news on August 24, 2017, 08:07:20 AM


ผลวิจัยวีซ่า เผย คนไทยสนใจชำระเงินผ่านโมบายวอลเล็ตมากขึ้นหากมีข้อเสนอจูงใจและความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม

กรุงเทพฯ - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560 – ผลสำรวจฉบับล่าสุดของวีซ่า เกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค แสดงให้เห็นว่าเก้าในสิบของคนไทยสนใจที่จะชำระเงินผ่านโมบายวอลเล็ตหากมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่น่าไว้วางใจ รวมถึงข้อเสนอจูงใจและบริการเสริมอื่นๆ เช่นแบรนด์ลอยัลตี้โปรแกรม และการสะสมแต้มต่างๆ เป็นต้น 

การทำแบบสำรวจครั้งที่สี่ประจำปี พบว่า 94 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะใช้ โมบายวอลเล็ต แทนเงินสดมากขึ้น หากการชำระเงิน ผ่าน โมบายวอลเล็ต มีข้อเสนอและรางวัลต่างๆ รวมถึงฟังก์ชันในตัวเช่นการสะสมแต้มการแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดการสั่งซื้อรวมถึงใบเสร็จรับเงินแบบดิจิตอลเพื่อติดตามค่าใช้จ่ายสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลองใช้โมบายวอลเล็ตมากยิ่งขึ้น



นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการยืนยันได้ว่าผู้บริโภคไม่เพียงแค่ต้องการการชำระเงินผ่านมือถือที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย และปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องการโปรโมชั่น และฟังก์ชั่นในการสะสมหรือใช้แต้มได้ด้วย ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตามผู้คนเริ่มมองว่าการชำระเงินไม่ได้เป็นแค่การใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งวีซ่าในฐานะผู้ให้บริการการชำระเงินระดับโลก ยังคงพัฒนาทั้งระบบการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจุดรับบัตรทั่วโลก การสร้างแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมต่างๆ สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นจูงใจ รวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยให้รัดกุมและทันสมัย”

การชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเช่นหน่วยลงทุนและการช้อปปิ้งออนไลน์ สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการทำธุรกรรมบนมือถือ (51 เปอร์เซ็นต์) ในขณะที่การซื้อของออนไลน์คิดเป็นสามในสิบ (31 เปอร์เซ็นต์) ในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินนั้นมีการใช้งานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า14 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าเก้าในสิบผู้ตอบแบบสอบถาม (87 เปอร์เซ็นต์) ชำระเงินผ่านมือถือในปีที่ผ่านมาและ58 เปอร์เซ็นต์ได้ใช้เป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการหันมาใช้การชำระเงินผ่านมือถือคือเรื่องความปลอดภัย

1.ผลการสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2559 ของวีซ่าจัดทำขึ้นโดย Toluna ในนามของวีซ่าในเดือนตุลาคม 2559 ใน 6 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ขนาดของตัวอย่างทั้งหมดคือ 1,000 คน ซึ่งมีคนไทยวัยทำงาน 500 คนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีรายได้ต่อเดือน 15,000 บาทขึ้นไป โดยทำแบบสำรวจผ่านช่องทางออนไลน์
 สำหรับผลการศึกษานี้ การชำระเงินผ่านมือถือถูกนิยามว่าคือการซื้อสินค้า การชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ การบริจาคแก่องค์กรการกุศล การชำระเงินให้กับผู้อื่น หรือการชำระเงินใดๆ ที่ใช้อุปกรณ์มือถือ ซึ่งรวมถึงการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อจ่ายชำระที่ร้านค้า รวมถึงการชำระเงินผ่านโมบายวอลเล็ตหรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เว็บเบราว์เซอร์บนมือถือ หรือข้อความสั้น

อุปสรรคสำคัญในการหันมาใช้การชำระเงินผ่านมือถือคือความกลัวจากการแฮ็กโทรศัพท์และการขโมยข้อมูล (34 เปอร์เซ็นต์) การทำโทรศัพท์หายหรือถูกขโมย (22 เปอร์เซ็นต์) การเข้าถึงบัญชีส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต (17 เปอร์เซ็นต์) รวมถึงไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ (9 เปอร์เซ็นต์)

