news on May 09, 2017, 12:42:56 PM

เปิดโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ รุ่น 15 (SUCCESS2017)



ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. ติวเข้มธุรกิจซอฟต์แวร์ หนุนสู่ไทยแลนด์ 4.0

(9 พฤษภาคม 2560) ณ อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค จ.นนทบุรี - ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ รุ่น 15 (SUCCESS2017) คว้าดาวเด่นวงการเข้าสังกัดเพียบ เตรียมแต่งตัวสตาร์ทอัพทั้งแนวลึกและแนวกว้าง เชื่อมต่อกับแหล่งทุนทุกระดับ


นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี สวทช.
เปิดเผยว่า โครงการ Success ในปีนี้ เป็นการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์และนวัตกรรมที่มีผลงานออกสู่ตลาดแล้ว จำนวน 57 ราย เพื่อเข้าร่วมบ่มเพาะธุรกิจ สร้างมิติใหม่ของการบ่มเพาะกลุ่ม start-up เบื้องต้น โดยเน้นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและวางรากฐานให้ธุรกิจยั่งยืน และเพิ่มมิติในด้านเงินทุน เพื่อทำให้โอกาสในการอยู่รอดมากขึ้นกว่าทุกปี โดยจะเป็นโครงการที่เกิดการร่วมทุนจากกองทุนทุกรูปแบบมากที่สุดในประเทศในปีนี้ หลังจากที่ก่อตั้งโครงการมาถึง 15 ปี

“ปีนี้โครงการ success ถือว่ามี start-up ตัวจริง และมีศักยภาพในการระดมทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนเข้ามามากที่สุด นอกจากความโดดเด่นในตัวเองในแนวลึก ยังสามารถรวมกลุ่มกันสร้างโซลูชั่นใหม่ขึ้นมา กลายเป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในฐานที่กว้างมากขึ้นได้ ดังนั้น ในปีนี้ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. จึงต้องทุ่มเททรัพยากรและพันธมิตรที่มากกว่าเดิมเข้ามาสนับสนุน แต่จะเน้นบทบาทการเป็นผู้เชื่อมต่อธุรกิจ (Business Connector) ที่ไม่แข่งกับภาคเอกชนอื่น และพร้อมต่อเชื่อมให้ผู้ประกอบการในกลุ่มเข้าสู่ Accelerator ที่เป็นบริษัทที่ค้นหาธุรกิจใหม่ๆ และเฉพาะเจาะจง หรือกลุ่มบ่มเพาะอื่นๆ ได้อย่างมีความพร้อมที่สุด”

นางศันสนีย์ กล่าวต่อว่า โครงการ Success ปีนี้ จะมีกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการได้รวมกลุ่มกันให้เข้มแข็ง เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมทางการตลาดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตามแนวทางการตลาดเชิงลึกเฉพาะกลุ่ม (Vertical Market) มากขึ้น คาดว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายรวมได้มากกว่า 500 ล้านบาท มีส่วนในการจ้างงานกว่า 600 อัตรา มีการลงทุนเพิ่มอีกกว่า 60 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังนำผู้บริหารของบริษัทขนาดใหญ่มาเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาผ่านประสบการณ์บริหารธุรกิจที่หลากหลาย พร้อมกับจะมีงบสนับสนุนกิจกรรมพิเศษ มากกว่า 600,000 บาท ให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมกลุ่มกัน คิดกิจกรรมที่ต้องการจะทำร่วมกันเป็นกลุ่ม

จุดสำคัญของโครงการ Success อีกประการคือ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจหรือ Community ของบริษัทซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ใหญ่ที่สุดและหลากหลายที่สุดในเมืองไทย โดยสมาชิกของกลุ่มจะสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่รวมตัวกันจัดตั้งโซลูชั่น ช่วยกันหาลูกค้าให้กัน แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างกัน แลกเปลี่ยนทรัพยากรภายในเครือข่ายเพื่อพัฒนาสินค้า และงานของลูกค้าให้เสร็จทันเวลา ถือเป็นสังคมของการเกื้อกูลที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกันในอนาคต และเป็นการปิดช่องว่างข้อจำกัดของการเป็นบริษัทขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีการขยายโอกาสไปที่ประเทศลาว และประเทศอินโดนีเซีย

สำหรับพันธมิตรใหม่ของโครงการในปีนี้ได้แก่ 1. บริษัท ซัมซุง ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย ได้สนับสนุนเทคโนโลยีที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาโซลูชั่นร่วมกัน พร้อมเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจกับลูกค้าของซัมซุงทั่วเอเชีย และจะมี Device Lab ไว้รองรับการทดสอบแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเน้นเทคโนโลยี Knox (ความปลอดภัยบนสมาร์ทโฟน) ในการพัฒนา 2. Microsoft BizSpark ซึ่งจะมีชุดเครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้นักพัฒนาได้ใช้อย่างเต็มที่ 3. mai จะเชื่อมต่อนักลงทุนจากตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเปิดโอกาสให้แหล่งทุนได้พบกับ ผู้ประกอบการเทคโนโลยีตัวจริง และ 4. กลไกอื่นๆ ของ สวทช. เช่น โครงการ Startup Voucher ให้ทุนสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด และโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP ที่สนับสนุนทุนค่าจ้างที่ปรึกษาพัฒนากระบวนการผลิต สูงถึงโครงการละ 8 แสนบาท เป็นต้น



SmartHealthCare ผู้ให้บริการระบบบันทึกสุขภาพส่วนบุคคล


ArinCare ผู้ให้บริการระบบบริหารร้านขายยา




กลุ่มผู้ประกอบการ Success ปี 2017



กลุ่มผู้ประกอบการ Success ปี 2017 ที่น่าสนใจในปีนี้ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่ได้รางวัลจากเวทีต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ และได้รับการจับตามองจากนักลงทุนจากหลายแหล่งทุน อาทิ บริษัท เอ็กซ์ซี ผู้พัฒนาระบบ Interactive ชั้นนำ และมีระบบบริหารจัดการห้องประชุมแบบ smart meeting room ในองค์กรชั้นนำทำให้สามารถจัดการธุรกิจได้อย่างคล่องตัว, บริษัท คิวคิว (QueQ) ผู้นำในการให้บริการจองคิวในร้านต่างๆ ที่กำลังเนื้อหอมในวงการ Startup และที่กำลังมาแรงมากคือ กลุ่มผู้ประกอบการในวงการ HealthCare ซึ่งในปีนี้มีนวัตกรรมที่จะมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและการบริการสาธารณสุขของไทย ได้อย่างน่าสนใจ อาทิ Health@Home ผู้ให้พัฒนาแพลทฟอร์มและบริการดูแลรักษาผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่อยู่บ้าน, SmartHealthCare ผู้ให้บริการระบบบันทึกสุขภาพส่วนบุคคล, ArinCare ผู้ให้บริการระบบบริหารร้านขายยา, VetSide ผู้พัฒนาระบบบริหารจัดการคลินิคสัตวแพทย์และดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง, ZeekDoc ระบบค้นหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่ตรงกับโรคได้อย่างสะดวก รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่พัฒนานวัตกรรมใน Sector อื่นๆ เช่น IndustryTech  LogisticsTech TravelTech อีกด้วย
« Last Edit: May 09, 2017, 02:16:37 PM by news »