พาราเม้าต์ พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ
ผลงานการสร้างของ จีเค ฟิล์มส์
ชื่อภาพยนตร์ : ALLIED
ชื่อไทย: สายลับพันธมิตร
วันที่เข้าฉาย: 5 มกราคม 2560
จัดจำหน่าย: บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัดแบรด พิตต์ รับบทสายลับยุคสงครามโลก ประกบคู่ มาริยง กอติยาร์ ใน Allied
แบรด พิตต์ รับบทนำใน Allied ภาพยนตร์โรแมนติคทริลเลอร์ เรื่องราวของสายลับยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยประกบคู่กับ มาริยง โกติยาร์ นักแสดงหญิงรางวัลออสการ์ จาก La Vie en Rose กำกับการแสดงโดย โรเบิร์ต เซเม็กคิส ผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก Forrest Gump
Allied เป็นเรื่องราวของแม็กซ์ วาแทน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง กับ มารียาน โบเซฌูร์ นักสู้ของขบวนการฝรั่งเศสเสรี ในภารกิจเสี่ยงตายในแดนศัตรู ทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งในลอนดอน ในขณะที่ความสัมพันธ์ถูกคุมคามจากอิทธิพลของสงคราม
Allied มีกำหนดเข้าฉายไทย 5 มกราคม 2560 ในโรงภาพยนตร์เบื้องหลังงานสร้าง
“ฉันเก่งเรื่องเสแสร้ง แม็กซ์”
สำหรับสายลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่าง แม็กซ์ วาแทน (แบรด พิตต์) และมาริแอนน์ โบเซจัวร์ โบเซฌูร์ (มาริยง โกติยาร์) กุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอดได้ก็คือ การเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักตัวตนจริงๆ พวกเขาเชี่ยวชาญเรื่องการหลอกลวง เล่นละคร เดาใจคนเก่ง และการลอบสังหาร เมื่อพวกเขาเกิดตกหลุมรักกันโดยไม่ตั้งใจท่ามกลางภารกิจเสี่ยงตายงานหนึ่ง ความหวังเดียวของพวกเขาคือการทิ้งงานสายลับไว้เบื้องหลัง แต่ความสงสัยและอันตรายกลับกลายเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตแต่งงานในช่วงสงครามของพวกเขา เมื่อคู่สามีภรรยาต้องแข่งขันกันเองในบททดสอบสุดอันตรายที่ตัดสินความภักดี ตัวตน และความรัก ที่มาพร้อมผลพวงระดับโลก
จากผู้กำกับรางวัลออสการ์ โรเบิร์ต เซเมคคิส เจ้าของจินตนาการสุดล้ำ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์อย่าง Forrest Gump, Cast Away และ Flight มาถึงภาพยนตร์เรื่อง Allied ผลงานการผสมผสานระหว่างงานทริลเลอร์แนวจารกรรม ผสมรวมกับงานดราม่ายุคสงคราม และเรื่องราวความรักสุดเร่าร้อนระหว่างสองมือสังหารที่ชะตากำหนดให้อาจเป็นทั้งเนื้อคู่ หรือศัตรูคู่อาฆาต หรืออาจเป็นทั้งสองอย่าง ในผลงานการสร้างที่เหตุการณ์ในเรื่องต้องตระเวณเดินทางไปทั่วตั้งแต่คาซาบลังก้า จนถึงลอนดอน และฝรั่งเศสภายใต้การยึดครองของเยอรมัน เซเมคคิสได้สร้างสรรค์เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่เคยงอกงามอยู่ในฮอลลีวู้ดยุครุ่งเรือง เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ความตื่นเต้น และความเร่าร้อนสุดโรแมนติค ที่ถูกบอกเล่าด้วยพลังอันเปี่ยมล้นของโรงภาพยนตร์แห่งศตวรรษที่ 21
ภาพยนตร์เรื่องนี้จับนักแสดงชายที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่าง แบรด พิตต์ (Moneyball, The Curious Case Of Benjamin Button, Twelve Monkeys) ให้มาประชันบทบาทกับนักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ มาริยง โกติยาร์ (La Vie En Rose, Two Days, One Night, The Dark Knight Rises) ในบทสองสายลับมือฉมังที่ติดอยู่ตรงกลางระหว่างความรู้สึกที่มีต่อกัน และการตีสองหน้าที่อาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาห่วงใย