“ในขณะที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความสะดวกและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการชำระเงินผ่านมือถือ แต่ความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับวีซ่าแล้วไม่ว่าการชำระเงินแบบไร้สัมผัสจะดำเนินการผ่านบัตรโทรศัพท์มือถือหรือการชำระเงินด้วยQR Codeเราจะใช้วิธีรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและอุ่นใจในขณะที่ชำระเงินอาทิเช่นบริการ Visa Token Service (VTS) ที่เปลี่ยนหมายเลขบัตรชำระเงินด้วยตัวเลขดิจิตอลที่ไม่ซ้ำกันหรือ ‘โทเค็น’สำหรับการชำระเงินออนไลน์และผ่านมือถือโดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดของบัญชีจริงและรวมถึงการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน สำหรับโมบายคอมเมิร์ซ”นายสุริพงษ์ กล่าวเสริม

โดยเฉพาะQR Code จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนโลกให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคต วีซ่าและสมาชิกของEMVCoได้มีการเปิดตัวมาตรฐานQR Code แบบใหม่ทั่วโลกและได้มีร้านค้านำมาตรฐานนี้ไปใช้อย่างประสบความสำเร็จในกว่า15 ประเทศทั่วโลก

QR Code มาตรฐานEMVcoนี้เป็นขั้นตอนทสำคัญที่จะส่งเสริมinteroperability หรือการเชื่อมต่อระบบชำระเงินแบบเปิดเพื่อให้ QR Code เติบโตอย่างรวดเร็วและได้มาตรฐานสากลโดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัย และความเร็วของธุรกรรมณ ปัจจุบัน ธนาคารทั้ง 33 แห่งและผู้ค้ากว่า 328,000 รายในประเทศอินเดีย เคนย่า และไนจีเรียได้นำระบบมาตรฐานQR Code นี้มาใช้งานแล้วและ ทำให้การชำระเงินแบบดิจิตอลโตอย่างรวดเร็ว

EMVCoเป็นหน่วยงานด้านเทคนิคทั่วโลกที่มีภารกิจจัดการรักษาและพัฒนาข้อกำหนด EMV เพื่อให้มั่นใจว่ามีการใช้งานร่วมกันและจุดให้บริการEMV ทั่วโลก

เกี่ยวกับวีซ่า
วีซ่าคือบริษัทผู้ให้บริการด้านเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก แก่ลูกค้าบุคคล ธุรกิจ และสถาบันการเงิน ตลอดจนองค์กรรัฐ ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีด้านเงินตราดิจิตอลที่รวดเร็ว ปลอดภัย และวางใจได้ โดยมี VisaNetระบบเครือข่ายการชำระเงินแบบค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหนึ่งในระบบเครือข่ายการทำงานด้านเงินตราดิจิตอลที่ทันสมัยมากที่สุดระบบหนึ่งของโลกเป็นรากฐาน ซึ่งสามารถประมวลและควบคุมการทำธุรกรรมได้กว่า 65,000 รายการในหนึ่งวินาที พร้อมด้วยระบบป้องกันการปลอมแปลงสำหรับลูกค้าบุคคล และการรับประกันการชำระเงินสำหรับร้านค้า วีซ่าไม่ใช่ธนาคารและมิได้มีบริการการออกบัตร เพิ่มวงเงินเครดิต หรือกำหนดอัตราค่าบริการแก่ผู้ถือบัตร หากแต่ให้บริการนวัตกรรมซึ่งส่งเสริมให้สถาบันการเงินสามารถมอบทางเลือกที่มีความหลากหลายให้แก่ลูกค้าได้ เช่น บริการชำระเงินจากยอดเงินในบัตรเดบิต หรือการใช้จ่ายด้วยวงเงินล่วงหน้าผ่านผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตต่าง ๆ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่า อ่านได้ที่: www.visa.co.thและ www.visaapnews.asia
« Last Edit: August 25, 2017, 07:48:36 AM by news »