"รมว.ท่องเที่ยว" เตือนประชาชนอย่าหลงเป็นเหยื่อธุรกิจอาหารเสริมหลอกขายทัวร์ แนะให้ตรวจสอบการจดทะเบียนการค้าตามกฎหมาย
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการติดตามความคืบหน้า ขณะนี้ทราบว่ามีผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองปราบอยู่ประมาณ 30 คน ที่เหลือจะแจ้งกับ สภ.พื้นที่ตามภูมิลำเนาที่เกิดเหตุ โดยขณะนี้ได้สั่งสั่งการผ่าน เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวกีฬาจังหวัด ตรวจสอบและตักเตือน สมาชิกของบริษัทนี้ในแต่ละจังหวัด ซึ่งทางกระทรวงขอเตือนว่าประชาชนไม่ควรหลงเชื่อธุรกิจที่ขายทัวร์ออนไลน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ด้วยราคาระดับหลักหมื่นต้นๆเท่านั้น เนื่องจากมีความเป็นไปได้ยากในการไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยการดำเนินการในลักษณะนี้
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า กรณีการดำเนินการเอาผิดกับผู้แอบอ้างจากกรณีกลุ่มธุรกิจขายตรงหลอกลวงขายทัวร์ราคาถูกไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น มีผู้ตกเป็นเหยื่อประมาณ 400-600 คน ถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น เรื่องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นโดยกลุ่มธุรกิจนี้อาศัยการสื่อสารที่มีการแอบอ้างถึงเรื่องการไม่ได้ขายทัวร์แต่ขายอาหารเสริมแล้วจัดทัวร์ไห้ลูกทีมไปไปเที่ยว มีการจัดรายการทัวร์ โดยไม่ได้ใช้บริษัททัวร์ จึงอาจจะเข้าข่ายการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิด ตามมาตรา 80 ผู้ใดประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา 15 หรือประกอบธุรกิจนำเที่ยวในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 45 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า จากการประชุมล่าสุด ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังมีกลุ่มสมาชิกที่สมัครใจ จะเดินทางไปในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้กับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ แต่จากการตรวจสอบแล้วไม่มี จึงขอย้ำว่า ขอให้บางส่วนที่หลงเชื่ออยู่ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ว่าเป็นบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ หากเกิดข้อปัญหา สงสัยว่าอาจจะตกเป็นเหยื่อธุรกิจแอบแฝงดังกล่าวนี้ สามารถโทรสายด่วน ร้องเรียนได้ที่ ตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือ กรมการท่องเที่ยว 02-401-1111