ในปี 1942 26 ประเทศต้องผนึกกำลังเป็นกองทัพสัมพันธมิตร เพื่อต่อสู้กับกองทัพนาซีที่กำลังรุกรานยุโรป และในภารกิจเร่งด่วนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษอังกฤษ (SOE) นักบินหนุ่มชาวแคนาดา แม็กซ์ วาแทน ต้องกระโดดร่มลงไปที่คาซาบลังก้าที่ถูกยึดครอง เพื่อสังหารทูตของเยอรมัน ที่นั่น เขาเผชิญหน้ากับนักสู้สาวจากกองกำลังต่อต้านฝรั่งเศส มาริแอนน์ โบเซจัวร์ ผู้ถูกเลือกให้มาแสดงตัวเป็นภรรยาของเขา แต่ในไม่ช้า ความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ก็เป็นยิ่งกว่าการแสดง แม้ในยามพวกเขาจะต้องเผชิญอันตราย เมื่อพวกเขากลับมาเจอกันอีกในลอนดอน ความรักของเขาและเธอยิ่งลึกซึ้ง จนถึงขั้นสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่แล้ว แม็กซ์ได้รับข้อมูลว่าชีวิตครอบครัวที่แสนเป็นสุขของเขาอาจเป็นเพียงการหลอกลวง นั่นคือจุดเริ่มต้นของการตามล่าหาความจริงที่ทำให้เขาต้องผ่านวังวนของชายแดนและต้องเผชิญกับพันธมิตรทั้งต่างชาติและมิตรส่วนตน
พาราเม้าต์ พิคเจอร์ส และจีเค ฟิล์มส์ ภูมิใจเสนอ Allied ผลงานภาพยนตร์ของ โรเบิร์ต เซเมคคิส จากบทภาพยนตร์ที่เป็นฝีมือของ สตีเว่น ไนท์ (Dirty Pretty Things, Eastern Promises, Locke) ผู้อำนวยการสร้าง ได้แก่ เจ้าของรางวัลออสการ์ แกรห์ม คิง (The Departed, Argo), เซเมคคิส และสตีฟ สตาร์กี้ (Forrest Gump, Castaway, Flight,) โดยมี เดนิส โอซัลลิแวน (The 5th Wave, The Young Victoria), แจ็ค แร็ปกี้ (Flight, Castaway, Beowulf), แจ็คกี้ เลอไวน์ (The Walk), แพทริค แม็คคอร์มิค (Black Mass) และสตีเว่น ไนท์ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
ทีมงานหลังกล้องที่ร่วมกันสร้างโลกในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ในภาพยนตร์เรื่อง Allied ขึ้นมา ก็คือ ผู้กำกับภาพที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ดอน เบอร์เกสส์ (Forrest Gump, Spider Man, Flight), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ แกรี่ ฟรีแมน (Maleficent, Everest), สเปเชียล เอฟเฟ็กต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ เควิน เบลลี่ (Flight, The Walk, Star Trek Beyond), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ โจแอนนา จอห์นสตัน (Lincoln, Saving Private Ryan, Mission Impossible: Rogue Nation, Forrest Gump) และผู้ลำดับภาพ มิค อ็อดสลี่ย์ (Everest, Prince of Persia: The Sands of Time), เจเรไมอาห์ โอดริสโคลล์ (The Walk, Flight) และผู้แต่งดนตรีประกอบที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสองรางวัลออสการ์ อลัน ซิลเวสทรี (Forrest Gump, Back to the Future, Castaway) เมื่อความรักปะทะสงครามและการหลอกลวง: เรื่องจริงของ ALLIED
เรื่องจริงบางเรื่องที่คุณเคยได้ยินแม้เพียงครั้งเดียว แต่กลับไม่เคยลืมเลือนมันเลย
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับมือเขียนบท สตีฟ ไนท์ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเช้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์ทริลเลอร์ของ สตีเฟ่น เฟรียร์ส เรื่อง Dirty Pretty Things และยังได้รับการยกย่องจากการเขียนบทภาพยนตร์ให้กับเรื่องราวเกี่ยวกับมาเฟียรัสเซีย ผลงานของเดวิด โครเนนเบิร์ก เรื่อง Eastern Promises รวมไปถึงเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ดราม่าแบบแสดงคนเดียวเรื่อง Locke ไนท์เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสายลับแฝงตัวสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สองคนที่เกิดตกหลุมรักกัน เพียงเพื่อจะต้องมาต่อกรกันเมื่อตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาถูกเปิดเผย
