ก.ท่องเที่ยวฯ จับมือกับการท่าเรือ มุ่งเป้าหมายสร้างการท่องเที่ยวทางน้ำในไทยเติบโต หวังชิงเค้กเม็ดเงินเศรษฐีเที่ยวทางเรือ Cruise ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 40 ล้าน ล้านเหรียญสหรัฐ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าขณะนี้กำลังเร่งระดมความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อสร้างให้รูปแบบการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) ในประเทศไทยมีความชัดเจนมากขึ้นภายในปีนี้ โดยได้ประชุมที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อหารือการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือคลองเตย ให้สามารถรองรับการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยเฉพาะท่าเรือสำราญ หรือ Cruise ซึ่งกำลังเติบโตอย่างมากมีเม็ดเงินในต่างประเทศหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 40 ล้าน ล้านเหรียญสหรัฐ
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ท่าเรือหลายแห่งในไทยจำเป็นจะต้องเพิ่มศักยภาพในการทำท่าเรือสำราญ ควบคู่กับการขนส่งสินค้าโดยปัจจุบันธุรกิจเรือสำราญในไทยซึ่งเติบโตอยู่ที่ 3-5% ต่อปี และมีการใช้จ่ายต่อเป็นตัวเลขที่สูงมากจัดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงที่หลายประเทศต้องการ และเพิ่มธุรกิจเรือสำราญในประเทศไทย ที่มีศักยภาพค่อนข้างสูงทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยซึ่งสามารถพัฒนาเป็นท่าเรือหลัก Home Port และเพิ่มท่าเรือ Port of Call ที่มีอยู่แล้ว ที่แหลมฉบัง และภูเก็ต ให้มากขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าทั่วโลกจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางทางน้ำ กว่า 25.3 ล้านคนในปีนี้และมีแนวโน้มว่า Hub ของการท่องเที่ยวเรือสำราญ จะเปลี่ยนจากฝั่งยุโรป และอเมริกา มาอยู่ที่อาเซียน จึงจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องเตรียมพร้อมเร่งด่วนเพื่อคว้าโอกาสนี้ไว้ จึงได้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันและเตรียมการไปนำเสนอความพร้อม และศักยภาพในการรองรับเรือสำราญจากทั่วโลก ในงาน SEA Trade 2017 ที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาในต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อสร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำต่อไป