รายละเอียดโครงการสนับสนุนการออกแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities-Clean Energy)
หลักการและเหตุผล/ที่มาและสภาพปัญหา/ความจำเป็น
จากจำนวนประชากรโลกที่มีจำนวน 7400 ล้านคน และคาดว่าว่าจะเพิ่มเป็น 9,600 ล้านคนในปี
พ.ศ. 2593 โดย 2 ใน 3 หรือประมาณกว่า 6,400 ล้านคนจะอาศัยอยู่ในชุมชนเมืองทำให้เมืองมีขนาดใหญ่ และซับซ้อนมากขึ้นในขณะที่ทรัพยากรจำกัดและก่อให้เกิดปัญหา จึงมีความจำเป็นในการส่งเสริมให้ชุมชนเมืองมีระบบการขนส่งและการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ มีสุขพลานามัยที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ สะดวก สะอาด ปลอดภัย รองรับสังคมในอนาคต
“ เมืองอัจฉริยะ ” หรือ “ Smart City ” เป็นรูปแบบการพัฒนาเมืองในแนวทางที่กล่าวไว้ข้างต้น
ประกอบกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ และข้อมูลมาช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรของเมืองเพื่อให้ เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ระบบบริหารจัดการเครือข่ายพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid) ระบบมิเตอร์อัตโนมัติ (Automatic Meter Infrastructure-AMI) ระบบการควบคุมการจราจรอัจฉริยะ ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ และระบบตรวจวัดมลภาวะ เป็นต้น
การส่งเสริมสนับสนุนการออกแบบ “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” ช่วยลดปัญหาทางด้าน สิ่งแวดล้อม ปัญหามลภาวะทางอากาศ น้ำเสีย ขยะ การระบายน้ำ ช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดี คุณภาพ อากาศที่ดี เพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดปรากฏการณ์เกาะความร้อน (Heat Island Effect)
วัตถุประสงค์ของโครงการ
เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ออกแบบและพัฒนาเมือง หรือโครงการในลักษณะชุมชนเมือง เช่น Complex ขนาดใหญ่ไปสู่เมืองอัจฉริยะ
กลุ่มเป้าหมาย : หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน
วงเงินสนับสนุนการออกแบบ รวมทั้งสิ้น 80 ล้านบาท
ผู้ดำเนินโครงการ : สถาบันอาคารเขียวไทย (ภายใต้มูลนิธิอาคารเขียวไทย)
การดำเนินการ
1. ใช้วิธีการจัดการแข่งขัน ในการวางผังชุมชนและการออกแบบ “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาทางานร่วมกันเชิงบูรณการ ให้มีความสมบูรณ์ที่เพียงกับการนำไปใช้ ในการจัดทำโมเดลธุรกิจ (Business Model) และการจัดหาผู้ร่วมทุน
2. จัดทำประกาศกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นข้อเสนอสำหรับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน และกำหนดลักษณะของ“เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” หลักเกณฑ์การพิจารณา และเงื่อนไขการสนับสนุนจากกองทุนฯ
3. จัดตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อออกกำหนดลักษณะเมืองอัจฉริยะและกำหนดเกณฑ์การพิจารณา และพิจารณาคัดเลือกหรือคัดสรรข้อเสนอแนวความคิดเมืองอัจฉริยะ
4. การประกวดการออกแบบเมืองอัจฉริยะ แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ข้อเสนอแนวความคิดในการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City Development Proposal)
ประกอบด้วยแนวความคิด การวางผังชุมชน (Urban planning) แสดงผังสภาพปัจจุบัน ลักษณะการตั้งถิ่นฐาน โอกาสการขยายตัวและการพัฒนาของเขตที่อยู่ อาศัยและเขตพาณิชยกรรม ถนนและโครงข่ายระบบการขนส่ง ระบบ สาธารณูปโภค การอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม พื้นที่โล่งและพื้นที่สีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาพื้นที่ การกำหนดขอบเขตการ เติบโตของเมือง การพัฒนาศูนย์กลางเศรษฐกิจ การพัฒนาระบบการสัญจร คมนาคม ขนส่ง การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ เพื่อนำไปสู่ “ เมืองอัจฉริยะ ” หรือ “ Smart City ”
****ข้อเสนอแนวความคิดในการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ ที่ดีที่สุดไม่เกิน 20 อันดับแรก* จะได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อใช้ใน การดำเนินการขั้นต่อไป รายละไม่เกิน 500,000 บาท (รวมภาษีที่เกี่ยวข้อง)
ขั้นตอนที่ 2 การจัดทำผังแม่บทการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City Development Master Plan)
ผู้ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯใน ขั้นตอนที่ 1 จะต้องดำเนินการจัดทำผังแม่บทการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มีรายละเอียดเบื้องต้นที่ครอบคลุมผังการใช้พื้นที่ แผนผังโครงการ การจัดวางอาคาร ตลอดจนแผนผังต่างๆ ได้แก่ อาคารภูมิสถาปัตย์ ระบบสาธารณูปโภค ระบบผลิต ส่ง และจ่ายพลังงาน ระบบเครื่องกล และไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาล ระบบจัดการน้ำเสียระบบนำน้ำกลับมาใช้ ระบบระบายน้ำระบบกักเก็บน้ำฝนระบบอัจฉริยะ เป็นต้น รวมทั้งขนาดของระบบ ต่างๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบทำความเย็น ระบบทำความร้อน ระบบน้ำประปา ระบบน้ำเสีย ระบบนำน้ำกลับมาใช้ ปริมาณขยะ ปริมาณขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ ระบบพลังงานสะอาด พร้อมทั้งจัดทำรายงานเปรียบเทียบเพื่อแสดง การคำนวณตัวเลขของการประหยัดพลังงาน การประหยัดน้ำ การลดปริมาณคาร์บอน การประหยัดค่าก่อสร้าง เป็นต้น
****ข้อเสนอแนวความคิดในการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ ที่ดีที่สุดไม่เกิน 7 อันดับแรก* จะได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุน ฯ เพื่อใช้ในการดำเนินการขั้นต่อไป รายละ ไม่เกิน 10,000,000 บาท (รวมภาษีที่เกี่ยวข้อง)
ขั้นตอนที่ 3 การจัดทำโมเดลธุรกิจ (Business Model)
ผู้ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ ในขั้นตอนที่ 2 จะต้องดำเนินการจัดทำแบบรายละเอียดเบื้องต้น (Schematic design) ประเมินค่าก่อสร้างเบื้องต้น (Construction budget estimation) วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายตลอดอายุโครงการ (Life cycle cost analysis) รายงานการวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐศาสตร์(Financial feasibility study) เพื่อให้สามารถนำไปใช้เป็นโมเดลธุรกิจ (Business Model) และนำไปสู่การจัดหาผู้ร่วมทุนและการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” ต่อไป
****ข้อเสนอแนวคิดที่ดีที่สุดจะได้รับการยกย่องและเผยแพร่ในความเป็นต้นแบบเพื่อการพัฒนาสู่
“เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” ตามแบบที่พัฒนาขึ้นต่อไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. แนวทางหรือแบบการพัฒนาเมืองของชุมชน ที่มีผลต่อการลดความต้องการพลังงาน (demand) และการใช้พลังงานสูงสุด (peak demand) ส่งเสริมพลังงานทดแทน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การ พัฒนาอย่างยั่งยืน และเมืองคาร์บอนต่ำ (low carbon city) หรือเมืองคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (neutral carbon city)
2. จุดประกายความคิดของชุมชน องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน ในการพัฒนาเมือง เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้พลังงานทดแทน ความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวัน รักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง ชุมชน และเกิดการเรียนรู้ด้านพลังงานสู่ชุมชนผ่านกระบวนการทางความคิดสร้างสรรค์
*การพิจารณาตัดสินเป็นดุลยพินิจเด็ดขาดของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดการออกแบบเมืองอัจฉริยะ