไทยแสดงจุดยืน #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังใจการยุติการฆ่าช้างเอางา และผลักดันให้สังคมไทยหันหลังให้กับการซื้อ การใช้ผลิตภัณฑ์งาช้างกรุงเทพมหานคร 12 กันยายน 2560 – ศิลปิน ดารา นักธุรกิจ และผู้มีอิทธิพลทางสังคมจำนวนหนึ่ง พร้อมใจกันแสดงพลังปกป้องช้างทั่วโลกในโครงการรณรงค์ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง I am #IvoryFree (ไอ แอม ไอวอรี่ฟรี) ด้วยการโพสต์รูปคู่ช้างพร้อมกันบนโซเชียลมีเดีย เพื่อเเสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการซื้อ การใช้ และการให้ผลิตภัณฑ์งาช้างเป็นของขวัญอีกต่อไป โดยโครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือกัน ระหว่างองค์กรไวล์ดเอด (WildAid) และ ยูเอสเอด ไวล์ดไลฟ เอเชีย (USAID Wildlife Asia ) ภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
ทุกปีมีช้างมากถึง 33,000ตัวทุกฆ่าเพื่อเอางาในแอฟริกา เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภค ผลิตภัณฑ์งาช้างในเอเชีย ซึ่งประเทศไทยเป็นทั้งปลายทางและทางผ่านของงาช้างผิดกฎหมายเหล่านั้น ขณะที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการเพื่อแก้ปัญหาการค้างาช้างผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี พ.ศ. 2558 รัฐบาลออกพระราชบัญญัติงาช้าง เพื่อควบคุมตลาดค้างาช้างถูกกฎหมายที่มาจากช้างบ้านของไทย ที่เป็นช้างเอเชียเท่านั้น นอกจากนั้นยังได้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กำหนดให้ช้างแอฟริกันเป็น 1 ในสัตว์คุ้มครองของไทย มีผลห้ามการซื้อขายหรือครอบครองงาช้างแอฟริกัน
แม้ผลการสำรวจเมื่อปี 2559 ของเครือข่ายเฝ้าระวังการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า หรือทราฟฟิค (TRAFFIC) พบว่าผลิตภัณฑ์งาช้างที่วางจำหน่ายแบบเปิดเผยตามร้านค้าในกรุงเทพฯ มีจำนวนลดลงจาก 7,421 ชิ้นในปี 2557 เหลือเพียง 283 ชิ้นเมื่อปีที่แล้ว หรือลดลงมากถึง 96% แต่การสำรวจตลาดออนไลน์ เมื่อปีีที่แล้วระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม กลับพบผลิตภัณฑ์งาช้างอย่างน้อย 2,550ชิ้น ถูกประกาศ ขายบนเฟซบุ้คและอินสตาแกรมอย่างผิดกฎหมายซึ่งสร้างความกังวลว่าการค้าผลิตภัณฑ์งาช้างอาจแค่กำลังโยกย้าย ไปสู่โลกออนไลน์เท่านั้น
โครงการรณรงค์ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง I am #IvoryFree (ไอ แอม ไอวอรี่ฟรี) จึงเป็นโครงการรณรงค์ที่ใช้สื่อ โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ในการแสดงจุดยืน ว่าไม่สนับสนุนการซื้อ การใช้ และการให้ผลิตภัณฑ์งาช้าง เป็นของขวัญ เพราะงาช้างควรอยู่คู่ช้างเท่านั้น และยังเป็นการสร้างความตระหนักให้คนทั่วไปได้ทราบถึง ผลกระทบของการบริโภคผลิตภัณฑ์งาช้างต่อวิกฤตการณ์ฆ่าช้างเอางาในแอฟริกาอีกด้วย
ตราบใดที่ยังมีความต้องการและการยอมรับการใช้ผลิตภัณฑ์งาช้างอยู่ในสังคม ประชากรช้างทั่วโลก ก็จะยิ่งตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ “การลดความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์งาช้าง ถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรไวล์ดเอดในความพยายามยุติการฆ่าช้างเอางา เราหวังว่าการสร้าง ความตระหนักให้สังคมรับรู้ถึงความโหดร้ายที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์งาช้าง จะทำให้สังคมหันหลังให้กับ การบริโภคผลิตภัณฑ์งาช้างมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การยุติการฆ่าช้างเอางาในที่สุด เพราะหยุดซื้อ คือ หยุดฆ่า” มร.จอห์น เบเกอร์ กรรมการผู้จัดการองค์กรไวล์ดเอด กล่าว
และเพื่อเป็นการสร้างค่านิยมใหม่ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง ให้สอดคล้องกับภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้น กับประชากรช้างโลกในปัจจุบัน องค์กรไวล์ดเอด (WildAid) และองค์การยูเอสเอด ไวล์ดไลฟ เอเชีย (USAID Wildlife Asia) ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันสร้างรูปคู่กับช้างที่เวบไซต์ www.ivoryfreethai.org แชร์ผ่านโซเชียลมีเดียทุกประเภทของคุณ พร้อมกับติดแฮชแท็ค #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง และ #IvoryFree โดยสามารถเลือกข้อความรณรงค์ที่ชอบได้
