รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เร่งงานสร้างไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ใช้กลยุทธ์การเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสัมมนาระดับโลก 3 งานใหญ่ WTTC Global Summit , Sport Accord Convention 2018 และ UNWTO World Forum on Gastronomy Tourism ชี้สัญญาณนทท.เที่ยวไทยยังสดใส ยอด นทท คุณภาพ ผ่าน 10 ล้านคนแล้ว
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นางกอบกาญจน์ กล่าวว่าขณะนี้ไทยกำลังเร่งเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์การกลางการท่องเที่ยว และ กีฬา โดยใช้กลยุทธ์การเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสัมมนางานใหญ่ระดับโลก โดยระหว่างวันที่ 25 - 27 เมษายน 2560 นี้ จะเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Travel Tourism Council (WTTC) Global Summit ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการประชุมด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้สภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก หรือ WTTC เตรียมการจัดงานภายใต้แนวคิด Transforming our world ขณะที่ประเทศไทยเตรียมนำเสนอความสำคัญของภาคการท่องเที่ยวภายในอาเซียนได้ด้านต่าง ๆ งานประชุมประจำปี WTTC Global Summit เป็นเวทีที่ได้นำผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 750 คน เข้าร่วมเพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาส ความท้าทาย และประเด็นต่างๆที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเผชิญอยู่ รวมทั้งยังมีการมอบรางวัล Tourism for Tomorrow Awards (การท่องเที่ยวเพื่ออนาคต) เพื่อแสดงถึงการตระหนักในบทบาทของอุตสาหกรรมที่เป็นแรงผลักดันที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน อีกทั้งยังแสดงถึงคำมั่นว่ารัฐบาลไทยจะพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทางของประเทศให้เติบโตมากยิ่งขึ้น มีความพร้อมเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ และศักยภาพของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก
นอกจากนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานด้านกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ การประชุมสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ Sport Accord Convention 2018 ระหว่างวันที่ 15-20 เมษายน 2561ซึ่งจะมีประธานสหพันธ์กีฬาต่าง ๆ กว่า 100 สหพันธ์ และผู้บริหารสหพันธ์กีฬาจากทั่วโลก พร้อมครอบครัว กว่า 5,000 คน เข้าร่วมประชุม นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในหลายด้านสามารถกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น ทำให้เกิดการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและกีฬาได้อีกมากมาย โดยผลดีที่จะได้ตามมาจากการเป็นเจ้าภาพงานระดับโลกนี้คือจะสามารถยกระดับมาตรฐานสมาคมกีฬาในประเทศไทย เปิดโอกาสให้คนไทยก้าวขึ้นไปเป็นกรรมการในสหพันธ์กีฬานานาชาติ และประเทศไทยมีความพร้อมสามารถเป็นที่ตั้งสำนักงานภูมิภาคของสหพันธ์กีฬานานาชาติในอนาคต โดยสิ่งที่จะได้คือโอกาสที่จะทำให้นักกีฬาไทยมีโอกาสได้เหรียญมากขึ้นในมหกรรมกีฬาโลก และให้คนไทยสนใจเล่นกีฬา และออกกำลังกายมากขึ้นทั้งประเทศ
ล่าสุดเมื่อวาน ครม.มีมติอนุมัติให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน UNWTO World Forum on Gastronomy Tourism ครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ 2561 ที่ประเทศไทย โดยเล็งเห็นว่ามีประโยชน์หลายด้านที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ นั่นคือ โอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ทางโภชนการ เช่น สมุนไพรต่างๆ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร รวมถึงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย ในรูปแบบธุรกิจอื่นๆ เช่น อาหาร โรงแรม ต่อไปด้วย ทั้งนี้หากไทยได้รับการเป็นเจ้าภาพ จะต้องมีการลงนามความตกลงร่วมกับ UNWTO ในการเป็นเจ้าภาพต่อไป
นางกอบกาญจน์ ยังเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงช่วงเมษายน 2560 ว่า นักท่องเที่ยว 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาว อินเดีย เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร รวมรายได้ 124,390 ล้านบาท และมีข่าวน่ายินดีว่าในเดือนเมษายนนี้ ไทยมีนักท่องเที่ยวเป็นเข้าสู่หลัก 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทียบกับเมื่อปี 2559 ถือว่าเป็นบวกขึ้นมาร้อยละ 2.11 ในช่วงเดือนเดียวกันนี้
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1-10 เมษายน 2560 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวน 911,636 คน ขยายตัวร้อยละ 6.22 ก่อให้เกิดรายได้จากนักท่องเที่ยว 47,356.53 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.20 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวสะสมจำนวน 10,105,693 คน ก่อให้เกิดรายได้ 529,080.61 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.11 และ4.58 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาตามลำดับ
ส่วนการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ในแต่ละพื้นที่ นางกอบกาญจน์ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านความปลอดภัย และการให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เช่น กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจะดูแล 3 ด้านหลักๆ ได้แก่ การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และด้านการอำนวยความสะดวกและบริการประชาชน ซึ่งกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจะตั้งจุดอำนวยความสะดวกประชาชนสำหรับการเดินทาง และดูแลรักษาความปลอดภัยในการดินทางกลับภูมิลำเนา บริเวณพื้นที่หลักๆ อาทิ ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ ท่าเรือและสถานีขนส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้จัดกำลังออกตรวจตราดูแลการเล่นน้ำสงกรานต์ให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี เช่น การใส่ผ้าไทย การแต่งกายให้สุภาพ อีกทั้งการนำแอพพลิเคชั่น Home Guard มาใช้เป็นช่องการการติดต่อสื่อสารสองทางกับประชาชน เพื่อร่วมกันติดตามและเฝ้าระวังเหตุร้ายและความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง หรือหากต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรสายด่วน 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง