ชื่อภาพยนตร์: THE MUMMY
ชื่อไทย: เดอะ มัมมี่
วันที่เข้าฉาย: 8 มิถุนายน 2560
จัดจำหน่าย: บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัดเกี่ยวกับภาพยนตร์ ทอม ครูซ รับบทนำในภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งนำตำนานที่หลายวัฒนธรรมทั่วโลกต่างหลงใหลนับแต่ก่อกำเนิดอารยธรรม มาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Mummy เจ้าหญิงจากยุคโบราณกาล (รับบทโดย โซเฟีย บูเทลล่า จาก Kingsman: The Secret Service และ Star Trek Beyond) ที่คนคิดกันว่าถูกฝังอย่างปลอดภัยอยู่ในสุสานที่ซ่อนลึกอยู่ใต้ทะเลทรายที่แสนกันดาร ผู้ซึ่งชะตากรรมถูกกระชากไปจากเธออย่างไม่เป็นธรรม ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในยุคปัจจุบัน และเธอพกพาความแค้นที่สะสมมานานกว่าสหัสวรรษ และความสยดสยองซึ่งท้าทายต่อความเข้าใจของมนุษย์มาด้วย จากเม็ดทรายในตะวันออกกลาง ผ่านเขาวงกตลับภายใต้นครลอนดอนยุคปัจจุบัน The Mummy ได้นำความจริงจังระดับที่สร้างความประหลาดใจ และสมดุลระหว่างความมหัศจรรย์และความตื่นเต้นมาผสมรวมกันในรูปแบบใหม่ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ซึ่งนำพาเหล่าเทพและอสูรกายมาสู่โลกยุคใหม่ ครูซได้นักแสดงมาร่วมสมทบมากหน้าหลายตา อาทิเช่น แอนนาเบลล์ วอลลิส (King Arthur, ผลงานทางทีวีเรื่อง Peaky Blinders), เจก จอห์นสัน (Jurassic World), คอร์ตนี่ย์ บี แวนซ์ (ผลงานทางทีวีเรื่อง American Crime Story: The People V. O.J. Simpson), มาร์แวน เคนซารี (The Promise) และเจ้าของรางวัลออสการ์ รัสเซลล์ โครว์ (Gladiator) ทีมผู้สร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แอ็กชั่นผจญภัยเรื่องนี้ นำทีมโดยผู้กำกับ/ ผู้อำนวยการสร้าง อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน และผู้อำนวยการสร้าง คริส มอร์แกน ผู้เป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาเคยร่วมงานกับเคิร์ตซ์แมนที่ทำหน้าที่ผู้เขียนบทหรือผู้อำนวยการสร้าง ในภาพยนตร์เรื่อง Transformers, Star Trek และ Mission: Impossible s นอกจากนี้ มอร์แกนยังมีส่วนร่วมในความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ชุด Fast & Furious ที่เริ่มเติบโตแบบหยุดไม่อยู่ตั้งแต่ภาพยนตร์ภาคที่ 3 ฌอน แดเนียล ซึ่งเคยอำนวยการสร้างภาพยนตร์ไตรภาค Mummy และซาร่าห์ แบรดชอว์ (Maleficent) ทำหน้าที่อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกับเคิร์ตซ์แมนและมอร์แกน เดวิด โคปป์ (Mission: Impossible, War of the Worlds) และคริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รี่ (The Usual Suspects, ภาพยนตร์ชุด Mission: Impossible) และเคิร์ตซ์แมน ร่วมกันเขียนบทให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Mummy ซึ่งมาจากเรื่องที่เขียนขึ้นโดย จอน สไปต์ส (Prometheus, Doctor Strange) และแม็คควอร์รี่ เจ๊บ โบรดี้ (Little Miss Sunshine, Source Code) และโรเบอร์โต้ ออร์ซี่ (Transformers, ภาพยนตร์ชุด Star Trek) ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้เบื้องหลังภาพยนตร์
แปลงโฉมเป็นมัมมี่
แอ็คชั่นสมจริงของทอม ครูซ
เบื้องหลังงานสร้างทั้งรักและหวาดกลัว:
ปลุกชีพอสูรกาย
อสูรกายของแฟรงเกนสไตน์ สัตว์ประหลาดจากแบล็คลากูน มนุษย์หมาป่า มนุษย์ล่องหน มัมมี่
ที่ว่ามาทั้งหมดนี้คืออสรูกายชื่อดัง ทั้งจากยุคอดีตและปัจจุบันของยูนิเวอร์แซล ซึ่งเคยเป็นภาพที่ตามหลอกหลอนคนดูจนยากจะลืมเลือน และยังติดค้างอยู่ในใจของคุณไปชั่วชีวิต
