MSN on January 27, 2017, 03:06:54 PM
ทีเส็บปรับกลยุทธ์เร่งยกระดับงานแสดงสินค้านานาชาติ รับ Thailand 4.0

ทีเส็บผลักดันอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติปี 2560 สอดรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี  มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน กระตุ้นงานแสดงสินค้า เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand 4.0 ตอกย้ำการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติในอาเซียน




นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ


นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ำยการแสดงสินค้ำนานาชาติ ทีเส็บ


มร.โยเฮน วิทท์ (Mr. Johen Witt) ประธานและซีอีโอของ JWC GmbH จาก เยอรมัน


มร.ไมเคิล ดักค์ (Mr. Michael Duck) Executive Vice President and Group Chief Representative for China UBM Asia Ltd.

















27มกราคม 2560กรุงเทพฯ: นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ กล่าวในงาน Thailand International Exhibitions & Events Forumหรือ TIEEF 2017ว่า ทีเส็บเป็นองค์กรหลักในการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชนพัฒนาบุคลากร ผู้ประกอบการ และส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกลุ่มธุรกิจงานแสดงสินค้านานาชาติถือเป็นหนึ่งในธุรกิจสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนมากจากผลสำรวจในปี 2558 มูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจประเทศไทยจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรมไมซ์ คิดเป็นจำนวน 2.22 แสนล้านบาท โดยอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติสร้างมูลค่าการใช้จ่ายถึงกว่า5.3 หมื่นล้านบาทและมีการจ้างงานกว่า43,000 อัตรา ซึ่งส่งผลชัดเจนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องทางตรง อาทิผู้จัดงาน (Organizer) สถานที่จัดงานแสดงสินค้า การขนส่ง กลุ่มโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เป็นต้น

“เมื่อรัฐบาลประกาศนโยบายเศรษฐกิจ 4.0 เพื่อให้ประเทศไทยขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม ทีเส็บจึงได้จัดทำแผนบูรณาการการใช้กิจกรรมไมซ์เป็นเครื่องมือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ 2560 – 2579)เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่มั่งคั่ง กระจายความเจริญด้วยนวัตกรรมไปสู่ทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างมั่นคงและสร้างความยั่งยืนด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนับสนุนการจัดงานไมซ์สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด ประกอบด้วย (1) กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ (2) กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (3) กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ (4) กลุ่มดิจิทัล (5) กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ซึ่งจะก่อให้เกิดการเพิ่มโอกาสลงทุนของแต่ละอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศได้ในทุกมิติ”นางศุภวรรณ กล่าว

ด้าน นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแสดงสินค้านานาชาติ ทีเส็บ กล่าวว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติในปีพ.ศ.2559 พบว่าประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์สำหรับงานแสดงสินค้านานาชาติ 180,480 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นจำนวน 15,686 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ.2560 คาดว่า จะมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์สำหรับงานแสดงสินค้านานาชาติประมาณ 208,000คน สร้างรายได้ให้กับประเทศประมาณ 18,000ล้านบาท

“ทีเส็บได้ปรับกลยุทธ์ในการใช้อุตสาหกรรมการจัดการแสดงสินค้านานาชาติให้เป็นกลไกสำคัญที่จะนำพาเศรษฐกิจประเทศไทยสู่เป้าหมาย Thailand 4.0 สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจที่จะดึงงานและสร้างงานแสดงสินค้า พร้อมทั้งทำให้การเข้ามาร่วมออกแสดงงานและร่วมงานแสดงสินค้ามีความสะดวกและง่ายต่อการทำธุรกิจและสามารถยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมในองค์รวม ภายใต้ 3 กลยุทธ์ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1พัฒนาแนวทางการดึงงานแสดงสินค้านานาชาติแบบเฉพาะเจาะจงไปยังงานในกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดการต่อยอดของการลงทุนหรือขยายการแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมนั้นๆ กลยุทธ์ที่ 2ยกระดับมาตรฐาน supply chain ในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าทั้ง hardware และ software โดยทีเส็บมีส่วนงานที่ดูแลด้านพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์อยู่แล้ว แต่ในส่วนของฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติจะต้องเน้นด้านการทำการตลาดเพื่อส่งต่อข้อมูลเหล่านี้ให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้จัดงาน และกลยุทธ์ที่ 3พัฒนาการเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่เกี่ยวข้องกับงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว”

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1ของอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านจำนวนพื้นที่ขายสุทธิสูงสุดในภูมิภาคอาเซียนโดยในปี 2560 มีงานแสดงสินค้านานาชาติภายใต้อุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยและสอดรับกับแนวทางนโยบาย Thailand4.0 อาทิ (1)งาน Agritechnica Asia 2017(2)งานProPak Asia 2017(3) งานSIMA ASEAN Thailand 2017 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและสินค้าเกษตร(1)งาน Intermach 2017(2)งานThe Grand Metalex2017 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์งานMedical Fair Thailand 2017 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม งาน Wire & Tube Southeast Asia 2017ในกลุ่มอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน และงานASEAN Sustainable Energy Week 2017 ในอุตสาหกรรมพลังงาน

โดยในปีนี้ทีเส็บยังได้เปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการตลาดล่าสุดEXHIBIZ IN MARKETเพื่อดึงกลุ่มสมาคม ภาคเอกชน และภาครัฐบาล(Pavilion leader) ให้เข้ามาร่วมจัดงานซึ่งคาดว่าแคมเปญดังกล่าวนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ และมีผู้แสดงงานที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมงานจัดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้ยังมีแคมเปญ CONNECT Businessesเพื่อดึงกลุ่มนักธุรกิจจากประเทศอาเซียนบวกหกเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย แคมเปญ Be My Guestเพื่อดึงผู้ซื้อจากทั่วโลก และแคมเปญPremier Exhibition Access Program โปรแกรมสำหรับอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้กับผู้จัดงานเพื่อตัดสินใจนำงานแสดงสินค้าเข้ามาจัดที่ประเทศไทย” นางจารุวรรณ กล่าว
« Last Edit: January 28, 2017, 01:02:35 PM by MSN »