มีคำกล่าวว่า ในสงครามและความรัก ไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ แต่เมื่อสองสิ่งนี้มาผสมรวมกันในแบบที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายที่สุด ความแน่นอนทางศีลธรรมของโลกนี้อาจควบคุมไม่อยู่อีกต่อไป
เรื่องราวที่สามารถทำให้ไนท์เกิดความหลงใหลได้ในทันทีนี้ วางเรื่องราวเอาไว้ที่สายลับชาวแคนาดา และคุณครูชาวฝรั่งเศสที่กลายเป็นนักสู้ของกองกำลังต่อต้าน โดยทั้งคู่ได้พบกันในระหว่างภารกิจ จากนั้นได้ตัดสินใจแต่งงานกัน ซึ่งเป็นการกระทำที่องค์กรหน่วยข่าวกรองทั้งหลายไม่สนับสนุน แต่ถึงกระนั้นทุกอย่างก็ดูน่าจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง จนกระทั่งจู่ๆ ฝั่งหนึ่งดูเหมือนจะถูกเปิดโปงว่าเป็นสายลับสองหน้าที่ส่งข้อมูลสำคัญให้กับฝ่ายศัตรู ส่งผลให้ความรักและชีวิตของเขาและเธอต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างมหันต์
ความรักอย่างกระทันหัน เป็นที่รู้กันว่าเกิดได้ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องทำงานอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย โดยเฉพาะผู้หญิงและผู้ชายที่มักต้องแสดงตัวเป็นคู่สามีภรรยากันอยู่บ่อยๆ แต่ถึงกระนั้นก็มีกฎที่น่าเกรงขามอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือ กฎที่เรียกว่า “กฎการทรยศคนใกล้ชิด” เมื่อสองสายลับแต่งงานกัน และฝ่ายหนึ่งพบว่าอีกฝ่ายเผยความลับให้กับฝั่งตรงกันข้าม เจ้าหน้าที่รายนั้นซึ่งคงจะอยู่ในสภาพหัวใจสลาย และต้องเสียสละตน มีหน้าที่ที่จะต้องสังหารคนรักของเขาหรือเธอโดยไม่ลังเลหรือล่าช้า มิเช่นนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับการถูกแขวนคอเนื่องจากการเป็นกบฏ
ไอเดียเรื่องคู่รักที่ต้องมาเผชิญหน้ากับปัญหาสองด้านระหว่างคำสัญญาของการแต่งงาน และความภักดีที่พวกเขามีต่อประเทศชาติในสงครามที่ต้องชนะเพื่ออนาคตของโลกใบนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ไนท์รู้สึกสนใจ และกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งไม่นานต่อมา มันสามารถเรียกความสนใจได้มากมาย
ไนท์ได้จินตนาการเรื่องราวนี้ขึ้นใหม่ โดยวางเหตุการณ์เอาไว้ที่มือสังหารมือโปรอย่าง แม็กซ์ วาแทน ซึ่งไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะปล่อยให้อารมณ์ชอบผู้หญิงเข้ามาครอบงำความคิดเขาได้ เขาทำให้แม็กซ์เป็นสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการพิเศษอังกฤษ (SOE) ที่เป็นตำนาน พวกเขาคือหน่วยข่าวกรองลับสุดยอดที่ได้รับคำสั่งจาก วินสตัน เชอร์ชิลล์ ให้ “ทำให้ยุโรปสว่างไสว” และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ โดยร่วมมือกับกองกำลังต่อต้านฝรั่งเศสในภารกิจบ่อนทำลาย และการลอบสังหารภายในเขตของพวกนาซี
จากนั้น ไนท์ได้สร้างผู้หญิงที่มีเสน่ห์ที่แม้แต่ แม็กซ์ ก็ยังมิอาจต้านทานได้ เธอคือนักต่อสู้จากกองกำลังต่อต้านฝรั่งเศสที่ชื่อ มาริแอนน์ โบเซจัวร์ ผู้ซึ่งทั้งฉลาด มีความสามารถ และแกร่งพอๆ กับแม็กซ์ แต่นั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่เธอดูเหมือนจะเป็น มาริแอนน์ โบเซจัวร์กล่าวเอาไว้ว่า ความผิดพลาดที่ผู้คนกระทำเอาไว้ในสถานการณ์ต่างๆ นั้นก็คือการมีความรู้สึก แต่ทั้งคู่ก็มิอาจปฏิเสธความถวิลหาในอีกฝ่ายได้ นับแต่เริ่มต้น แม็กซ์และมาริแอนน์ โบเซจัวร์ต่างทดสอบและหยอกเย้าอีกฝ่ายอย่างมีสีสัน แต่การเล่นนั้นกลับกลายมาเป็นเรื่องจริงจังเมื่อแม็กซ์ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องตามสืบภรรยาสุดที่รักของเขาเพื่อตอบคำถามที่คาดไม่ถึงมากที่สุดว่า เธอเป็นผู้ทรยศหรือไม่