เมื่อพวกเขาตัดสินใจว่า The Mummy ควรจะเป็นบทแรกในภาพยนตร์ชุดใหม่ของพวกเขา ผู้กำกับเคิร์ตซ์แมน และผู้อำนวยการสร้าง คริส มอร์แกน แน่ใจว่าพวกเขาจะต้องนำเสนอโทนและอารมณ์ออกมาให้แม่นยำที่สุด “สิ่งที่เราพยายามสร้างกันในที่นี้ก็คือ รายละเอียดและโทนของเรื่องที่ฝังรากลึกในงานคลาสสิกสยองขวัญของยูนิเวอร์แซล ขณะที่เท้าอีกข้างก็ต้องวางอยู่ในโลกยุคใหม่ด้วย” เคิร์ตซ์แมนบอก “นี่ถือเป็นการให้เกียรติกับงานคลาสสิกเหล่านั้น ขณะที่ปลุกอสูรกายเหล่านี้ให้ฟื้นคืนชีพในยุคใหม่สำหรับคนดูทั่วโลก”
เคิร์ตซ์แมนและมอร์แกนรู้สึกเชื่อมั่นว่า The Mummy ต้องวางเรื่องราวเอาไว้ในโลกสมัยใหม่ พวกเขาสงสัยว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามัมมี่หญิงที่เป็นตัวร้าย ที่คุกรุ่นไปด้วยการโดนทรยศที่ให้อภัยไม่ได้ และความหิวกระหายที่จะได้แก้แค้นนานหลายร้อยปี ถูกปล่อยให้เป็นอิสระในโลกยุคปัจจุบัน” สำหรับทีมผู้สร้างทั้งหมด เป็นเรื่องสำคัญมากที่ภาพยนตร์ The Mummy เวอร์ชั่นนี้จะต้องยิ่งใหญ่ จริงจัง และอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็กชั่น เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความสนุกที่สุด
“ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องน่ากลัวครับ” เคิร์ตซ์แมนเปิดเผย “น่ากลัวมากด้วย แต่เราก็อยากจะแสดงให้เห็นถึงด้านที่เป็นมนุษย์ของอสูรกายเหล่านี้ครับ และมีอารมณ์ร่วมไปกับพวกเขา สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในตัวอสูรกายเหล่านี้ก็คือ เราพบหนทางที่จะรักพวกเขา ขณะที่กลัวพวกเขาไปด้วย”
นักแสดงผู้เป็นตำนานอย่าง ทอม ครูซ ผู้รับบทเป็นนายทหาร นิค มอร์ตัน บอกว่าเขาเติบโตมากับการดูภาพยนตร์อสูรกายสมัยที่เขายังเด็ก และนั่นก็คือพลังที่ผลักดันให้เขาตัดสินใจมาร่วมงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ “ผมชอบเรื่อง The Wolf Man, Dracula, The Mummy มาก สมัยเด็ก มันน่ากลัวมากครับที่ได้ดูภาพยนตร์เหล่านี้ แต่มันก็มีทั้งความยิ่งใหญ่และความงดงามของบรรดาภาพยนตร์ต้นฉบับเหล่านี้ด้วยครับ”
ในการพูดคุยกันช่วงแรกเริ่ม ครูซ, มอร์แกน และเคิร์ตซ์แมน ทำข้อตกลงกันว่าจะให้เกียรติกับรูปแบบของภาพยนตร์อสูรกายเหล่านี้ และต่อความหมายของตัวละครตัวนี้ด้วย ครูซอธิบายว่า “คุณคงอยากเห็นพวกอสูรกายชนะ นั่นคือสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีที่เรื่องเหล่านี้ถูกเล่าออกมา พวกเขาทั้งทำให้เราหวาดกลัว และทำให้เรารู้สึกเห็นใจไปด้วย มันดีมากเลยครับ”
ครูซและเคิร์ตซ์แมน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง Mission: Impossible III มีวิสัยทัศน์ที่คล้ายกันเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง The Mummy ผู้กำกับเคิร์ตซ์แมนบอกว่า “เราต่างรู้สึกถึงมรดกที่ต้องสืบทอดและความรู้สึกว่าเราต้องรับผิดชอบ ทอมคิดว่าคนดูจะคิดอย่างไร และนำทุกอย่างให้ลุกขึ้นมามีชีวิตในแบบที่โดดเด่นและน่าตื่นเต้นอย่างมาก”
ขณะที่พวกเขาทำงานด้วยกัน เคิร์ตซ์แมน, ครูซ และผู้อำนวยการสร้าง คริส มอร์แกน ได้สร้างสิ่งที่ทั้งน่ากลัวและดูงดงาม พอๆ กับที่ดูกล้าและท้าทาย ทั้งอาจหาญและคาดไม่ถึง เราตื่นเต้นกันมากที่ได้นำมันมามอบให้คนดู ขณะที่ภัยคุกคามเป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ แต่เดิมพันสำหรับมนุษย์นั้นยังคงอิงกับเรื่องจริง จังหวะเวลานั้นถือว่าลงตัวที่สุดในการนำเสนอตัวละครเหล่านี้สู่จอภาพยนตร์ เป็นตัวละครที่ท้าทายวายร้ายที่ดูเหมือนการ์ตูน และวีรบุรุษที่ดูราบเรียบ นี่คือภาพยนตร์ที่เหมาะกับเวลาปัจจุบันนี้จริงๆ ครับ”
ขณะที่ผู้คนมองเห็นถึงองค์ประกอบที่เป็นหัวใจของโลกอสูรกายของยูนิเวอร์แซล โดยภาพยนตร์ของเราได้เฉลิมฉลองให้กับตำนานคลาสสิกเหล่านั้น เหล่าตัวละครของ The Mummy ต่างต้องดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตของพวกเขาเอง ขณะที่มัมมี่ก้าวเข้าสู่โลกยุคปัจจุบัน