“อัลเปซิน” ประสบภาวะสินค้าขาดตลาดทั่วเยอรมัน “แบรนด์ปัง-ดังไกล” โดนใจตลาดแชมพู

“อัลเปซิน” ประสบภาวะสินค้าขาดตลาดทั่วเยอรมัน “แบรนด์ปัง-ดังไกล” โดนใจตลาดแชมพูป้องกันผมร่วงเมืองจีน” ขาช้อปแห่บินข้ามทวีปกว้านซื้อผลิตภัณฑ์

•   คาดการณ์ ปรากฎการณ์ “มังกรขยับ” ส่อแวว ส่งผลดี ดันแบรนด์โตต่อเนื่องในตลาดเอเชียและไทย

•   สบช่อง ขยายตลาดสู่จีน ต่อยอด “ปรับกลยุทธ์” รุกตลาดเอเชีย และไทยเต็มกำลัง

   กรุงเทพฯ  – อัลเปซิน (Alpecin), แชมพูป้องกันผมร่วงที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศเยอรมนี ประสบภาวะผลิตภัณฑ์ขาดตลาดชั่วคราวสืบเนื่องจากความต้องการซื้อมากจากกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน ส่งผลให้เกิดภาวะสินค้าขาดสต็อกครั้งใหญ่ในประเทศเยอรมนี เร่งหารือกลุ่มผู้ค้าปลีกในประเทศออกมาตรการป้องกัน ประกาศชัด “ไม่ขึ้นราคา” พร้อมเร่งหารือกลุ่มผู้ค้าปลีกในประเทศร่วมกำหนดมาตรการป้องกันสถานการณ์ซ้ำรอย


   มร. เอ็ดดวาด ดอเร็นเบิร์ก กรรมผู้จัดการ บริษัท ด็อกเตอร์ วูล์ฟฟ์ กล่าวว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กลุ่มผู้บริโภคชาวจีนมีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ของอัลเปซินเป็นอย่างสูงจนส่งผลให้ปริมาณความต้องการต่อผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อัลเปซินที่จัดจัดหน่ายกระจายในร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วเยอรมัน จำหน่ายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว จนนำไปสู่ภาวะ “สินค้าขาดสต๊อก” ชั่วคราวทั่วเยอรมัน

   จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สื่อนานาชาติหลายสำนักได้ตั้งข้อสังเกตและมีการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปเชื่อมโยงกับ “สถานการณ์นมผงขาดตลาดในเยอรมนี ปี 2555” ซึ่งมีสาเหตุจากผู้บริโภคชาวจีนเช่นเดียวกันที่สร้างปรากฎการณ์ “มังกรขยับ” ที่ผู้บริโภคชาวจีนจำนวนมหาศาลแห่ทะลักเข้าไปเหมาซื้อนมผงในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อส่งกลับไปขายต่อยังประเทศจีน ซึ่งสถานการณ์ปั่นป่วน ลุกลาม จนนำสู่ปัญหาราคานมผงพุ่งตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชีย

   “ถึงแม้ว่าความกรณีปริมาณต้องการของตลาดนมผงสำหรับเด็กทะยานตัวสูงขึ้นในเยอรมนี จะส่งผลให้ราคานมผงถีบตัวสูงขึ้นในตลาดเอเชียอันเป็นผลพวงจากนโยบายปรับราคาของนมผงสำหรับเด็กตามความต้องการของตลาด ซึ่งอัลเปซินได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างสูง โดยอัลเปซินไม่มีนโยบายในการปรับราคาผลิตภัณฑ์ที่แปรผันตรงกับความต้องการของตลาด โดยอัลเปซินวางกลยุทธ์การกำหนดราคาคงที่สำหรับภูมิภาค และไม่ฉวยโอกาสทางธุรกิจ เช่น ในกรณีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับแบรนด์” มร. เอ็ดดวาด ดอเร็นเบิร์ก กล่าวเพิ่มเติม


   โดย กลุ่มบริษัท ด็อกเตอร์ วูล์ฟฟ์ ได้เร่งหารือร่วมกับกลุ่มผู้ค้าปลีกในเยอรมันถึงแนวทางการเแก้ไขเพื่อออกมาตรการจำกัดปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อัลเปซินในประเทศเยอรมัน สำหรับควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์สินค้าขาดสต็อกซ้ำรอย

   “อัลเปซินขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนที่ได้มอบความไว้วางใจและเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์แชมพูป้องกันผมร่วม “อัลเปซิน” เป็นอย่างสูง และเราทราบดีว่าความเชื่อมั่นเหล่านี้ เกิดขึ้นจากความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ “ผลิตในประเทศเยอรมนี” และภาพลักษณ์ของแบรนด์อัลเปซินที่เชื่อมโยงกับคำว่า “คุณภาพ” ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ กลุ่มบริษัท ดร.วูล์ฟฟ์ ยึดถือและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดสืบเนื่องมาโดยตลอด และเพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าอัลเปซินจะคงคุณภาพผลิตภัณฑ์ไว้ตามพันธสัญญาที่ได้มอบไว้ให้แก่กลุ่มผู้บริโภคที่ทั่วโลก อัลเปซินอาจจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการเริ่มนำมาตรการจำกัดจำนวนการจำหน่ายมาใช้กับการร้านค้าขายปลีกต่างๆตามที่ได้หารือร่วมกับกลุ่มผู้ค้าปลีก”

   ถึงแม้ว่าจะมีการกำหนดใช้มาตราการจำกัดปริมาณการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อัลเปซินในประเทศเยอรมัน แต่ผู้บริโภคชาวจีนก็สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบได้หลากหลายวิธีการและพัฒนาช่องทางใหม่ๆ ในการซื้อผลิตภัณฑ์อัลเปซินจากต่างประเทศ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อความเชื่อมั่นและมั่นใจตอบแทนกลับคืนให้แก่กลุ่มผู้บริโภคชาวจีน กลุ่มบริษัท ดร. วูล์ฟฟ์ จึงได้เปิดสาขาในประเทศจีนอย่างเป็นทางการ และเริ่มต้นให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘Tmall’ โดยทางกลุ่มบริษัทฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไม่ว่าจะซื้อโดยตรงจากประเทศเยอรมนีหรือซื้อในประเทศจีน ต่างก็รักษาคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน

   และจากการที่ อัลเปซิน ยังคงเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มแชมพูป้องกันผมร่วงที่ขายดีที่สุดในประเทศเยอรมัน กลุ่มฯ ดร.วูล์ฟฟ์ หวังว่าจะนำพาแบรนด์ให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดแชมพูป้องกันผมร่วงในตลาดเอเชียเช่นกัน ภายหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในยุโรป บริษัทฯ ได้เปิดตัว อัลเปซิน ในภูมิภาคเอเชีย คลอบคลุมเกือบทั่วทุกประเทศในภูมิภาคมในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2556 - 2559 โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักในเอเชียที่ กลุ่มบริษัทฯ ดร.วูล์ฟฟ์ยังคงมุ่งมั่นขยายการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญและการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคนี้

   จากสถานการณ์ผลิตภัณฑ์อัลเปซินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในจีน ทางบริษัทฯ คาดหวังให้เกิดผลกระทบที่เป็นเหมือนระลอกคลื่นที่จะกระจายความต้องการสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเริ่มเห็นได้จากจำนวนยอดขายที่สูงขึ้นในร้านค้าต่างๆที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อัลแปซิน

   “ยอดขายของผลิตภัณฑ์ในเอเชียเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันเราไม่สามารถเจาะจงลงไปว่านี่เป็นผลพวงมาจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างเดียว อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่านี่เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ส่งผลทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น จากการที่ประเทศจีนมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก จีนยังเป็นประเทศที่มีอิทธิพลและกำลังซื้อที่สูงมากในภูมิภาคเอเชีย  ดังนั้นทางบริษัทฯจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการที่จะดำเนินการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศหลักของภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ เรายังเล็งเห็นว่าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีแนวโน้มโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายของเรา ซึ่งขณะนี้ Alpecin มีขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada” มร. เอ็ดดวาด กล่าวทิ้งท้าย

   Alpecin ได้มียอดการผลิตครบ 100 ล้านขวดเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 โดยกระจายการจัดจำหน่ายในนานาประเทศทั่วโลก และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเปิดตลาดในภูมิภาคเอเชีย, ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และ กลุ่มประเทศในอเมริกาใต้