ในวันที่12 กันยายนนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงพร้อมใจกันแสดงจุดยืน #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง โซเชียลมีเดียผ่าน เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรได้แก่ ดารา: คุณแหม่ม คัทลียา แมคอินทอช, คุณเก๋ ชลลดา เมฆราตรี, คุณนก สินจัย เปล่งพานิช, คุณเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์, คุณแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, คุณโอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล, คุณแต้ว ณฐพร เตมีรักษ์, คุณซินดี้ สิรินยา บิชอพ, คุณแพทริเซีย กู๊ด, คุณสายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข, คุณโบว์ เบญจสิริ วัฒนา, คุณวิโอเลต วอเทียร์, คุณอาย กมลเนตร เรืองศรี, คุณมะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์, คุณทศพร ศรีตุลา (หมอช้าง), คุณจา พนม ยีรัมย์, คุณโน้ต วัชรบูล ลี้สุวรรณ, คุณนาย ณภัทร เสียงสมบุญ, คุณเกรท วรินทร ปัญหกาญจน์, คุณ อั๋น ภูวนาท; คุณอ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์, คุณโม อมีนา พินิจ, คุณเข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล, คุณมิกค์ ทองระย้า, คุณเติ้ล คุณสุทธิ์คุณ วันทานุ, คุณเกรซ บุศรินทร์ แซ่ลี้, คุณฝน ปริตา ไชยรักษ์; คุณมุกดา นรินทร์รักษ์ มิสยูนิเวอร์ส: คุณนาตาลี เกลโบว่า มิสยูนิเวอร์ส พ.ศ. 2548, คุณมารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ พ.ศ.2560 , คุณน้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ พ.ศ.2559; นักการเมือง: หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี, คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี; ผู้นำธุรกิจ: คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายกสมาคมสร้างสรรค์ไทย (ตาวิเศษ), คุณกมลา สุโกศล ประธานกรรรมการบริหารกลุ่ม โรงแรมในเครือสุโกศล, คุณ.วิลเลียม อี. ไฮเน็ค ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน); คุณเดวิด ไลแมน ประธานกรรมการ และผู้บริหารสูงสุดด้านวัฒนธรรมองค์กร บริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด; นักกีฬา: นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย คุณวิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, คุณปลื้มจิตร์ ถินขาว, คุณอรอุมา สิทธิรักษ์, คุณนุศรา ต้อมคำ, คุณพรพรรณ เกิดปราชญ์, คุณปิยะนุช แป้นน้อย, คุณทัดดาว นึกแจ้ง, คุณหัตถยา บำรุงสุข, คุณจรัสพร บรรดาศักดิ์, คุณโสรยา พรมหล้า,คุณฐาปไพพรรณ ไชยศรี, คุณมลิกา กันทอง, คุณพิมพิชยา ก๊กรัมย์, คุณอัจฉราพร คงยศ, คุณ สุพัตรา ไพโรจน์, คุณชัชชุอร โมกศรี, คุณวรรณา บัวแก้ว; โค้ชวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย โค้ชด่วน ดนัย ศรีวัชรเมธากุล, โค้ชยะ ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค, โค้ชชำนาญ ดอกไม้; แพทย์ประจำทีม นพ. พิเชษฐ์ เยี่ยมศิริ; นักกายภาพประจำทีม หมอเนตร ทิพย์รัตน์ แก้วใส; นักฟุตบอลทีมชาติไทย ก้อง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เอฟซี และ สัตว์แพทย์: หมอล็อต ภัทรพล มณีอ่อน
“โครงการรณรงค์ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง I am #IvoryFree แสดงให้เห็นว่า คนไทยพร้อมใจที่จะช่วยกันสร้าง สังคมที่ #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง เราหวังว่ารัฐบาลไทยจะพิจารณาเปลี่ยนจุดยืน และเดินหน้าสู่การปิดตลาด ค้างาช้างในประเทศ เพื่อทำให้ไทยเป็นประเทศที่ #IvoryFree #ไม่เอางาไม่ฆ่าช้าง ในที่สุด” มร.เบเกอร์ กล่าวเสริม
แม้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส รวมถึงองค์กรอนุรักษ์ระดับนานาชาติ จะชื่นชมความพยายามแก้ปัญหาการค้างาช้างผิดกฎหมายของไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่หลายฝ่ายยังกังวลว่า แนวทางแก้ปัญหาของไทยอาจยังไม่เพียงพอ กรณีของฮ่องกงแสดงให้เห็นแล้วว่า ตลาดการค้างาช้างถูกกฎหมาย เป็นเพียงฉากบังหน้าให้กับการค้า งาผิดกฎหมายเท่านั้น แม้รัฐบาลฮ่องกงมั่นใจว่ามีกลไกต่างๆ ที่สามารถควบคุมการค้าได้
ในระดับนานาชาติ ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยอนุสัญญาไซเตสเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีมติเรียกร้องให้ทุกประเทศดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปิดตลาดค้างาช้างในประเทศของตนอย่างจริงจัง และเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ จีน และฮ่องกง ประกาศจะดำเนินมาตรการเพื่อปิดตลาดค้างาช้าง ของตนเอง ส่วนสิงคโปร์กำลังพิจารณาห้ามขายงาช้างในประเทศเช่นกัน
« Last Edit: September 12, 2017, 08:04:12 PM by MSN »
Logged