เรื่องราวที่จริงจัง ความไว้วางใจที่เปลี่ยนไป กับอันตรายระหว่างคนสองคน ที่คลี่คลายไปในหลากหลายประเทศที่ต้องพินาศด้วยภัยสงคราม กลายเป็นงานที่ให้ความรู้สึกได้มากพอๆ กับความเขย่าขวัญอย่างไม่หยุดหย่อน
“เป็นเวลานานมากแล้วนับแต่ที่เราได้ดูภาพยนตร์ทริลเลอร์เอพิคที่วางเหตุการณ์เอาไว้ในช่วงเกิดสงคราม บวกกับเรื่องราวความรักที่เป็นโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่แบบนี้ครับ” ผู้อำนวยการสร้างแกรห์ม คิง กล่าว คิงรู้ได้ในทันทีที่เขาได้พบไนท์เพื่อพูดคุยกันถึงแนวคิดของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเขาอยากจะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ “มันเป็นการเล่าเรื่องที่มีสึสันในขนาดที่เป็นความทะเยอทะยานในแบบที่เราแทบไม่ได้สัมผัสกันอีกแล้ว และมันยังมีความสัมพันธ์กับเรื่องราวในโลกปัจจุบันอีกด้วย เป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าสงครามและการตัดสินใจทำอะไรได้บ้างกับความงดงามของความรัก”
ผู้อำนวยการสร้าง สตีฟ สตาร์กี้ หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะทำให้คนดูได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ของการเล่าเรื่องที่ให้ความรู้สึกท่วมท้นในยุคที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่ได้ดูกันเป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ หรือภาพยนตร์ดราม่าฟอร์มเล็กๆ ด้วยการย้อนกลับไปหางานสร้างหนังแบบยุคทองของฮอลลีวู้ด เขาคิดว่าเซเมคคิสสามารถที่จะใส่ความฉับไวแบบโลกยุคใหม่ลงไปในเรื่องราวเอพิคที่น่าตื่นเต้นเรื่องนี้ได้
“สำหรับคนที่ไม่ได้โตมากับภาพยนตร์ในสไตล์ยุค 1940s พวกเขาแทบไม่เคยได้ดูภาพยนตร์แบบนี้มาก่อนเลย เป็นภาพยนตร์ที่ให้ภาพอันน่าตื่นตา และความตื่นเต้นยิ่งใหญ่ แต่ก็ลงลึกถึงอารมณ์ของมนุษย์ด้วย” สตาร์กี้บอก “ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุด ซึ่งทำให้ได้ฉากแอ็กชั่นที่จริงจังมาก แต่แบร็ดและมาริยงก็ได้แสดงให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์ในแบบที่เราไม่ได้เห็นกันมานานมากแล้ว”
ในฐานะผลงานเรื่องแรกที่เซเมคคิสนำเสนอเรื่องราวในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้อำนวยการสร้างบริหาร แพทริค แม็คคอร์มิค กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เดินหน้าไปสู่ความตื่นเต้นทางจิตวิทยาในแบบที่แตกต่างออกไป มากกว่าจะเน้นไปที่สงครามการสู้รบ เหนือสิ่งอื่นใด อันตรายที่แม็กซ์และมาริแอนน์ โบเซจัวร์ต้องเผชิญนั้นมีมากเกินกว่าการลั่นกระสุนในภารกิจของพวกเขา และระเบิดที่ถล่มใส่ลอนดอน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่น่ากลัวยิ่งกว่า นั่นก็คือความจริงที่ถูกปิดซ่อนไว้
“ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะวางเหตุการณ์เอาไว้ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ Allied ก็คือเรื่องราวของชีวิตแบบสายลับสองหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจในระดับของความเป็นมนุษย์” แม็คคอร์มิคตั้งข้อสังกต “สิ่งที่น่าตื่นเต้นก็คือ ในทุกฉากของเรื่องนี้ สองตัวละครหลักอย่างแม็กซ์และมาริแอนน์ โบเซจัวร์ต้องทำงานในสองระดับที่แตกต่างกัน นั่นก็คือสิ่งที่คุณเห็นและสิ่งที่คุณไม่เห็น และการกระทำของพวกเขาบ่งบอกถึงความลับที่พูดออกมาไม่ได้ นั่นทำให้เกิดเนื้อเรื่องย่อยที่ทั้งโดดเด่นและทรงพลังต่อทั้งองค์ประกอบที่เป็นเรื่องทริลเลอร์ และเรื่องราวความรัก เพราะจะมีความสงสัยที่กำลังเดือดพล่านอยู่ในความคิดของพวกเขา ขณะที่สงครามเองก็กำลังเดินหน้าไปสู่ไคลแม็กซ์”