ONE CHAMPIONSHIP : เซี่ยงไฮ้เตรียมเป็นเจ้าภาพไฟต์ชิงแชมป์โลกเวลเตอร์เวตปี 2017

เซี่ยงไฮ้เตรียมเป็นเจ้าภาพไฟต์ชิงแชมป์โลกเวลเตอร์เวตปี 2017

การแข่งขันสู่ความเป็นผู้นำด้านศิลปะการต่อสู้ที่มีมูลค่ามหาศาลในสาธารณรัฐประชาชนจีนเดือดพล่านมากขึ้น เมื่อวัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Championship) ประกาศจัดการแข่งขันครั้งแรกในนครเซี่ยงไฮ้ โดยเตรียมระเบิดความมันในศูนย์กีฬาเซี่ยงไฮ้ โอเรียนทอล สปอร์ต เซ็นเตอร์ ความจุผู้ชม 14,000 ที่นั่งในวันที่ 2 กันยายนนี้

การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ได้รับความนิยมอย่างมากท่ามกลางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของจีนแผ่นดินใหญ่ นครเซี่ยงไฮ้จะรับหน้าที่เจ้าภาพการแข่งขัน วัน แชมเปี้ยนชิพ:เซี่ยงไฮ้ (ONE CHAMPIONSHIP: SHANGHAI) ซึ่งจะคับคั่งด้วยนักสู้ระดับโลกที่มีฝีมือดีที่สุดแห่งยุคสมัย

“ทุกครั้งที่วัน แชมเปี้ยนชิพจัดการต่อสู้ในประเทศจีน เราจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ  และเรามีความยินดีที่ได้ประกาศการจัดการต่อสู้ขึ้นเป็นครั้งแรกในนครเซี่ยงไฮ้ที่สวยงามแห่งนี้ เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะนำเสนอศิลปะการต่อสู้ที่ถือว่าเป็นของแท้ที่สุดในโลก” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวัน แชมเปี้ยนชิพกล่าว

เพื่อให้สมกับการยกเวทีศิลปะการต่อสู้ระดับสูงสุดมาถึงนครเซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรก วัน แชมเปี้ยนชิพ จึงเตรียมประกบคู่นักสู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเบน แอสก์เรน เจ้าของฉายา “ฟังกี้” (Ben “Funky” Askren) จากสหรัฐอเมริกาจะเดิมพันตำแหน่งแชมป์โลก วัน เวลเตอร์เวท เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ (ONE Welterweight World Championship) ของเขากับเซบาสเตียน คาเดสแทม หรือ “เดอะ แบนดิต” (Zebaztian “The Bandit” Kadestam) จากประเทศสวีเดน

เบน แอสก์เรน ได้รับการยกย่องในระดับสากลว่าเป็นนักชกที่มีฝีมือดีที่สุดในรุ่นเวลเตอร์เวตในปัจจุบัน และเป็นนักสู้ที่ดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์

นักต่อสู้ชาวอเมริกันวัย 33 ปีผู้นี้ มาจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซน่า เขาเป็นเจ้าของสถิติไร้เทียมทาน ชนะ 16 ครั้งและยังไม่เคยแพ้ใคร โดยสามารถเอาชนะด้วยการให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ 5 ครั้ง และชนะน๊อค 4 ครั้ง

แอสก์เรนยังได้รับการยอมรับจากการเป็นนักมวยปล้ำที่โดดเด่นที่สามารถคว้าแชมป์เอ็นซีเอเอ (NCAA) ดิวิชั่น 1 ระดับประเทศได้ 2 สมัย และยังได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนของสหรัฐในการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง

แอสก์เรนหรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ฟังกี้” สร้างชื่อโด่งดังในการขึ้นต่อสู้สองครั้งแรกบนเวทีวัน แชมเปี้ยนชิพ เขาทำให้คู่ต่อสู้ บาคห์ทิยาร์ อับบาซอฟ (Bakhtiyar Abbasov) ยอมแพ้ด้วยท่าล็อกแขน (arm-triangle choke) ระหว่างการขึ้นสู้ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2557 ก่อนที่จะชนะโนบูทัตสึ ซูซุกิ (Nobutatsu Suzuki) ในยกแรกเพื่อคว้าแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตอันทรงเกียรติของวัน แชมเปี้ยนชิพในอีก 3 เดือนต่อมา

แอสก์เรนเพิ่งคว้าชัยชนะเหนืออากิลัน “เดอะ อัลลิเกเตอร์” ธานี (Agilan “The Alligator” Thani) นักต่อสู้ชาวมาเลเซียที่ยอมแพ้ในยกแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ทำให้เขายังคงมีสถิติชนะรวดและรักษาเข็มขัดแชมป์โลกวัน เวลเตอร์เวต เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพไว้ได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าสิงโตหนุ่มหวังที่จะพิสูจน์คำสุภาษิตของนักสู้ที่ว่า “ไม่มีใครเดินลงจากเวทีนี้ได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ” ด้วยการหยิบยื่นความพ่ายแพ้ครั้งแรกในอาชีพให้แก่แอสก์เรน

คาเดสแทมมีสถิติในการต่อสู้ระดับอาชีพอยู่ที่ชนะ 9 แพ้ 3 และถือเป็นนักต่อสู้ที่มีอาวุธหลากหลายและเทคนิคการจับยึดที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ เขายังสามารถน๊อคคู่ต่อสู้ได้ถึง 7 ครั้งจากชัยชนะทั้งหมด 9 ครั้งอีกด้วย

นักต่อสู้วัย 26 ปีที่มาจากเมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดนผู้นี้เปิดตัวลงแข่งขันวัน แชมเปี้ยนชิพครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยการคว่ำหลุยส์ ซานโตส (Luis Santos) ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตอันดับหนึ่งด้วยการเอาพลิกเกมกลับมาชนะน็อคได้ในยกที่สาม

ชัยชนะที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวของคาเดสแทมทำให้เขาได้รับเลื่อนอันดับเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์อย่างรวดเร็ว และเขาจะได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่โหดหินที่สุดอย่างแอสก์เรน

“เราจัดเตรียมการต่อสู้คู่เอกสำหรับแฟนๆ ของเราในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเบน แอสก์เรนจะป้องกันแชมป์โลกวัน เวลเตอร์เวต เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพกับเซบาสเตียน คาเดสแทมจากสวีเดน การเผชิญหน้ากันของนักต่อสู้ต่างสไตล์กันจะทำให้แฟนๆ ได้รับความตื่นเต้นเร้าใจอย่างแน่นอน” คุณชาตรีกล่าวถึงการชิงตำแหน่งแชมป์เวลเตอร์เวตซึ่งจะต่อสู้กันทั้งหมด 5 ยก

อีกหนึ่งการแข่งขันของวัน แชมเปี้ยนชิพที่จัดขึ้นครั้งแรกในเซี่ยงไฮ้ คือ การพบกันระหว่างนารานทันกาลัก จาดัมบา (Narantungalag Jadambaa) อดีตแชม์โลกวัน เฟเธอร์เวต เวิลด์ แชมเปี้ยนและทัตสึยะ  ยามาดะ (Tatsuya Yamada) นักสู้จอมเก๋าจากญี่ปุ่น
นอกจากนี้ อาเมียร์ ข่าน (Amir Khan) นักต่อสู้รุ่นไลต์เวตวัย 22 ปีชาวสิงคโปร์จะขึ้นสู้ในกรงวัน แชมเปี้ยนชิพกับยาโรสลาฟ ยาร์ทิม (Jaroslav Jartim) ดาวเด่นวงการศิลปะการต่อสู้จากกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

ไม่เพียงเท่านั้น แชมป์มวยไทยหลายสมัย สะเก็ดดาว เพชรพญาไทจะหวนคืนเวทีเพื่อต่อสู้กับมาห์มูด โมฮัมเหม็ด (Mahmoud Mohamed) นักสู้ผู้แก่ประสบการณ์จากอียิปต์

นักสู้ที่หลายคนต้องการเห็นฝีมือ เฉิน เก็ง มิน เจ้าของสมญานาม “เดอะ สวีปปิ้ง มังก์” (“The Sweeping Monk” Chen Geng Min) จะประเดิมเวทีวัน แชมเปี้ยนชิพครั้งแรกเผชิญหน้ากับ เปง ซือ
เหวิน (Peng Xue Wen) จากมณฑลกวางตุ้งในการแข่งขันรุ่นสตรอเวทที่ชกกันทั้งหมด 3 ยก

เหมียว หลีเทา (Miao Litao) นักสู้ชาวจีนรุ่นแบนตัมเวทจะขึ้นเวทีวัน แชมเปี้ยนชิพเป็นครั้งแรกพบกับหลิว เดลี (Liu Deli) วัย 23 ปีจากเขตปกครองมองโกเลียใน ขณะที่ซือ ชุนหยาง (Xu Chunyan) อดีตนักชกมวยอาชีพจากกรุงปักกิ่งจะสู้กับเอห์ ยา นัต (Eh Ya Nut) นักมวยฝีมือดีจากกัมพูชา 

ทางด้านเหมียว เจี่ย (Miao Jie) นักสู้รุ่นฟลายเวตวัย 30 ปีจากนครเซี่ยงไฮ้จะโชว์ทักษะการต่อสู้กับโมนา ซาเมียร์ (Mona Samir) จากอียิปต์

ขณะเดียวกัน ยังมีการต่อสู้แบบ 3 ยกระหว่างสองนักต่อสู้จากเซี่ยงไฮ้ ได้แก่จาง เจอเห่า (Zhang Zehao) ซึ่งเชี่ยวชาญทักษะยูยิตสูและวูซู-ซานดา ปะทะกับ ลี เฉิงเฉา (Li Chengchao) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการชกมวย
 
การแข่งขันวัน แชมเปี้ยนชิพ:เซี่ยงไฮ้จะเริ่มด้วยการต่อสู้ของสองดาวรุ่ง อย่างมาร์ก มาร์เซลินัส (Marc Marcellinus)  ชาวมาเลเซียที่จะหวนคืนเวทีสู้ในกรงของวัน แชมเปี้ยนชิพเพื่อฟาดฟันกับตราน กวอง ล็อก (Tran Quang Loc) จากเวียดนาม
 
ด้วยความนิยมในกีฬาชนิดนี้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในประเทศจีน จึงมีผู้จัดการแข่งขันหลายรายที่ต้องการรุกตลาดจีนซึ่งมีการประเมินกันว่ามูลค่าสูงสุดจะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 7.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2568

วัน แชมเปี้ยนชิพเข้าสู่ตลาดแดนมังกรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2557 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัน แชมเปี้ยนชิพจัดการแข่งขันครั้งใหญ่มาแล้วทั้งหมด 7 ครั้ง ในจำนวนนี้ 5 ครั้งถูกจัดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่

สำหรับการจัดแข่งขันครั้งที่ 8 บนแผ่นดินจีนในวันที่ 2 กันยายนนี้ คุณชาตรียืนยันว่า การแข่งขันวัน แชมเปี้ยนชิพ ครั้งแรกในนครเซี่ยงไฮ้จะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำอย่างแน่นอน

 “จีนเป็นหนึ่งในตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเรา และเราให้ความสำคัญอย่างมากกับการนำเสนอความร่ำ รวยทางวัฒนธรรมและศิลปะการต่อสู้ของจีนออกสู่สายตาชาวโลก” คุณชาตรีกล่าวด้วยความมั่นใจ