NDR รุกขยายตลาดยางรถมอเตอร์ไซด์ทั้งในปท.-ตปท. ปักธงรายได้ปีนี้ โต 10-15%

NDR รุกขยายตลาดยางรถมอเตอร์ไซด์ทั้งในปท.-ตปท. ปักธงรายได้ปีนี้ โต 10-15%



บิ๊กบอส “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) กางแผนปี”60 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% มุ่งขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ โดยการเพิ่มขนาดและลายดอกยาง เพื่อให้ครอบคลุมรถรุ่นใหม่ๆ พร้อมศึกษาและหาพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทุ่มงบ 50-100 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการวิจัยพัฒนาสินค้า

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-15% จากปีก่อนมีรายได้ 855 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจนั้นบริษัทฯจะมุ่งเน้นขยายตลาดยางรถจักรยานยนต์ โดยการเพิ่มขนาดและลายดอกยาง เพื่อให้ครอบคลุมรถรุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้ยังศึกษาและหาพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้บริษัทฯได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ยางนอกรถจักรยานยนต์ รุ่นขอบ 12 Premium Sport Racing กับสมญานาม DEVIL (เจ้าปีศาจน้อย) ซึ่งมีจุดเด่นคือ เน้นลายสปอร์ต โฉบเฉี่ยวทุกองศาโค้ง เหมาะสมสำหรับนักซิ่งหรือผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว โดยหลังจากทำการตลาดฯ ปรากฏว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี 

กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า บริษัทฯได้เพิ่มช่องทางการจำหน่าย โดยบริษัทฯมีการร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทร่วมในนาม “บริษัท แมสเคซี่ เทรดดิ้ง จำกัด” เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ของบริษัท ซึ่งได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50

ส่วนราคาวัตถุดิบที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯจึงต้องมีการเน้นเรื่องการควบคุมต้นทุนการผลิต และอาจมีการปรับราคาสินค้าเพื่อรักษาอัตรากำไร

“แผนปีนี้เราจะมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งตลาดในประเทศจะเน้นการขยายฐานทั้งตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเน้นที่ประเทศอินเดียซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และขยายไปประเทศใหม่ๆเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้สัดส่วนรายได้จากในประเทศและต่างประเทศจะใกล้เคียงปีก่อน โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ระดับ 50 : 50” นายชัยสิทธิ์ กล่าว

สำหรับงบลงทุนในปีนี้บริษัทฯตั้งไว้ที่ 50 - 100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการวิจัยพัฒนาสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด

อนึ่ง ผลประกอบการประจำปี 2559 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 855.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.35% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 796.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 56.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.19% จากปีก่อนทีมีกำไรสุทธิ 34.38 ล้านบาท